ตั้งแต่ไปเที่ยวมา... ผมไม่เคยคิดว่าการออกเดินทางไปเที่ยว จะทำผมโลเลได้เท่าครั้งนี้อีกแล้ว
ความตั้งใจแรกของการเดินทางครั้งนี้คือ จะไปถ่ายรูปน้ำตก เพราะความงามของน้ำตกคลองลานในช่วงหน้าฝนนี้เป็นอะไรที่น่าสนใจไม่แพ้กับ เปรโต๊ะลอซูเลย อีกทั้งยังเดินทางง่ายกว่า และไม่ต้องไปเดินทางไกลด้วย หลังจากที่ได้เห็นรูปจริงจากใน IG จากหลายๆคน สิ่งแรกที่คิดได้คือ ไปวันไหนดีนะ ผมเช็คเวลาแล้วก็เลือกวันที่ 11 ตค แต่เพราะหน้าฝนที่สภาพอากาศไม่เป็นใจ ทำให้แผนเที่ยวต้องถูกเลื่อนออกไปเป็น 31 ตค ซึ่งตอนนั้นก็คิดว่าคงกลับมาสดใสกับปลายฝนต้นหนาวได้แล้วล่ะ
แต่...พายุดันเข้าก่อนถึงวันจะไป 2 วัน โคราชท่วมแล้ว กำแพงเพชรผมก็คงต้องทำใจ ไปหรือไม่ไปๆๆ นั่งคิดนอนคิดจนตกผลึกว่า ถ้าฝนจะตกฟ้าสดใสฝนก็ตก ด้วยหลักการนี้ ไปก็ไปว่ะ แล้วก็ไปวัดดวงกันเลย ตัดสินใจเก็บข้าวของวันศุกร์แล้วเริ่มต้นทริปคลองลานกัน
>>> มาเข้าเรื่องกันตรงนี้นะครับ<<<
การเดินทางคนเดียวของผม
ตอนไป ผมใช้วิธีจองรถไป-กลับ กับ บขส เป็นรถเที่ยวไปกลับ หมอชิต-คลองลาน รอบ 8.00 น. โดยใช้เวลาเกือบ 6 ชม. ครึ่งเลย รถทัวร์จะจอดให้ลงที่สถานีตลาดคลองลาน โดยไม่เลี้ยวเข้าสถานี จากนั้นต้องหารถเพื่อขึ้นไปที่หน้าอุทยานคลองลาน บางคนอาจจะโดนไปอย่างเดียว 200 บาทได้เลยนะ เพราะตรงนั้นไม่มีวิน ผมโชคดีมากๆที่ลุงขายของอยู่หน้าตลาด บอกว่าเดี๋ยวลุงไปส่งให้ ลุงจะขึ้นไปหาเพื่อนด้วยพอดี เลยไม่ได้เสียเงินเลยครับ ขอบคุณคุณลุงมากๆ จากหน้าตลาดนั่งรถมอไซค์ไปจนถึงหน้าอุทยานใช้เวลาแค่ 15 นาทีเอง เมื่อลงรถแล้วต้องไปจ่ายเงินสำหรับเข้าอุทยานคนละ 40 บาท ถ้าใครมีพาหนะก็จะมีค่านำรถเข้ามาจอดด้วยนะ จากจุดนี้ถ้าเราอยากออกกำลังสามารถเดินขึ้นไปยังลานกางเต็นท์ได้เลย ระยะทางไม่ไกลมาก เดินประมาณ 15 นาทีก็ถึงลานกางเต็นท์แล้ว เผื่อไม่มีรถให้ติดขึ้นไปจะได้หมดความกังวลเรื่องนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ข้อมูลนะครับ ตั๋วรถ บขส สามารถเลื่อนได้ 1 ครั้ง หรือถ้าจะเลือกคืนเงินก็ได้แต่โดนหักค่าธรรมเนียม 10% โดยที่สำหรับคนเลื่อนตั๋วออนไลน์เอง อย่าลืมปริ้นท์ตั๋วออกมาด้วยล่ะ ไม่งั้นจะไม่มีหางตั๋วเอาไว้กินข้าวระหว่างทาง หรือถ้าใครลืมปริ้นท์จริงๆ ที่หมอชิตสามารถช่วยคุณได้ผ่านช่องขายตั๋วที่ 23 ของชั้น 1 แต่ถ้าจะไปปริ้นท์ที่สถานีคลองลานอาจจะใช้เวลาหน่อย แต่รอบผมคือทำไม่ได้เลย ต้องปริ้นท์มาจากสถานีคลองน้ำไหล ซึ่งผมก็เลือกที่จะไม่มีหางตั๋วกินข้าวแทน
ช่วง 15.30 ผมมาเดินวนๆข้างลำน้ำตรงจุดกางเต็นท์ เพื่อมองหาทำเลที่น่าสนใจแก่การกางเต็นท์ และก็ไม่ได้มีความระวังเรื่องน้ำป่าเลย ใกล้ลำน้ำชนิดที่ว่าห้าก้าวก็ถึงน้ำแล้ว เพราะต้องแบกของทุกอย่างมาเองเลยเลือกพกแค่ กราวน์ชีท เต็นท์ กับเสา 2 ต้น มาแค่นั้น ตอนนั้นที่มาถึงฝนหยุดตกพอดี ค่อยกางง่ายขึ้นหน่อยไม่ต้องเร่งรีบจนเกินไป 16.00 น. ผมทยอยเอาของแยกเก็บไว้ในเต็นท์ แล้วก็นำกล้องออกไปเดินถ่ายรูปน้ำตกเพื่อให้ทันแสงอาทิตย์ตก สุดท้ายก็หนีไม่พ้นฝนตกลงมา ทั้งๆที่เพิ่งผ่านไปได้หนึ่งชั่วโมงเอง ผมเลยทำได้แค่เก็บความเสียใจแล้วเอากลับไปที่เต็นท์ ด้วยความที่เดินทางมาทั้งวัน จะท้องร้องก็ไม่แปลก จบมื้อเย็นกันไปด้วยเมนูสุดคลาสสิก "ต้มมาม่า" ไม่นานนักมี จนท เดินมาเก็บค่าบริการกางเต็นท์ 30 บาท ด้วยความที่ไม่มีรถอะไรเลย ก็ถามพี่ จนท ไปว่าจากอุทยานจะกลับลงไปที่ตลาดคลองลานตอนเช้าได้ยังไง มีวิธีที่ง่ายแต่เช้ามากอยู่วิธีก็คือ รอลงไปพร้อม จนท ที่เค้าออกเวรตอน 8.00 น. คืนนี้ผ่านไปได้ด้วยดี กับการนอนฟังเสียงฝนตกอยู่ในเต็นท์ จริงอยู่ที่ เพราะมาคนเดียวความเงียบเลยดังกว่าเสียงน้ำตก แต่ดังแค่ไหนสุดท้ายผมก็หลับได้อยู่ดี
- ห้องน้ำ ขอรีวิวซะหน่อย ห้องน้ำใช้ได้เลย สะอาด เป็นระเบียบมากๆ มีโซนล้างจานให้ด้วยไม่ต้องไปล้างที่น้ำตกเลย -
ผมแบกใบนี้ใบเดียวเอาอยู่ ข้างในมี เต็นท์ กราวน์ชีท เสื้อผ้า ขาตั้งกล้อง กระทะใบนึง ก็อยู่ได้แล้ว
ระหว่างทางนั่งไปก็ลุ้นไปว่าฝนจะตกไหม
และแล้วก็มาถึงที่ลานกางเต็นท์ เหมือนฝนจะเพิ่งหยุดตกเอง อากาศกำลังดีต้องรีบหาจุดยุทธศาสตร์ อย่างเต็นท์รูปล่างนี้ทำเลดีมากๆ อยากไปอยู่ตรงนั้นเลย
นี่สิเต็นท์ผม สีเหลืองสดใส อยู่ทางซ้ายนะ
อันนี้เป็นแผนที่เส้นทางศึกษาธรรมชาติครับ ค่อยๆเดิน 800 เมตรเองยังไงก็ถึงน้ำตก
