สวัสดีค่ะ พอดีมีโอกาสได้ดูเรื่องAmerican murder หลังดูจบเราก็แอบๆซึมเลยค่ะ แบบอะไรวะ ทำไมวะ สงสาร ใครที่ยังไม่ได้ดูแต่อยากอ่านสปอย กดที่สปอยเลยค่ะ หลังจากที่ดูเรื่องนี้เราอึ้งเลยค่ะ แล้วก็ชื่นชมการทำงานของจนท.เขานะคะรวดเร็วมากในการสรุปคดี ใช้เวลาไม่กี่วัน และวิธีการกดดันของเขาที่ค่อนข้างมีจิตวิทยาพอสมควร ไม่ใช่ความรุนแรงเลย เชิงปลอบใจด้วยซ้ำเพื่อให้คนทำยอมสาภาพ ทำให้นึกถึงคดีน้องชมพู่เลยว่ามันควรจะได้เบาะแสมากกว่านี้ว่าใครสมรู้ร่วมคิดรึป่าว ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงยังไม่คืบหน้าจนป่านนี้ ทั้งๆที่ชี้ชัดแล้วว่าน้องไม่สามารถขึ้นไปเองได้
กลับมาที่หนังเรื่องนี้มันสะท้อนให้เห็นหลายๆอย่างเลยไม่ว่าจะปัญหาในครอบครัว ชีวิตคู่ มุมมองความรักของผู้หญิงและผู้ชาย การเอาใจใส่กันและกัน เหตุการณ์ในเรื่องนี้มันเริ่มพบเห็นได้บ่อยในสังคมทุกวันนี้ มันน่าเศร้าใจจริงๆค่ะ สำหรับใครที่ไม่สะดวกดูใน Netflix เห็นว่ามีเป็นการเล่าเหตุการณ์ในยูทูปก็มีค่ะของหมอตัง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เป็นเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวหนึ่งค่ะ มีลูกสาวที่น่ารัก 2 คน ภายในเรื่องจะเป็นภาพจริงทั้งหมดเป็นคลิปที่คนเป็นแม่ถ่ายความรักของลูกๆ ถ่ายการใช้ชีวิตทั่วๆไป และเป็นภาพการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ เรื่องมีอยู่ว่า วันหนึ่งจู่ๆภรรยาและลูกๆทั้ง 2 คนก็หายออกจากบ้าน ภรรยาของเขาพึ่งกลับมาจากงานสัมนา หลังจากนั้นตั้งแต่กลับมาจนเช้าเพื่อนเขาไม่สามารถติดต่อได้ เลยมาหาที่บ้าน บ้านก็เงียยเหมือนไม่มีใครอยู่ โทรถามทางสามีก็บอกว่าเมื่อเช้าก่อนไปทำงานก็ยังเห็นปกติดี จนซักพักสามีเดินทางกลับมาที่บ้าน ทุกคนพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปสำรวจภายในบ้าน ไม่พบการต่อสู้ สภาพบ้านปกติ หายไปแค่ผ้าห่ม 2 ผืน จึง ทุกคนก็ถามว่าสามีภรรย่มีปัญหาอะไรกันรึป่าว ทางสามีบอกว่าก็มีนิดหน่อย ช่วงนี้อยู่ในช่วงลองแยกกันอยู่เพื่อทบทวนความสัมพันธ์ ตอนนั้นมุ่งไปทางภรรยาหอยลูกหนี เพราะมีปัญหากับสามี ซึ่งยังไม่รู้ว่าสาเหตุของปัญกาคืออะไร เจ้าหน้าที่ก็พาตัวสามีไปสอบสวน คำแรกเลยตำรวจทักว่าคุณดูดีขึ้นนะผมเห็นจากรูปเมื่อก่อน เขาหนักถึง 111 กิโลกรัม แต่ตอนนี้เขาออกกำลังกายจนเหลือประมาณ 60-70 โลนี่แหละเราจำไม่ได้ ทางตำรวจถามว่าคุณนอกใจสามีรึป่าว เจาปฏิเสธตลอดว่าไม่ได้นอกใจ เขารักภรรยาและลูก และตอนนี้ภรรยากำลังท้องลูกคนที่ 3 ที่ภรรยาอยากมีลูกชายให้กับเขา และเขากำลังจะได้ลูกชาย สำนักข่าวของอเมริกาก็ให้ความสนใจในข่าวนี้มาก ทุกคนให้ความสนใจและเอาใจช่วยให้ภรรยาและลูกๆของเขากลับมา แต่ไม่มีใครรู้ว่าภรรยาเขาหายไปไหน ไปหาเพื่อนคนไหนรึป่าว ตำรวจเลยพาสามีไปให้ปากคำอีกครั้ง และจะให้ทดสอบกับเครื่องจับเท็จ จนท.ก็ถามว่าเขาทำให้ภรรยาหนีไปรึป่าว เขานอกใจภรรยารึป่าว เขารู้ใช่ไหมว่าภรรยาจะไม่กลับมา ถามแค่ไม่กี่คำถามก็เสร็จ จนท.ก็ให้เขานั่งรอในห้อง แล้วจะมาแจ้งผลกาทดสอบ เขาปฏิเสธทุกคำถามขณะทดสอบ จน จนท.เข้ามาแจ้งว่าผลทดสอบบ่งบอกว่าเขาพูดโกหก เขาไม่ผ่านการทดสอบ จนท.พยายามถามว่าคุณมีอะไรจะบอกเราไหม เขาเริ่มลน และพูดแต่ว่าเขาพูดความจริงไปหมดแล้ว ทางจนท.ก็พยายามพูดกดดัน ว่า ณ ตอนนี้เรายังไม่ได้โทษคุณ แต่คนที่รู้ความจริงคือคุณ คุณจะเล่าความจริงให้เราฟังได้ไหม จนท.เอารูปครอบครัวเขามาให้ดูและถามว่านี่ลูกสาวคุณใช่ไหม นี้ภรรยาคุณใช่ไหม จนท.ถามต่อทำไมคุณดูไม่มีท่าทีถึงความเสียใจต่อลูกๆของคุณ คุณไม่มีน้ำตาให้กับเธอ เขาบอกเขาเสียใจ จนท.ก็กดดันต่อ ว่าคุณแสดงให้เห็นสิ จนเขาเริ่มร้องไห้และบอกว่าเขานอกใจภรรยา เขามีคนอื่น ระยะเวลา 5 อาทิตย์ที่แยกกันอยู่โดยภรรยากลับไปอยู่กับครอบครัวที่รัฐอื่น เขาใช้ชีวิตกับผู้หญิงคนใหม่ตลอด ไปเที่ยวด้วยกันอย่างมีความสุข ผู้หญิงคนนั้นคือเพื่อนที่ทำงานของเขา หลังจากที่จนท.กดดันให้เขาเช่าถึงเหตุการณ์ต่อเขาบอกอยากเจอพ่อของเขา เมื่อจนท.พาพ่อของเขามาพ่อก็ถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขาเล่าว่าภรรยาบีบคอลูก เขาเห็นลูกๆของเขาตัวเขียวและเขาทะเลาะกัน เขาเลยบีบคอภรรยาของเขาจนเสียชีวิต พ่อเขาถึงกับมือกุมขมับว่าลูกทำแบบนี้ทำไม เขาบอกเพราะเขาโมโหและโกรธที่เห็นภรรยาทำกับลูกแบบนี้ เขาเริ่มร้องไห้และคุมสติไม่ค่อยอยู่ จนจนท.เข้ามาและสอบถามเขาเพิ่มว่าๆ คุณเอาภรรยาและลูกๆคุณไปไว้ไหน เขาบอกว่าไว้ที่ทำงานของเขา (บอกก่อน เขามีตำแหน่งช่างคุมบ่อน้ำมัน ซักอย่าง เราลืมรายละเอีย) ไซด์งานเขาจะเป็นลานโล่งๆกว้างๆเป็นทุ่งหญ้า มีดอกไม้ และมีแท็งค์น้ำมันอยู่ 2 แท็งค์ เขาบอกว่านำศพภรรยาไปฝั่งที่นั่น จนท.ถาทต่อว่าลูกๆละ ภรรยาคุณไม่ได้ทำร้ายลูกๆใช่ไหม จนท.