ผมตกงานอยู่บ้านเพราะเคอร์ฟิว เสียเวลานั่งนอนแบบเปล่าๆปลี้ๆร่วมสองเดือน ทันทีที่สถานการณ์ตึงเกลียวผ่อนคลายลง ผมเร่งรีบหางานทำอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง เพราะเงินเก็บนั้นร่อยลงไปไม่ใช่น้อย ทั้งๆที่อยู่อย่างประหยัดรัดตัว
หลังจากวิ่งหางานอยู่สักพัก โชคก็เข้าข้างผม เมื่อย่างเท้าเข้าไปยังสถานแรงงานแห่งนั้น ก็พอดีกับชายวัยกลางคนท่าทางภูมิฐานผู้หนึ่งได้ร้องป่าวประกาศรับสมัครงานในตำแหน่งต่างๆ ผมมาหูผึ่งเอาตรงตำแหน่งผู้จัดการก่อสร้างนี่แหละ แต่ไม่ยังไม่ทันได้เข้าไปติดต่อ ก็มีหลายคนได้ยินแลกรูตัดหน้าไปที่โต๊ะชายคนนั้นเสียก่อน
ผมยืนใจเย็นรอจนผู้สมัครบางตาลงเกือบหมด เหลืออยู่เพียงสองสามคนที่ยังง่วนกับการ
กรอกเอกสารอะไรยิกๆอยู่ คงเป็นใบสมัครนั่นเอง
ชายคนนั้นตรวจทานอะไรจิปาถะในแฟ้มขณะที่ผมขยับไปใกล้ เหมือนเขารู้ตัวโดยสัญชาตญาณ เงยหน้ามองดูผมแทบจะทันที เพียงสายตาที่มองปราดเดียวเท่านั้น แต่ผมรู้สึกว่าเขาเก็บรายละเอียดเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาผมอย่างถี่ถ้วน
แกถามผมว่ามาสมัครในตำแหน่งอะไร ผมตอบไปว่าผู้จัดการก่อสร้าง พลางยื่นหลักฐานวุฒิการศึกษาและใบผ่านงานให้ ชายผู้นั้นรับไปดูแบบผ่านๆแล้วมาสะดุดตาตรงสาขาที่ผมเรียนจบมา
เรียนจบวิศกรรมก่อสร้างมาหรือ แกอุทาน และหลังจากนั้นดูเหมือนแกจะพลิกดูข้อมูลที่เหลือไปส่งๆอย่างนั้นเอง คำถามสองสามข้อที่ถามมาก็เป็นเรื่องดาษๆทั่วไปมากกว่าจะให้เป็นพิธีจริงจัง
เมื่อผู้สมัครสองสามคนที่เหลือยื่นใบสมัครให้กับชายคนนั้นเรียบร้อย จึงเหลือแค่ผมกับแกอยู่กันเพียงลำพัง ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือเปล่าแต่รู้สึกว่าท่าทีแกดูเป็นกันเองขึ้น
ผมเตรียมพร้อมถ้าจะมีการซักถามอะไรต่อ ปรากฎว่าชายผู้รับสมัครพินิจพิเคราะห์ตัวผมอยู่ฝ่ายเดียวโดยไม่พูดไม่จา หากแต่ส่ายตานั้นจะมีแรงกดดันใดๆก็หาไม่ ปากกาในมือแกกระดิกไปมาอย่างผ่อนคลายอิริยาบถและตรึกตรองอะไรในใจ อยู่ๆแกก็รวบสำเนาเอกสารที่ผมส่งให้ยัดใส่แฟ้มอย่างไม่อินังขังขอบนัก พลางลุกขึ้นยืน เป็นสัญญาณบ่งบอกให้รู้ว่าแกได้ตกลงปลงใจแล้ว
“ผมตกลงจ้างคุณ” ชายคนนั้นพูดสั้นๆ เมื่อเห็นท่าทางมะทื่อลื่อของผม ตรงมุมปากก็อดรั้งขึ้นเป็นรอยยิ้มไม่ได้ แกแจ้งหน้าที่การงานหลักๆที่ผมจะต้องทำให้ฟังเบื้องต้นไว้ก่อน ซึ่งผมฟังดูแล้วไม่ได้รู้สึกว่าเกินความสามารถแต่อย่างใด ทว่าอัตราเงินเดือนที่บอกตามมานี่สิ
เลยเอาผมอึ้งไปอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง แค่เริ่มก็มากกว่าที่ทำงานเก่าเลื่อนขึ้นให้ครั้งสุดท้าย แถมกว่าจะได้รับพิจารณาผมต้องพิสูจน์ศักยภาพจนหืดขึ้นคอให้เห็นนานเกือบสามปี
ครั้งนี้เป็นเพราะดวงส่งหรือชายคนนี้มองเห็นอะไรในตัวผมกันแน่ มีทางเดียวเท่านั้นที่จะพาผมไปพบกับคำตอบได้