ที่นี่ทางทำค่อนข้างดีเลย เดินง่าย ไม่ต้องปีนป่ายครับ
ลำธารกว้างๆแบบนี้ตลอดเส้นทางเดินเลยล่ะ เดินไปฟังเสียงน้ำไป
ชอบความเขียวของป่าในฤดูฝนที่สุดแล้ว ทั้งอากาศดี ทั้งสบายตา เป็นการพักผ่อนที่ดีสุดๆ
จุดนี้เห็นพื้นคล้ายๆทรายเลย มาน้ำตก ได้ฟีลทะเลหน่อยๆ ฮ่าๆๆๆ
หากมองดีๆจะเห็นละอองจากน้ำตกฟุ้งกระจายหนักมาก เพราะน้ำค่อนข้างเยอะ และแรง เข้าไปใกล้แทบไม่ได้เลย เปียก
มีนักท่องเที่ยวบ้างนะครับ แต่ยังไม่เยอะเท่าไร คงเพราะดูข่าวกันว่าจะมีพายุเข้าแน่ๆ
ถึงแล้ววว เห็นน้ำตกใหญ่ๆอยู่กลางป่าแล้ว
วิวตรงนี้สุดบรรยายครับ รู้สึกว่าเราตัดสินใจถูกที่มาวันนี้เพราะถ้าเลื่อนทริปออกไปก็คงไม่ได้เห็นน้ำเยอะแบบนี้แน่นอน จากที่คิดว่าไม่คุ้ม มาที่นี่แล้วได้เจอบรรยากาศแบบนี้ก็ไม่คิดอะไรมากแล้ว
ชอบการมองน้ำตกผ่านเลนส์กล้องมาก มันเป็นการบำบัดอย่างหนึ่งเลยนะ เหมือนเราได้อยู่ในโลกของเรา โลกที่เราเป็นคนเลือกวางองค์ประกอบต่างๆ ช่วยให้ได้เห็นในสิ่งที่อยากเห็นโดยที่ไม่ได้ไปทำร้ายใคร แค่ทำตามใจตัวเองก็สบายใจแล้ว
ผมอยู่ตรงนี้ได้ไม่นานครับ เพราะประมาณห้าโมงเริ่มรู้สึกเหมือนฝนจะตกอีกแล้ว เลยกลับไปทำอาหารกินดีกว่า แต่ก็ยังถ่ายรูประหว่างทางเก็บไว้ด้วยนะ
บอกเลยว่าสายเขียวต้องชอบที่นี่
ดูๆไปก็สวยนะ แต่อย่าได้สูดหายใจลึกๆล่ะ เหม็นตาย
น้องๆเค้าเล่นน้ำกันเสร็จแล้ว
มุมพักผ่อนประจำเดือนตุลาคม
เช้าวันที่ 2 ตอนหกโมง ผมตื่นช้ากว่าแผน 1 ชม เพราะฝนตกเลยทำอะไรมากไม่ได้ กินขนมปังเติมพลัง แล้วก็เก็บของในเต็นท์ ต่อด้วยอาบน้ำเช้า แล้วออกไปถ่ายรูปหน้าเต็นท์เพื่อเป็นการเก็บภาพความทรงจำ ผมเริ่มเก็บเต็นท์ตอน 7.00 น ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงก็เสร็จแล้ว สิ่งที่อยากทำก่อนกลับคือขอความคุ้มในการถ่ายรูปรูปหน่อยเหอะมาทั้งที เลยแบกกล้องวิ่งไปที่น้ำตกอีกรอบหนึ่งก่อนกลับ จริงๆก็เดินเอาแหละ ถ่ายไปได้ 20 นาที รู้สึกคุ้มพอแล้ว และถึงเวลาที่ต้องลงไปหาเจ้าหน้าที่แล้ว ผมติดรถเต็นท์ข้างๆไม่ได้เลย เพราะพี่เค้ายังไม่ออก และไม่รู้ว่าออกแล้วจะได้ผ่านตลาดคลองลานไหม เลยรีบเดินลงไปที่หน้าอุทยาน ผมลงมาถึงตอน 8.15 น. โชคดีสุดๆที่พี่ จนท ยังไม่ไปก็เลยได้ติดรถลงไปด้วยเลย