กดดันให้เขาเล่าความจริงทั้งหมด เขาจึงเริ่มเล่าว่าภรรยาเขาสงสัยมาตลอดว่าเขามีคนอื่นเพราะจับสังเกตได้ว่าสามีปฏิบัติตัวเปลี่ยนไป แต่เขาก็ไม่เคยยอมรับ ความสัมพันธ์เริ่มสั่นคลอน จนเขาตัดสินใจลองแยกกันอยู่ ภรรยาพาลูกๆไปอยู่กับครอบครัว 5 อาทิตย์แล้วเดี๋ยวเขาจะตามไปรับทุกคนกลับบ้าน (ในเรื่องจะเห็นว่าภรรยามาบ่นกับเพื่อนเธอเสมอว่าสามีเปลี่ยนไปมา ห่างกัน 5 อาทิตย์สามีไม่แตะตัวเธอเลย เธอพร้อมจะมีเซ็กส์กับเขา แต่เขาก็ปฎิเสธ) จนพวกเขากลับมาที่บ้าน และภรรยาต้องไปสัมนาที่ต่างรัฐ 3 วัน เขาให้สามีเป็นคนดูแลลูกๆ ก่อนกลับมาจากสัมนา 1 วัน ภรรยาเช็คเห็นว่าสามีใช้เงินมากกว่าปกติ เพราะที่จริงแล้ววันนั้นสามีนัดไปกินข้าวกับชู้ และจ้างพี่เลี้ยงมาดูลูกๆ ภรรยาสงสัยและเสียใจมาก จนเมื่อเธอบินกลับมาจากงานสัมนา เพื่อนมาส่งเธอที่บ้านเวลาประมาณตี 1 เกือบตี 2 เธอเข้าไปหาสามีลูบไล้ไปที่ใบหน้า แต่เขาปฏิเสธเธอ และได้บอกความจริงไปว่ามีคนอื่น เธอโกรธมาก ทั้งคู่ทะเลาะกัน เธอบอกว่าเขาจะไม่ได้เห็นหน้าเธอและลูกๆอีก จังหวะที่เธอเดินหนีไปเขาคว้าแขนเธอไว้และฆ่าเธอ ลูกสาวเธอเข้ามาเห็นแม่นอนคว่ำหน้าที่เตียง ลูกถามว่าแม่เป็รอะไร เขาตอบว่าแมาสบายดี และเขาเอาผ้าห่มห่อร่างภรรยาเขาไว้และขนไปไว้บนรถ และเอาลูกๆขึ้นรถไปด้วยระหว่างทางไปไซด์งาน ลูกๆถามว่าแม่เป็นอะไร เขาก็ตอบว่าไม่ได้เป็นอะไร จนถึงไซด์งาน เขาเอาผ้ามาคลุมหัวลูกเขาแล้วจับโยนลงแท็งค์น้ำมัน เขาเล่าว่าเสียงของลูกยังก้องในหูตลอดว่า "พ่ออย่า อย่าทำหนู" เขาลงมือฆ่าลูกที่น่ารักทั้ง 2 คนและฝังภรรยาเขาไว้ที่นั้น หลังจากที่เขาสารภาพตำรวจเข้าจับกุมเขาไปที่ห้องขัง รอขึ้นศาล ทุกคนรวมทั้งเพื่อนบ้านต่างช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าพ่อจะลงมือฆ่าทุกคนในครอบครัวเพื่อจะไปสร้างชีวิตใหม่กับชู้ ทางด้านชู้ก็บอกว่าที่ผ่านมารับรู้ตลอดว่าเขามาครอบครัวมีลูก แต่ก็แอบแซ่บมาตลอด และไม่รู้เรื่องการฆ่ากรรมนี้ รู้แค่ว่าภรรยาพาลูกๆหนีออกจากบ้าน ทางด้านครอบครัวของเขาและครอบครัวของภรรยาต่างเสียใจต่อเหตุการณ์นี้มาก ศาลตัดสินจำคุกเขาตลอดชีวิต
ใครดู American murder ครอบครัวข้างบ้าน ของ Netflix แล้วบ้าง
กลับมาที่หนังเรื่องนี้มันสะท้อนให้เห็นหลายๆอย่างเลยไม่ว่าจะปัญหาในครอบครัว ชีวิตคู่ มุมมองความรักของผู้หญิงและผู้ชาย การเอาใจใส่กันและกัน เหตุการณ์ในเรื่องนี้มันเริ่มพบเห็นได้บ่อยในสังคมทุกวันนี้ มันน่าเศร้าใจจริงๆค่ะ สำหรับใครที่ไม่สะดวกดูใน Netflix เห็นว่ามีเป็นการเล่าเหตุการณ์ในยูทูปก็มีค่ะของหมอตัง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้