แชร์ประสบการณ์จัดฟันกับคลินิคชื่อดัง ด.ซ. Dental Home ขอฝากไว้ให้ได้คิด อย่าเห็นแก่โปรโมชั่นถูกเพราะอาจเจอแจ็คพ็อต

แชร์ประสบการณ์จัดฟันกับคลินิคชื่อดัง ด.ซ. Dental Home ขอฝากไว้ให้ได้คิด อย่าเห็นแก่โปรโมชั่นถูกเพราะอาจเจอแจ็คพ็อตแล้วได้หมอขาดความเชี่ยวชาญและความรับผิดชอบจรรยาบรรณ เกิดปัญหาขี้นแล้วแพทย์ขาดความรับผิดชอบที่จะแก้ไขให้หายดี ถ้าใครโชคดีไม่มีความผิดพลาดเกิดขี้นก็ดีไป ขอให้ทุกคนที่ได้อ่านตระหนักว่าฟันชุดที่ 2 ของคุณสำคัญมากอยู่กับคุณไปตลอดชีวิต ขอให้ทุกคนใช้วิจารณญาณไตร่ตรองดีๆ ในการเลือกคลินิคเลือกหมอให้ถี่ถ้วน หาข้อมูลดีๆ เพราะบางอย่างคุณทำอะไรกับฟันไปแล้วมันไม่สามารถทำให้กลับมาเป็นดังเดิมได้

บอกก่อนว่ากระทู้นี้ไม่ได้มีเจตนาให้ร้ายแก่บุคคลใดๆ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง แม้เกิดความผิดพลาดในการทำฟันเราก็ไม่ได้คิดที่จะตำหนิหรือต่อว่าแค่อยากให้รับผิดชอบด้วยการแก้ไขให้ฟันเราเหมือนเดิมแค่นั้น อยากแชร์ประสบการณ์เพื่อเป็นอุทาหรณ์กับหลายๆ คนที่กำลังมองหาคลินิคทำฟัน อาจจะยาวหน่อยเราจะขอเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขี้นทั้งหมดนะคะ

เราเห็นโฆษณาโปรโมชั่นของเว็บไชต์ดังที่รวมโปรโมชั่นเกี่ยวกับสุขภาพเด้งขี้นมา เป็นการจัดฟันแบบใส ซึ่งส่วนตัวเคยจัดฟันแบบเหล็กธรรมดามาแล้ว แต่ช่วงหลังรู้สึกว่าฟัน 2 ซี่หน้าจะออกอาการเกหน่อยๆ พอเห็นโฆษณาก็เลยคิดว่าไปจัดดีกว่าไม่แพงด้วยจัดแบบใสมองไม่เห็นและจัดไม่นาน ก็เลยซื้อโปรโมชั่นของคลินิคชื่อดังแห่งหนึ่งจากทางเว็บดังกล่าว 

คลินิคที่ตกลงทำเป็นคลินิคชื่อดัง มีสาขาหลายสาขา ทั้ง จตุจักร ประชาอุทิศ ดอนเมือง ท่าน้ำนนท์ สำโรง เซนต์หลุยส์และมีสาขาต่างจังหวัดด้วย เราเลือกเป็นสาขาบางแคซึ่งเป็นสาขาที่ตอนนั้นเพิ่งเปิดใหม่ เลือกสาขานี้เพราะใกล้บ้านเดินทางสะดวกแถมลง MRT แล้วเจอเลยอยู่หน้าสถานี 
วันที่นัดเราก็จ่ายเงินหน้าเคาเตอร์และเจ้าหน้าที่ให้ขี้นไปรอคิวที่ชั้น 2 ซึ่งเป็นบริเวณหน้าห้องตรวจห้องทำฟัน พอไปถึงก็สังเกตุว่า มีคนไข้มารอเยอะเหมือนกัน คิดว่าน่าจะมากับโปรเหมือนเรา พอพบคุณหมอซึ่งเป็นหมอผู้หญิง เราก็แจ้งรายการที่จะทำคุณหมอก็เช็ครายละเอียดและ เช็คฟันเพื่อเคลียร์ช่องปาก สรุปว่ามีฟันผุที่ต้องอุดก่อนการจัดฟัน หลักๆ เป็นฟันกราม ด้านขวาบน ซึ่งต้องอุด 2 ด้าน(ตามที่คุณหมอบอก) เราก็โอเคเริ่มทำการอุดฟันเลย คุณหมอถามว่าจะอุดแบบตะกั่วหรือแบบเนื้อฟัน แม้จะเป็นฟันกรามด้านในแต่เราก็ตัดสินใจเลือกแบบเนื้อฟันจ่ายแพงกว่านิดหน่อย ซึ่งเรามีฟันที่เคยอุดเป็นตะกั่วอยู่แล้ว 2-3 ซี่ มาถึงขั้นตอนการพิมพ์ฟัน คุณหมอดูท่าทางไม่ค่อยชำนาญเท่าไหร่เพราะเราเคยจัดฟันสองครั้ง จำได้ว่าพิมพ์ฟันทุกครั้งคุณหมอจะกดแรงๆหน่อยเพื่อให้ฟันที่พิมพ์ติดดีๆ แต่หมอท่านนี้ คือ ดูทำไม่ค่อยกดเท่าไหร่ เราก็ไม่ได้คิดอะไรคิดว่าเชื่อใจเค้า ไม่งั้นเค้าไม่จบหมอฟันมาหรอก พิมพ์เสร็จก็กลับบ้าน ก่อนกลับเจ้าหน้าที่หน้าเคาเตอร์แจ้งว่า ถ้าอุปกรณ์จัดฟันเสร็จแล้วจะแจ้งให้มารับและใส่อุปกรณ์ 

