Mea Kampong Trip
หมู่บ้านแม่กำปอง อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่
 
หมู่บ้านน้อยในป่าใหญ่ กลางหุบเขา กลางสายหมอก
หลายคนคงมองหาความสงบ อากาศเย็นสบาย หมอกจางท่ามกลางหุบเขา 
หวนคืนสู่ธรรมชาติ อารมณ์ Nature Is Calling Me 大自然呼唤我..

DAY-1 
คุณจะได้สัมผัสกับความรู้สึกนั้น เมื่อคุณไปตอนถูกเวลา 555555555
ทริปโซซัดโซเซ ไปแบบงงๆในช่วงวันหยุด หลังจากที่สถานการณ์ปลดล็อคเฟส 4
ทุกคนล้วนเปิดทริปแพ็คกระเป๋าพร้อมรับกับความสดชื่น หลังจากที่จมปุกอยู่ในบ้าน ในที่ทำงานเป็นเวลา หลายเดือน สุดท้ายก็ถึงเวลาคลอด...ทริป 3วัน 2คืน หมู่บ้านแม่กำปอง จังหวัดเชียงใหม่
พูดแล้วไม่รอช้าออกเดินทาง  ด้วยวิธีที่ใครๆก็ทำคือ นั่งรถทัวร์ด้วย สมบัติทัวร์เริ่มต้นด้วยราคา 823 บาท.
เราเลือกขึ้นที่วิภาวดี ชั้น Supreme เวลา 21.39น. ถึงเชียงใหม่เวลา 07.50 น. 
เบาะกว้างสบาย พร้อมอาหารหนึ่งมื้อ ณ จุดพักรถด้วย
 
พอตอนเช้าเราก็ถึงที่หมายโดยปลอดภัยที่สถานีขนส่งอาเขต จังหวัดเชียงใหม่ และเดินจากสถานีประมาณ 250 เมตร ก็จะเจอร้านเช่ารถมากมาย เราเลือกใช้บริการเช่ารถจักรยานยนต์แบบวิถีไบเกอร์เพื่อสัมผัสกับแสง แดงและลมธรรมชาติ  ด้วยฝีไม้ลายมือในการต่อรองของเราจาก 300 ลดลง สนนราคาคันละ 250 บาท/วัน 
เมื่อรถพร้อมกองทัพพร้อม ก็ลุยสู่หมู่บ้านแม่กำปองเลยยยยย หมู่บ้านแม่กำปองห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 50 กิโลโดยประมาณ ป้ายทางบอกชัดเจน ถนนลาดยางอย่างดีเดินทางสะดวกสบาย สำหรับคนที่อยากจะขับรถกินลมแบบเรา ถือว่าปลอดภัยไม่ลาดชันมากแต่อาจจะมีบางโค้งต้องระวังนิดนึง  

สำหรับที่พักครั้งนี้เราเลือกที่จะพักกับ  บ้านดินธารทอง-พอเพียงตามรอยพ่อ 
ห่างจากตัวหมู่บ้านประมาณ 2.8 กิโล  เหมาะกับใครที่ชอบบรรยากาศเงียบสงบไม่วุ่นวายสำหรับคนที่รัก ความเป็นส่วนตัว ราคาคืนละ 450 บาท/คืน/ท่าน บ้านพักแอร์ธรรมชาติ ไม่รวมอาหารเช้า  แต่ทางร้านมีคาเฟ่ อินเดอะดอยอยู่ด้านบนที่พักด้วยนะ  
  

ไหนๆก็ถึงที่คาเฟ่แล้วก็แอบเก็บภาพบรรยากาศกับวิวบนที่พักสักหน่อย วิวสวยเด็ดอย่าบอกใครเลยทีเดียว 
แถมพี่อ้อม(เจ้าของที่พัก) ใจดีเป็นกันเองสุดๆไปเลย แนะนำสถานที่เที่ยวให้เราเข้าใจง่ายเป็นอย่างดีเลย
 
หลังจากเก็บภาพสวยๆบนที่พักแล้ว สถานีต่อไปก็คือแว๊นเข้าหมู่บ้านกันเลยยยยย
อากาศก็วันนี้อบอ้าวแบบสไตล์เมืองไทยบ้านเราจริงๆนะ 555
   
ก่อนจะถึงบ้านเราก็จะผ่านร้าน ม่อนตีนตกคาเฟ่ ร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องกาแฟเวียดนาม แต่เสียดายที่เราไม่ใช่คอกาแฟเลยไม่ได้แชะภาพมาอวดเยอะ
ร้านนี้มีทั้งขนมหวานและเครื่องดื่มหลากหลายพอสมควร...
   