สภาพพื้นหลังจากผ่านฝนที่เทลงมาตลอดทั้งคืน แต่เต็นท์เอาอยู่
ผมลงมาถึงขนส่งตลาดคลองลานตอน 8.20 น ก็ลงไปคุยเรื่องตั๋วรถ พอจะมีเวลาให้กินข้าวเช้าบ้าง ก็ถือว่าเวลากำลังดีเลยครับ รถจะมาช้ากว่าเวลานิดหน่อย ที่นี่รถออกรอบเช้าช้าสุดคือรอบ 21.30 น. หลังจะนั้นจะเป็นรอบดึกเลย ถ้ากลับลงมาช้าจะไม่มีที่ไปเลยเพราะการเดินทางที่ต่างอำเภอไม่ได้สะดวกเท่าไร หลังจากขึ้นรถก็หลับไปยาวๆ มาถึงหมอชิตประมาณบ่ายสี่ของวันอาทิตย์ และก็ถึงเวลาแก่การจบทริปแล้ว
แนะนำสำหรับคนที่จะมาวันไนท์ทริปแบบนี้ คิดดีๆนะครับ เพราะวันเวลาค่อนข้างน้อยต่อการพักผ่อน ถ้าจะให้ดีแนะนำว่าให้ลงที่ บขส กำแพงเพชร แล้วเช่ารถมอไซค์ขับเองดีกว่า จะได้ทำแผนนอนสองคืนโดยคืนที่สองขับไปนอนพักที่ช่องเย็นด้วยก็จะสนุกขึ้นมาอีก แต่ถ้าใครลาไม่ได้จริงๆขับรถมาเองจะเวิคกว่าเพราะยังมีน้ำตกคลองน้ำไหล ช่องเย็น ให้ไปแวะได้ครับ
ค่าใช้จ่ายตลอดทริป
ค่ารถไปกลับ หมอชิต-คลองลาน 568 บาท
ค่าอาหารทั้งหมดประมาณ 400 บาท
ค่าเข้าอุทยาน 40 บาท
ค่ากางเต็นท์ 30 บาท
ถ้ากินไม่เยอะมาก งบ 1000 บาท ก็ไปนอนเล่นที่น้ำตกคลองลานได้แล้วครับ
ไว้มารีวิวทริปหน้าอีกครั้ง ขอบคุณครับ
ติดตามรีวิวรูปจากทริปอื่นเพิ่มเติมได้ทาง IG: w.whereIhavebeen Facebook: w.whereIhavebeen | ไป มา แล้ว
รีวิวอุทยานแห่งชาติคลองลาน คนเดียว คืนเดียว แค่คิดว่าคุ้มก็ไปได้แล้ว
ความตั้งใจแรกของการเดินทางครั้งนี้คือ จะไปถ่ายรูปน้ำตก เพราะความงามของน้ำตกคลองลานในช่วงหน้าฝนนี้เป็นอะไรที่น่าสนใจไม่แพ้กับ เปรโต๊ะลอซูเลย อีกทั้งยังเดินทางง่ายกว่า และไม่ต้องไปเดินทางไกลด้วย หลังจากที่ได้เห็นรูปจริงจากใน IG จากหลายๆคน สิ่งแรกที่คิดได้คือ ไปวันไหนดีนะ ผมเช็คเวลาแล้วก็เลือกวันที่ 11 ตค แต่เพราะหน้าฝนที่สภาพอากาศไม่เป็นใจ ทำให้แผนเที่ยวต้องถูกเลื่อนออกไปเป็น 31 ตค ซึ่งตอนนั้นก็คิดว่าคงกลับมาสดใสกับปลายฝนต้นหนาวได้แล้วล่ะ
แต่...พายุดันเข้าก่อนถึงวันจะไป 2 วัน โคราชท่วมแล้ว กำแพงเพชรผมก็คงต้องทำใจ ไปหรือไม่ไปๆๆ นั่งคิดนอนคิดจนตกผลึกว่า ถ้าฝนจะตกฟ้าสดใสฝนก็ตก ด้วยหลักการนี้ ไปก็ไปว่ะ แล้วก็ไปวัดดวงกันเลย ตัดสินใจเก็บข้าวของวันศุกร์แล้วเริ่มต้นทริปคลองลานกัน
