กำลังจะแต่งงาน แต่ไม่โอเคกับการที่แม่เรียกสินสอดแบบนี้ค่ะ



สวัสดีค่ะ วันนี้มีปัญหาที่อยากให้ชาวพันทิปช่วยแลกเปลี่ยนความคิดหน่อยค่ะ ถ้าผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

เริ่มเลยนะคะ ซึ่งเราขอเรียงไทล์ไลน์แบบนี้ค่ะ
1. เราเปลี่ยนศาสนาจากศาสนาพุทธมาศาสนาอื่นหลายปีแล้วค่ะ เรื่องนี้ที่บ้านเราก็ทราบ แล้วก็ไม่ได้ขัดหรือว่าอะไร

2.ต่อมา เรามีแฟน ซึ่งพาไปเจอแม่ตั้งแต่แรกแล้ว และบอกกับแม่ตั้งแต่แรกว่าถ้าเราจะแต่งงาน ศาสนาของเรา ไม่มีการเรียกค่าสินสอดนะ เราจะจัดตามพิธีตามศาสนาของเรา ไม่ใช่ตามที่บ้าน เพราะมันคืองานของเรา แต่เราชดเชยส่วนอื่นให้แม่แทนค่าสินสอดได้ ณ ตอนนั้นแม่โอเคค่ะ ไม่ได้ว่าอะไร

3.ตอนนี้เรากับแฟนคุยกันจริงจัง ว่าจะแต่งงานกันจริง ๆ ละ แต่ ณ ตอนนี้ แม่ดันมาคุยกับแฟนเราว่า ไม่มีสินสอดไม่ได้ ยังไงก็ต้องมี แฟนเราก็บอกว่าเค้าไม่มีเงินก้อนใหญ่ขนาดนั้น (ถามว่าเรามีเงินเก็บไหม มีค่ะ แต่ไม่ได้เก็บไว้สำหรับส่วนนี้เพราะเราก็เข้าใจว่าแม่ไม่เรียกอะไรแน่นอน และไม่ได้คิดว่าเก็บไว้แล้วต้องมาใช้หมดภายในงานวันเดียว เราเก็บเผื่อซื้อบ้าน ลงทุนทำธุรกิจ และเผื่อลูกในอนาคต) 

