มีปัญหากับเพื่อนที่คบกันมานาน

สวัสดีค่ะ หลายวันมานี้เรามีเรื่องทุกข์ใจมากค่ะ ในชีวิตมหาลัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน เรื่องงานที่ถาโถมเข้ามามากมาย บางทีการมีเพื่อนก็เป็นสิ่งสำคัญเหมือนกัน...
เรากับเพื่อนคนนี้ ขอแทนชื่อว่า A นะคะ เมื่อก่อนเรากับ A เคยสนิทกันมาก มาไหนไปไหนด้วยกันมาตลอด รู้จักกันถึงไส้ถึงพุงตั้งแต่สมัยมัธยมแล้ว แต่แน่นอนว่าพอเราขึ้นมหาลัย หลายๆอย่างมันก็ต้องมีการพัฒนาตัวเอง รวมถึงทัศนะคติด้วย
A เนี้ย จะเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นได้ง่ายมาก และเป็นคนที่มี impect อยู่ระดับหนึ่งเลยค่ะ เขาเป็นคนสร้างสีสันให้กับคนรอบข้าง ให้นึกถึงเรามีเพื่อนสาวในกลุ่มหญิงล้วน แล้วเพื่อนคนนั้นสามารถ entertrain คนรอบข้างได้ด้วยมุขตลกต่างๆนาๆ.
ขอเท้าความไปสมัยปี 1 ใหม่ ตอนนั้นเรากับ A ก็คบกันเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันค่ะ ไปไหนไปกัน แล้วก็จะมีเพื่อนอีกคนนึง สมมุติชื่อ B จะเป็นคนที่ตรรกะความคิดในเชิงมีเหตุและมีผล คือเวลาที่เรามีปัญหาก็ได้เพื่อนคนนี้ช่วยไว้.
A กับ B เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ประถมเลยค่ะ คือเปรียบเสมือนเป็นญาติกันเลยก็ว่าได้ สองคนนี้เขาจะคุยกันตลอด ไม่ว่าจะเรื่องอะไร จะ take care กันเป็นพิเศษค่ะ
อะไรๆมันก็ไม่แน่นอน เรามีโกรธ มีทะเลาะ มีเศร้าเหมือนกลุ่มเพื่อนทั่วๆไป แต่พอเราขึ้นปี 2 เท่านั้นแหละค่ะ จุดเปลี่ยนมันจะเห็นได้ชัดมาก ตั้งแต่เราเริ่มลงเรียนในสิ่งที่เราเลือก เราก็แทบไม่ได้เจอกันเลยค่ะ บวกกับสถานการณ์โควิดในตอนนั้น ประเด็นคือ เราเป็นคนเลือกในสิ่งที่เราสนใจ ซึ่งสิ่งนั้นมันค่อนข้างจะหนักหน่วงเหมือนกัน เรียกได้ว่าแทบไม่ได้นอน หรือวันไหนมีเวลาหน่อยก็จะได้นอนบ้าง แต่ส่วนใหญ่คือแทบไม่ได้นอน เราเคยอธิบาย เคยบอกไปแล้วว่ามันหนัก มันเครียดมาก แสดงให้เห็นตลอดให้เพื่อนเข้าใจ.
