Flavor and fragrance ทางเครื่องสำอาง

กระทู้สนทนา
วันนี้อยากจะมาพูดต่อเรื่อง น้ำหอม ทางเครื่องสำอางซะหน่อยย 
เพราะน้ำหอมนี่เป็นศาสตร์ใหญ่ๆของทางเครื่องสำอางเลยทีเดียว
มีรายละเอียดเยอะมากกกกกกก
คนมีคามสามารถเป็น Expert แค่เฉพาะเรื่องน้ำหอมเรื่องเดียว ก็ทำเป็นอาชีพได้เลยจ้า
เรื่องน้ำหอมเรื่องเดียวมีองค์กรที่เกี่ยวข้องเยอะมาก
แต่วันนี้จะขอพูดแค่ #Fragrance กับ #Flavor นะคะ


ทุกคนน่าจะเคยได้ยินคำว่า Fragrance เป็นปกติ แต่คำว่า Flavor นี่อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไหร่
ถ้าทางเภสัชหรือทางด้านอาหารหละก็จะคุ้นเคยกับคำนี้แน่ๆ
ทั้งสองคำนี้กล่าวโดยสรุปคือ "ให้กลิ่นหอมทั้งคู่"
แตกต่างกันอย่างไร เรามาแยกประเด็นกันทีละเรื่องดีกว่า

#ด้านความหมาย
----Fragrance----
จะเน้นหนักไปในการให้กลิ่นหอม
แนวกลิ่นมีหลากหลาย Family เช่น Floral, Citrus, Woody, Powdery
แต่ในขณะที่
----Flavor----
จะเน้นให้รสชาติ ซึ่งโดยมากก็จะเหมารวมเอาทั้งกลิ่นรสไปเลย
ยกตัวอย่าง เช่น Vanilla, Shea butter, Chocolate Fruity

#ด้านการใช้งาน
----Fragrance----
ใช้กับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางหลากหลายมาก
แบ่งตามเกณฑ์ของ IFRA (International Fragrance Association) มีถึง 11 Category แต่แบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆคือ
1. Skin (ใช้กับผิว) เช่น Skincare , Hair care, Personal care
2. Non skin (ไม่ได้ใช้กับผิว) เช่น เทียนหอม, ผลิตภัIฑ์ให้ความหอมในรถ, ตามบ้าน

Fragrance ที่ใช้กับผิว ก็จะแบ่งเป็น
- Leave on (ทาแล้วทิ้งค้างไว้บนผิวไม่ล้างออก) เช่น Skin care ต่างๆทั้งหน้าและตัว รวมถึง Lip product
- Rinse off (ทาทิ้งไว้แล้วล้างออก) เช่น แชมพู สบู่

----Flavor----
ใช้ได้ทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง, ยา และอาหาร ซึ่งจะอยู่ภายใต้มาตรฐานของ FEMA (Flavourings and Extract Manufacturer's Association)
ยกตัวอย่างทีละอัน

เครื่องสำอาง -> เช่น ใช้ในสูตร Oral care product เช่น Mouth wash, Mouth spray
ยา -> มักจะเจอในยากินทั้งยาของเด็กและผู้ใหญ่ เช่น para syrup, Antibiotic suspension
อาหาร ->  ก็จะกว้างไปเลย ทั้ง อาหารคาว อาหารหวาน เครื่องดื่ม

#การใช้ในรูปแบบของกลิ่น

----Fragrance---
มี Family wheel หรือวงล้อของแนวกลิ่นชัดเจน เช่น Floral, Citrus, Woody , Powdery
แต่ไม่ใช่ว่า Fragrance จะให้แนวกลิ่นของกินไม่ได้นะ
เพราะเราก็เห็นกันตามท้องตลาดอยู่ว่า หลายๆแบรนด์ก็ออก Product แนว Gastronomia
หรือผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ให้
- Appearance (รูปลักษณ์),
- color (สี) ,
- กลิ่น (Odor)
เหมือนอาหารเลย ทั้ง ขนม/ผลไม้ต่างๆ
ยกตัวอย่าง Fragrance family เช่น Gourmand
พวก วานิลลา ช็อกโกแลต หรือตระกูล Fruity

----Flavor---
แนวกลิ่นของ Flavor ก็จะเป็น
**กลิ่นอาหาร** ซึ่งก็จะใช้กับทางอาหารเลย เช่น กลิ่นถั่ว ,นม, เนื้อ, สัตว์ปีกม ผักม อาหารทะเล
**กลิ่นผลไม้** อันนี้ก็จะใช้ได้หลากหลายหน่อยทั้งอาหารและเครื่อสำอาง เช่น ส้ม มะนาว berry , peach หรือ ถ้าทาง Fragrance ก็ตระกูล Fruity
**กลิ่นหลากหลาย** อันนี้ก็มาทางอาหารเป็นหลัก เช่น กลิ่นไวน์, พืชหอม, สมุนไพร, ดอกไม้ ซึ่งทาง Fragrance ก็จะเป็น Floral

แต่จะเห็นได้ว่าในทางกลับกันตัว Flavor เอง บางครั้งก็มีแนวกลื่นที่เหมือนกับ Family ของ Fragrance ได้
เป็นเหตุให้หลายๆครั้งเราๆทั้งหลายก็แยกไม่ออก
อันไหน Flavor อันไหน Fragrance
แต่ตรงนี้ไม่ใช่ปัญหาของผู้บริโภค
แต่เป็นความรับผิดชอบของผู้ผลิต
ที่ต้องเลือกประเภทการแต่งกลิ่นหอม
ให้ถูกต้องตามประเภทของผลิตภัณฑ์
ทำให้ถูกต้องตามกฎหมายในการระบุการใช้น้ำหอม
ส่วนเราในฐานะผู้บริโภค เราไม่ต้องกังวลตรงนี้
แค่เช็กว่าในกล่องว่าเรามีแพ้ allergen ของน้ำหอมตัวไหนใน product มั้ยแล้วก็ enjoy and have good feeling with it ก็พอค่า

#เภสัชกรรัก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่