>>> มาเข้าเรื่องกันตรงนี้นะครับ<<<
การเดินทางคนเดียวของผม
ตอนไป ผมใช้วิธีจองรถไป-กลับ กับ บขส เป็นรถเที่ยวไปกลับ หมอชิต-คลองลาน รอบ 8.00 น. โดยใช้เวลาเกือบ 6 ชม. ครึ่งเลย รถทัวร์จะจอดให้ลงที่สถานีตลาดคลองลาน โดยไม่เลี้ยวเข้าสถานี จากนั้นต้องหารถเพื่อขึ้นไปที่หน้าอุทยานคลองลาน บางคนอาจจะโดนไปอย่างเดียว 200 บาทได้เลยนะ เพราะตรงนั้นไม่มีวิน ผมโชคดีมากๆที่ลุงขายของอยู่หน้าตลาด บอกว่าเดี๋ยวลุงไปส่งให้ ลุงจะขึ้นไปหาเพื่อนด้วยพอดี เลยไม่ได้เสียเงินเลยครับ ขอบคุณคุณลุงมากๆ จากหน้าตลาดนั่งรถมอไซค์ไปจนถึงหน้าอุทยานใช้เวลาแค่ 15 นาทีเอง เมื่อลงรถแล้วต้องไปจ่ายเงินสำหรับเข้าอุทยานคนละ 40 บาท ถ้าใครมีพาหนะก็จะมีค่านำรถเข้ามาจอดด้วยนะ จากจุดนี้ถ้าเราอยากออกกำลังสามารถเดินขึ้นไปยังลานกางเต็นท์ได้เลย ระยะทางไม่ไกลมาก เดินประมาณ 15 นาทีก็ถึงลานกางเต็นท์แล้ว เผื่อไม่มีรถให้ติดขึ้นไปจะได้หมดความกังวลเรื่องนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ช่วง 15.30 ผมมาเดินวนๆข้างลำน้ำตรงจุดกางเต็นท์ เพื่อมองหาทำเลที่น่าสนใจแก่การกางเต็นท์ และก็ไม่ได้มีความระวังเรื่องน้ำป่าเลย ใกล้ลำน้ำชนิดที่ว่าห้าก้าวก็ถึงน้ำแล้ว เพราะต้องแบกของทุกอย่างมาเองเลยเลือกพกแค่ กราวน์ชีท เต็นท์ กับเสา 2 ต้น มาแค่นั้น ตอนนั้นที่มาถึงฝนหยุดตกพอดี ค่อยกางง่ายขึ้นหน่อยไม่ต้องเร่งรีบจนเกินไป 16.00 น. ผมทยอยเอาของแยกเก็บไว้ในเต็นท์ แล้วก็นำกล้องออกไปเดินถ่ายรูปน้ำตกเพื่อให้ทันแสงอาทิตย์ตก สุดท้ายก็หนีไม่พ้นฝนตกลงมา ทั้งๆที่เพิ่งผ่านไปได้หนึ่งชั่วโมงเอง ผมเลยทำได้แค่เก็บความเสียใจแล้วเอากลับไปที่เต็นท์ ด้วยความที่เดินทางมาทั้งวัน จะท้องร้องก็ไม่แปลก จบมื้อเย็นกันไปด้วยเมนูสุดคลาสสิก "ต้มมาม่า" ไม่นานนักมี จนท เดินมาเก็บค่าบริการกางเต็นท์ 30 บาท ด้วยความที่ไม่มีรถอะไรเลย ก็ถามพี่ จนท ไปว่าจากอุทยานจะกลับลงไปที่ตลาดคลองลานตอนเช้าได้ยังไง มีวิธีที่ง่ายแต่เช้ามากอยู่วิธีก็คือ รอลงไปพร้อม จนท ที่เค้าออกเวรตอน 8.00 น. คืนนี้ผ่านไปได้ด้วยดี กับการนอนฟังเสียงฝนตกอยู่ในเต็นท์ จริงอยู่ที่ เพราะมาคนเดียวความเงียบเลยดังกว่าเสียงน้ำตก แต่ดังแค่ไหนสุดท้ายผมก็หลับได้อยู่ดี