จุดที่เป็นชนวนก็ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ เราต้องทำกิจกรรมแข่งขันกีฬาระดับคณะ เพื่อเฟ้นหาหน่วยกิจกรรม โดย A จะเป็นหัวหน้าชมรม และ B จะคอยช่วยในทุกๆเรื่องๆเลยค่ะ ด้วยตารางเวลาเรียนของเราแล้ว มีวันว่างเป็นบางวัน ไม่สามารถจะเข้าชมรมได้ทุกวัน ในกรณีนี้เราได้อธิบาย ส่งตารางเรียน บอกเหตุผลที่เราไม่สามารถไปได้ให้รับทราบแล้ว เราเข้าใจดีเลยค่ะว่ามันเป็นงานที่เหนื่อยมาก จริงๆแล้วเราจำได้ว่าตั้งแต่ต้นก่อนที่จะมาสานต่อชมรมด้วยกัน เราเคยบอกว่า จะขอไม่อยู่ชมรมต่อแล้ว เพราะแก่นแท้ของเราไม่ได้หลงใหลกับกีฬานี้เท่าไหร่ เรารู้ตัวตั้งแต่เข้าชมรมนี้สมัยปี 1 ค่ะ แต่เพื่อนก็โน้มน้าวให้เรามาเข้าด้วยจนได้ เราก็จ่ายเงินค่าสมทบทุนชมรมอยู่ก้อนนึงค่ะ ค่อนข้างจะเยอะ เราก็ยินดีจ่ายไม่เคยบ่น หรือมีปัญหาในส่วนนี้เลย ปัญหามันอยู่เราไม่มีเวลาเข้าชมรมจริงๆ เราจะเข้าก็ต่อเราว่างจากการเรียน บางวันเราก็เอางานไปทำที่ชมรมด้วย เพื่อนก็เห็นทุกอย่าง และเราก็หวังว่าเพื่อนจะเข้าใจเรามากขึ้นซะอีก แต่กลับกลายเป็นว่าทั้งหมดทั้งมวลกลับเปลี่ยนเป็นหอกแหลมคมที่คอยทิ่มแทงใจพวกเราอยู่.
จนในที่สุด A ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊คส่วนตัวเชิงต่อว่าเราว่า “เห็นแก่ตัวเสมอต้นเสมอปลาย” ค่ะ
ระเบิดลูกนี้ก็หนักเช่นเดียวกัน มีเรื่องนึงที่เรามองว่ามันไม่ควรจะเก็บมาคิดได้เลย คือเรื่องที่ว่า เราได้แนวข้อสอบวิชานึงมาจากเพื่อน คนละเซค แล้วเราจะสอบในวันพรุ่งนี้ค่ะ เรายังไม่ได้อ่านเลยด้วยซ้ำ แต่ A คิดว่าเรากั๊กแนวข้อสอบไว้เองประมาณนั้น จะมีเพื่อนคนไหนที่คบกันมานาน ไว้ใจกันมาขนาดนี้ คิดว่าเราเป็นคนเห็นแก่ตัว ไม่ยอมส่งให้เพื่อนดู คือเราก็อยู่ในวัยผู้ใหญ่ ทำไมเพื่อนเราถึงมีฐิทิขนาดนั้น เราบอก A แล้ว ว่ากำลังจะส่งให้ เพราะเพิ่งได้มา เรามองว่าทำไมเรื่องแค่นี้ถึงกับต้องเก็บมาคิดขนาดนั้น แบบนี้เป็นเหตุการณ์ที่ไร้เหตุผลไหมคะ ทุกคนคิดยังไง? จริงๆมีเรื่องที่บั่นทอนจิตใจมากเลยค่ะ เราเหนื่อยและท้อกับเรื่องเพื่อนมาก เราไม่รู้จะจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างไร ตอนนี้เพื่อนก็แสดงกับเราแบบไม่มีตัวตน งอนเหมือนเด็ก เจอหน้ากันก็ไม่คุย ไม่ทักเลยค่ะ เราเสียใจมากนะ เราก็รักเพื่อนคนนี้มาก ไม่อยากจะเสียไปเลยค่ะ แต่บางความคิดเราก็เข้ากันไม่ได้จริงๆ
ไหนจะเรื่องชมรมที่เราอยู่ เราควรออกจากตรงนั้นไหมคะ? มันอาจจะแลกกับการเสียเพื่อนไปเลยก็ได้ เราไม่รู้ว่าเราควรวางตัวยังไง ถ้าให้โฟกัสเรื่องเรียน เราก็อยากจะมีเพื่อนที่คอยเข้าใจเราอยู่ข้างๆค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่