สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเราค่ะ เหนื่อยใจ เหนื่อยกาย และท้อมากค่ะ เลยจะขอความคิดเห็นเพื่อนๆในกระทู้ค่ะ 🙁
สมาชิกภายในบ้านมี 5 คน มีเราอายุ28 (ตั้งครรภ์ 7 เดือน)กับสามี และน้องสาวอายุ 16 แฟนน้องสาวอายุ 20(ลูก1คน) อยู่บ้านหลังเดียวกัน ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่มาจากน้ำพักน้ำแรงของเรา มีรถใหญ่อีก 1 คัน (ทรัพย์สินทั้งสองอย่าง กำลังผ่อนอยู่)
เรื่องมันเป็นอย่างนี้ ก่อนหน้าที่แฟนน้องจะเข้ามาอยู่ในบ้าน มีการมีงานทำ เราก๊เห็นว่า อือ เด็กคนนี้ดีนะ เอาการเอางาน ขยัน น่าจะดูแลน้องสาวเราได้ เราก็เอ็นดู แต่พอหลังจากแต่งงาน น้องสาวเราคลอดลูก แม่เราเลยคุยกับ ญาติ ฝั่งผช. ว่าจะเอายังไงต่อ จะให้อยู่บ้านไหน คำตอบที่ได้ คือ "ให้พากันมาอยู่บ้านเรา เค้าเลี้ยงไม่ไหว" ณ ตอนนั้นเราอึ้งไปเลย ในใจเราคิด "อยู่บ้านเรา ภาระเราก๊เยอะพอแล้ว ท้องก๊ท้องอยู่ ผู้ใหญ่ในบ้านก๊ไม่มี สรุปคือ แฟนน้องก๊เข้ามาอยู่ในบ้านเราด้วย โดยที่งานไม่ได้ทำ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเน็ต ค่าของใช้ในบ้าน ไม่จ่าย และไม่เคยคิดที่จะเอ่ยปากช่วยเราสักนิด ทำบ้าน รก อีกตังหาก เวลามีปัญหาเดือดร้อนเรื่องการเงิน ไม่ว่าจะเป็น ค่าน้องสาวเราไปหาหมอ ค่ากินจิปาถะ น้องสาวเราจะเป็นฝ่ายขอแม่โอนให้ตลอด (เงินที่แม่โอนมาให้ บางที ผช. ก๊เอาไปสั่งของจำพวกอุปกรณ์แต่งรถ อุปกรณ์เครื่องสัก เรามองว่าไร้สาระ เก็บเงินไว้กินก่อนมั้ย ในขณะ ที่ ครอบครัวก๊ไม่ค่อยมี) ซึ่งฝั่งผช. ไม่คิดที่จะหาทาง หาเงินเลย หวังพึ่งแม่เราอย่างเดียว ตอนแรกที่เข้ามาอยู่เราใจดี ทำกับข้าวให้กิน ออกไปข้างนอกซื้อของ ขนม มาฝาก แต่นานๆไปเราเริ่มไม่ไหวค่าใช้จ่ายเราทวีคูณเพิ่ม แม้แต่ของเตรียมคลอดลูกจน ณ ตอนนี้เรายังไม่ได้ซื้อเลย รวมถึงค่าคลอดเรายังคิดหนักว่าจะพอมั้ย
กลายเป็นว่าภาระทั้งหมดตกที่สามีเรา ที่ทำงานคนเดียว จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเน็ต ค่าของใช้ในบ้าน ค่ากิน ค่ารถ ค่าบ้าน
เราเคยคุยกับน้องสาวเราทำไมถึงไม่ให้แฟนทำงาน น้องสาวเราบอกว่า " น้องสาวเราเลี้ยงลูกไม่ไหว " ส่วนแฟนน้องสาวบอกว่า "รอให้ลูกแข็งแรงก่อน" เราโมโหมาก จึงได้พูดไป "อยู่กันแบบนี้แล้วจะเอาอะไรกิน ภาระทุกอย่างตกที่เรา"
