นางถุงแก้เป็นตำรวจหญิง ได้มีวอมาหาเธอให้รีบไปตามจับคนร้ายที่ปล้นร้านของชำขณะเธอกำลังซื้อข้าวกล่องที่ร้านของชำอีกแห่ง
ถุงแก้ "แถมที่ร้านนี้คนขายก็กำลังโดนปล้นอยู่ด้วยเหมือนกัน"
คนร้าย "ไม่เห็นต้องคิดมาก เลือกปฏิบัติงานที่เห็นตรงหน้าก่อนสิ"
คนขาย "ไม่ได้นะ ต้องทำงานที่ได้รับมอบหมายก่อนสิ"
ถุงแก้ "เลือกไม่ถูกเลยว่าจะไงดี"
แล้วเด็กหญิงวอค่าที่เป็นลูกค้าอีกคนในร้านก็ว่า "ทำตามเสียงด้านนอกจิตใจสิ"
ทันใดนั้นเองเสียงจากข้างนอกก็แว่บเข้าร้านมาพอดีว่า "เราเผลอเตะหมาไป"
ถุงแก้ "ตีความได้ว่า ถึงยังไงคนเราก็ต้องมีการทำเรื่องผิดพลาดขึ้นมาได้สินะดี"
วอค่า "ใช่ เพราะงั้นไม่ต้องกังวลเรื่องทางนี้เลย"
ถุงแก้ "ขอบใจมาก หนูน้อย"
วอค่า "ไม่ได้ช่วยฟรี ๆ น่ะ ค่าช่วยขอเป็นตึกฝั่งตรงข้ามถนนละกัน"
หลังจากถุงแก้ไปตามจับคนร้ายที่ร้านของชำอีกร้านแล้ว วันรุ่งขึ้นก็จึงไปสำนักงานที่ดินกับเด็กหญิงวอค่า
เจ้าหน้าที่ "ตกลงคือซื้อตึกให้เด็กหญิงวอค่า ค่าโอน 80 ล้านบาท ก็จ่ายมาเลยละกัน"
ถุงแก้ "พอดีมีเป็นเศษเหรียญ ไม่ว่าไรใช่มะ"
เจ้าหน้าที่ "แล้วตอนไปซื้อตึกล่ะ เจ้าของว่าไง"
ถุงแก้ "อันนั้นซื้อราคา 1 หมื่นล้านบาท ให้เป็นเศษเหรียญ 25 สตางค์ เจ้าของก็ไม่ว่าไร"
เจ้าหน้าที่ "มิน่า ทำไมช่วงนี้รู้สึกเหรียญ 25 สตางค์หายาก"
ก็ตกลงจ่ายเงินเรียบร้อย ณ ร้านขายกุ้งทอด
คนขาย "ช่วงนี้กุ้งหายาก เราเลยไม่ขายละ"
ถุงแก้ "ดีแล้ว กุ้งควรเอามานึ่งซีฟู้ตดีกว่า"
คนขาย "ว่าแต่ตกลงเมื่อวานจับคนร้ายได้มะ"
ถุงแก้ "ก็เกือบไม่ได้แล้ว คนร้ายแข็งแรงว่องไวเพราะเป็นคนป่วยเก่า"
คนขาย "อ่าว ไม่ใช่นักกีฬาเก่าหรอกรึ ถ้างั้น"
ถุงแก้ "นั่นไงล่ะ เผลอหลุดมาแล้วสินะ เจ้าไม่อยู่ในเหตุการณ์แล้วรู้ได้ไงว่าคนร้ายเป็นนักกีฬาเก่า"
คนขาย "เค จะจับเราแล้วดิ"
ณ ศาล
ผู้พิพากษา "เราไม่ให้พูด"
คนขาย "ไหงเป็นงั้น"
ผู้พิพากษา "ไม่เชื่อฟังศาล ติดคุกก่อน 80 ปีค่อยตัดสินคดีใหม่"
80 ปีผ่านไป
ผู้พิพากษา "เอ้าว่าไง มีไรก็พูดมา"
คนขาย "เค รับสารภาพก็ได้ เพราะเรารู้เรื่องกุ้งดี คนร้ายเลยเสนอให้มาช่วยไล่หมาแถวนั้นไปหน่อย"
ผู้พิพากษา "ถ้างั้นมันต้องเชี่ยวชาญเรื่องหมาไม่ใช่รึ"
ถุงแก้ "อ่าว เผลอหลุดมาแล้วดิ จริง ๆ ผู้พิพากษาก็เป็น 1 ในคนร้ายด้วยเหมือนกันดิ"
ผู้พิพากษา "เค ขอตัดสินตัวเองจำคุก 348 ปี เนื่องด้วยเป็นผู้พิพากษาด้วยโทษจึงต้องหนักกว่าเดิม"
คนขาย "อ่าว ดูถูกอาชีพคนขายกุ้งทอดอ่อ เพราะขายกุ้งทอดมันโนเนมโทษเลยไม่ได้เพิ่ม อ๋อ ๆ"
ผู้พิพากษา "ถูกมาก เป็นแค่คนขายกุ้งทอดแทนที่จะเจียมตัว เพราะงั้นรอดคดีไปเลยละกัน จะได้สำนึก"
