สวัสดีครัช พ่อแม่พี่น้องทุกท่าน
เห็นหัวข้อกระทู้แล้วอาจเข้าใจผิดกันได้ แต่เนื้อหาที่จะเล่าต่อไปนี้ไม่ได้อ้างอิงถึงการเมืองประเทศใดๆ ทั้งสิ้น แต่จะมาเล่าเปิดโลกให้เพื่อนๆ ได้ฟังกันเกี่ยวกับระบบภาษีในประเทศยุ่นปี่...
ญี่ปุ่นครับ
เกริ่นก่อนว่า ผมทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่นได้หลายปีละ จะมาเล่าถึงเงินที่โดนหักจากเงินเดือนเยอะแยะเต็มไปหมด (หักจนไม่มีเหลือจะกิน T^T) ว่าเค้าหักกันอย่างไร เผลอๆ เล่าละเอียดกว่าคนญี่ปุ่นบางคนเล่าเองอีก เพราะคนญี่ปุ่นเองเค้าก็ไม่ได้สนใจรายละเอียดกัน
เพราะอะไรน่ะหรอครับ เพราะประเทศแห่งความซื่อสัตย์และมีความเป๊ะ! ทุกอย่างแบบนี้ เค้าเชื่อใจกันครับว่า คนที่คิดภาษีให้เค้าน่ะจะคำนวณไม่ผิด โดนหักก็หักไป ทำอะไรไม่ได้ แต่สำหรับผมคนไทย เชื้อสาย...ไทยเนี่ยแหละ โดนหักอะไรต้องคำนวณเองครับ โดนโกงหรือเปล่าจะได้รู้ เลือดไทยข้นเลยละครับ 😂 เลยรู้มากกว่าคนญี่ปุ่นบางคนด้วยซ้ำ หึหึ
โดนหักอะไรกันบ้าง แล้วเราจะได้อะไรกลับมาบ้าง (ต่อไปนี้จะพูดถึงการหักเป็น % ของรายได้ต่อเดือนนะครับ เน้นว่า
ต่อเดือน) มาเริ่มกันเลยยย...
1. ภาษีเงินได้ – อันนี้เมืองไทยก็มีใช่ไหมครับ ไม่ต้องสาธยายมาก จัดไปก่อนเลยประมาณ 2-5% รายได้ส่วนนี้ ตรงๆ เลยครับ เป็นเงินทุนพัฒนาและสำรองในประเทศ
2. ภาษีท้องถิ่น – ส่วนนี้น่าสนใจครับ ประเทศไทยไม่มี เป็นภาษีที่เก็บโดยเขตหรืออำเภอนั้นๆ ที่เรามีชื่ออาศัยอยู่ในทะเบียนบ้าน พูดง่ายๆ คือ สมมติเขตบางนาก็จะเก็บเงินส่วนนี้เพื่อไปพัฒนาเขตตัวเองเท่านั้น ย้ำนะครับว่า เขตใครเขตมัน! ประมาณ 5-10%
เค้าเรียกว่าการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นครับ ประโยชน์ก็คือ ไม่ผ่านส่วนกลาง อนุมัติเร็ว ตรวจสอบง่าย ผมว่าเงินส่วนนี้มีประโยชน์มากเลยครับ ทำให้เราเห็นบ้างเมืองเค้ามีถนนเรียบๆ สะอาด ขยะไม่มี มีโครงการพัฒนาชุมชน มีรถเมล์สาธารณะสวยๆ (เห้ออออ ถอนหายใจแรงๆ ฟินเฟร่อออ...)
