โศกนาฏกรรมเมื่อ 40ปีที่แล้ว ที่เปลี่ยนมาตรฐานความปลอดภัยในการก่อสร้างของไทยไปตลอดกาล"รูเสาเข็มกว้าง 20 เซนติเมตร... มันแคบเกินกว่าใครจะเชื่อว่าชีวิตหนึ่งจะตกลงไป แต่เรื่องราวนี้เกิดขึ้นจริงในปี พ.ศ. 2528"
เช้าตรู่ของวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2528 แสงแดดยามเช้ายังสาดส่องไม่ทั่วถึงบริเวณแคมป์คนงานก่อสร้างอันแออัดของโรงพยาบาลทหารผ่านศึก นางสมพันธ์ บุญน้อย กรรมกรสาวผู้หาเลี้ยงชีพด้วยเรี่ยวแรงจากลพบุรี ตัดสินใจฝาก เด็กหญิงสร้อยเพชร บุญน้อย ลูกสาววัย 1 ปี 4 เดือน ไว้กับญาติที่พักอยู่ใกล้เคียง ก่อนจะปลีกตัวออกไปตลาดเพื่อจับจ่ายซื้ออาหาร
เมื่อนางสมพันธ์กลับมา สิ่งที่ต้อนรับเธอไม่ใช่รอยยิ้มของลูกรัก แต่เป็นความว่างเปล่า เมื่อทุกคนช่วยกันระดมตามหา เสียงร้องไห้แผ่วเบาที่ดังออกมาจากรูแคบ ๆ ทำให้หัวใจของเธอดิ่งวูบ รูนั้นคือหลุมเสาเข็มเจาะ ที่เปิดอ้าอย่างน่ากลัว มีความกว้างเพียง 20 เซนติเมตร แต่ความลึกนั้นมากถึง 24 เมตร เมื่อใช้ไฟฉายส่องลงไป ทุกสายตาเห็นเพียงร่างเลือนรางของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ อยู่เบื้องล่าง นางสมพันธ์ ทรุดตัวลงข้างปากหลุม เสียงร้องไห้ของลูกสาวที่ดังแว่วมาจากความมืดมิดเบื้องล่าง คือสิ่งเดียวที่ตอกย้ำถึงโศกนาฏกรรมที่กำลังจะเริ่มต้น
ทันทีที่ยืนยันว่า น้องสร้อยเพชร ตกลงไปในรู เจ้าหน้าที่กู้ภัยและทีมงานจากหลายหน่วยงานถูกระดมกำลังเข้าสู่พื้นที่อย่างเร่งด่วน สิ่งแรกที่ทำคือการหย่อนสายออกซิเจนลงไป เพื่อยื้อชีวิตเล็ก ๆ นั้นไว้ให้มีอากาศหายใจ จากการหย่อนเชือกและตะขอเหล็กลงไป พบว่าเสียงร้องของหนูน้อยดังมาจากความลึก 14 เมตร เป็นประกายความหวังที่จุดให้ทุกคนมีกำลังใจ แต่เด็กวัยขวบเศษนั้นไร้เดียงสาเกินกว่าจะเข้าใจ หรือแม้แต่จะจับเชือกที่หย่อนลงไปช่วยตัวเองได้
ความหวังถูกแขวนไว้กับการกู้เสาเข็มท่อนแรกที่ลึก 12 เมตร ขึ้นมาตรง ๆ ด้วยการใช้รถตักดินขุดดินรอบ ๆ โคนเสาเข็ม ในขณะที่ปฏิบัติการดำเนินไป ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์และความตื่นเต้นจากไทยมุงกว่า 500 คน นางสมพันธ์ และบิดาของเด็กหญิงสร้อยเพชร ได้แต่นั่งกราบไหว้บนบานศาลกล่าว ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เกิดปาฏิหาริย์
ในช่วงบ่ายคล้อย มีช่วงเวลาแห่งความหวังเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อเชือกที่หย่อนลงไปเริ่มมีแรงดึง แต่แล้วปาฏิหาริย์ก็ดับสลาย เมื่อถึงเวลา 13:30 น. ขณะที่การขุดใกล้ถึงรอยต่อของเสาเข็ม สิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น: เสาเข็มเกิดเอียง และต่อมาดินโคลนและน้ำไหลทะลักลงไปในรู กลบความหวังในการรอดชีวิตของเด็กหญิงตัวน้อยไปจนหมดสิ้น
พลตำรวจตรี ศักดิ์รพี ตักมะกุล ผู้ประสานงานการช่วยเหลือ ต้องแถลงต่อสื่อมวลชนด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า หลังจากที่พยายามส่งนมลงไปในหลุมอีกครั้ง ก็ไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ ครอบครัวบุญน้อยรู้ได้ทันทีว่าลูกรักของพวกเขาได้จากโลกนี้ไปแล้ว
ปฏิบัติการช่วยเหลืออันยาวนานดำเนินต่อไปด้วยจุดประสงค์เดียวคือการนำร่างของหนูน้อยกลับคืนสู่ครอบครัว ในวันที่ 5 ของการกู้ร่าง หรือวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2528 เวลา 04:25 น. เสียงตะโกนแห่งความโล่งใจก็ดังขึ้นจากคนงานกู้ภัย "เจอแล้ว!"
ดาบตำรวจ ยศ เกตุมาลา คือผู้ที่ใช้ตะขอเกี่ยวร่างไร้วิญญาณของ เด็กหญิงสร้อยเพชร บุญน้อย วัย 1 ปี 4 เดือน ขึ้นมาจากความลึกได้สำเร็จ ร่างของเด็กมีความสูงไม่เกิน 85 เซนติเมตร และไหล่กว้างเพียง 18 เซนติเมตร รวมเวลาการปฏิบัติการกู้ภัยทั้งหมด 116 ชั่วโมง
ครอบครัวบุญน้อยตัดสินใจนำศพลูกสาวไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดตะพาน ย่านดินแดง โดยหน้าโลงศพมีเพียงรูปวาดเหมือนจริง เนื่องจากไม่มีภาพถ่ายของเด็กหญิงสร้อยเพชรเลย ภายหลังการสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สรุปคดีนี้ว่าเป็น อุบัติเหตุทางครอบครัว และไม่มีการฟ้องร้องผู้ใด เพราะเห็นว่าได้ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่แล้ว อย่างไรก็ตาม โศกนาฏกรรมครั้งนี้ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่นำไปสู่การออกกฎหมายควบคุม มาตรฐานความปลอดภัยในการก่อสร้าง ที่เข้มข้นยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์สูญเสียอันน่าสลดเช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต…..
ภาพและเรื่องราวจาก : Sanook, Thairath, MGR Online,Wikipedia’s
เรียบเรียง เสียงจากอดีต คดีดัง
ย้อนอดีต สร้อยเพชร