ถุงแก้ "สาสมยิ่งนัก"
นิทานก่อนนอน 22
ถุงแก้ "แถมที่ร้านนี้คนขายก็กำลังโดนปล้นอยู่ด้วยเหมือนกัน"
คนร้าย "ไม่เห็นต้องคิดมาก เลือกปฏิบัติงานที่เห็นตรงหน้าก่อนสิ"
คนขาย "ไม่ได้นะ ต้องทำงานที่ได้รับมอบหมายก่อนสิ"
ถุงแก้ "เลือกไม่ถูกเลยว่าจะไงดี"
แล้วเด็กหญิงวอค่าที่เป็นลูกค้าอีกคนในร้านก็ว่า "ทำตามเสียงด้านนอกจิตใจสิ"
ทันใดนั้นเองเสียงจากข้างนอกก็แว่บเข้าร้านมาพอดีว่า "เราเผลอเตะหมาไป"
ถุงแก้ "ตีความได้ว่า ถึงยังไงคนเราก็ต้องมีการทำเรื่องผิดพลาดขึ้นมาได้สินะดี"
วอค่า "ใช่ เพราะงั้นไม่ต้องกังวลเรื่องทางนี้เลย"
ถุงแก้ "ขอบใจมาก หนูน้อย"
วอค่า "ไม่ได้ช่วยฟรี ๆ น่ะ ค่าช่วยขอเป็นตึกฝั่งตรงข้ามถนนละกัน"
หลังจากถุงแก้ไปตามจับคนร้ายที่ร้านของชำอีกร้านแล้ว วันรุ่งขึ้นก็จึงไปสำนักงานที่ดินกับเด็กหญิงวอค่า
เจ้าหน้าที่ "ตกลงคือซื้อตึกให้เด็กหญิงวอค่า ค่าโอน 80 ล้านบาท ก็จ่ายมาเลยละกัน"
ถุงแก้ "พอดีมีเป็นเศษเหรียญ ไม่ว่าไรใช่มะ"
เจ้าหน้าที่ "แล้วตอนไปซื้อตึกล่ะ เจ้าของว่าไง"
ถุงแก้ "อันนั้นซื้อราคา 1 หมื่นล้านบาท ให้เป็นเศษเหรียญ 25 สตางค์ เจ้าของก็ไม่ว่าไร"
เจ้าหน้าที่ "มิน่า ทำไมช่วงนี้รู้สึกเหรียญ 25 สตางค์หายาก"
ก็ตกลงจ่ายเงินเรียบร้อย ณ ร้านขายกุ้งทอด
คนขาย "ช่วงนี้กุ้งหายาก เราเลยไม่ขายละ"
ถุงแก้ "ดีแล้ว กุ้งควรเอามานึ่งซีฟู้ตดีกว่า"
คนขาย "ว่าแต่ตกลงเมื่อวานจับคนร้ายได้มะ"
ถุงแก้ "ก็เกือบไม่ได้แล้ว คนร้ายแข็งแรงว่องไวเพราะเป็นคนป่วยเก่า"
คนขาย "อ่าว ไม่ใช่นักกีฬาเก่าหรอกรึ ถ้างั้น"
ถุงแก้ "นั่นไงล่ะ เผลอหลุดมาแล้วสินะ เจ้าไม่อยู่ในเหตุการณ์แล้วรู้ได้ไงว่าคนร้ายเป็นนักกีฬาเก่า"
คนขาย "เค จะจับเราแล้วดิ"
ณ ศาล
ผู้พิพากษา "เราไม่ให้พูด"
คนขาย "ไหงเป็นงั้น"
ผู้พิพากษา "ไม่เชื่อฟังศาล ติดคุกก่อน 80 ปีค่อยตัดสินคดีใหม่"
80 ปีผ่านไป
ผู้พิพากษา "เอ้าว่าไง มีไรก็พูดมา"
คนขาย "เค รับสารภาพก็ได้ เพราะเรารู้เรื่องกุ้งดี คนร้ายเลยเสนอให้มาช่วยไล่หมาแถวนั้นไปหน่อย"
ผู้พิพากษา "ถ้างั้นมันต้องเชี่ยวชาญเรื่องหมาไม่ใช่รึ"
ถุงแก้ "อ่าว เผลอหลุดมาแล้วดิ จริง ๆ ผู้พิพากษาก็เป็น 1 ในคนร้ายด้วยเหมือนกันดิ"
ผู้พิพากษา "เค ขอตัดสินตัวเองจำคุก 348 ปี เนื่องด้วยเป็นผู้พิพากษาด้วยโทษจึงต้องหนักกว่าเดิม"
คนขาย "อ่าว ดูถูกอาชีพคนขายกุ้งทอดอ่อ เพราะขายกุ้งทอดมันโนเนมโทษเลยไม่ได้เพิ่ม อ๋อ ๆ"
ผู้พิพากษา "ถูกมาก เป็นแค่คนขายกุ้งทอดแทนที่จะเจียมตัว เพราะงั้นรอดคดีไปเลยละกัน จะได้สำนึก"
ถุงแก้ "สาสมยิ่งนัก"