และอีกอย่างเวลาเราว่าแฟนน้อง น้องสาวเราชอบปกป้อง ชอบให้ท้ายตลอดๆ
เรื่องนี้เราเคยปรึกษากับแม่ แม่บอกเอ็นดูน้อง(หมายถึงน้องสาวเรา) อย่าไปกดดัน แต่เราอดไม่ไหวจิงๆ เราเคยคุยกับน้องสาวแล้ว มีลูก คือ มีครอบครัวแล้วนะ ต้องใช้ชีวิตอีกแบบนึง ต้องใช้ชีวิตด้วยตัวเองแบบสามีภรรยา เหมือนน้องจะเข้าใจเรา แต่ก๊ไม่ และเราบอกแม่ไปว่า อยู่กันแบบนี้เราไม่โอเค เราไม่เอา สักวันนึงน้องต้องใช้ชีวิตด้วยกันเอง (หมายถึงแยกไปอยู่อีกครอบครัวนึง)
เราผิดมากมั้ย ?? ที่เคยถามทำไมถึงไม่แยกครอบครัว ทำไมไม่ไปอยู่บ้านฝั่งผช. เพราะเดี๋ยวอีกหน่อย ลูกเราก็จะคลอด ค่าใช้จ่ายเราก๊เพิ่มขึ้น ไม่ใช่เราไม่เอ็นดูนะ แต่ควรแยกแยะใช่รึเปล่า อะไรที่ควรคิดได้ กับสิ่งที่เป็นอยู่
เราดูเหมือนพี่ไม่รักน้องรึป่าว?? เราท้อ เราเหนื่อยมาก ที่ต้องมาตามเก็บในบ้าน บางทีก็ทนไม่ไหว
เราควรจะทำยังไงดีกับเรื่องนี้ ขนาดแม่และน้าๆ พูดกับแฟนน้องเสมอๆ หางานทำได้ละนะ ค่าใช้จ่ายลูกกับเมียอีก และช่วยๆกันกับค่าใช้จ่ายภายในบ้าน แต่พูดไปก็เหมือนเดิม ฟังก็เหมือนไม่ได้ฟัง คับๆ ตลอด
หรือเราใจดีเกินไป ?? 😣😣
พี่น้องกัน ต่างคนต่างมีครอบครัว ควรจะแยกอยู่หรืออยู่ด้วยกันคะ ??
สมาชิกภายในบ้านมี 5 คน มีเราอายุ28 (ตั้งครรภ์ 7 เดือน)กับสามี และน้องสาวอายุ 16 แฟนน้องสาวอายุ 20(ลูก1คน) อยู่บ้านหลังเดียวกัน ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่มาจากน้ำพักน้ำแรงของเรา มีรถใหญ่อีก 1 คัน (ทรัพย์สินทั้งสองอย่าง กำลังผ่อนอยู่)
เรื่องมันเป็นอย่างนี้ ก่อนหน้าที่แฟนน้องจะเข้ามาอยู่ในบ้าน มีการมีงานทำ เราก๊เห็นว่า อือ เด็กคนนี้ดีนะ เอาการเอางาน ขยัน น่าจะดูแลน้องสาวเราได้ เราก็เอ็นดู แต่พอหลังจากแต่งงาน น้องสาวเราคลอดลูก แม่เราเลยคุยกับ ญาติ ฝั่งผช. ว่าจะเอายังไงต่อ จะให้อยู่บ้านไหน คำตอบที่ได้ คือ "ให้พากันมาอยู่บ้านเรา เค้าเลี้ยงไม่ไหว" ณ ตอนนั้นเราอึ้งไปเลย ในใจเราคิด "อยู่บ้านเรา ภาระเราก๊เยอะพอแล้ว ท้องก๊ท้องอยู่ ผู้ใหญ่ในบ้านก๊ไม่มี สรุปคือ แฟนน้องก๊เข้ามาอยู่ในบ้านเราด้วย โดยที่งานไม่ได้ทำ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเน็ต ค่าของใช้ในบ้าน ไม่จ่าย และไม่เคยคิดที่จะเอ่ยปากช่วยเราสักนิด