เราจะมีทางให้ carrier เปลี่ยนเครื่องปรับอากาศให้เราได้ไหมคะ เพราะเพิ่งซื้อไป วันที่ 5 ปัญหาก็ออกแล้ว

บางท่านอ่าแล้วบอกว่ามันน้ำเยอะไปหน่อย ...​จริงๆ ตอนแรกกะว่าจะเขียนระบาย แต่ภายหลังเปลี่ยนเป็นมาตั้งคำถามแทน เพราะเผื่อใครมีวิธีเปลี่ยนแอร์เครื่องใหม่ได้ ดังนั้นหากท่านใดคิดว่ายาวไป เลื่อนลงไปดู post ที่ 2 ที่มีภาพประกอบ เพื่ออาจสรุปได้เลยนะคะ (ขอโทษด้วยค่ะ ยาวไปหน่อย)

******************   version น้ำเยอะ ***********************************
เรื่องของเรื่องเกิดจากแอร์เครื่องเก่ามันไม่เย็น เรียกช่างศูนย์ฯ มาดู ช่างบอกน้ำยาแอร์รั่ว แต่หาที่รั่วไม่เจอ ช่างแก้ปัญหาให้โดยเติมน้ำยาแอร์ให้ก่อน ซึ่งก็ใช้ไปได้ประมาณ 1 เดือน จากนั้นเกิดอาการเดิมขึ้นมา แจ้งศูนย์ฯ เข้าไป ช่างมาดูให้อีก ซึ่งก็ยังหาที่รั่วไม่เจอ ก็แก้แบบเดิมคือเติมน้ำยาแอร์ให้ รอบนี้อยู่ได้ 20 วันค่ะ และเมื่อแอร์เริ่มไมเย็นอีกรอบที่ 3 ครั้งนี้ช่างเข้ามา  ซึ่งตอนนั้นในใจภาวนาขอให้เจอสาเหตุแถวๆ ท่อน้ำยา จะได้ไม่เสียตังค์เยอะ ครั้งนี้เป็นช่างคนเดิมที่เคยมาเป็นรอบแรก เค้าลองตรวจดู ปรากฎครั้งที่เจอสาเหตุแล้ว เค้าบอกว่าเป็นที่คอยล์ร้อน (ไม่แน่ใจใช้ศัพท์ผิดหรือเปล่า) อยู่ตรงคอมด้านนอก เราก็ใจเสียคิดแล้ว สงสัยค่าซ่อมคงแพงเพราะประกันอะไหล่ส่วนนี้อยู่ที่ 3 ปี แต่นี่ช่างเช็คจากใบรับประกันมันติดมา 4 ปีแล้ว ประกันหมด เลยลองถามช่างว่าค่าซ่อมประมาณเท่าไหร่ ช่างบอกว่าประกันหมดแล้วคงอยู่ประมาณ 5 พันบาท ถ้ายังอยู่ในประกัน ค่าซ่อมจะอยู่ที่ 2 พันกว่าๆ สรุปครั้งนี้ช่างเลยเติมน้ำยาแอร์ให้ใช้ไปก่อน บอกว่าคงอยู่ได้ประมาณ 1 อาทิตย์ แต่ช่างตบท้ายว่าเดี๋ยวจะดูๆ ราคาให้ (ซึ่งตรงนี้อยากจะบอกเสียใจจริงๆ ที่ไม่ได้เอะใจประโยคนี้ของช่าง)

ในใจตอนนั้นคิดว่าคงต้องถึงเวลาเปลี่ยนแอร์แล้วจริงๆ แล้วแอร์ก็ติดนานแล้วด้วย แถมตอนซื้อยังซื้อรุ่นที่มันตกรุ่นแล้วมาอีก ที่บ้านเคยบอกให้เปลี่ยนเพราะมันกินไฟ แต่ไม่อยากเสียตังค์ก็เลยยังใช้อยู่ ครั้งนี้เลยคิดว่า ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เปลี่ยนมันเลยแล้วกัน ไม่ต้องคิดมาก เพราะตอนที่แอร์มีอาการครั้งแรก ก็เริ่มหาข้อมูลแอร์ตัวใหม่แล้วว่าจะเอาอะไรดี ซึ่งหลังจากทำการค้นหาข้อมูลมาหลายที่ หลายกระทู้ เลยสรุปว่าจะซื้อ  Carrier X Inverter  ที่เค้าบอกว่าประหยัดไฟ และดี โดยเลือก 18,000 BTU เพราะห้องพื้นที่ 20 ตร.ม. (แอร์รุ่นก่อนไม่ใช่ inverter ใช้ 14,000 BTU mistubishi ธรรมดา)