3. ภาษีเงินบำนาญ – ส่วนนี้หนักสุดครับ 10-15% และเป็นภาษีที่เจ็บใจที่สุดสำหรับคนต่างชาติ หรือแม้กระทั่งคนญี่ปุ่นเองก็ยังบ่นอุบเลยครับ
เพราะอะไรน่ะหรอครับ ชื่อก็บอกว่าเงินบำนาญ คือจะได้คืนตอนเราแก่ ประมาณว่ารัฐจะช่วยวางแผนชีวิตให้นะ จะได้มีกินตอนแก่ไง ตอนนี้กฎหมายใหม่จะได้รับก็ตอนอายุ 65 ปี จากตอนแรกอายุ 60 ปีก็ได้ละ ถ้าคุณคิดว่าก็ดีนี่ เค้าเก็บไปให้เราตอนเกษียณไง แต่คนต่างชาติน้อยคนครับจะอยู่ญี่ปุ่นยันเกษียณ ผมก็คงไม่อยู่ครับ 😂 ส่วนคนญี่ปุ่นก็คล้ายกันครับ ได้แต่เศร้า ได้ไม่ครบแน่ๆ หรือก็ไม่รู้จะได้คืนหรือเปล่า
แล้วทำไมเรียกเก็บแพงล่ะ อย่างที่ทราบกันครับว่า สังคมญี่ปุ่นเป็นสังคมผู้สูงอายุ (ขอเรียกว่า คนแก่ ละกันนะครับง่ายดี) เค้าเก็บเงินเราไปให้คนแก่ตอนนี้แหละครับ เป็นที่รู้กันดีว่าคนญี่ปุ่นอายุโค-ตะ-ระจะยืน อายุเกินร้อยหลายสิบคน (ไม่รู้จะอยู่กันไปทำม๊ายยย เดินก็ไม่ไหวอะ เป็นผมขออย่างมากก็ 80 พอละคับ 🤣) แถมได้ข่าวว่าระบบเงินบำนาญของญี่ปุ่นนี่ติดลบทุกปีครับ ภาระก็มาตกกับคนทำงานหรือวัยรุ่นนี่แหละครับ
ถ้าใครอยากอายุยืนย้ายไปอยู่ญี่ปุ่นนะครับ อากาศดี อาหารสะอาด... อุยขอโทษครับ ไปไกลละ กลับมาเรื่องภาษีก่อน 😁
4. ประกันการจ้างงาน (คล้ายๆ ประกันสังคมบ้านเราเนี่ยแหละครับ แต่เป็นประกันที่เราจะได้ตังค์เมื่อเราตกงานเท่านั้น ไม่มีค่าทำฟันนะครับ 555) – โดนนิดเดียวครับ 0.2-0.5% เพราะคนญี่ปุ่นเค้าไม่ค่อยมีคนตกงานกัน
อ่อ...ผมจะบอกว่า ผมเคยได้ตังค์ส่วนนี้ด้วยนะ ตกงานเพราะโควิดเนี่ยแหละ เชื่อว่าหลายๆ คนไม่มีประสบการณ์กัน (อย่ามีเลยครับ ดีแล้ว 😅) แม้กระทั่งคนญี่ปุ่นเอง
ญี่ปุ่นจะมีองค์กรนึงครับชื่อว่า HelloWork (ชื่อเก๋มาก) คือเป็นองค์กรที่คนตกงานจะไปลงทะเบียนเพื่อรับเงินชดเชยระหว่างว่างงานกันน่ะครับ ถ้าตกงานเพราะบริษัท ก็จะได้เงินหลังจาก 1 สัปดาห์ของวันที่ออก ถ้าออกเองจะได้เงิน 3 เดือนหลังจากวันที่ออก (อันนี้เข้าใจได้นะครับ เพราะว่าออกเอง ตกงานเอง จะมาขี้ตุ๊รับตังค์ทันทีม่ายด้ายยยย)
ส่วนเงินชดเชยตอนว่างงานนี่ได้ก็ไม่น้อยนะครับ ได้เป็นรายวัน จ่ายให้ประมาณ 60% ของรายได้ต่อวันของงานสุดท้าย แต่ต้องไปรายงานตัวทุกเดือนนะครับ ว่า เค้าหางานอยู่นะเตง ไม่ได้อยู่ไปวันๆ นะ ประมาณนี้น่ะครับ ลืมบอกไปว่า Hellowork จะมีงานให้เราเลือกเต็มเลยครับ เหมือนกรมแรงงานแหละครับ ถูกใจงานไหนก็สมัครได้เลย
