ผู้บริหารเมืองท่องเที่ยวควรเอาอย่างในต่างประเทศบ้าง

ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพวกนี้ถึงมองว่าหาบเร่แผงลอย ร้านอาหารริมทางเป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยว 
คือผมเคยไปสะพานข้ามแม่น้ำแควเมื่อนานมาแล้ว ตอนนั้นบรรยากาศก็ดูสงบดี เรียบร้อยกว่าสมัยนี้ พอมีโอกาสได้กลับไปใหม่ โห นั่นมันท่าน้ำนนท์ ท่าน้ำปากเกร็ดชัดๆ พื้นที่มีการค้าขาย หาบเร่รถเข็น ร้านอาหาร ช่วงเย็นๆ น่าจะเยอะ 

หรือชายหาดท่องเที่ยวมีชื่อของไทยก็มีระบบบริหารจัดการที่แย่มาก ปล่อยให้ผู้ประกอบการรายใหญ่รายย่อยบุกรุกพื้นที่ใช้ประโยชน์ แทนที่จะควบคุมให้สะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อยเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ใช้เต็มพื้นที่ 
ไม่รู้ว่าช่วงนี้ดีขึ้นไหมเนื่องจากโควิด19 นทท หายไปเยอะ แต่เชื่อว่าหลังจากกลับมาปรกติก็คงเห็นหาบเร่แผงลอย ร้านอาหารพวกนี้เต็มหาดอีก

นี่คือหาด Bondi Beach ออสเตรเลีย การบริหาจัดการเขาแน่นอน มีถนนคั่น ไม่มีโรงแรม ร้านอาหารประชิดติดหาด จากนั้นพื้นที่หาดคือหาดจริงๆ ไม่มีใครหน้าไหนรุกล้ำมาตั้งร้านขายอาหาร นวดเท้า เช่าห่วงยาง มีไลฟ์การ์ดดูแลตลอดประสานงานกับตำรวจ 

แล้วพื้นที่แบบนี้ถ้าเป็นเมืองไทยก็จะเป็นเอกชนสร้างรีสอร์ต คอนโดหมดครับ ไม่มีทางจะเป็นบ้านเรือนคน(แต่ก็คนรวยอ่ะนะ ดูจากทรงบ้านแล้ว) 

นอกจากนี้จะสังเกตุว่าประเทศต่างๆ จะมีเสน่ห์ของตึกรามบ้านช่องในแต่ละย่านก็จะต่างกัน ในเมืองซิตี้ใหญ่ๆ ให้อารมณ์อย่างนึงพอออกไปชานเมือง ชนบทก็จะเปลี่ยนไปอีกแบบ แต่บ้านเราในเมืองนอกเมืองชานเมืองแทบจะไม่ต่างกันยกเว้นทรงตึกและความหนาแน่น คือจะเห็นตึกแถว อาคารพาณิชย์ ไปที่ไหนขึ้นเหนือลงใต้ก็จะเจอตึกแถวอาคารพาณิชย์ มันขาดเอกลักษณ์บ่งบอกความเป็นเมือง 
อย่างถ้าเราไปอังกฤษ ลอนดอนอย่างนึง พอออกนอกเมืองก็จะอีกแบบ หรืออเมริกา เมืองในรัฐนึงก็มักจะมีเอกลักษณ์ต่างกัน เช่น ไปเดินถนนย่านนิวออร์ลีน เดินในนิวยอร์ค ชิคาโก ซานฟรานซิสโก บลาๆๆ ผมว่ามันน่าจะมีความต่างกัน
พอมาเดินในบ้านเรา กทม หาดใหญ่ เชียงใหม่ อารมณ์มันเหมือนกันหมดเลย ยกเว้นตัวเมืองเก่าภูเก็ต 
ตึกรามสถาปัตยกรรมเก่าๆ บ้านเราแทบจะไม่เหลือให้เห็น น่าเสียดายมาก 
เมืองใหญ่ๆ ในประเทศตะวันตกมักจะมีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ตกทอดมาเป็นร้อยปีให้เห็น บ้านเราจะมีแค่วัดเท่านั้นแหละ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่