เพราะตัดสินใจเลือกรุ่นได้ก็เริ่มหาร้านค้าที่ได้ราคาดี สุดท้ายเจออยู่ร้านนึง ซึ่งตอนคุยกับร้านก็พยายามถามร้านว่าถ้าติดตั้งมีปัญหาจะมาดูให้ใช่ไหม ไม่มีค่าใช้จ่ายใช่ไหม เพราะอ่านหลายกระทู้พบว่าปัญหาแอร์ บางครั้งก็มาจากการติดตั้งนี่แหละ และเราดูจากช่วงนี้ที่ทุกอย่างดูจะติดขัดไปหมด กลัวว่าอาจจะเจอเหตุการณ์นี้เหมือนกันเลยถามเผื่อไว้ ซึ่งร้านก็บอกว่าจะมาดูให้ เพราะมีประกันกับทางร้าน 6 เดือน ได้คำรับรองเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว ก็ตัดสินใจซื้อกับร้านนี้เลย (ซื้อผ่านร้านในเฟสบุ๊ก) และด้วยความที่กลัวว่าจะไม่มีแอร์ใช้ เลยรีบตัดสินใจและก็ให้เค้ามาติดในวันถัดไปเลย 

1 ต.ค. ช่างมาติดตั้งให้ ตอนติดตั้งเสร็จเอามือไปอังที่แอร์ รู้สึกว่าลมแอร์มันไม่ค่อยเย็นดังที่คิด แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะช่างบอกว่าติด inverter มันจะไม่ฉ่ำเหมือนแอร์ธรรมดานะ ต้องใช้เวลาสักพักถึงจะเย็น บวกกับไม่เคยติดมาก่อนเลยคิดว่าคงจะเป็นอย่างนั้น (วันนั้นเปิด 17 องศาเพื่อทดสอบ โดยปรับลมแอร์สูงสุด ผ่านไป 2 ชม. พอทุ่มครึ่งดูหน้าปัดที่วัดอุณหภูมิได้ห้อง เครื่องแจ้งว่า 24 องศา (จริงๆ แล้วมันคือหน้าปัดของเครื่องฟอกอากาศ ซึ่งมันบอกอุณหภูมิได้ด้วย และในห้องยังมีเครื่องวัดแบบปรอทติดไว้ ซึ่งก็แจ้งประมาณ 24 องศาเหมือนกัน) ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะก็เริ่มเย็นหน่อยแล้ว บวกกับคิดว่าคงไม่มีแอร์ที่ไหนทำความเย็นได้เท่านี้หรอก เลยเปลี่ยนเป็น 22 องศา ปรับลมแอร์ให้อยู่ที่โหมดเงียบ (queit mode) เพราะเป็นคนไม่ชอบโดนลมตอนนอน และไม่ชอบเสียงดัง ซึ่งศึกษามาแล้วว่า Carrier X Inverter เดินเบาสุดจะได้ 23 dB(A) แต่เอาเข้าจริงๆ วัดได้ 32 dB(A) ค่ะ โดยใช้ apple watch วัด (อาจจะคลาดเคลื่อนก็ได้) แต่ก็ไม่เป็นไร ถือว่าจะเงียบแบบรับได้อยู่

ตื่นเช้าขึ้นมา อุณหภูมิอยู่ที่ 24 องศา มันแบบอธิบายไม่ถูก มันเย็นไม่เหมือนกับเครื่องเก่าที่ไม่ใช่ inverter จริงๆ เครื่องเก่าปกติเปิด 24 องศานอนค่ะ อากาศยังรู้สึกเย็นฉ่ำกว่านี้มาก แต่ก็พยายามปรับทัศนคติใหม่เพราะว่า "แอร์ inverter มันไม่เหมือนกับแอร์ธรรมดา” ตามที่ได้ยินมา
 
วัดถัดๆ มา เริ่มปรับอุณหภูมิเป็น 18-22 องศา ปรับไปมาเพื่อหาจุดที่เราคิดว่าสบายที่สุด แต่ก็ยังรู้สึกว่าตอนนอนอุณหภูมิไม่คงที่ เมื่อไหร่ก็ตามที่เย็นพอ แล้วพอปรับโหมดพัดลมให้เป็น queit สักพักความเย็นจะดร็อปลง ถึงขั้นตื่นขึ้นมาอีกทีเหงื่อออกที่หลัง เริ่มคิดว่าแอร์น่าจะผิดปกตินะ ไม่ใช่เราคิดไปเองหรอกนะ ปกติแล้วแอร์มันควรที่จะทำความเย็นและคงความเย็นไว้ในอุณหภูมิที่เราตั้งไว้ไม่ใช่หรือ ทำไมอุณหภูมิมันขึ้นทุกครั้งที่เราลดพัดลมลงทุกครั้งไป ??? เวลาเอามือไปอังลมแอร์ใกล้ๆ ก็รู้สึกว่าที่ออกมาคือลม ความเย็นมันน้อยมาก ถ้าเทียบกลับเครื่องเก่าเหมือนเราปรับแอร์อยู่ที่ 26 องศา ความเย็นแบบนั้นเลย 

