[CR] รีวิวประสบการณ์การเป็น" ฝี " และการผ่ากรีดแผลที่สถาบันโรคผิวหนัง

แรกเริ่มตัวผมเองเป็นคนที่ผิวหนังแพ้ง่ายโดนนิดอะไรหน่อยก็เป็นผื่นคันได้ง่ายๆแต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่ทรมานที่สุดที่ผมเป็นเกี่ยวกับผิวหนังเลย ที่ผ่านมาเคยได้ยินว่าฝีนี้เป็นแล้วทรมานแต่ก็ยังไม่รู้ว่าอาการของมันเป็นอย่างไรจนผมได้มาเป็นเองถึงได้รู้ว่ามันเป็นแบบที่เคยได้ยินมาจริงๆ เป็นแล้วก็ไม่หายเป็นแล้วก็เป็นอีกจนตัดสินใจไปหาหมอที่ สถาบันโรคผิวหนัง ตั้งอยู่แถวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จนอาการก็เริ่มดีขึ้นจนถึงตอนนี้ก็หายและไม่กลับมาเป็นอีก ในเรื่องรายละเอียดรูปภาพผมมีน้อยมากและไม่น่าดูเพราะตอนนั้นแทบไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้เลยเหตุการณ์นี้มันผ่านมาซักพักแล้วบางช่วงบางตอนอาจจะมีหลงลืมผิดเพี้ยนไปบ้างต้องขออภัยด้วยนะครับ ผมไม่ได้ตั้งกระทู้มานานมากแล้วว ครั้งนี้ยาวเหยียดเลยครับ

เริ่มจากที่ผมชื่นชอบกางเกงยีนส์ผ้าดิบ<<จะมีเนื้อผ้าที่แข็งมากนิยมเพื่อใส่ให้เกิดเป็นริ้วรอยพับย่นตามสรีระของร่างกายไปแต่ละคน>> แต่ผ้าดิบจะให้เกิดริ้วรอยมันก็ต้องใส่โดยไม่ซักเลยเพื่อให้เกิดริ้วรอยที่สวยเรียกว่า " FADE " ผมใส่กางเกงยีนส์บ่อยใส่ตลอดใส่ไปเรียนใส่ไปเที่ยวใส่ไปทำงานเดินตลอดทั้งวันเหงื่อออกหมักหมมทุกวันไปเป็นเวลากว่า 6 เดือนที่ไม่ได้ซักเลยระหว่างหกเดือนผมซักด้วยน้ำเปล่าไปสองครั้ง พอเริ่มเข้าเดือนที่ 7 เริ่มมีความผิดปกติเกิดขึ้นที่บริเวณด้านในขาหนีบของผมเป็นเหมือนเม็ดสิวเล็กๆขึ้นมา ด้วยความที่ไม่ได้ใส่ใจก็ปล่อยไปใส่กางเกงยีนส์ตัวเดิมไปผ่านมาสามวันขาหนีบของผมก็มีสิวเพิ่มขึ้นอีกข้างนึงสิวเม็ดแรกเริ่มมีก็อาการแข็งบวมอักเสบแดงคันรอบๆ มีเหมือนก้อนไตแข็งอยู่ข้างในพอสัมผัสแล้วมันอุ่นๆนุ่มๆ ลูกไม่ใหญ่มาก เวลาก็เดินลำบาก ผมก็ลองศึกษาหาในอินเทอร์เน็ตว่ามันคืออะไร อาการของผมมันตรงกับอาการที่เรียกว่า ฝี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