ด้วยความเย้ายวนของค่าจ้าง หลังจากนั้นไม่กี่วันผมก็พาตัวเองมาอยู่ที่ต่างจังหวัด เริ่มต้นทำหน้าที่คุมงานช่างบูรณะและแต่งเติมรีสอร์ตแห่งหนึ่งอย่างแข็งขัน ด้วยเจ้าของมีความมั่นใจว่าจะกลับมาเปิดกิจการได้ตามปกติ จึงถือเอาสถานการณ์นี้เป็นโอกาสปรับปรุงเพิ่มเติมเพื่อขยายผลทางธุรกิจ
ความที่ต้องการดูแลงานอย่างใกล้ชิด ผมจึงมีความจำเป็นต้องนอนที่ไซด์งานเพื่อความสะดวก รวมถึงช่างและคนงานก่อสร้างส่วนใหญ่ก็นอนที่ไซด์งานเช่นกัน ยกเว้นผู้ถูกว่าจ้างซึ่งมีที่พำนักอาศัยอยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ตนัก
ที่อยู่ชั่วคราวของคนงานก่อสร้างคือเต็นท์สนามขนาดใหญ่ ตั้งกันเรียงรายกันบนสนามหญ้า ล้อมรอบด้วยสวนหย่อม สวนพฤกษชาติที่อุดมไปด้วยไม้ดอกสีหลากพันธุ์
ส่วนผมกับโฟร์แมนมีเต็นท์ส่วนตัวแยกออกมาต่างหาก ตรงลานดินโล่งๆใต้ร่มไม้ใบเงา กึ่งๆจะเป็นป่าปลูกหลอมรวมกับต้นไม้ที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ อันที่จริงผมขอสิทธิ์นอนในห้องพักที่รีสอร์ตได้ไม่ยาก ทว่าผมไม่อยากใช้อภิสิทธิ์ให้ดูเหลื่อมล้ำกับเพื่อนร่วมงาน อีกอย่างออกมานอนเต็นท์ได้บรรยากาศของธรรมชาติทีรื่นรมย์กว่าเป็นไหนๆ
ชายคนที่ว่าจ้างผม ซึ่งภายหลังทราบว่าชื่อคุณสมยศ เป็นผู้จัดการดูแลผลประโยชน์ให้กับเจ้าของคือคุณนายต้องตาเศรษฐีนีใหญ่ ต้องเข้ามาตรวจความคืบหน้าของงานวันเว้นวัน
วันนี้เช่นกัน แกเข้ามาดูงานแต่เช้าตามกำหนด ตอนนั้นบ้านพักในรีสอร์ตซึ่งแยกเป็นหลังๆ ส่วนไหนเก่าได้ถูกรื้อออกมาและซ่อมแซมต่อเติมใหม่ บางส่วนก็แค่ทาสี เบ็ดเสร็จลุล่วงไปแล้วเกือบหกสิบเปอร์เซ็นต์ สร้างความพึงพอใจให้กับคุณสมยศเป็นอย่างมาก
หลังจากเดินตรวจตรารอบๆอย่างถี่ถ้วนอยู่พักใหญ่ เหล่าช่างและคนงานต่างทำงานกันอย่างขะมักเขม้น คุณสมยศได้หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปตามจุดต่างๆเพื่อประกอบการรายงานเจ้านาย ก่อนจะคุยกับผู้รับเหมาสองสามคำแล้วเดินตรงมาทางผม
ผมนึกว่าตรวจงานเสร็จแล้วแกจะกลับเลย กำลังจะไหว้ลา แปลกใจเล็กน้อยที่แกกวักมือผมให้เดินไปด้วยกัน ลักษณะบอกให้รู้ว่ามีอะไรจะพูดด้วย
บอกตรงๆว่าแอบรู้สึกใจไม่ดี เพราะพะวงว่ามีจุดผิดพลาดอะไรเกิดขึ้น และการที่คุณสมยศเรียกผมออกมาคุยห่างจากคนอื่น อาจเป็นเพราะกำลังจะติเตียนในสิ่งที่ไม่ต้องการให้ใครได้ยินนั่นเอง
ความคาดคะเนของผมผิดถนัด นั่นเป็นสิ่งที่ดี เจตนาที่คุณสมยศต้องการคุยกับผมเป็นส่วนตัวคือ อยากขอให้ผมช่วยปรับปรุงเรือนไทยหลังหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ภายในอาณาบริเวณของรีสอร์ต
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ น้ำเสียงแกลดความเป็นงานเป็นการลง ปล่อยตัวอย่างสบายๆเหมือนกำลังพูดกับคนรู้จักมากกว่าลูกจ้าง ทั้งที่งานควบคุมการปลูกสร้างและซ่อมแซมทุกอย่างภายในรีสอร์ตได้ถูกระบุรวมอยู่ในสัญญาว่าจ้างอยู่แล้ว แต่น้ำเสียงแกค่อนไปทางขอความช่วยเหลือมากกว่า แล้วแกก็เล่าความเป็นมาให้ผมฟัง
เรือนไทยหลังนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยต้นตระกูลเจ้าของรีสอร์ตมาก่อนหลายรุ่น กระทั่งตกทอดมาถึงคุณนายต้องตา ทายาทรุ่นปัจจุบันของตระกูล แต่คุณนายไม่เคยพำนักอยู่ที่เรือนม่อนเลย แกอยู่ที่นิวาสสถานในเมืองมาแต่อ้อนแต่ออก จนแต่งงานออกไปนับตั้งแต่ยังสาวก็ไม่เคยย่างกรายเข้ามาพักอาศัย ทำให้เรือนนั้นทรุดโทรมลงตามลำดับ พอไม่มีผู้อยู่อาศัย คนดูแลก็ละเลยไปบ้างไม่ได้ดูแลเอาใจใส่เท่าที่ควร
จวบเมื่อโรคมะเร็งร้ายได้คร่าชีวิตสามีของเธอไปก่อนวัยอันควร คุณนายไม่สามารถทนความโศกเศร้าและว้าเหว่ได้เพียงลำพัง บ้านหลังใหญ่ที่ปราศจากสามีเธออยู่ต่อไปก็นำมาซึ่งความทรงจำที่ทำให้ตัดความอาวรณ์ไม่ขาด
คุณนายต้องตาสรรหาวิธีทุกอย่างเพื่อมาเยียวยา หนึ่งในขั้นตอนทำใจนั้นคือย้ายออกจากบ้านที่เคยอยู่ร่วมกับสามี มิเช่นนั้นเหลียวไปทางไหนก็ ทำให้หวนประหวัดถึงสิ่งที่ผ่านมาทั้งสิ้น
คุณสมยศจบเรื่องคุณนายเจ้าของรีสอร์ตไว้แค่นั้น อาจเป็นเพราะเราเดินมาถึงที่หมายพอดี หรือส่วนที่ผมจำเป็นต้องรู้มีอยู่แค่นี้
ยังไงความสนใจของผมก็พุ่งตรงไปยังเรือนไทยที่อยู่เบื้องหน้าอยู่ดี
เป็นเรือนไทยคู่แฝดหรือเรือนสองหลังที่มีนอกชานเชื่อมต่อถึงกัน เวลามีสมาชิกใหม่และต้องต่อเติมขยายตัวเรือนออกไป
ลักษณะการปลูกสร้างอยู่ในประเภทเรือนไม้สับที่ใช้วิธีเข้าเดื่อยไม้ หรือพูดง่ายๆคือไม่มีการตอกตะปู สามารถรื้อถอนไปปลูกสร้างในที่ใหม่ได้ ถ้าได้ช่างที่มีความรู้ความสามารถในเรื่องเรือนไทย
ตัวเรือนจะยกสูง ก่อนคุณสมยศพาขึ้นเรือนผมพยายามใช้สายตาตรวจดูสภาพของเสาโคนโตที่รองรับน้ำหนักและคานอย่างคร่าวๆ ก็แลดูเป็นปกติไม่มีอาการทรุดลงไปในดิน แต่อย่างไรเสียผมก็ต้องตรวจซ้ำอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อความมั่นใจ
คุณสมยศพาผมเดินสำรวจห้องหับต่างๆ เท่าที่มองก็ยังไม่เห็นส่วนผุพังที่ต้องรื้อมากนัก ด้วยความที่ไม้เนื้อดีจึงคงสภาพทนอยู่ได้นาน แต่ส่วนที่จะต้องบูรณะจริงๆถ้าต้องการคงไว้ตามสถาปัตยกรรมดั้งเดิม ก็สามารถติดต่อขอซื้อไม้จากผู้ทำธุรกิจรับซื้อไม้เรือนไทยที่ถูกรื้อถอนนำมาขายต่อได้ไม่ยาก
ผมบอกคุณสมยศไปตามนั้น เข้าใจว่าที่แกเงียบเพราะรอฟังความคิดเห็นจากผมอยู่ เมื่อพูดจบก็ไม่เห็นแกจะแสดงอาการอะไร มีเพียงแต่ประโยคตอบรับว่า ดี ผมจะคุยกับคุณต้องตา แต่ก็คงทำตามที่คุณว่านั่นแหละ ไม่เกินพรุ่งนี้มะรืนก็เริ่มได้เลย
ดูๆไปแล้ว ท่าทางแกไม่ได้กระตือรือร้นอะไรมากนักกับเรือนหลังนี้ เหมือนกับได้มอบหมายหน้าที่ให้กับใครไปทำแล้ว ในส่วนของแกก็จบลงแค่นั้น ที่เหลือก็รับผิดชอบต่อไป ผิดแผกไปจากงานดูแลรีสอร์ตที่ปฎิบัติจริงจังไม่ปล่อยวางอย่างสิ้นเชิง ราวกับเป็นคนละคน
เห็นแกมองผ่านไปรอบๆอย่างเฉยชา ไม่แสดงออกว่าสนใจอะไรเป็นพิเศษ ทำท่าเบื่อๆกำลังจะออกปากชวนผมกลับเสียด้วยซ้ำ ถ้าเผอิญผมไม่เห็นห้องนั้นที่มีสายยูคล้องด้วยกุญแจ
หลังจากผมถามไป แกเดินมาที่หน้าประตูห้องขยับแม่กุญแจที่ล๊อคห้องๆไว้พลางพึมพำอย่าง