วันที่ 5 ต.ค. เลยเริ่มโทรหาศูนยฯ เพื่อที่จะลองติดต่อช่างสอบถามว่านี่เป็นอาการผิดปกติหรือเปล่า เพราะยังไม่อยากเรียกช่างที่ร้านให้เข้ามาดู เกรงใจเค้าอยู่ตั้งไกลจากบ้านเรา ถ้ามันไม่ผิดปกตินี่มาเสียเที่ยวสุดๆ เลยนะ ก็เลยจะลองถามเบื้องต้นเองก่อน เชื่อไหมคะโทรไปเกือบครึ่งชม. กว่าจะติดต่อถึงตัวช่างได้ ตอนแรกโทรไปคิดว่าคงติดเที่ยงไม่มีคนรับสาย ไม่เป็นไรบ่ายโทรไปใหม่ ก็ยังไม่รับ พอโอเปอเรเตอร์รับสาย ก็โอนสายไปมารอนานมากกกก สักพักโอนกลับมาบอกว่าเดี๋ยวให้เบอร์มือถือช่างแทน โทรไปหมายเลขติดต่อไม่ได้ โทรกลับไปที่ศูนย์ฯ ใหม่ เจ้าหน้าที่โอนสายให้แผนกช่างใหม่ ตอนนี้มีคนมารับแล้ว แจ้งอาการช่างบอกว่าปกติทำความเย็นได้ไม่ถึง 18 องศาหรอก ตอนติดตั้งช่างของร้านมีวัดอุณหภูมิที่หน้าแผงให้หรือเปล่าว่ามันทำความเย็นได้จริง เราก็บอกไม่มีค่ะ เค้าบอกจริงๆ ต้องทำให้ คุยสักพักสายหลุดตอนถามหมายเลขประกันเครื่อง โทรใหม่อีก รอใหม่อีก เริ่มเรื่องใหม่กับช่างคนใหม่อีก ช่างคนนี้แจ้งว่าจะทำนัดหมายเพื่อเข้ามาเช็คอาการให้ (ประเด็นเรื่องศูนย์ฯ เดี๋ยวจะเล่าเพิ่มให้ภายหลัง)

และหลังจากที่วางโทรศัพท์จากศูนย์ carrier  ก็ได้รับโทรศัพท์จากศูนย์ฯ ของแอร์เครื่องเก่า (มิซซู) บอกว่าจะเข้ามาเปลี่ยนแผงคอยล์ร้อนให้ เราก็ เอ๋..ไม่ได้ติดต่อไปนี่ เลยบอกเค้าไปว่าไม่มีใครติดต่อมาเลยนะ และตอนนี้ซื้อแอร์ใหม่แล้ว ช่างก็เลยบอกว่าไม่มีใครโทรแจ้งหรือครับ งั้นไม่เป็นไรเดี๋ยวแคนเซิลงานไปเลยนะ เราก็บอกค่ะๆ ก่อนวางเลยลองถาม ไม่ทราบคิดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเท่าไหร่คะ ช่างตอบ 2 พันกว่าๆ 3 พัน .......​ฟังดังนั้นอยากจะถอนหายใจหนักๆ ให้กับความ...ของตัวเองจริงๆ สะเพร่าจริงๆ ทำไมตอนนั้นไม่ติดต่อศูนย์ฯ เก่าถามเรื่องค่าใช้จ่ายให้ชัวร์ก่อนนะ ถ้าราคาเท่านี้เรายอมจ่ายอยู่แล้ว เรื่องอะไรต้องจ่ายเพิ่มอีก 10 เท่าเพื่อให้ได้แอร์ที่มีปัญหาแบบนี้มา ??? 