วันถัดมาสิวที่เหมือนจะเป็นอาการเริ่มของฝีก็ขึ้นมาเพิ่มจาก 2 ก็เป็น 4 ตอนนั้นผมก็ยังไม่รู้สาเหตุของอาการว่าเกิดจากอะไร ใช้ชีวิตช่วงนั้นด้วยความลำบากเพราะมันเจ็บปวดมากทั้งคันร้อนบวมแดงเป็นก้อนแข็งๆอยู่ตรงขาหนีบที่ต้องเดินเสียดสีตลอดกันผ่านไปประมาณ 3 วันอาการบวมแดงปวดก็เริ่มมากขึ้นมันคล้ายสิวเม็ดใหญ่ที่มีเลือดและหนองอยู่ข้างในพอถึงเวลามันก็ต้องแตกออกมา ทั้งเลือดและหนองออกมาเยอะมากปวดระบมสุดๆต้องใช้มือบีบออก คิดในใจแค่เม็ดเดียวผมก็ทรมานจนทนแทบไม่ไหวนี้ผมเป็นตั้ง 4 เม็ดที่รอเวลาให้มันแตกออกมา จิตใจผมหดหู่มากตอนนั้นบริเวณที่ผมเป็นคือที่ ขาหนีบ 3 ลูก พุงด้านข้าง 1 ลูก วิธีการที่ผมศึกษาตอนนั้นคือเอาผ้าชุบน้ำอุ่นประคบเพื่อลดอาการปวดแล้วปล่อยให้มันแตกออกมาเอง ตอนนั้นผมไม่กล้าที่จะไปหาหมอหมอจะต้องผ่าออกแน่นอน ต้องเรียนด้วยและทำงานด้วย ถ้าผ่าตัดก็ใช้เวลารักษาอีก ผมจึงหาสาเหตุสุดท้ายมันอาจจะเป็นเพราะ กางเกงยีนส์ ที่ผมไม่ซัก ฝีของผมมันขึ้นตามรอยตะเข็บของกางเกงยีนส์เลย ในใจได้แต่คิดว่าเมื่อมันเป็นแล้วก็ต้องรักษา มั่นดูแลความสะอาด จนมันแตกเริ่มเล็กลงไปทั้ง4ลูกมันทั้งเจ็บปวดกว่าจะผ่านไปทั้งสี4ลูก หลังจากที่มันแตก ถ้าสัมผัสบริเวณแผลมันจะเป็นก้อนไตแข็งๆอยู่ภายในฝีที่ผมเป็นลูกมันไม่ใหญ่มากครับ 

เวลาผ่านไปประมาณ 1 เดือน ผมมีกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยจำเป็นจะต้องมีการเช่าชุดมาใส่ ชุดที่เช่ามาใส่ผมไม่ได้ทำการซักก่อนคือใส่ในวันงานเลย หลังจากใส่ผ่านไป 2- 3 วันก็มีผื่นสีแดงขึ้นเยอะมากบริเวณแขนด้านในตั้งแต่ข้อมือไปถึงรักแร้ด้านข้างลำตัว เอวก้นและต้นขาด้านในขึ้นเป็นผื่นแดงคันมาก คันจนนอนไม่หลับเลยครับ มันเริ่มลามไปเรื่อยๆ แล้วฝีมันก็กลับมาอีกครั้งบริเวณต้นขาที่เดิม ครั้งนี้มีทั้งผื่นฝีทั้งคันทั้งบวมปวดแดง ผมจึงเดินทางไปโรงพยาบาลในมหาวิทยาลัยเพราะรู้สึกว่าเราเป็นหนักแล้ว ไปหาหมอหมอวินิจฉัยว่าอาจเกิดจากเสื้อผ้าที่สวมใส่แนะนำว่าควรผ่าฝีออกแต่ผมยังไม่กล้าที่จะผ่า จึงขอยามาทานและยาทาแก้คัน หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปผื่นเริ่มดีขึ้นฝีที่ขึ้นมาก็แตกผมก็ทำตามดูแลรักษาเหมือนที่เคยเป็นครั้งก่อน เวลาผ่านไปอาการก็ดีขึ้นผื่นแดงก็เริ่มเป็นรอยดำแทน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ทุกอย่างเริ่มดีขึ้นเหมือนจะไม่มีอะไรแล้วแต่!!ฝีมันก็กลับมาขึ้นใหม่คือที่ " รักแร้ "ซึ่งเป็นบริเวณที่เป็นเนื้ออ่อน ถ้าเอามือไปสัมผัสจะรู้สึกอุ่นๆ มีก้อนไตแข็งๆปวดบวมแดงเหมือนเดิม ในใจผมก็คิดเอาอีกแล้วเป็นฝีอีกแล้วหรอเนี้ย!!    ระยะเวลาประมาณหนึ่งอาทิตย์ก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆคราวนี้มันขึ้นที่รักแร้ผมหลายลูกมีทั้งลูกเล็กลูกใหญ่ ข้างละประมาณ 3 - 4 ลูกเลยขึ้นแล้วก็แตกแล้วก็ขึ้นใหม่เกือบ 3 อาทิตย์ สภาวะจิตใจผมแย่มากเพราะมันเป็นแล้วไม่หายแล้วก็ขึ้นใหม่เรื่อยๆมันทั้งเจ็บปวดทรมาน เป็นที่บริเวณรักแร้มันเป็นที่ที่อับชื้นและเป็นบริเวณที่ต้องมีการขยับอยู่ตลอดเวลาด้วย