5. ประกันสุขภาพ – ต่างจากเมืองไทยนิดนึง ที่ญี่ปุ่นจะหักส่วนนี้จากรายได้เรา 5-10% อ่านไม่ผิดหรอกครับ เยอะเหมือนกัน ถ้าเราเจ็บป่วย ทำฟัน เข้าโรงพยาบาล เรายังคงต้องออกเองครับ 30% แพงค่ดๆ
ขอกระซิบหน่อยครับ หมอญี่ปุ่น ตามความคิดเห็นส่วนตัวไม่ค่อยเก่งเท่าหมอไทยครับ ยาก็ไม่แรงเท่าไทย Para เม็ดละ 250 mg พี่ไทยไม่ขายคับอ่อนเกิ๊น ขายแต่ 500 mg++ คนไทยกินยาญี่ปุ่นไม่หาย กลับกันคนญี่ปุ่นมากินยาไทย ท้องเสีย มึนตึ๊บมาหลายคนแล้วครับ ยาแก้ปวดกินแล้วชาทั้งตัว 😂 เอาเป็นว่าไว้จะเล่าประสบการณ์ไปหาหมอและหมอฟันญี่ปุ่นให้ฟังอีกกระทู้ละกันครับ (ใครอยากอ่าน ขอมือหน่อย ✋)
6. ค่าสมาชิกสหภาพแรงงานในบริษัท – บริษัท 80-90% ส่วนใหญ่จะมีสหภาพครับ เอาไว้ต่อเงินเดือน โบนัส สวัสดิการให้เรา ส่วนนี้แล้วแต่บริษัทเลยครับว่าจะโดนหักเท่าไร ผมโดน 1-2%
เบ็ดเสร็จรวมกัน 30%+ ของรายได้ กัดฟันไหมล่ะครับ แต่ก็ต้องยอมรับนะครับว่าเราจ่ายภาษีแพง แลกกับรถไฟความเร็วสูง คุณภาพชีวิตดีๆ ที่ลงตัว อากาศดีไม่มี PM2.5 ไปไหนรถไม่ติด อาหารสะอาด เดินบนท้องถนนไม่ต้องเขย่ง ก้าว กระโดด 😂😂😂
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับเรื่องราวภาษีของประเทศหนึ่งที่เค้าไปไกลแล้ว ใครมีความเห็นอะไรคอมเมนต์ได้นะครับ เห็นต่างได้ครับ ไม่ว่ากัน
ปล.เล่าสู่กันฟังเท่านั้นนะครับ เก็บไปคิด ทุกอย่างเริ่มจากตัวบุคคลครับ ความดีเริ่มง่ายๆ ที่ตัวเราครับ แล้วมันจะถูกส่งต่อไปให้คนอื่นครับ คิดถึงส่วนรวมก่อน แล้วสังคมจะดีขึ้น สิ่งดีๆ ก็จะย้อนกลับมาหาเราครับ...เราจะสร้างประเทศไทยไปด้วยกัน 😙
ภาษีที่แพง แต่แลกกับคุณภาพชีวิตที่ดี
เกริ่นก่อนว่า ผมทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่นได้หลายปีละ จะมาเล่าถึงเงินที่โดนหักจากเงินเดือนเยอะแยะเต็มไปหมด (หักจนไม่มีเหลือจะกิน T^T) ว่าเค้าหักกันอย่างไร เผลอๆ เล่าละเอียดกว่าคนญี่ปุ่นบางคนเล่าเองอีก เพราะคนญี่ปุ่นเองเค้าก็ไม่ได้สนใจรายละเอียดกัน
เพราะอะไรน่ะหรอครับ เพราะประเทศแห่งความซื่อสัตย์และมีความเป๊ะ! ทุกอย่างแบบนี้ เค้าเชื่อใจกันครับว่า คนที่คิดภาษีให้เค้าน่ะจะคำนวณไม่ผิด โดนหักก็หักไป ทำอะไรไม่ได้ แต่สำหรับผมคนไทย เชื้อสาย...ไทยเนี่ยแหละ โดนหักอะไรต้องคำนวณเองครับ โดนโกงหรือเปล่าจะได้รู้ เลือดไทยข้นเลยละครับ 😂 เลยรู้มากกว่าคนญี่ปุ่นบางคนด้วยซ้ำ หึหึ
โดนหักอะไรกันบ้าง แล้วเราจะได้อะไรกลับมาบ้าง (ต่อไปนี้จะพูดถึงการหักเป็น % ของรายได้ต่อเดือนนะครับ เน้นว่า ต่อเดือน) มาเริ่มกันเลยยย...