มาสุดเอาวันที่ 5 ต.ค.ตอนเย็น เมื่อปรับแอร์เป็น 18 องศา พัดลม Auto แล้วไปเข้าห้องน้ำอาบน้ำสระผมใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ออกจากห้องน้ำมา อุณหภูมิที่วัดได้คือ 28 องศา!!! แบบว่าอาบน้ำเย็นๆ ออกมา สักพักเหงื่อออกเลย เอามือไปอังที่แอร์ก็เหมือนเดิมลมเยอะ แต่ควาเย็นกลับมีน้อยมาก ฟังแล้วอาการคุ้นๆ ไหมคะ ในใจนึกถึงน้ำยาแอร์ขึ้นมาทันที ก็เครื่องเก่าเรามันก็เป็นแบบนี้ไง !!!! แต่ใจก็ยังสองจิตสองใจ หรือว่าเราอาจจะใช้แอร์ยังไม่ถูกวิธี? เค้าบอกว่าแอร์ inverter อยากได้กี่องศา ก็ให้ปรับลดลงอีกหน่อย แล้วพอเครื่องทำอุณหภูมิที่ต้องการได้แล้ว ก็ค่อยปรับขึ้นแล้วก็ปล่อยมันทำงานไปตามปกติใช่ไหมคะ นี่คือที่ได้ยินมา 

เลยติดต่อไปทางร้านค่ะ แจ้งร้านไป ร้านบอกว่าจะมาดูให้วันพรุ่งนี้ แต่ให้ลองปรับลมแอร์ดู พยายามสอนวิธีใช้รีโมทแอร์ น่าจะคิดว่าเราใช้ผิด ก็เลยปรับตามที่เค้าสอน โดยปรับพัดลมแอร์ให้เป็นเบอร์สูงสุด แล้วก็นอนแบบนั้นทั้งคืน จนกลางดึกมาปรับลมให้ลดลงเพราะรู้สึกลมเป่าหัวเกินไป สักพักตื่นขึ้นมาปรับลมแอร์แรงขึ้นอีกเพราะเหงื่อออก ตื่นเช้าขึ้นมาดูเครื่องวัดอุณหภูมิแจ้งว่า 23 องศา ไม่ใช่แล้วหรือเปล่า เราต้องปรับโหมดลมแอร์ตลอด เพื่อให้ได้อุณหภูมิที่ต้องการ นี่คือการทำงานของแอร์ inverter ??

วันที่ 6 ต.ค. ตอนเช้าร้านส่งข้อความมาถามเป็นอย่างไร เลยแจ้งไปว่ามันยังไม่ดีขึ้น เป็นเหมือนเดิม ร้านเลยให้ช่างแอร์เข้ามาเช็คให้ พอช่างมาถึงเอามือมาอังลม ก็บอกแบบที่เรารู้สึกว่าแอร์มันผิดปกติ พอไปวัดน้ำยาแอร์ปรากฏว่าเหลือ 100 เค้าบอกปกติแอร์รุ่นนี้มันจะต้องอยู่ที่ระดับ 120-150 .....​ฟังแล้วเซ็งเลย เซ็งจริงๆ ก็ที่เปลี่ยนจากเครื่องเก่ามาเป็นเครื่องใหม่ก็เพราะอาการน้ำยาแอร์รั่วไม่ใช่หรือ ช่างเลยเติมน้ำยาแอร์ให้ ตอนนี้เติมให้เป็น 135 ใจอยากจะให้ช่างเติมให้ถึง 150 ไปเลย แต่ช่างบอกว่าเติมมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว เพราะมัน 7 Amp แล้วไม่งั้นคอมจะตัด (ไม่เข้าใจ แต่ช่างบอกแบบนั้นก็ตามนั้น) ช่างบอกว่า  Carrier อาจจะเติมน้ำยามาไม่เต็ม ตอนที่ทำการทดสอบเครื่องก็เลยเป็นแบบนี้ แต่เค้าเติมให้แล้วน่าจะไม่เป็นไร ช่างยังบอกต่อว่าถ้ายังเป็นก็ให้บอกเค้านะ เดี๋ยวเค้าประสานงานติดต่อ carrier ให้ เพราะถ้าลูกค้าทั่วไปติดต่อเข้าไปมันจะช้า (นี่เป็นครั้งที่ 2 แล้วนะ ที่ได้ยินช่างพูดแบบนี้ ครั้งแรกตอนที่มาติดตั้งให้วันแรก บอกว่าหลังจาก 6 เดือนถ้าแอร์มีปัญหาก็บอกเค้า เดี๋ยวเค้าประสานงานให้เพราะลูกค้าทั่วไปมันจะช้า)

