คณะแพทย์ของ ปธน. ทรัมป์ เปิดเผยว่าพวกเขาได้เริ่มใช้ยา dexamethasone ซึ่งเป็นยาประเภทสเตอรอยด์ ในการรักษาอาการของผู้นำสหรัฐฯ โดยยาตัวนี้สามารถช่วยรักษาได้ผลสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการหนักจาก Covid-19 แต่อาจสร้างปัญหาผลข้างเคียงสำหรับคนไข้ที่มีอาการเบาไม่รุนแรง
การเปิดเผยเรื่องนี้มีขึ้นพร้อมๆกับการแถลงความคืบหน้าของอาการของทรัมป์ที่แพทย์พยายามจะชี้ให้เห็นภาพของสภาพที่ดีขึ้นของผู้นำสหรัฐฯ วัย 74 ปีที่ติดเชื้อไวรัสที่ได้คร่าชีวิตชาวอเมริกันไปแล้วกว่า 200,000 คน
นพ. เนอิด บาห์เดเลีย ผู้เชี่ยว ชาญโรคระบาดของมหาวิทยาลัยแพทย์ที่เมืองบอสตัน กล่าวว่าการตัดสินใจใช้สเตอรอยด์สะท้อนว่าทรัมป์มีปัญหาอาการอักเสพในระดับที่ต้องใช้ยาชนิดนี้ ถึงแม้มันจะกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
เธอเผยกับ CNBC ทางอีเมลล์ว่าการที่แพทย์ตัดสินใจเช่นนี้ชี้ว่าผลดีของการใช้สเตอรอยด์คงจะมีมากกว่าความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่อาจมี ซึ่งบ่งชี้ว่าอาการของทรัมป์อาจรุนแรงกว่าที่คนทั่วไปได้รับทราบในวันศุกร์และวันเสาร์
นพ. วิน คุปตา แพทย์ที่มหาวิทยาลัยวอชิงตันกล่าวว่าข้อมูลที่เปิดเผยโดยคณะแพทย์ของทรัมป์ชี้ว่า ทรัมป์อาจมีอาการโรคปอดบวมอย่างน้อยในระดับเบาไม่รุนแรง
นพ. ชอน คอนเลย์ แพทย์ประจำตัวของทรัมป์ แถลงที่ศูนย์การแพทย์วอลเตอรีดว่า การใช้ยาประเภทสเตอรอยด์มีขึ้นหลังจากที่ทรัมป์มีระดับอ๊อกซิเจนในเส้นเลือดลดลงต่ำกว่าเกณฑ์ปกติทั่วไป 2 ครั้งในช่วงวันศุกร์และวันเสาร์
แต่นายแพทย์ผู้นี้กล่าวว่า ความตั้งใจเดิมของทรัมป์ที่อาจจะขอออกจากโรงพยาบาลในวันจันทร์ (เวลาสหรัฐ) ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
แต่ นพ. บาห์เดเลีย เตือนว่าโดยปกติ คนไข้ที่เพิ่งได้รับการรักษาด้วยสเตอรอยด์ไม่ควรรีบออกจากโรงพยาบาลเร็วเกินไป
นอกจากนั้น สื่อต่างๆในสหรัฐได้วิพากษ์วิจารณ์การที่ทรัมป์ตัดสินใจนั่งรถ SUV ออกมานอกตัวตึกโรงพยาบาลเพียงเพื่อโบกไม้โบกมือกับประชาชนที่มาสนับสนุนให้กำลังใจ
สื่อหลายสำนักกล่าวว่าการทำเช่นนั้นอาจทำให้ จนท. รักษาความปลอดภัยของเขาต้องเสี่ยงติดเชื้อจากเขา ถึงแม้พวกเขาจะสวมใส่ชุดและอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้ออย่างรัดกุมเพียงไร
Cred. ข่าว CNBC ภาพ White House, AP
ถามจริง คิดว่าทรัมป์ ปั่นข่าว ปั่นหุ้นไหม ส่วนตัวไม่เชื่อ ... เด้งก็ขาย เพราะ ระเบิดเวลาที่จะมาไม่สามารถแก้ด้วยวัคซีนได้
การเปิดเผยเรื่องนี้มีขึ้นพร้อมๆกับการแถลงความคืบหน้าของอาการของทรัมป์ที่แพทย์พยายามจะชี้ให้เห็นภาพของสภาพที่ดีขึ้นของผู้นำสหรัฐฯ วัย 74 ปีที่ติดเชื้อไวรัสที่ได้คร่าชีวิตชาวอเมริกันไปแล้วกว่า 200,000 คน
นพ. เนอิด บาห์เดเลีย ผู้เชี่ยว ชาญโรคระบาดของมหาวิทยาลัยแพทย์ที่เมืองบอสตัน กล่าวว่าการตัดสินใจใช้สเตอรอยด์สะท้อนว่าทรัมป์มีปัญหาอาการอักเสพในระดับที่ต้องใช้ยาชนิดนี้ ถึงแม้มันจะกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
เธอเผยกับ CNBC ทางอีเมลล์ว่าการที่แพทย์ตัดสินใจเช่นนี้ชี้ว่าผลดีของการใช้สเตอรอยด์คงจะมีมากกว่าความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่อาจมี ซึ่งบ่งชี้ว่าอาการของทรัมป์อาจรุนแรงกว่าที่คนทั่วไปได้รับทราบในวันศุกร์และวันเสาร์
นพ. วิน คุปตา แพทย์ที่มหาวิทยาลัยวอชิงตันกล่าวว่าข้อมูลที่เปิดเผยโดยคณะแพทย์ของทรัมป์ชี้ว่า ทรัมป์อาจมีอาการโรคปอดบวมอย่างน้อยในระดับเบาไม่รุนแรง
นพ. ชอน คอนเลย์ แพทย์ประจำตัวของทรัมป์ แถลงที่ศูนย์การแพทย์วอลเตอรีดว่า การใช้ยาประเภทสเตอรอยด์มีขึ้นหลังจากที่ทรัมป์มีระดับอ๊อกซิเจนในเส้นเลือดลดลงต่ำกว่าเกณฑ์ปกติทั่วไป 2 ครั้งในช่วงวันศุกร์และวันเสาร์
แต่นายแพทย์ผู้นี้กล่าวว่า ความตั้งใจเดิมของทรัมป์ที่อาจจะขอออกจากโรงพยาบาลในวันจันทร์ (เวลาสหรัฐ) ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
แต่ นพ. บาห์เดเลีย เตือนว่าโดยปกติ คนไข้ที่เพิ่งได้รับการรักษาด้วยสเตอรอยด์ไม่ควรรีบออกจากโรงพยาบาลเร็วเกินไป
นอกจากนั้น สื่อต่างๆในสหรัฐได้วิพากษ์วิจารณ์การที่ทรัมป์ตัดสินใจนั่งรถ SUV ออกมานอกตัวตึกโรงพยาบาลเพียงเพื่อโบกไม้โบกมือกับประชาชนที่มาสนับสนุนให้กำลังใจ
สื่อหลายสำนักกล่าวว่าการทำเช่นนั้นอาจทำให้ จนท. รักษาความปลอดภัยของเขาต้องเสี่ยงติดเชื้อจากเขา ถึงแม้พวกเขาจะสวมใส่ชุดและอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้ออย่างรัดกุมเพียงไร
Cred. ข่าว CNBC ภาพ White House, AP