4. แม่เราเลยบอกว่า งั้นก็จัดไป แต่เค้าจะเรียกเป็นสินสอดไว้  แล้วให้ไปผ่อนไปเค้าทุกเดือน หรือไม่ก็ไปหากู้มาหนึ่งก้อน !!! ซึ่งพอได้ยินแบบนี้ เราโมโหมาก เพราะว่า เราส่งให้แม่ทุกเดือนอยู่แล้ว สามถึงห้าพันบาทเฉพาะค่าใช้จ่าย ไม่รวมกับที่ระหว่างเดือนขอเพิ่ม ไปซื้อนู้นนี่ ไปลงทุนซื้อของขาย หรือเติมน้ำมันไปหาหลาน และ ยังไม่รวมกับที่ต้องการเงินก้อน เราซัพพอร์ตทุกอย่าง ไม่เคยบอกว่าไม่ได้ ไม่มี เค้าบอกต่อว่า เค้าจะเอาไปใช้หนี้ ตรงนี้ยิ่งทำให้เราโมโห เราไม่รู้ว่าเค้ามีหนี้อะไรบ้าง เพราะปัจจุบันเราส่งใช้หนี้ให้เค้าโดยตรงเดือนละ 3000 บาทมาเป็นปีแล้ว ซึ่งตอนแรกบอกเราว่า ต้องจ่ายถึงธันวาปีนี้ เราก็โอเค แต่พอเดือนที่แล้วถามว่าธันวาแน่นอนไหม เค้าบอกว่าไม่ ต้องส่งไปเรื่อย ๆ เราถามว่าเรื่อย ๆ นี่คือถึงเมื่อไร ไม่มีคำตอบ นี่แปลว่าเค้าไปกู้มาเพิ่มรึป่าว เพราะเค้ามาคุยกับเราบ่อยมากเรื่องจะกู้เงิน เราห้ามทุกครั้ง และถามเค้าว่าจะกู้เท่าไร เราให้เค้ามายืมเราแทน โดยที่ไม่คิดดอกเลย ซึ่งเงินนั้นก็คือเงินแฟนเรา เพราะลำพังเงินเดือนเราแค่ให้เค้ากับใช้หนี้ให้ก็หมดแล้ว ยังไม่รวมกับที่เราเองต้องมาจ่าย กยศ อีก เงินเก็บส่วนใหญ่ของเรามาจากแฟน ซึ่งแฟนเค้าไม่เคยบ่น เคยว่าอะไรเราเลยว่าทำไมเราไม่เหลือเก็บ แฟนเข้าใจที่บ้านเรา แต่ปัจจุบันแม่เราไม่เข้าใจทางเรากับแฟนเลย จะเอาให้ได้ คือจะให้เราส่งให้เหมือนเดิม แล้วต้องไปผ่อนสินสอดอีก หมดแรงเลย
            ที่เราโมโห เพราะเราส่งให้เค้าตลอดไม่เคยขาด ถ้าจะให้มาผ่อนสินสอดอีกมันเกินไปมั้ย เราไม่ต้องเหลือเงินเก็บเผื่อลูกเราในอนาคตเลยหรอ หรือไม่ต้องมีเงินเก็บไว้ทำอย่างอื่นเลยหรอ และเค้าก็รู้ว่าเราไม่ใช่พุทธ จะให้เราไปทำพิธีแบบพุทธ เราทำให้ไม่ได้ มันผิดหลักศาสนาเรา คือถ้าให้เค้ามาทำพิธีแบบศาสนาเราเค้าก็ไม่เอาอะ มันก็เหมือนกัน ทำไมเค้าไม่เข้าใจ
           แต่เราคิดว่าถ้าเค้าไม่ยอม ไม่เข้าใจ เราจะให้สินสอดไปเลยก้อนเดียว แต่เราจะไม่ให้รายเดือนแล้ว รายเดือนเราจะเอาไปใช้หนี้ที่กู้มาแทน เราไม่เข้าใจ ตัวอย่างก็มีคืองานพี่ชายเรา กู้เงินมาแต่ง วันเดียวจบ แต่ตัวเองต้องมานั่งใช้หนี้อีกกี่ปี และเราไม่รู้ว่า ณ ปัจจุบัน เค้ามีหนี้สินอยู่เท่าไร เพราะเค้าบอกไม่หมดสักที เดี๋ยวมีโผล่มาตลอด จากที่ขอเงินก้อนไปตัดจบ ทุกวันนี้ยังเห็นบอกต้องไปใช้หนี้ตรงนี้อยู่เลย พูดตรง ๆ เราเหนื่อย เราไม่ได้ใช้เงินตรงนั้นด้วย สมัยเรียนเราได้อาทิตย์ละ 500 และทำงานมาตลอด และเราไม่ได้อกตัญญู เรายังส่งเงินให้เค้าทุกเดือน แต่แค่ไม่เข้าใจว่าเป็นหนี้จากไหนเยอะแยะ เอาเงินไปทำอะไร การมาผ่อนสินสอดมันเกินไปอะ เพราะตอนแรกที่คุย เราไม่เอาสินสอด แต่เราส่งให้เค้าทุกเดือน ซ่อมบ้านต่าง ๆ ซึ่งมันได้เยอะกว่าสินสอดอีก แต่มันแค่ไม่ใช่เงินก้อน  (ซึ่งถ้านับจากที่แฟนซัพพอร์ตให้เค้ามาตลอด มันก็เยอะกว่าที่เค้าเรียกอีก) และจากที่เราอ่านมา สมัยก่อนมีสินสอดเพราะว่าผู้ชายต้องพาผู้หญิงไปจากบ้าน เลยให้สินสอดไว้ทดแทนที่ผู้หญิงไม่ได้อยู่ดูแล แต่ปัจจุบันมันไม่ใช่แบบนั้น ต่างคนต่างมาทำงาน ถ้าเค้ามีสินสอด ฝั่งเราก็ต้องมีเพราะเค้าก็จากบ้านมาเหมือนกัน และไม่ชอบมาก กับคำว่าค่าเลี้ยงดู พ่อแม่ผู้ชายเค้าก็เลี้ยงดูเหมือนกันอะ ค่าข้าว ค่าเรียน ซึ่งเลี้ยงดูดีกว่าเราซะอีก ถ้าเรียกได้เค้าคงเรียกหลายล้านบาท

         ปล.สุดท้ายนี้ขอบคุณที่ทุกคนเข้ามาอ่านค่ะ บางทีเราอาจแค่ต้องการคนรับฟัง เพราะแค่ได้พิมพ์ไปก็รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่