- ห้องน้ำ ขอรีวิวซะหน่อย ห้องน้ำใช้ได้เลย สะอาด เป็นระเบียบมากๆ มีโซนล้างจานให้ด้วยไม่ต้องไปล้างที่น้ำตกเลย -
ผมแบกใบนี้ใบเดียวเอาอยู่ ข้างในมี เต็นท์ กราวน์ชีท เสื้อผ้า ขาตั้งกล้อง กระทะใบนึง ก็อยู่ได้แล้ว
ระหว่างทางนั่งไปก็ลุ้นไปว่าฝนจะตกไหม
และแล้วก็มาถึงที่ลานกางเต็นท์ เหมือนฝนจะเพิ่งหยุดตกเอง อากาศกำลังดีต้องรีบหาจุดยุทธศาสตร์ อย่างเต็นท์รูปล่างนี้ทำเลดีมากๆ อยากไปอยู่ตรงนั้นเลย
นี่สิเต็นท์ผม สีเหลืองสดใส อยู่ทางซ้ายนะ
อันนี้เป็นแผนที่เส้นทางศึกษาธรรมชาติครับ ค่อยๆเดิน 800 เมตรเองยังไงก็ถึงน้ำตก
ที่นี่ทางทำค่อนข้างดีเลย เดินง่าย ไม่ต้องปีนป่ายครับ
ลำธารกว้างๆแบบนี้ตลอดเส้นทางเดินเลยล่ะ เดินไปฟังเสียงน้ำไป
ชอบความเขียวของป่าในฤดูฝนที่สุดแล้ว ทั้งอากาศดี ทั้งสบายตา เป็นการพักผ่อนที่ดีสุดๆ
จุดนี้เห็นพื้นคล้ายๆทรายเลย มาน้ำตก ได้ฟีลทะเลหน่อยๆ ฮ่าๆๆๆ
หากมองดีๆจะเห็นละอองจากน้ำตกฟุ้งกระจายหนักมาก เพราะน้ำค่อนข้างเยอะ และแรง เข้าไปใกล้แทบไม่ได้เลย เปียก
มีนักท่องเที่ยวบ้างนะครับ แต่ยังไม่เยอะเท่าไร คงเพราะดูข่าวกันว่าจะมีพายุเข้าแน่ๆ
ถึงแล้ววว เห็นน้ำตกใหญ่ๆอยู่กลางป่าแล้ว
วิวตรงนี้สุดบรรยายครับ รู้สึกว่าเราตัดสินใจถูกที่มาวันนี้เพราะถ้าเลื่อนทริปออกไปก็คงไม่ได้เห็นน้ำเยอะแบบนี้แน่นอน จากที่คิดว่าไม่คุ้ม มาที่นี่แล้วได้เจอบรรยากาศแบบนี้ก็ไม่คิดอะไรมากแล้ว
ชอบการมองน้ำตกผ่านเลนส์กล้องมาก มันเป็นการบำบัดอย่างหนึ่งเลยนะ เหมือนเราได้อยู่ในโลกของเรา โลกที่เราเป็นคนเลือกวางองค์ประกอบต่างๆ ช่วยให้ได้เห็นในสิ่งที่อยากเห็นโดยที่ไม่ได้ไปทำร้ายใคร แค่ทำตามใจตัวเองก็สบายใจแล้ว
ผมอยู่ตรงนี้ได้ไม่นานครับ เพราะประมาณห้าโมงเริ่มรู้สึกเหมือนฝนจะตกอีกแล้ว เลยกลับไปทำอาหารกินดีกว่า แต่ก็ยังถ่ายรูประหว่างทางเก็บไว้ด้วยนะ
บอกเลยว่าสายเขียวต้องชอบที่นี่
ดูๆไปก็สวยนะ แต่อย่าได้สูดหายใจลึกๆล่ะ เหม็นตาย
น้องๆเค้าเล่นน้ำกันเสร็จแล้ว
