ชายไม่ให้หญิงเป็นคนถือตังค์ หารครึ่งค่าใช้จ่าย เก็บใครเก็บมัน ชีวิตคู่แต่งงานใครเป็นแบบนี้กันบ้าง ??

ขอสรุปคำถามเป็นข้อๆ
... แต่ขอเกริ่นสักหน่อย
คือเรามีแพลนจะแต่งงานกันภายในสองปี แต่ต้องบอกก่อน ว่าเราอยู่กันก่อนแต่ง ซึ่งฝ่ายชายดูเหมือนจะชอบการใช้ชีวิตคู่แบบนี้ ก็คือแชร์ค่าใช้จ่าย หารครึ่งกันจ่าย ค่าบ้าน ค่าข้าวเบล่าๆ
เราก็ไม่ซีเรียส เพราะเราคิดว่าเรายังไม่แต่งงานกัน

......แต่เราคาดหวังว่าถ้าแต่งงานกัน จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นสักเล็กน้อย ในด้านการเงินและการใช้ชีวิต แต่ปรากฏว่า ไม่น่าใช่ หลังจากคุยกัน ก็คือ

1.ฝ่ายชายจะไม่ให้ฝ่ายหญิงถือตังค์ ฝ่ายหญิงก็ไม่ให้ฝ่ายชายถือตังค์ ต่างคน ต่างเก็บ ค่าใช้จ่ายในบ้าน หารครึ่งกันจ่าย ไม่ว่าจะค่าบ้าน ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่ารถ มีคู่ไหนเป็นแบบนี้ไหมในกรณีแต่งงานกันแล้ว?

2.ถ้าฝ่ายหญิงตั้งท้อง ก็ยังหารครึ่งค่าใช้จ่าย จนคลอด หรือ ลูกโต โดยถ้าเกิดช่วงตั้งครรภ์ ฝ่ายหญิง หยุดงาน แต่ตามกฏหมาย บริษัทจ่ายตังค์ให้ช่วงลาคลอด แต่ฝ่ายหญิงก็ต้องหารครึ่งค่าใช้จ่ายกับแฟน

3.ฝ่ายชายออกรถก่อนจะแต่งงาน โดยฝ่ายชายเป็นคนดาวรถเอง แต่ให้ฝ่ายหญิงช่วยผ่อนค่ารถยนต์ หารครึ่งกันจ่ายรายเดือน แต่ชื่อรถเป็นชื่อฝ่ายชาย ซึ่งหลังจากแต่งงานสินสมรถตามกฏหมาย รถจะไม่เกี่ยวข้องกับฝ่ายหญิง ฝ่ายหญิงได้อะไรกับส่วนนี้ ?
ก็ไม่ นอกจากฝ่ายหญิงจะใช้รถฝ่ายชาย แค่ขับขี่ ไปโน้นนั่นนี้

3.เรื่องทำงาน เราทำงานนอกบ้านกันทั้งคู่

4.เรื่องในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นทำความสะอาดบ้าน ฝ่ายหญิงเป็นคนทำคนเดียว โดยฝ่ายชายไม่ได้ช่วย
มีแต่ค่ากับข้าว ก็ยังหารครึ่งกันจ่าย
แต่ถ้าทานข้าวนอกบ้าน ฝ่ายชายจ่ายให้ตลอด

5.ก่อนแต่ง คือมีความเป็น ส่วนตัว โทรศัพท์ไม่แตะของกัน ไม่เช็ค ไม่เล่นของกันโดยเคารพความดป็นส่วนตัวของกัน ( ซึ่งเอาตามตรง เราไม่สามารถเล่นโทรศัพท์แฟนได้เลย เขาล็อคไว้อย่างแน่นหนา หวงยิ่งกว่าทอง โดยฝ่ายชายนานๆ ที่ถ้าเราหลับจะแอบมาเช็คโทรศัพท์เรา )
แต่หลังแต่ง เราคาดหวังว่า เราจะเล่นโทรศัพท์ แฟน หรือเช็คได้ ว่าคุณทำอะไรมา เท่าที่คุย เหมือนจะไม่โอเค

เราจึงอยากทราบว่ามีคู่ไหนเป็นเหมือนเรา
หรือ ชีวิตคู่ สำหรับใครที่แต่งงานแล้ว เป็น แบบนี้

ต้องการทราบ กรณี ตัวอย่าง ว่ามีปัญหาเกิดขึ้นบ้างไหม???
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
คู่รักแบบนี้ .. เราไม่สามารถเข้าถึงได้ และไม่อาจเดาได้ ว่าจะมีปัญหาอะไรตามมาไหม
เพราะ หากตกลงกัน ด้วยความยินยอมพร้อมใจ ก็อาจจะมีความสุขร่วมกันระยะยาวได้

แต่เท่าที่เราอ่านดู ...
ปัญหา มันเริ่มมีแล้ว
เหมือน ฝ่าย ญ. จะเริ่มรู้สึกไม่โอเค กับข้อตกลงแบบนี้
ฝ่าย ช. ก็ คงจะไม่ยอมปรับลดลงมา ดูท่า คงจะถือแต้มต่อเอาไว้

คงจะเตือนฝ่าย ญ. ว่า

เรื่องของความรัก และ ชีวิตคู่  ในชีวิตจริง มันไม่ง่าย
หากหวังคำว่า ตลอดรอดฝั่ง ยิ่งต้องฟันฝ่า คลื่นลม มรสุม บรรดามี มิใช่น้อย

หากเริ่มตะขิดตะขวง ณ จุดเริ่มต้น
ก็ไม่ต้องคาดเดา ไปถึงจุดจบให้เสียเวลา ... ใครๆก็ดูออกว่าจบไม่สวยแน่ๆ

อย่าคิดว่า ตัวเอง จะไม่มีปัญญาหาเจอ รักในอุดมคติ
อย่าคิดว่าตัวเอง ด้อยค่า

หากมั่นใจในตัวเอง ว่าคุณเองคู่ควรต่อความรักที่ดี
คุณจะกล้าละทิ้งความรักแย่ๆ ไปอย่างไม่ไยดี

เพี้ยนจุดจุดจุด
ความคิดเห็นที่ 4
หารครึ่งก็ดูยุติธรรมดี
แต่เป็นผมคงไม่เอา คงปวดหัวพิลึกที่เวลาจะทำอะไรทีต้องหยิบเครื่องคิดเลขขึ้นมากด
ผมชอบการใช้ชีวิตแบบช่วยๆ กันมากกว่า ผมออกมั่ง คุณออกมั่ง
และผมถือหลักว่าผู้ชายต้องเป็นฝ่ายดูแลผู้หญิง แต่ดูเหมือนคติแบบนี้คนจะไม่ค่อยถือแล้ว
ความคิดเห็นที่ 8
ทำไมอ่านแล้วเหมือนหุ้นส่วนการค้ามากกว่าคู่ชีวิตคะ
ใช้ชีวิตคู่แบบนี้ ความรักความผูกพันอยู่ตรงไหนกัน
ส่วนตัวแนะนำ ให้เอาเงินเข้ากองกลางแล้วให้ฝ่ายหญิงถือไว้เป็นการให้เกียรติกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่