ความงามแบบ Circassian เป็นความเชื่อที่ใช้เพื่ออ้างถึงภาพลักษณ์ของผู้หญิงในอุดมคติของตะวันตกยุคคลาสสิก Circassiaเป็นประเทศที่อยู่ ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเทือกเขาคอร์เคซัส Caucasus ประวัติศาสตร์วรรณกรรมต่างๆพยามชี้นำอย่างกว้างขวางกันพอสมควรให้เห็นว่าผู้หญิงชาวเซอร์คัสเซียนตลอดประวัติศาสตร์ถูกคิดว่าเป็นไอเดียของสินค้าความงามชั้นเยี่ยมที่สุดในโลกที่มีทั้งชีวิตชีวาและความสง่างามและเป็นที่ต้องการในฐานะนางสนมที่ถูกส่งไปเป็นนางในฮาเล็มทั้งในทวีปตะวันออกกลางและอัฟริกา

 

ชื่อเสียงนี้ย้อนกลับไปในช่วงปลายยุคกลางเมื่อชายฝั่งเซอร์คาสเซีย มีพ่อค้าจากเจนัวอิตาลีแวะเวียนมาและ Cosimo de 'Medici ผู้ก่อตั้งราชวงศ์ Medici มีบุตรนอกกฎหมายจากนางทาสชาว Circassian ในช่วงที่
จักรวรรดิออตโตมันและราชวงศ์ซาฟาวิดของเปอร์เซียและราชวงศ์กาต้าร์ในแถบอาหรับ....สตรีชาวเซอร์คัสเซียนที่อาศัยอยู่ในฐานะนางทาสในฮาเร็มของสุลต่านและฮาเร็มของชาห์เหล่านี้เริ่มสร้างชื่อเสียงให้กับชาติพันธุ์เซอร์คัสเซียนในฐานะสินค้าที่สวยงามที่สวยงามที่สุดซึ่งต่อมาได้กลายเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปในลัทธินิยมทางแถบตะวันออกกลางและตะวันตก อันเป็นผลมาจากชื่อเสียงนี้ในยุโรปและอเมริกา เซอร์คาสเซียน Circassians มักถูกมองว่าเป็นอุดมคติของความงามของผู้หญิงในบทกวีและศิลปะ แม้แต่มีการโฆษณาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 โดยใช้ชื่อแบรนด์ว่า"Circassian" หรืออ้างว่าผลิตภัณฑ์นี้ได้ใช้สารสกัดในเทือกเขาคอร์เคซัสที่ใช้โดยผู้หญิงชาวเซอร์คาสเซียนด้วยเหตุนี้ภรรยาส่วนใหญ่ของสุลต่านออตโตมัน เปอร์เชีย และอาหรับหลายคนจึงเป็นสาวชาวเซอร์คัสที่เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม ประเทศทางแถบตะวันออกกลางนนมีค่านิยมการสะสมนางทาสที่ถูกซื้อมาในการให้บริการทางกามคุณในฮาเล็มซึ่งจะเฟ้นหามาจากแต่ละดินแดนทั้งยุโรป เอเชีย และ 
อัฟริกา ที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีหญิงงามเพื่อมาเป็นนางบำเรอในฮาเล็ม และหากนางทาสคนใดมีความงามถูกใจเป็นที่เสน่หาของสุลต่านมากสุดพวกนางจะได้รับการยกระดับให้กลายเป็นนางสนม และอาจมีสิทธิ์ได้เป็นถึงมเหสีเอก และผลิตทายาทชั้นดีให้แก่สุลต่าน



ปัจจุบันเซอร์คาสเซียนสายเลือดบริสุทธิ์นั้นแทบไม่มีหลงเหลืออยู่แล้ว หากแต่มีเซอร์คาสเซียนลูกผสมที่เกิดจากการแต่งงานข้ามสายเลือดระหว่างเซอร์คาสเซียนเข้ากับชาติพันธุ์อื่น