งงๆกึ่งหงุดหงิดว่า “ใครมาปิดไว้ทำไมกัน ก็บอกให้เปิดห้องไว้ทุกห้อง หมั่นมาช่วยกันทำความสะอาด”
ผมบอกไปจากประสบการณ์ว่า นี่อาจเป็นห้องพระ คงมีพระพุทธรูปหายากหลายองค์ คนดูแลเลยต้องปิดไว้เพื่อความปลอดภัย
คุณสมยศยิ่งดูหัวเสียหนักขึ้นไปอีก บอกกับผมว่า ยิ่งเป็นห้องพระยิ่งแล้วใหญ่ ไม่รู้มีใครมาเอาพระท่านไปสรงน้ำบ้างหรือเปล่า ผมก็ไม่ค่อยได้เข้ามาดูเสียด้วย
ท้ายประโยคแกยอมรับตรงๆว่าไม่ได้เข้ามาตรวจดูนานแล้ว อาจจะเป็นด้วยอารมณ์ไม่พอใจที่ต่อเนื่อง ทำให้แกพลั้งเผลอพูดอะไรต่อ
“ขโมยไม่มีใครกลัวหรอก ของบนเรือนหลังนี้ก็มูลค่าสูงแทบทั้งนั้น บางชิ้นประเมินค่าไม่ได้ด้วย อย่างเช่นชามเบญจรงค์ลายเฉลาเคลือบทองในตู้ประดับ ก่อนนี้ก็เปิดบ้านไว้ ไม่เห็นมีใครเอาอะไรไปได้...เอ่อ...สำเร็จ”
คุณสมยศหยุดประโยคเอาไว้ดื้อๆ อะไรบางอย่างทำให้แกไม่ต้องการพูดต่อทั้งที่เห็นใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความสงสัยของผม พลางตัดบทด้วยการชวนผมลงเรือนพกความงุนงงไปด้วยกับคำถามที่ว่า สมบัติเก่าเต็มบ้านไปหมดแต่ทำไมห้องหับประตูอะไรไม่ปิด แถมไม่เห็นเงาของยามรักษาความปลอดภัยสักนาย
วันต่อมาคุณสมยศโทรมาบอกว่าได้ไปเอากุญแจมาเปิดห้องที่ปิดไว้บนเรือนแล้วปรากฎว่าเป็นห้องพระจริงๆ อีกอย่างหนึ่งคือคุณนายต้องตามีความประสงค์เป็นพิเศษ และได้ฝากคำขอผ่านมาทางคุณสมยศ ให้ผมแบ่งเวลามาบูรณะเรือนมรดกตกทอดของเธอได้เลย
ผมไม่ได้มีปัญหาอะไร งานทางด้านบ้านพักเข้ารูปเข้ารอย แค่ปลีกเวลาครึ่งวันมาคุมงานที่เรือนไทยต่อไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงผมเลย
ส่วนประโยคปริศนาที่คุณสมยศหลุดปากออกมา ที่จริงการทุ่มเทพลังแรงกายและแรงใจให้กับงาน คงจะทำให้ผมลืมเลือนได้สนิทในไม่ช้า
ไม่ได้คาดคิดว่าจะมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งมาไขข้อข้องใจให้ผมในราตรีที่กำลังจะมาถึง แต่ก่อนจะถึงตอนนั้น ได้มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นก่อน
เวลาพักกินข้าวเที่ยงของวันนั้น ผมเดินไปเบิกข้าวกล่องและน้ำสำหรับคนงานมากินตามปกติ มิวายที่คุณสมยศจะย้ำนักย้ำหนาอย่างไรก็ตามว่า ให้สิทธิ์ผมเข้าไปกินในห้องอาหารของรีสอร์ตได้ แต่ผมปฏิเสธในน้ำใจอันดีของแก และบอกกับแกอย่างตรงไปตรงมาว่าไม่อยากให้เพื่อนร่วมงานเขม่นเอา
พี่กิจทำหน้าที่โฟร์แมนบุ้ยบ้ายให้ผมเดินไปทางน้ำตกเล็ก ประเดี๋ยวสักครู่แกจะตามไปกินข้าวเป็นเพื่อน
โฟร์แมนผู้ต้องอัธยาศัยกับผมได้บอกหลายครั้งแล้ว ว่าจุดนี้ต้นไม้เขียวขจี เป็นร่มกันแดดได้ดีแถมติดลำธารที่ต้นน้ำไหลผ่านน้ำตกลงมา บรรยากาศสวยเย็นสบาย
ผมเคยมองดูมาจากไกลๆ หรือไม่ก็เดินผ่านๆ แต่ไม่เคยเข้ามเยี่ยมนั่งพักเป็นกิจจะลักษณะอย่างเช่นวันนี้
ที่นั่งของผมคือขอนไม้ที่วางพาดริมลำธาร ระดับน้ำน่าจะไม่ลึกมากนัก ผิวน้ำไหลรี่สะท้อนเปลวแดดเป็นประกายเงินระยิบระยับ