มุมพักผ่อนประจำเดือนตุลาคม
เช้าวันที่ 2 ตอนหกโมง ผมตื่นช้ากว่าแผน 1 ชม เพราะฝนตกเลยทำอะไรมากไม่ได้ กินขนมปังเติมพลัง แล้วก็เก็บของในเต็นท์ ต่อด้วยอาบน้ำเช้า แล้วออกไปถ่ายรูปหน้าเต็นท์เพื่อเป็นการเก็บภาพความทรงจำ ผมเริ่มเก็บเต็นท์ตอน 7.00 น ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงก็เสร็จแล้ว สิ่งที่อยากทำก่อนกลับคือขอความคุ้มในการถ่ายรูปรูปหน่อยเหอะมาทั้งที เลยแบกกล้องวิ่งไปที่น้ำตกอีกรอบหนึ่งก่อนกลับ จริงๆก็เดินเอาแหละ ถ่ายไปได้ 20 นาที รู้สึกคุ้มพอแล้ว และถึงเวลาที่ต้องลงไปหาเจ้าหน้าที่แล้ว ผมติดรถเต็นท์ข้างๆไม่ได้เลย เพราะพี่เค้ายังไม่ออก และไม่รู้ว่าออกแล้วจะได้ผ่านตลาดคลองลานไหม เลยรีบเดินลงไปที่หน้าอุทยาน ผมลงมาถึงตอน 8.15 น. โชคดีสุดๆที่พี่ จนท ยังไม่ไปก็เลยได้ติดรถลงไปด้วยเลย
สภาพพื้นหลังจากผ่านฝนที่เทลงมาตลอดทั้งคืน แต่เต็นท์เอาอยู่
ผมลงมาถึงขนส่งตลาดคลองลานตอน 8.20 น ก็ลงไปคุยเรื่องตั๋วรถ พอจะมีเวลาให้กินข้าวเช้าบ้าง ก็ถือว่าเวลากำลังดีเลยครับ รถจะมาช้ากว่าเวลานิดหน่อย ที่นี่รถออกรอบเช้าช้าสุดคือรอบ 21.30 น. หลังจะนั้นจะเป็นรอบดึกเลย ถ้ากลับลงมาช้าจะไม่มีที่ไปเลยเพราะการเดินทางที่ต่างอำเภอไม่ได้สะดวกเท่าไร หลังจากขึ้นรถก็หลับไปยาวๆ มาถึงหมอชิตประมาณบ่ายสี่ของวันอาทิตย์ และก็ถึงเวลาแก่การจบทริปแล้ว
แนะนำสำหรับคนที่จะมาวันไนท์ทริปแบบนี้ คิดดีๆนะครับ เพราะวันเวลาค่อนข้างน้อยต่อการพักผ่อน ถ้าจะให้ดีแนะนำว่าให้ลงที่ บขส กำแพงเพชร แล้วเช่ารถมอไซค์ขับเองดีกว่า จะได้ทำแผนนอนสองคืนโดยคืนที่สองขับไปนอนพักที่ช่องเย็นด้วยก็จะสนุกขึ้นมาอีก แต่ถ้าใครลาไม่ได้จริงๆขับรถมาเองจะเวิคกว่าเพราะยังมีน้ำตกคลองน้ำไหล ช่องเย็น ให้ไปแวะได้ครับ
ค่าใช้จ่ายตลอดทริป
ค่ารถไปกลับ หมอชิต-คลองลาน 568 บาท
ค่าอาหารทั้งหมดประมาณ 400 บาท
ค่าเข้าอุทยาน 40 บาท
ค่ากางเต็นท์ 30 บาท
ถ้ากินไม่เยอะมาก งบ 1000 บาท ก็ไปนอนเล่นที่น้ำตกคลองลานได้แล้วครับ
ไว้มารีวิวทริปหน้าอีกครั้ง ขอบคุณครับ
ติดตามรีวิวรูปจากทริปอื่นเพิ่มเติมได้ทาง IG: w.whereIhavebeen Facebook: w.whereIhavebeen | ไป มา แล้ว