1. ภาษีเงินได้ – อันนี้เมืองไทยก็มีใช่ไหมครับ ไม่ต้องสาธยายมาก จัดไปก่อนเลยประมาณ 2-5% รายได้ส่วนนี้ ตรงๆ เลยครับ เป็นเงินทุนพัฒนาและสำรองในประเทศ
2. ภาษีท้องถิ่น – ส่วนนี้น่าสนใจครับ ประเทศไทยไม่มี เป็นภาษีที่เก็บโดยเขตหรืออำเภอนั้นๆ ที่เรามีชื่ออาศัยอยู่ในทะเบียนบ้าน พูดง่ายๆ คือ สมมติเขตบางนาก็จะเก็บเงินส่วนนี้เพื่อไปพัฒนาเขตตัวเองเท่านั้น ย้ำนะครับว่า เขตใครเขตมัน! ประมาณ 5-10%
เค้าเรียกว่าการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นครับ ประโยชน์ก็คือ ไม่ผ่านส่วนกลาง อนุมัติเร็ว ตรวจสอบง่าย ผมว่าเงินส่วนนี้มีประโยชน์มากเลยครับ ทำให้เราเห็นบ้างเมืองเค้ามีถนนเรียบๆ สะอาด ขยะไม่มี มีโครงการพัฒนาชุมชน มีรถเมล์สาธารณะสวยๆ (เห้ออออ ถอนหายใจแรงๆ ฟินเฟร่อออ...)
3. ภาษีเงินบำนาญ – ส่วนนี้หนักสุดครับ 10-15% และเป็นภาษีที่เจ็บใจที่สุดสำหรับคนต่างชาติ หรือแม้กระทั่งคนญี่ปุ่นเองก็ยังบ่นอุบเลยครับ
เพราะอะไรน่ะหรอครับ ชื่อก็บอกว่าเงินบำนาญ คือจะได้คืนตอนเราแก่ ประมาณว่ารัฐจะช่วยวางแผนชีวิตให้นะ จะได้มีกินตอนแก่ไง ตอนนี้กฎหมายใหม่จะได้รับก็ตอนอายุ 65 ปี จากตอนแรกอายุ 60 ปีก็ได้ละ ถ้าคุณคิดว่าก็ดีนี่ เค้าเก็บไปให้เราตอนเกษียณไง แต่คนต่างชาติน้อยคนครับจะอยู่ญี่ปุ่นยันเกษียณ ผมก็คงไม่อยู่ครับ 😂 ส่วนคนญี่ปุ่นก็คล้ายกันครับ ได้แต่เศร้า ได้ไม่ครบแน่ๆ หรือก็ไม่รู้จะได้คืนหรือเปล่า
แล้วทำไมเรียกเก็บแพงล่ะ อย่างที่ทราบกันครับว่า สังคมญี่ปุ่นเป็นสังคมผู้สูงอายุ (ขอเรียกว่า คนแก่ ละกันนะครับง่ายดี) เค้าเก็บเงินเราไปให้คนแก่ตอนนี้แหละครับ เป็นที่รู้กันดีว่าคนญี่ปุ่นอายุโค-ตะ-ระจะยืน อายุเกินร้อยหลายสิบคน (ไม่รู้จะอยู่กันไปทำม๊ายยย เดินก็ไม่ไหวอะ เป็นผมขออย่างมากก็ 80 พอละคับ 🤣) แถมได้ข่าวว่าระบบเงินบำนาญของญี่ปุ่นนี่ติดลบทุกปีครับ ภาระก็มาตกกับคนทำงานหรือวัยรุ่นนี่แหละครับ
ถ้าใครอยากอายุยืนย้ายไปอยู่ญี่ปุ่นนะครับ อากาศดี อาหารสะอาด... อุยขอโทษครับ ไปไกลละ กลับมาเรื่องภาษีก่อน 😁
4. ประกันการจ้างงาน (คล้ายๆ ประกันสังคมบ้านเราเนี่ยแหละครับ แต่เป็นประกันที่เราจะได้ตังค์เมื่อเราตกงานเท่านั้น ไม่มีค่าทำฟันนะครับ 555) – โดนนิดเดียวครับ 0.2-0.5% เพราะคนญี่ปุ่นเค้าไม่ค่อยมีคนตกงานกัน
อ่อ...ผมจะบอกว่า ผมเคยได้ตังค์ส่วนนี้ด้วยนะ ตกงานเพราะโควิดเนี่ยแหละ เชื่อว่าหลายๆ คนไม่มีประสบการณ์กัน (อย่ามีเลยครับ ดีแล้ว 😅) แม้กระทั่งคนญี่ปุ่นเอง