แต่เราเลือกที่จะกินกาแฟและน้ำหวานที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้านคือ กาแฟม่อนตีนตก และเสาวรสโซดา 
  
เมื่อเติมน้ำสดชื่นแล้ว เราก็ลุยต่อกันเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
 
คาเฟ่ต่อมา Teddu cafe เป็นร้านคาเฟ่เล็กๆ ติดลำธารและน้ำตก ตรงทางเดินมีบันไดไม้ลงไปฟิลเหมือนเดินเข้าป่าพงไพร ต้นไม้เขียวขจีดีจริงๆ  
    
 
 เราสั่งชาพีช และครัวซองค์อัลมอนด์ ใช้เวลาในการรอค่อนข้างนานทีเดียว เพราะวันที่เราไปคนค่อนข้างเยอะมาก คิวยาวทีเดียว แต่ถือว่ารสชาดดีคุ้มค่ากับการรอคอย  หลังจากชิมของหวานๆ  เราก็แวะเก็บภาพสะพานแขวนวิวเด็ดประจำร้าน ด้วยการยืนรอคิวที่นานแสนนาน และถ่ายด้วยความหวาดเสียวมุมที่มองจากด้านบนสู๊งสูง5555
   
 
สุดท้ายก็สิ้นสุดทางเดินสายคาเฟ่แบบสองร้านแบบจุกๆ ได้เวลาเข้าหมู่บ้านจริงจังๆสักที  
หลังจากที่แวะชิมของหวานน้ำหวานแบบไม่หยุดพัก  ก่อนที่ค่าน้ำตาลจะขึ้นสูง
 
 

ระหว่างการเดินทางไปยังหมู่บ้าน เราสัมผัสได้อยู่อย่างหนึ่งคือ ช่วงเวลาที่เราเลือกไปพักผ่อน ณ หมู่บ้านแม่กำปอง มีนักท่องเที่ยวอยู่สองประเภทคือ ทั้งขาจรที่แวะมาเที่ยวแบบ one day trip เพื่อกินลมชมบรรยากาศ และนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักผ่อนโฮมสเตย์กินอยู่กับคนในหมู่บ้าน เพื่อสัมผัสบรรยากาศยามเช้า และความเป็นอยู่เรียบง่าย หลังจากที่ในครึ่งปีแรกของเรา ทุกคนล้วนเจอแต่เรื่องที่ยากลำบาก ทั้งเศรษฐกิจและโรคร้ายมากมาย เมื่อถึงเวลาที่สถาการณ์กำลังจะดีขึ้น คนอย่างเราๆอยากไปยังที่ๆสุขสงบ เรียบง่าย  ไม่แปลกใจเลยที่คนจะเยอะแน่นเต็มหมู่บ้านอย่างในรูป 
  

เมื่อเดินทางถึงหมู่บ้าน กองทัพก็ต้องเดินด้วยท้อง เราไปตะลุยอาหารในหมู่บ้านกันเลย อาหารหลากหลาย ทั้งไส้อั่ว แคปหมู น้ำพริกอ่อง น้ำพริกหนุ่ม 
ไข่ปิ้ง ไก่ปิ้ง ไส้ย่าง บลาๆๆๆ  ไม่รอช้าวิ่งกระโจนเข้าร้านของกินอย่างบ้าคลั่ง 555
  
   
 
เมื่ออาหารเต็มไม้เต็มมือ ก็ได้เวลากลับไปพักผ่อน เพราะอากาศร้อนแบบไทยเดิมของเรา ทำให้เราไม่สามารถลุยต่อได้ยกธงขาวยอมแพ้และตัดสินใจกลับที่พักหลังจากที่เหนื่อยมาจากการเดินทางหลับไม่เต็มอิ่มบนรถทัวร์ 
  

 
หลังจากพักผ่อนเสร็จสรรพประมาณสี่โมงเย็น เราก็ตัดสินใจกลับเข้าไปยังหมู่บ้านอีกครั้งเพื่อเก็บภาพบรรยากาศยามเย็นของหมู่บ้านที่เราตามหาอย่างที่ใจหวัง เพื่อให้ทั้งโลกได้รู้ว่าเรามาถึงแม่กำปองแล้วววววว
  

 
หลังจากที่เราเก็บภาพมาได้สักพักก้มมาดูที่นาฬิกา ผ่านไปหกโมงกว่าแล้ว เนื่องด้วยคนเยอะมากจริงๆ เราจึงต้องอาศัยช่วงจังหวะที่คนน้อยที่สุดเพื่อเก็บภาพบรรกาศที่สุขสงบอย่างที่ใจเราคิดได้ 
และเมื่อถึงเวลาโพล้เพล้แล้ว สิ่งต่อไปที่เราจะต้องทำก็คือ เติมพลังด้วยหมูกระทะ และเบียร์เย็นๆ 
ที่ร้าน ลุงหมาน หมูจุ่มแม่กำปอง คิวก็ยังคงเยอะอีกเช่นเคย จำได้ว่ายืนรอคิวประมาณชม.นึงได้  แต่จริงๆแล้วก็สามารถสั่งกลับที่พักได้ แต่เราเลือกที่จะนั่งกินที่ร้านให้มันจบๆไป เพราะเป็นห่วงเรื่องความสะอาดของที่พักและปัญหาอื่นๆด้วย 

 
  ที่จริงเราสามารถเลือกได้ว่าจะกินเป็นหมูกระทะหรือหมูจุ่ม  เราเลือกที่จะกินหมูกระทะดังซู่ซ่าสะใจ เพราะคิดว่ามันน่าจะฟินกว่าหมูจุ่ม (เป็นความชอบส่วนตัวเลย) ทางเราสั่งแค่ชุดหมูกระทะและชุดหมูจุ่มอย่างละชุดก็อิ่มหนำสำราญสบายท้องแล้วจริงๆ
   

จบแล้วสำหรับวันแรกของการเดินทาง

มีวันต่อไปในคอมเม้นท์นะจ้ะ 

ฝากเพจการท่องเที่ยวเล็กๆของเราด้วยน้า ชื่อเพจ Sketspace
https://www.facebook.com/Panchavinin22