ภาพตัวอย่างสาวเซอร์คาสเซียนเลือดผสมอาหรับเบดูอิน



ภาพตัวอย่างสาวเซอร์คัสเซียนที่มีเลือดผสมเติร์ก



ไม่แปลกเลยในประเทศทางอาหรับใต้เช่นโอมาน ภายใต้ผ้าคลุมหน้าให้เห็นแต่ดวงตาจะมีสาวอาหรับที่หน้าตาผิวพรรณงดงามเสียยิ่งกว่าสาวเซอร์คาสเซียนแท้ๆ เพราะพวกนางเหล่านี้เป็นส่วนผสมที่มีบรรพบุรุษฝ่ายพ่อทางสุลต่านอาหรับ หรือ กับ ฝ่ายแม่ฝ่ายเซอร์คาสเซียน

เชื้อสายเซอร์คัสเซียนกระจายไปในหมู่ชาวมุสลิม เติร์ก เปอร์เชีย อาหรับ และแม้อัฟริกา



ชาติพันธุ์ดั้งเดิมของเซอร์คาสเซียนไม่ใช่สลาฟรัสเซียอย่างที่สมัยนี้เข้าใจ เดิมทีเซอร์คาสเซียนนั่นเชื่อว่าเป็นชาวคอร์เคซัสสายเลือดบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นต้นตระกูลของชาวยุโรปที่ยังอาศัยอยู่ในคอร์เคซัสไม่ได้ย้ายไปไหนเช่นคอร์เคเซียนเผ่าพันธุ์อื่นและมีชาติพันธุ์ใกล้เคียงกับชาวอารยันผสมเข้ากับเคลทติก .....แต่เนื่องด้วยหลัง
คศ17โดนยึดรวมเข้ากับรัสเซีย



  "ยุคทอง" ของความงามแบบ Circassian อาจถือได้ว่าอยู่ในช่วงทศวรรษที่ 1770 เมื่อจักรวรรดิรัสเซียยึดไครเมียและตัดการค้าทาสซึ่งเพิ่มความต้องการผู้หญิง Circassian ในตะวันออกใกล้ก็เพิ่มมากขึ้น และทศวรรษที่ 1860 เมื่อรัสเซียสังหารหมู่ชาวเซอร์คัสเซียนหลายพันคนและยึดครองประเทศเซอร์คัสเซียได้สำเร็จ



ในช่วงทศวรรษที่ 1860 นักแสดง P. T. Barnum ได้จัดแสดงผู้หญิงที่เขาอ้างว่าเป็นสาวงามแบบ Circassian พวกเธอสวมผมลอนใหญ่ที่โดดเด่นซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในการวาดภาพของ Circassians ก่อนหน้านี้ แต่ในไม่ช้าก็มีนักแสดงหญิงคนอื่น ๆ ในสหรัฐอเมริกาลอกเลียนแบบซึ่งกลายเป็นที่รู้จักในนาม "สาวผมมอส" ทรงผมนี้เป็นเครื่องหมายการค้าของการจัดแสดงและทำได้โดยการสระผมของผู้หญิงด้วยเบียร์เป่าให้แห้งแล้วล้อเล่น ไม่ชัดเจนว่าทำไม Barnum จึงเลือกทรงผมนี้ อาจเป็นการอ้างอิงถึงหมวกขนสัตว์ของ Circassian มากกว่าเส้นผม นอกจากนี้ยังมีชิ้นดนตรีและบทกวีคลาสสิกของตุรกีอีกหลายชิ้นที่ยกย่องความงามของกลุ่มชาติพันธุ์ Circassian เช่น "Lepiska SaçlıÇerkes" (Circassian ผมตรงสีแฟลกซ์  คำว่า"lepiska" หมายถึงผมสีบลอนด์ยาวที่เหยียดตรงราวกับทรงผมเรียบ) ในฐานะกลุ่มชาวต่างชาติพวกนางมักจะได้รับการยกย่องในตุรกีว่าเป็นการระบุถึงลักษณะความงามแบบสาวชาวยุโรปแท้ที่มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาคอร์เคซัส