ระหว่างเดินทางกลับใกล้จะถึงบ้านแล้ว มีสายเข้าจากเจ้าหน้าที่ของคลินิคแจ้งว่าขอให้กลับมาพิมพ์ฟันอีกครั้งเพราะพิมพ์ครั้งแรกไม่ติด เราก็แบบคิดในใจเออก็ว่าอยู่ทำไม่คุณหมอไม่ค่อยกดแม่พิมพ์ให้แน่นๆ เท่าไหร่ ก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจแล้วว่าเค้าจะจัดฟันให้เราดีมั้ย แต่เราก็คือจ่ายทุกอย่างไปแล้วไง ก็เลยต้องเดินทางกลับมาที่คลินิคอีกครั้งพิมพ์ฟันอีกรอบ ตอนกลับมาครั้งที่สองของวันนั้น คุณหมอแจ้งว่า ไม่ได้พิมพ์ไม่ติดนะคะ พอดี ต้องพิมพ์อีกชุดไว้สำรองอยู่แล้ว คือเราก็ไม่ได้ตอบอะไรไปแต่ในใจคือมันฟังไม่ขี้น เพราะถ้าเค้าตั้งใจพิมพ์สำรองจริง เค้าต้องพิมพ์ตั้งแต่แรก คงไม่ปล่อยให้เรากลับบ้าน แล้วโทรตามให้เรากลับมาอีกรอบ ในใจตอนนั้นคือรู้สึกแย่มากแล้ว ก็ได้แต่ทำใจเพราะจ่ายเงินค่าจัดฟันและเคลียร์ช่องปากไปหมดแล้ว
กลับมาที่บ้านปรากฎว่าเคี้ยวข้าวดีๆ ฟันที่อุดมาแตก หลุดออกมาเป็นเศษวัสดุขาวๆ เลย เราก็ตกใจ แล้วรีบแจ้งทางคลินิค เค้าก็แจ้งมาให้มาแก้ ในใจตอนนี้คือรู้สึกแย่มากเพราะพิมพ์ฟันก็ไม่เชื่ยว อุดฟันก็ไม่เชี่ยว เรารู้สึกว่าไม่ไหว คิดว่าจะยกเลิกไม่จัดแล้ว แต่โปรโมชั่นจ่ายแล้วคืนไม่ได้ วิธีที่เราว่าเราทำได้คือขอเปลี่ยนหมอ เลยแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าขอเปลี่ยนหมอได้มั้ย เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าได้และแจ้งเพิ่มว่าต้องขอโทษด้วยพอดีว่าหมอที่พิมพ์ฟันและอุดฟันให้นั้นเป็นหมอแทนที่ไม่ได้มาประจำ พร้อมแจ้งว่างั้นจะให้คุณหมอที่เป็นเจ้าของคลินิคทำให้เลย เราโอเคทำนัดเลย