ตอนกลางคืนปรับ 22 องศา ลม AUTO สักพักอุณหภูมิเครื่องวัดได้ 22 องศา ก็เลยปรับลมเป็น quiet แล้วเข้านอน....​ครั้งนี้นอนสบาย ตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำก็ยังเห็นอุณหภูมิในห้องอยู่ที่ 23 และกลางดึกมี 22 องศาด้วย อุณหภูมิเรียกได้ว่าคงที่ทีเดียว นอนสบาย ตื่นเช้าขึ้นมาวัดได้ 23 องศา คิดในใจปัญหาคงหมดแล้วจริงๆ ต่อให้เป็น Air Inverter มันก็ต้องทำให้เย็นสิ และต้องเย็นคงที่ตามที่เราต้องการด้วย แต่เดี๋ยวก่อนสบายใจได้แค่วันเดียวค่ะ T T 

วันที่ 7 ต.ค. อาการเดิมกลับมาอีกแล้ว ปรับอุณหภูมิอยู่ที่ 22 องศาโหมด AUTO แต่เครื่องวัดอุณหภูมิ วัดได้ 25 องศา ติดต่อร้านไปกลางดึกแล้ว ให้ร้านช่วยแจ้งศูนย์ฯ​ให้เข้ามาดูให้ ตรงนี้ก็คงต้องดูกันต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร เกิดอะไรกับแอร์ใหม่ตัวนี้ เช้านี้ตื่นขึ้นมา อุณหภูมิวัดได้ 25 องศา ความเย็นหายไปหมด ร้านส่งข้อความมาว่าติดต่อศูนย์ให้แล้ว รอเค้าติดต่อมานะ 
 

กลับมาเรื่องศูนย์ฯ carrier กันบ้างค่ะ ที่วันก่อนช่างบอกว่าจะทำเรื่องนัดหมายให้...​ผ่านมา 2 วันแล้ว ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ ติดต่อเข้ามาเลย มีได้รับ SMS ค่ะ แจ้งว่าได้รับเรื่องแล้ว ให้เช็คสถานะได้ที่เว็บไซต์ ตอนนี้เช็คไป สถานะขึ้นว่า “รอคิวช่าง” 

ล่าสุดวันที่ 8 ต.ค. Carrier ยังไม่ได้ติดต่อมาหา

ตอนนี้เซ็งจริงๆ นอกจากรอ ก็ไม่รู้ต้องทำยังไงต่อ 

อยากจะบอกทุกคนจริงๆ ว่า เวลาซื้อแอร์นะ ถ้าไม่กลัวตอนเครื่องมีปัญหาจะใช้ยี่ห้ออะไรก็ใช้ไปเถอะ แต่ถ้ากลัวอนาคตที่ไม่แน่ไม่นอนให้ใช้แอร์ mitsubishi เพราะบริการเค้าดีกว่ามากจริงๆ ต่อให้โทรไปกลางดึกแค่ไหน ก็มีพนักงานรับสายไม่ต้องรอนาน โทรไปเสาร์กลางคืน วันจันทร์ 8 โมงเช้า โทรเข้ามาตามงานเลย ว่าจะนัดได้วันไหน ช่างเข้ามาดู ก็เช็คให้จริงจัง นอกจากครั้งแรกที่เสียเงินให้ไป ครั้งที่ 2,3 ช่างมาฟรี ไม่ได้คิดอะไรเพิ่มเติม เพราะถึอว่าปัญหาเดิมยังแก้ไม่หายยังอยู่ในประกันการซ่อมของเค้า
เราจะมีทางให้ทาง carrier เปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ได้ไหมคะ เพราะซื้อมายังไม่เท่าไหร่เลย (ถ้านับว่าแจ้งปัญหาไปที่ทาง carrierในวันที่ 5 ก็ยังไม่เกินกำหนดที่สินค้าทั่วไปจะคืนหรือเปลี่ยนเครื่องได้ใช่ไหมคะ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 15
ไม่รู้ว่าได้รับการแก้ปัญหาหรือยังนะครับ แต่ที่อ่านมาปัญหาเกิดจากการติดตั้งครับ น้ำยาแอร์เหลือ 100 psi แสดงว่ารั้วส่วนมากจะรั่วตรงแฟร์ข้อต่อท่อน้ำยา กรณีนี้ต้องหารอยรั่วและแว๊คคั่ม จึงค่อยเติมน้ำยาเข้าไปใหม่ เพราะถ้ารั่วตั่งแต่แรกการแว๊คคั่มถือว่าไม่มีผล ถึงแม้จะแว๊ค 1 ช.ม. ก็ตามเพราะอากาศและความชื้นก็จะเข้าอยู่เรื่อยๆ การที่ร้านเติมน้ำยาเพิ่มเข้าไปถือเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ถูกต้อง ปัญหานี้ส่วนใหญ่ศูนย์บริการจะให้ร้านที่ติดตั้งมาทำการแก้ไข ส่วนการให้บริการของศูนย์บริการส่วนนี้ก็พิจารณากันไปครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่