ทำบ้าน รก อีกตังหาก เวลามีปัญหาเดือดร้อนเรื่องการเงิน ไม่ว่าจะเป็น ค่าน้องสาวเราไปหาหมอ ค่ากินจิปาถะ น้องสาวเราจะเป็นฝ่ายขอแม่โอนให้ตลอด (เงินที่แม่โอนมาให้ บางที ผช. ก๊เอาไปสั่งของจำพวกอุปกรณ์แต่งรถ อุปกรณ์เครื่องสัก เรามองว่าไร้สาระ เก็บเงินไว้กินก่อนมั้ย ในขณะ ที่ ครอบครัวก๊ไม่ค่อยมี) ซึ่งฝั่งผช. ไม่คิดที่จะหาทาง หาเงินเลย หวังพึ่งแม่เราอย่างเดียว ตอนแรกที่เข้ามาอยู่เราใจดี ทำกับข้าวให้กิน ออกไปข้างนอกซื้อของ ขนม มาฝาก แต่นานๆไปเราเริ่มไม่ไหวค่าใช้จ่ายเราทวีคูณเพิ่ม แม้แต่ของเตรียมคลอดลูกจน ณ ตอนนี้เรายังไม่ได้ซื้อเลย รวมถึงค่าคลอดเรายังคิดหนักว่าจะพอมั้ย
กลายเป็นว่าภาระทั้งหมดตกที่สามีเรา ที่ทำงานคนเดียว จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเน็ต ค่าของใช้ในบ้าน ค่ากิน ค่ารถ ค่าบ้าน
เราเคยคุยกับน้องสาวเราทำไมถึงไม่ให้แฟนทำงาน น้องสาวเราบอกว่า " น้องสาวเราเลี้ยงลูกไม่ไหว " ส่วนแฟนน้องสาวบอกว่า "รอให้ลูกแข็งแรงก่อน" เราโมโหมาก จึงได้พูดไป "อยู่กันแบบนี้แล้วจะเอาอะไรกิน ภาระทุกอย่างตกที่เรา"
และอีกอย่างเวลาเราว่าแฟนน้อง น้องสาวเราชอบปกป้อง ชอบให้ท้ายตลอดๆ
เรื่องนี้เราเคยปรึกษากับแม่ แม่บอกเอ็นดูน้อง(หมายถึงน้องสาวเรา) อย่าไปกดดัน แต่เราอดไม่ไหวจิงๆ เราเคยคุยกับน้องสาวแล้ว มีลูก คือ มีครอบครัวแล้วนะ ต้องใช้ชีวิตอีกแบบนึง ต้องใช้ชีวิตด้วยตัวเองแบบสามีภรรยา เหมือนน้องจะเข้าใจเรา แต่ก๊ไม่ และเราบอกแม่ไปว่า อยู่กันแบบนี้เราไม่โอเค เราไม่เอา สักวันนึงน้องต้องใช้ชีวิตด้วยกันเอง (หมายถึงแยกไปอยู่อีกครอบครัวนึง)
เราผิดมากมั้ย ?? ที่เคยถามทำไมถึงไม่แยกครอบครัว ทำไมไม่ไปอยู่บ้านฝั่งผช. เพราะเดี๋ยวอีกหน่อย ลูกเราก็จะคลอด ค่าใช้จ่ายเราก๊เพิ่มขึ้น ไม่ใช่เราไม่เอ็นดูนะ แต่ควรแยกแยะใช่รึเปล่า อะไรที่ควรคิดได้ กับสิ่งที่เป็นอยู่
เราดูเหมือนพี่ไม่รักน้องรึป่าว?? เราท้อ เราเหนื่อยมาก ที่ต้องมาตามเก็บในบ้าน บางทีก็ทนไม่ไหว
เราควรจะทำยังไงดีกับเรื่องนี้ ขนาดแม่และน้าๆ พูดกับแฟนน้องเสมอๆ หางานทำได้ละนะ ค่าใช้จ่ายลูกกับเมียอีก และช่วยๆกันกับค่าใช้จ่ายภายในบ้าน แต่พูดไปก็เหมือนเดิม ฟังก็เหมือนไม่ได้ฟัง คับๆ ตลอด
หรือเราใจดีเกินไป ?? 😣😣