วันอุดแก้ฟัน เราก็ได้หมอ อ. หมอผู้หญิงอีกท่านซึ่งเป็นเจ้าของคลินิคมารับเคสแทน ก็อุดฟันแก้ใหม่อีกครั้งซี่เดิม และได้มีการติดอุปกรณ์จัดฟันเพราะอุปกรณ์เสร็จแล้ว ตอนแรกก็รู้สึกไม่มีปัญหาอะไร สบายใจขึ้นมาหน่อย แต่วิบากกรรมยังไม่จบ T_T เพราะตอนติดอุปกรณ์คุณหมอแจ้งว่าต้องกรอระหว่างฟันหน้า 2 ซี่นิดหน่อย ไม่เยอะ เพราะโอเคไว้วางใจ แต่ปรากฎว่ากรอร่องฟันหน้าเราเบี้ยวไป แทนที่จะเป็นช่องๆ เล็กๆ เท่าๆกันเสมอกันไปจนสุดปลายฟัน แต่ฟันซี่ซ้ายหน้าของเราด้านบนเหมือนกรอบริเวณผิวเป็นบริเวณกว้างกว่าการที่เรียกว่าร่องเล็กๆระหว่างซี่ฟันหน้า และภาพรวมร่องมันกว้าง เราแบบเสียใจมากเสียดาย เพราะฟันหน้าเราร่องระหว่างซี่ฟันมันกว้างเท่ากันอยู่แล้ว แต่เราก็ไม่ได้บอกเพราะไม่อยากต่อว่าว่าเห้ยหมอทำไม่สวย และต่อด้วยพออุดฟันครั้งนี้แล้วรู้สึกว่าเกิดอาการเสียวฟันที่ซี่นั้นและบริเวณรอบๆอีก จึงโทรไปแจ้งคลินิคว่าเกิดอาการเสียวฟันตรงที่อุดและรอบๆ ในใจคือแบบขวัญเสียแล้วอ่ะ ฟันหน้าไม่โอเค แถมฟันเสียวไม่หายแถมมันเสียวเยอะกว่าเดิมเหมือนใหญ่กว่าเดิม เราะไม่ได้คิดว่าจะต่อว่าหรือเอาผิดหมอที่เกิดข้อผิดพลาดอะไรหรือเปล่าในระหว่างขั้นตอนการอุดฟันเราไม่รู้จริงๆว่าเกิดอะไร เราแค่ต้องการให้หมอแก้ไขให้หายเสียวฟัน ไม่เสียดายเงินเลยแต่เสียใจมาก มองย้อนกลับไปน่าจะทิ้งเงินตั้งแต่หมอให้เรากลับมาพิมพ์ฟันอีกรอบแล้วไปแก้ไขที่คลินิคเดิมกับหมอคนเดิม ซึ่งคลินิคอยู่ไกลบ้านอยู่เกษตรนวมินทร์แล้วเราย้ายบ้านมาอยู่ปิ่นเกล้าแล้ว คือ ตอนนั้นคิดว่าอยากย้อนเวลามาก ตระหนักในใจว่าของบางอย่างทำอะไรลงไปแล้วมันไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม เสียใจกับฟันหน้าเรามาก และยังมาเสียวฟันอีกทรมานสุดๆ ใครที่มีอาการเสียวฟันมากน่าจะเข้าใจ