ด้วยความที่ผมอยากหายขาดแล้วผมจึงเดินทางไปสถาบันโรคผิวหนัง ตอนที่ผมเดินทางไปสถาบันโรคผิวหนังทำการก่อสร้างทำอาคารใหม่ ย้ายสถานที่รักษาไปที่สถาบันสุขภาพแห่งชาติมหาราชินี อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้นที่ 10 ผมเดินทางไปถึงประมาณ 7 โมง การไปโรงพยาบาลต้องไปเช้าครับแต่ถึงยังไงผมก็คิดไว้ว่าต้องใช้เวลาทั้งวันอยู่แล้ว มาเริ่มกันเลยครับ

1.การเดินทางผมเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางครับรถประจำทางจะจอดป้ายหน้าโรงพยาบาลเด็ก พอถึงแล้วเราก็เดินเข้าไปในใต้อาคารเพื่อไปที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ เมื่อไปถึงทางเข้าอาคารจะมีโต๊ะตั้งอยู่ทางเข้าแล้วจะมีพยาบาลถามถึงอาการเบื้องต้นว่าเป็นอะไรมา เป็นมานานหรือยัง พร้อมกับขอบัตรประชาชนแล้วยื่นกลับมาพร้อมบัตรคิว เดินเข้าไปอีกนิดก็จะพบกับแถวที่รอขึ้นลิฟต์แถวที่รอก็มีคนประมาณ 7 - 8 คนแล้ว ต้องขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น 10

2.เมื่อถึงชั้นที่ 10 อันดับแรกจะต้องไปที่จุดวัดความดัน ชั่งน้ำหนัก ส่วนสูง ด้วยการที่เป็นสถานที่ทำการชั่วคราวที่เป็นเพียงแค่ชั้นเดียวทำให้มีผู้คนเยอะแออัดมาก หลังจากวัดความดันเรียบร้อย (ตอนนั้นความดันผมสูงมากเลยอาจจะเครียดเพราะฝีที่ขึ้นมันขึ้นไม่หยุดด) ก็นั่งรอบริเวณหน้าเคาน์เตอร์เพื่อรอเรียกคิวไปซักประวัติการรักษาว่ามาครั้งแรกหรือเปล่าเขาจะค้นหาประวัติเราเพื่อจะแยกเป็นผู้ป่วยเก่ากับผู้ป่วยใหม่ ผมมีประวัติเคยรักษามาแล้วเมื่อหลายปีก่อนแต่ทางสถาบันโรคผิวหนังก็ยังเก็บประวัติไว้ผมจึงได้เป็นผู้ป่วยเก่าพอเรียบร้อยกระบวนการนี้ พยาบาลก็ยื่นบัตรคิวให้แล้วบอกให้ไปทานข้าวก่อนแล้วให้กลับมาใหม่อีกทีตอน 9 โมงจะเริ่มเรียกคิวที่ 1

3.เวลา 9 โมงผมกลับมานั้งรอที่หน้าห้องเพื่อรอคิว ในห้องจะมีโต๊ะมีพยาบาลและหน้าจอหมายเลข ถ้าหมายเลขของเราขึ้นที่จอหมายเลขบนโต๊ะไหนก็ให้ไปนั่งที่โต๊ะตัวนั้นก็จะพยาบาลถามถึงอาการแบบเจาะลึกมากขึ้นผมก็เล่าถึงอาการที่ผมเป็นทั้งหมดเสร็จแล้วเขาก็บอกให้เราเดินเข้าไปรอหน้าห้องหมายเลขไหนเพื่อเข้าพบคุณหมอ ช่วงเวลาตอนนั้นคนเยอะมากครับเต็มห้องจนไม่มีที่นั่งเหลือเลยตอนนั้นเวลาประมาณ 10 โมง