พอเพลินตาได้สักครู่กำลังจะเอื้อมหยิบข้าวกล่องมาเปิด สายตาเกิดหันไปสะดุดเข้ากับสิ่งผิดธรรรมชาติอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นกลางลำธาร
นารีอุปถัมภ์(Furryjit)
หลังจากวิ่งหางานอยู่สักพัก โชคก็เข้าข้างผม เมื่อย่างเท้าเข้าไปยังสถานแรงงานแห่งนั้น ก็พอดีกับชายวัยกลางคนท่าทางภูมิฐานผู้หนึ่งได้ร้องป่าวประกาศรับสมัครงานในตำแหน่งต่างๆ ผมมาหูผึ่งเอาตรงตำแหน่งผู้จัดการก่อสร้างนี่แหละ แต่ไม่ยังไม่ทันได้เข้าไปติดต่อ ก็มีหลายคนได้ยินแลกรูตัดหน้าไปที่โต๊ะชายคนนั้นเสียก่อน
ผมยืนใจเย็นรอจนผู้สมัครบางตาลงเกือบหมด เหลืออยู่เพียงสองสามคนที่ยังง่วนกับการ
กรอกเอกสารอะไรยิกๆอยู่ คงเป็นใบสมัครนั่นเอง
ชายคนนั้นตรวจทานอะไรจิปาถะในแฟ้มขณะที่ผมขยับไปใกล้ เหมือนเขารู้ตัวโดยสัญชาตญาณ เงยหน้ามองดูผมแทบจะทันที เพียงสายตาที่มองปราดเดียวเท่านั้น แต่ผมรู้สึกว่าเขาเก็บรายละเอียดเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาผมอย่างถี่ถ้วน
แกถามผมว่ามาสมัครในตำแหน่งอะไร ผมตอบไปว่าผู้จัดการก่อสร้าง พลางยื่นหลักฐานวุฒิการศึกษาและใบผ่านงานให้ ชายผู้นั้นรับไปดูแบบผ่านๆแล้วมาสะดุดตาตรงสาขาที่ผมเรียนจบมา
เรียนจบวิศกรรมก่อสร้างมาหรือ แกอุทาน และหลังจากนั้นดูเหมือนแกจะพลิกดูข้อมูลที่เหลือไปส่งๆอย่างนั้นเอง คำถามสองสามข้อที่ถามมาก็เป็นเรื่องดาษๆทั่วไปมากกว่าจะให้เป็นพิธีจริงจัง
เมื่อผู้สมัครสองสามคนที่เหลือยื่นใบสมัครให้กับชายคนนั้นเรียบร้อย จึงเหลือแค่ผมกับแกอยู่กันเพียงลำพัง ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือเปล่าแต่รู้สึกว่าท่าทีแกดูเป็นกันเองขึ้น
ผมเตรียมพร้อมถ้าจะมีการซักถามอะไรต่อ ปรากฎว่าชายผู้รับสมัครพินิจพิเคราะห์ตัวผมอยู่ฝ่ายเดียวโดยไม่พูดไม่จา หากแต่ส่ายตานั้นจะมีแรงกดดันใดๆก็หาไม่ ปากกาในมือแกกระดิกไปมาอย่างผ่อนคลายอิริยาบถและตรึกตรองอะไรในใจ อยู่ๆแกก็รวบสำเนาเอกสารที่ผมส่งให้ยัดใส่แฟ้มอย่างไม่อินังขังขอบนัก พลางลุกขึ้นยืน เป็นสัญญาณบ่งบอกให้รู้ว่าแกได้ตกลงปลงใจแล้ว
“ผมตกลงจ้างคุณ” ชายคนนั้นพูดสั้นๆ เมื่อเห็นท่าทางมะทื่อลื่อของผม ตรงมุมปากก็อดรั้งขึ้นเป็นรอยยิ้มไม่ได้ แกแจ้งหน้าที่การงานหลักๆที่ผมจะต้องทำให้ฟังเบื้องต้นไว้ก่อน ซึ่งผมฟังดูแล้วไม่ได้รู้สึกว่าเกินความสามารถแต่อย่างใด ทว่าอัตราเงินเดือนที่บอกตามมานี่สิ
เลยเอาผมอึ้งไปอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง แค่เริ่มก็มากกว่าที่ทำงานเก่าเลื่อนขึ้นให้ครั้งสุดท้าย แถมกว่าจะได้รับพิจารณาผมต้องพิสูจน์ศักยภาพจนหืดขึ้นคอให้เห็นนานเกือบสามปี
ครั้งนี้เป็นเพราะดวงส่งหรือชายคนนี้มองเห็นอะไรในตัวผมกันแน่ มีทางเดียวเท่านั้นที่จะพาผมไปพบกับคำตอบได้
ด้วยความเย้ายวนของค่าจ้าง หลังจากนั้นไม่กี่วันผมก็พาตัวเองมาอยู่ที่ต่างจังหวัด เริ่มต้นทำหน้าที่คุมงานช่างบูรณะและแต่งเติมรีสอร์ตแห่งหนึ่งอย่างแข็งขัน ด้วยเจ้าของมีความมั่นใจว่าจะกลับมาเปิดกิจการได้ตามปกติ จึงถือเอาสถานการณ์นี้เป็นโอกาสปรับปรุงเพิ่มเติมเพื่อขยายผลทางธุรกิจ