เจ้าหน้าที่ก็นัดหมอให้ให้มาดูอาการ หมอแจ้งว่าอาจอุดสูงไป จะกรอให้ แล้วก็กรอที่อุดลงอีก ทีนี้คิดว่าเรื่องเสียวฟันจะจบแล้วคือ มันไม่จบ ไม่กี่วันมันเสียวมากกว่าเดิม จนเราเคี้ยวข้าวฝั่งขวาไม่ได้เพราะเสียวฟันมาก เลยแจ้งคลินิคอีกครั้ง ก็นัดให้เข้าพบคุณหมออีก หมอรื้อฟันที่อุดแล้วแก้โดยการอุดใหม่ หมอแจ้งว่าถ้าแก้แบบนี้ไม่หายก็อาจจะต้องใช้หลายวิธีไปทีละอย่าง เช่น เปลี่ยนวัสดุที่อุดฟันทุกซี่ในช่องปากให้เป็นชนิดเดียวกันทั้งหมดจะได้มีมีปฏิกิริยาต่อกันซึ่งอาจทำให้เสียวฟันได้ หรือ การครอบฟัน หรือวิธีอื่นๆ ตอนนี้เรารู้สึกว่า เห้อคุณหมอไม่รู้สาเหตุทำไมเราเสียวฟันจากการอุดฟัน แล้วมันจะหายมั้ย และสุดท้ายมันก็ไม่หายไปหาหมออีกหมออ.ก็บอกว่าควรทำครอบฟัน หมอบอกว่าฟันคุณน่ะมันไม่โอเคแล้วคุณไม่ได้เสียวแค่ซี่ที่อุดซี่เดียว ซึ่งเราแจ้งหมอไปแล้วว่ามันไม่ได้เสียวจี๊ดจุดเดียวมันมีบริเวณรอบๆ ด้วย ไม่รู้ว่าตอนอุดฟันและกรอวัสดุมันเกิดอะไรหรือเปล่าจึงเป็นแบบนี้ คำว่าครอบฟันคือใหม่สำหรับเรามากไม่เคยทำเลยเลยบอกขอคิดดูก่อน แต่ถ้าไม่หายก็ยอมทำค่ะ คือ ถ้าแก้อะไรไม่ได้แล้วก็จะทำและไม่ได้สนใจแล้วว่าเค้าจะแก้ให้เราด้วยวิธีไหน ขอแค่ให้แก้ให้ฟันเราไม่เสียว ให้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิมก็พอ ไม่ว่าเค้าจะทำอะไรผิดพลาดเราก็ไม่ได้คิดที่จะต่อว่าขอแค่ทำให้ฟันเราหายเป็นปกติดังเดิม
ผ่านไปหลายวันคิดว่าจะดีขี้นก็ไม่มีขี้นเลย เราต้องเคี้ยวข้าวข้างเดียว ดื่มน้ำข้างเดียวเหมือนเดิม ทรมานมากเวลามีน้ำไหลผ่านฟันฝั่งขวาครั้งนี้เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเข้าพบคุณหมออีกท่านได้มั้ยเพราะหมอ อ. เข้าเดือนละครั้ง ให้รีบเข้ามาพบหมอดีกว่า เราก็ไม่ได้อะไร ก็โอเค ครั้งนี้ได้พบหมอผู้ชาย หมอก็เช็คและบอกว่าไม่พบสิ่งผิดปกติ และหมอเอ็กเรย์ฟันดูแล้วเช็คหมอบอกว่าเหมือนจะมีรอยร้าวนะแต่เล็กมาก สอบถามว่าหมอคนก่อนเคยแจ้งมั้ยก่อนการเคลียร์ช่องปาก ซึ่งหมออ. ไม่เคยแจ้ง ซึ่งเราก็ตกใจว่าฟันเราร้าวจริงหรอ คุณหมอก็สอบถามหลายๆ อย่าง เราก็แจ้งคุณหมอผู้ชายว่า หมอ อ. บอกว่าต้องลองแก้ไปทีละอย่าง อาจจะต้องเปลี่ยนการอุดฟันซี่อื่นที่เคยอุดอันที่เป็นตะกัวมาเป็นแบบเนื้อฟัน หรือ เปลี่ยนทุกซี่ให้เป็นตะกั่วหมดเลย คุณหมอผู้ชายแย้งว่าไม่น่าจะต้องแก้โดยวิธีอุดชนิดเดียวกันเพราะการทำแบบนั้นจะทำให้กรณีที่ว่าวัสดุที่ใช้อุดเป็นโ่ลหะต่างชนิดกัน เคสของเราไม่ใช่โลหะต่างชนิดกันแต่เป็นโลหะตะกั่วกับวัสดุที่เป็นของแข็งสีขาวซึ่งไม่ใช่โลหะ ในใจเราคิดว่าโดนแล้ว ทุกอย่างไม่ได้เป็นไปดังหวังเลย เหมือนหมออ. ก็ไม่ได้เชี่ยวชาญเหมือนกับหมอคนแรกอีก ความรู้สึกโคตรแย่ คิดว่าไม่น่ามาทำเลย เหมือนหมอผู้ชายไม่กล้าแก้ไขอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอันเพราะอาจมาดูแลแทน ครั้งนี้หมอจึงใส่ยาแก้เสียวให้ และให้ดูอาการถ้ามีการเสียวฟันอยู่ให้อัพเดทมาทางคลินิคและพบหมอเดิม

ไม่พอไปต่อในความคิดเห็นนะคะ >>>
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่