4.นั้งรอหน้าห้องประมาณ 30 นาทีครับผมคิดว่าช่วงเวลาตรงนี้มันแล้วแต่เคสที่คุณหมอเจอบางครั้งเจอเคสใหญ่ก็ใช้เวลานานบางคนเข้าไป 5 นาทีเขาก็ออกมาแล้วพอถึงหมายเลขของผม ก็เดินเข้าไปพบคุณหมอผมก็เล่าอาการทั้งหมดให้หมอฟังหมอขอดูจุดทุกจุดที่เป็น หมอบอกว่าเป็นฝีไม่ผิดแน่ต้องทำการกรีดแผลเอาหนองออกและขูดหนองเพื่อเอาไปตรวจว่าเป็นเชื้ออะไรเพื่อที่จะจ่ายยารักษาได้ถูกตามเชื้อตัวนั้นแล้วหมอจะนัดมาดูอาการติดตามผลอีกครั้งในอีก 2 อาทิตย์ หมอบอกว่าวิธีการรักษาที่ถูกต้องคือวิธีการผ่ากรีดเอาหนองออกมาให้หมดกินยาปฎิชีวนะเพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อตัวนั้นตอนนั้นผมก็ทำใจมาแล้วว่าต้องโดนผ่าแน่นอนแต่ก็อยากหายแล้วไม่อยากเป็นอีกก็ตกลงว่าจะผ่าเพื่อขูดเอาหนองไปตรวจ ออกมานอกห้องก็ยื่นเอกสารให้กับพยาบาลหน้าห้องแล้วพยาบาลหน้าห้องก็บอกให้ผมนำเอกสารขึ้นไปชั้นผ่าตัด

5.พอขึ้นมาถึงชั้นนี้คนน้อยมากมีคนนั้งรอประมาณ 2 - 3 คน ไปถึงต้องยื่นเอกสารแล้วรอนั่งเรียกชื่อ ก่อนเข้าห้องนำถุงพลาสติกครอบรองเท้า ต้องเปลี่ยนเป็นชุดคลุมผ่าตัดเพื่อเตรียมทำการผ่าตัดเปลี่ยนเสร็จก็เดินเข้าไปในห้องผ่าตัดมีหมอ 4 คน หมอให้ผมไปนอนที่เตียงชวนคุยถึงโรคฝีเพื่อผ่อนคลายและเตรียมเครื่องมือในการผ่า ในตอนนั้นมันน่ากลัวมากนี่เป็นการผ่าตัดครั้งแรกของผมถึงมันจะเป็นการผ่าตัดเล็กๆก็น่ากลัวมาก
ขั้นตอนแรก หมอจะฉีดยาชาบริเวณรอบๆฝีตรงรักแร้ 2 เข็ม ตอนนั้นผมมองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากไฟที่ส่องลงมาและมีผ้าคลุมหน้าไว้ พอหมอฉีดยาชาหมอก็จะเช็คว่าเรายังรู้สึกอยู่มั้ยตอนนั้นแขนด้านในผมก็ชาไม่รู้สึกแล้ว หมอถามว่าจะโกนขนมั้ยตอนนั้นผมก็ตัดสินใจไม่ได้หมอก็เป็นคนตัดสินใจให้ว่าไม่ต้องโกนเพราะบริเวณที่เป็นมันมีขนแค่นิดเดียว
ขั้นตอนที่สอง หมอก็เริ่มการใช้มีดกรีดฝี ถามผมตลอดว่าเป็นยังไงบ้างยังไหวอยู่หรือเปล่า ผมไม่รู้สึกเจ็บเลย ไม่รู้วิธีการเป็นยังไงด้วยเพราะมองไม่เห็น จนหมอบอกว่าเสร็จแล้วผมยังไม่กล้ามองดูแผลของตัวเองเลย หมอบอกว่าหมอจะไม่ปิดปากแผล มีผ้าก๊อซอยู่ข้างในแผลเพื่อคอยซับหนองที่ออกมาภายใน แค่บอกว่ามีผ้าก๊อซอยู่ข้างในผมก็รู้สึกเสียวแล้ว ที่สำคัญห้ามโดนน้ำ เด็ดขาด!! และจำเป็นต้องล้างแผลทุกวันจนกว่าเนื้อจะขึ้นมาแทนที่ปากแผลปิดสนิท แนะนำว่าล้างที่คลีนิคแถวบ้านก็ได้ไม่จำเป็นต้องมาที่นี้เพราะที่นี่มีขั้นตอนหลายขั้นตอนมันเสียเวลา เมื่อเสร็จขั้นตอนการผ่าตัดก็ออกมาเปลี่ยนชุดเป็นชุดเดิมต้องไปชำระเงินค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดที่ชั้นนั้นเลย ค่าผ่าตัดประมาณ 1000 บาทยังไม่รวมค่ายา  (ผมจำราคาที่แน่นอนไม่ได้ผมต้องขอโทษด้วยครับ) พอชำระเสร็จก็ลงมาด้านล่างเพื่อรับยา