ความที่ต้องการดูแลงานอย่างใกล้ชิด ผมจึงมีความจำเป็นต้องนอนที่ไซด์งานเพื่อความสะดวก รวมถึงช่างและคนงานก่อสร้างส่วนใหญ่ก็นอนที่ไซด์งานเช่นกัน ยกเว้นผู้ถูกว่าจ้างซึ่งมีที่พำนักอาศัยอยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ตนัก
ที่อยู่ชั่วคราวของคนงานก่อสร้างคือเต็นท์สนามขนาดใหญ่ ตั้งกันเรียงรายกันบนสนามหญ้า ล้อมรอบด้วยสวนหย่อม สวนพฤกษชาติที่อุดมไปด้วยไม้ดอกสีหลากพันธุ์
ส่วนผมกับโฟร์แมนมีเต็นท์ส่วนตัวแยกออกมาต่างหาก ตรงลานดินโล่งๆใต้ร่มไม้ใบเงา กึ่งๆจะเป็นป่าปลูกหลอมรวมกับต้นไม้ที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ อันที่จริงผมขอสิทธิ์นอนในห้องพักที่รีสอร์ตได้ไม่ยาก ทว่าผมไม่อยากใช้อภิสิทธิ์ให้ดูเหลื่อมล้ำกับเพื่อนร่วมงาน อีกอย่างออกมานอนเต็นท์ได้บรรยากาศของธรรมชาติทีรื่นรมย์กว่าเป็นไหนๆ
ชายคนที่ว่าจ้างผม ซึ่งภายหลังทราบว่าชื่อคุณสมยศ เป็นผู้จัดการดูแลผลประโยชน์ให้กับเจ้าของคือคุณนายต้องตาเศรษฐีนีใหญ่ ต้องเข้ามาตรวจความคืบหน้าของงานวันเว้นวัน
วันนี้เช่นกัน แกเข้ามาดูงานแต่เช้าตามกำหนด ตอนนั้นบ้านพักในรีสอร์ตซึ่งแยกเป็นหลังๆ ส่วนไหนเก่าได้ถูกรื้อออกมาและซ่อมแซมต่อเติมใหม่ บางส่วนก็แค่ทาสี เบ็ดเสร็จลุล่วงไปแล้วเกือบหกสิบเปอร์เซ็นต์ สร้างความพึงพอใจให้กับคุณสมยศเป็นอย่างมาก
หลังจากเดินตรวจตรารอบๆอย่างถี่ถ้วนอยู่พักใหญ่ เหล่าช่างและคนงานต่างทำงานกันอย่างขะมักเขม้น คุณสมยศได้หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปตามจุดต่างๆเพื่อประกอบการรายงานเจ้านาย ก่อนจะคุยกับผู้รับเหมาสองสามคำแล้วเดินตรงมาทางผม
ผมนึกว่าตรวจงานเสร็จแล้วแกจะกลับเลย กำลังจะไหว้ลา แปลกใจเล็กน้อยที่แกกวักมือผมให้เดินไปด้วยกัน ลักษณะบอกให้รู้ว่ามีอะไรจะพูดด้วย
บอกตรงๆว่าแอบรู้สึกใจไม่ดี เพราะพะวงว่ามีจุดผิดพลาดอะไรเกิดขึ้น และการที่คุณสมยศเรียกผมออกมาคุยห่างจากคนอื่น อาจเป็นเพราะกำลังจะติเตียนในสิ่งที่ไม่ต้องการให้ใครได้ยินนั่นเอง
ความคาดคะเนของผมผิดถนัด นั่นเป็นสิ่งที่ดี เจตนาที่คุณสมยศต้องการคุยกับผมเป็นส่วนตัวคือ อยากขอให้ผมช่วยปรับปรุงเรือนไทยหลังหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ภายในอาณาบริเวณของรีสอร์ต
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ น้ำเสียงแกลดความเป็นงานเป็นการลง ปล่อยตัวอย่างสบายๆเหมือนกำลังพูดกับคนรู้จักมากกว่าลูกจ้าง ทั้งที่งานควบคุมการปลูกสร้างและซ่อมแซมทุกอย่างภายในรีสอร์ตได้ถูกระบุรวมอยู่ในสัญญาว่าจ้างอยู่แล้ว แต่น้ำเสียงแกค่อนไปทางขอความช่วยเหลือมากกว่า แล้วแกก็เล่าความเป็นมาให้ผมฟัง
เรือนไทยหลังนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยต้นตระกูลเจ้าของรีสอร์ตมาก่อนหลายรุ่น กระทั่งตกทอดมาถึงคุณนายต้องตา ทายาทรุ่นปัจจุบันของตระกูล แต่คุณนายไม่เคยพำนักอยู่ที่เรือนม่อนเลย แกอยู่ที่นิวาสสถานในเมืองมาแต่อ้อนแต่ออก จนแต่งงานออกไปนับตั้งแต่ยังสาวก็ไม่เคยย่างกรายเข้ามาพักอาศัย ทำให้เรือนนั้นทรุดโทรมลงตามลำดับ พอไม่มีผู้อยู่อาศัย คนดูแลก็ละเลยไปบ้างไม่ได้ดูแลเอาใจใส่เท่าที่ควร
จวบเมื่อโรคมะเร็งร้ายได้คร่าชีวิตสามีของเธอไปก่อนวัยอันควร คุณนายไม่สามารถทนความโศกเศร้าและว้าเหว่ได้เพียงลำพัง บ้านหลังใหญ่ที่ปราศจากสามีเธออยู่ต่อไปก็นำมาซึ่งความทรงจำที่ทำให้ตัดความอาวรณ์ไม่ขาด
คุณนายต้องตาสรรหาวิธีทุกอย่างเพื่อมาเยียวยา หนึ่งในขั้นตอนทำใจนั้นคือย้ายออกจากบ้านที่เคยอยู่ร่วมกับสามี มิเช่นนั้นเหลียวไปทางไหนก็ ทำให้หวนประหวัดถึงสิ่งที่ผ่านมาทั้งสิ้น
คุณสมยศจบเรื่องคุณนายเจ้าของรีสอร์ตไว้แค่นั้น อาจเป็นเพราะเราเดินมาถึงที่หมายพอดี หรือส่วนที่ผมจำเป็นต้องรู้มีอยู่แค่นี้
ยังไงความสนใจของผมก็พุ่งตรงไปยังเรือนไทยที่อยู่เบื้องหน้าอยู่ดี
เป็นเรือนไทยคู่แฝดหรือเรือนสองหลังที่มีนอกชานเชื่อมต่อถึงกัน เวลามีสมาชิกใหม่และต้องต่อเติมขยายตัวเรือนออกไป
ลักษณะการปลูกสร้างอยู่ในประเภทเรือนไม้สับที่ใช้วิธีเข้าเดื่อยไม้ หรือพูดง่ายๆคือไม่มีการตอกตะปู สามารถรื้อถอนไปปลูกสร้างในที่ใหม่ได้ ถ้าได้ช่างที่มีความรู้ความสามารถในเรื่องเรือนไทย
ตัวเรือนจะยกสูง ก่อนคุณสมยศพาขึ้นเรือนผมพยายามใช้สายตาตรวจดูสภาพของเสาโคนโตที่รองรับน้ำหนักและคานอย่างคร่าวๆ ก็แลดูเป็นปกติไม่มีอาการทรุดลงไปในดิน แต่อย่างไรเสียผมก็ต้องตรวจซ้ำอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อความมั่นใจ
คุณสมยศพาผมเดินสำรวจห้องหับต่างๆ เท่าที่มองก็ยังไม่เห็นส่วนผุพังที่ต้องรื้อมากนัก ด้วยความที่ไม้เนื้อดีจึงคงสภาพทนอยู่ได้นาน แต่ส่วนที่จะต้องบูรณะจริงๆถ้าต้องการคงไว้ตามสถาปัตยกรรมดั้งเดิม ก็สามารถติดต่อขอซื้อไม้จากผู้ทำธุรกิจรับซื้อไม้เรือนไทยที่ถูกรื้อถอนนำมาขายต่อได้ไม่ยาก
ผมบอกคุณสมยศไปตามนั้น เข้าใจว่าที่แกเงียบเพราะรอฟังความคิดเห็นจากผมอยู่ เมื่อพูดจบก็ไม่เห็นแกจะแสดงอาการอะไร มีเพียงแต่ประโยคตอบรับว่า ดี ผมจะคุยกับคุณต้องตา แต่ก็คงทำตามที่คุณว่านั่นแหละ ไม่เกินพรุ่งนี้มะรืนก็เริ่มได้เลย
ดูๆไปแล้ว ท่าทางแกไม่ได้กระตือรือร้นอะไรมากนักกับเรือนหลังนี้ เหมือนกับได้มอบหมายหน้าที่ให้กับใครไปทำแล้ว ในส่วนของแกก็จบลงแค่นั้น ที่เหลือก็รับผิดชอบต่อไป ผิดแผกไปจากงานดูแลรีสอร์ตที่ปฎิบัติจริงจังไม่ปล่อยวางอย่างสิ้นเชิง ราวกับเป็นคนละคน
เห็นแกมองผ่านไปรอบๆอย่างเฉยชา ไม่แสดงออกว่าสนใจอะไรเป็นพิเศษ ทำท่าเบื่อๆกำลังจะออกปากชวนผมกลับเสียด้วยซ้ำ ถ้าเผอิญผมไม่เห็นห้องนั้นที่มีสายยูคล้องด้วยกุญแจ
หลังจากผมถามไป แกเดินมาที่หน้าประตูห้องขยับแม่กุญแจที่ล๊อคห้องๆไว้พลางพึมพำอย่าง
งงๆกึ่งหงุดหงิดว่า “ใครมาปิดไว้ทำไมกัน ก็บอกให้เปิดห้องไว้ทุกห้อง หมั่นมาช่วยกันทำความสะอาด”