ญี่ปุ่นจะมีองค์กรนึงครับชื่อว่า HelloWork (ชื่อเก๋มาก) คือเป็นองค์กรที่คนตกงานจะไปลงทะเบียนเพื่อรับเงินชดเชยระหว่างว่างงานกันน่ะครับ ถ้าตกงานเพราะบริษัท ก็จะได้เงินหลังจาก 1 สัปดาห์ของวันที่ออก ถ้าออกเองจะได้เงิน 3 เดือนหลังจากวันที่ออก (อันนี้เข้าใจได้นะครับ เพราะว่าออกเอง ตกงานเอง จะมาขี้ตุ๊รับตังค์ทันทีม่ายด้ายยยย)
ส่วนเงินชดเชยตอนว่างงานนี่ได้ก็ไม่น้อยนะครับ ได้เป็นรายวัน จ่ายให้ประมาณ 60% ของรายได้ต่อวันของงานสุดท้าย แต่ต้องไปรายงานตัวทุกเดือนนะครับ ว่า เค้าหางานอยู่นะเตง ไม่ได้อยู่ไปวันๆ นะ ประมาณนี้น่ะครับ ลืมบอกไปว่า Hellowork จะมีงานให้เราเลือกเต็มเลยครับ เหมือนกรมแรงงานแหละครับ ถูกใจงานไหนก็สมัครได้เลย
5. ประกันสุขภาพ – ต่างจากเมืองไทยนิดนึง ที่ญี่ปุ่นจะหักส่วนนี้จากรายได้เรา 5-10% อ่านไม่ผิดหรอกครับ เยอะเหมือนกัน ถ้าเราเจ็บป่วย ทำฟัน เข้าโรงพยาบาล เรายังคงต้องออกเองครับ 30% แพงค่ดๆ
ขอกระซิบหน่อยครับ หมอญี่ปุ่น ตามความคิดเห็นส่วนตัวไม่ค่อยเก่งเท่าหมอไทยครับ ยาก็ไม่แรงเท่าไทย Para เม็ดละ 250 mg พี่ไทยไม่ขายคับอ่อนเกิ๊น ขายแต่ 500 mg++ คนไทยกินยาญี่ปุ่นไม่หาย กลับกันคนญี่ปุ่นมากินยาไทย ท้องเสีย มึนตึ๊บมาหลายคนแล้วครับ ยาแก้ปวดกินแล้วชาทั้งตัว 😂 เอาเป็นว่าไว้จะเล่าประสบการณ์ไปหาหมอและหมอฟันญี่ปุ่นให้ฟังอีกกระทู้ละกันครับ (ใครอยากอ่าน ขอมือหน่อย ✋)
6. ค่าสมาชิกสหภาพแรงงานในบริษัท – บริษัท 80-90% ส่วนใหญ่จะมีสหภาพครับ เอาไว้ต่อเงินเดือน โบนัส สวัสดิการให้เรา ส่วนนี้แล้วแต่บริษัทเลยครับว่าจะโดนหักเท่าไร ผมโดน 1-2%
เบ็ดเสร็จรวมกัน 30%+ ของรายได้ กัดฟันไหมล่ะครับ แต่ก็ต้องยอมรับนะครับว่าเราจ่ายภาษีแพง แลกกับรถไฟความเร็วสูง คุณภาพชีวิตดีๆ ที่ลงตัว อากาศดีไม่มี PM2.5 ไปไหนรถไม่ติด อาหารสะอาด เดินบนท้องถนนไม่ต้องเขย่ง ก้าว กระโดด 😂😂😂
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับเรื่องราวภาษีของประเทศหนึ่งที่เค้าไปไกลแล้ว ใครมีความเห็นอะไรคอมเมนต์ได้นะครับ เห็นต่างได้ครับ ไม่ว่ากัน
ปล.เล่าสู่กันฟังเท่านั้นนะครับ เก็บไปคิด ทุกอย่างเริ่มจากตัวบุคคลครับ ความดีเริ่มง่ายๆ ที่ตัวเราครับ แล้วมันจะถูกส่งต่อไปให้คนอื่นครับ คิดถึงส่วนรวมก่อน แล้วสังคมจะดีขึ้น สิ่งดีๆ ก็จะย้อนกลับมาหาเราครับ...เราจะสร้างประเทศไทยไปด้วยกัน 😙