6.ลงมาด้านล่างผมก็เดินไปชำระค่ายาก่อนประมาณ 300 บาท แล้วคอยดูบนจอมอนิเตอร์ ว่าคิวของเราต้องไปที่ช่องไหน พอถึงคิวก็มีพยาบาลคอยบอกถึงวิธีการใช้ยาการกินยาเป็นตัวยาทาแล้วก็ยากินตัวยาทาจะมีชื่อว่า Fucidin ใช้ทาไปที่ผิวหนังบริเวณที่เหมือนจะมีอาการเม็ดสิวเริ่มต้น ตัวยากินจะเป็นยาปฏิชีวนะ Dicloxacillin เม็ดสีฟ้าขาว กินก่อนกินอาหารครึ่งชั่วโมง 4 ครั้งต่อวัน สุดท้ายก็หมดวันเดินทางกลับบ้านโดยขยับแขนไม่ได้เลย ช่วงระยะเวลาหลังจากผ่าตัดฝีมันก็ยังมีเม็ดสิวที่เป็นอาการเริ่มต้นขึ้นมาบ้างแต่ผมก็เอายาที่หมอให้มาทาและพยายามกินยาให้ครอบตามที่หมอสั่งพร้อมกับเดินทางไปล้างแผลที่คลินิกแถวบ้านทุกวันตามที่หมอบอก

7.วิธีการล้างแผลผมก็ยังไม่ค่อยกล้าดูเลยในระยะแรกๆคงจะเป็นการเปลี่ยนผ้าก็อซที่อยู่ในแผลด้วยวิธีการดึงอันเก่าออกมาแล้วยัดอันใหม่ใส่เข้าไปแล้วดูว่ายังมีหนองอยู่หรือเปล่าแค่นึกภาพผมก็เสียวแล้วมีผ้าก็อซอยู่ในผิวหนังของผมแล้วผมก็ไม่รู้ว่าแผลผมลึกแค่ไหน ผมเลยไม่กล้าดูแผลของตัวเอง เสร็จแล้วก็เช็ดทำความสะอาดรอบๆแผลแล้วปิดด้วยพลาสเตอร์กันน้ำขนาดใหญ่ด้วยความที่ผมเป็นคนที่มีขนรักแร้เยอะก็ต้องปิดโดนขนไปต้องแกะออกเพื่อเปลี่ยนอันใหม่ทุกวันมันก็โดนขนทุกครั้งที่แกะพลาสเตอร์ออกบริเวณรักแร้เป็นบริเวณที่อับชื้นและมีเหงื่อได้ตลอดผมเลยต้องนอนเฉยๆแล้วยกแขนขึ้นในช่วงแรกหลังจากผ่ามา เป็นเวลาเกือบ 1 อาทิตย์ ที่ผมไม่ได้อาบน้ำต้องเช็ดตัวอย่างเดียว พอประมาณสองอาทิตย์กว่าแผลเริ่มดีขึ้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ถึงเวลาหมอนัดผมไปตามที่หมอนัดเพื่อไปฟังผลและดูอาการ วันที่นัดต้องเราใบนัดไปด้วยแล้วก็ทำตามขั้นตอนเหมือนกับที่มาหาหมอครั้งที่แล้วก็ใช้เวลาทั้งวันอีกเหมือนเดิม ถึงเวลาเข้าหมอหมอบอกว่าจากที่เอาหนองไปตรวจพบว่าเป็นเชื้อแบคทีเรียที่อยู่บนชั้นผิวหนังของเรา แต่เมื่อผิวหนังเราบอบบาง + สิ่งสกปรกหมักหมมมันมาสัมผัสกัน ทำให้แบคทีเรียตัวนี้ก็เข้าไปในผิวหนังของเราเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปร่างกายของเราก็ต้องสร้างเกราะป้องกันออกมาต่อต้านก็คือหนองมาล้อมรอบมันไว้จึงทำให้เกิดการบวมปวดอักเสบ 
มีต่อ
ชื่อสินค้า:   สถาบันโรคผิวหนัง
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่