ผมบอกไปจากประสบการณ์ว่า นี่อาจเป็นห้องพระ คงมีพระพุทธรูปหายากหลายองค์ คนดูแลเลยต้องปิดไว้เพื่อความปลอดภัย
คุณสมยศยิ่งดูหัวเสียหนักขึ้นไปอีก บอกกับผมว่า ยิ่งเป็นห้องพระยิ่งแล้วใหญ่ ไม่รู้มีใครมาเอาพระท่านไปสรงน้ำบ้างหรือเปล่า ผมก็ไม่ค่อยได้เข้ามาดูเสียด้วย
ท้ายประโยคแกยอมรับตรงๆว่าไม่ได้เข้ามาตรวจดูนานแล้ว อาจจะเป็นด้วยอารมณ์ไม่พอใจที่ต่อเนื่อง ทำให้แกพลั้งเผลอพูดอะไรต่อ
“ขโมยไม่มีใครกลัวหรอก ของบนเรือนหลังนี้ก็มูลค่าสูงแทบทั้งนั้น บางชิ้นประเมินค่าไม่ได้ด้วย อย่างเช่นชามเบญจรงค์ลายเฉลาเคลือบทองในตู้ประดับ ก่อนนี้ก็เปิดบ้านไว้ ไม่เห็นมีใครเอาอะไรไปได้...เอ่อ...สำเร็จ”
คุณสมยศหยุดประโยคเอาไว้ดื้อๆ อะไรบางอย่างทำให้แกไม่ต้องการพูดต่อทั้งที่เห็นใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความสงสัยของผม พลางตัดบทด้วยการชวนผมลงเรือนพกความงุนงงไปด้วยกับคำถามที่ว่า สมบัติเก่าเต็มบ้านไปหมดแต่ทำไมห้องหับประตูอะไรไม่ปิด แถมไม่เห็นเงาของยามรักษาความปลอดภัยสักนาย
วันต่อมาคุณสมยศโทรมาบอกว่าได้ไปเอากุญแจมาเปิดห้องที่ปิดไว้บนเรือนแล้วปรากฎว่าเป็นห้องพระจริงๆ อีกอย่างหนึ่งคือคุณนายต้องตามีความประสงค์เป็นพิเศษ และได้ฝากคำขอผ่านมาทางคุณสมยศ ให้ผมแบ่งเวลามาบูรณะเรือนมรดกตกทอดของเธอได้เลย
ผมไม่ได้มีปัญหาอะไร งานทางด้านบ้านพักเข้ารูปเข้ารอย แค่ปลีกเวลาครึ่งวันมาคุมงานที่เรือนไทยต่อไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงผมเลย
ส่วนประโยคปริศนาที่คุณสมยศหลุดปากออกมา ที่จริงการทุ่มเทพลังแรงกายและแรงใจให้กับงาน คงจะทำให้ผมลืมเลือนได้สนิทในไม่ช้า
ไม่ได้คาดคิดว่าจะมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งมาไขข้อข้องใจให้ผมในราตรีที่กำลังจะมาถึง แต่ก่อนจะถึงตอนนั้น ได้มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นก่อน
เวลาพักกินข้าวเที่ยงของวันนั้น ผมเดินไปเบิกข้าวกล่องและน้ำสำหรับคนงานมากินตามปกติ มิวายที่คุณสมยศจะย้ำนักย้ำหนาอย่างไรก็ตามว่า ให้สิทธิ์ผมเข้าไปกินในห้องอาหารของรีสอร์ตได้ แต่ผมปฏิเสธในน้ำใจอันดีของแก และบอกกับแกอย่างตรงไปตรงมาว่าไม่อยากให้เพื่อนร่วมงานเขม่นเอา
พี่กิจทำหน้าที่โฟร์แมนบุ้ยบ้ายให้ผมเดินไปทางน้ำตกเล็ก ประเดี๋ยวสักครู่แกจะตามไปกินข้าวเป็นเพื่อน
โฟร์แมนผู้ต้องอัธยาศัยกับผมได้บอกหลายครั้งแล้ว ว่าจุดนี้ต้นไม้เขียวขจี เป็นร่มกันแดดได้ดีแถมติดลำธารที่ต้นน้ำไหลผ่านน้ำตกลงมา บรรยากาศสวยเย็นสบาย
ผมเคยมองดูมาจากไกลๆ หรือไม่ก็เดินผ่านๆ แต่ไม่เคยเข้ามเยี่ยมนั่งพักเป็นกิจจะลักษณะอย่างเช่นวันนี้
ที่นั่งของผมคือขอนไม้ที่วางพาดริมลำธาร ระดับน้ำน่าจะไม่ลึกมากนัก ผิวน้ำไหลรี่สะท้อนเปลวแดดเป็นประกายเงินระยิบระยับ
พอเพลินตาได้สักครู่กำลังจะเอื้อมหยิบข้าวกล่องมาเปิด สายตาเกิดหันไปสะดุดเข้ากับสิ่งผิดธรรรมชาติอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นกลางลำธาร