ถุงมือเรื่องสั้น เรื่องที่ 4 ประจำสัปดาห์นี้ เป็นแนวเสียดสีสังคม (มั้ง) ครับ ^^
เมื่อเพื่อนผู้อู้ฟู่หะรูหะรามากบารมีในสังคม ความร่ำรวยไม่ต้องพูดถึง นัดพบกับเพื่อนเก่าแต่เก๋าแม้จะต่ำต้อยกว่าในงานแต่งของลูกชายอันสุดวิลิศมาหราเต็มไปด้วยชนชั้นไฮโซ เพื่อน "โดมผู้อหังการ" ก็ตอบรับและไปจริงๆ ไม่สนว่าตนจะต่ำต้อยเพียงใด เมิงกล้าชวนกูก็กล้าไป เอาสิวะ!
ท่าทางจะสนุกครับ ตามไปดูกันต่อว่าจะเป็นอย่างไรต่อครับผม คัมม่อน! ^^ 
ผมพิมพ์ข้อความทางไลน์ ก่อนสบถส่งท้าย ในความสนิทสนม ผมสมน้ำหน้าความรวยของมัน แต่ยกย่องน้ำมิตร
"แล้วกรูจะเอาอะไรใส่ซองให้เมิงวะ" ผมมองจิ้งจกบนฝาเชิงปรึกษาในอารมณ์ยากจนพอกัน
"ก็เงินค่าขายผลไม้ในสวนไง" จิ้งจกเปล่าตอบ ผมตอบของผมเอง
เสียงรถแมงกะไซพ่วงข้างของผมดังสนั่น บนความขรุขระของผิวถนนยางมะตอย ผมก่นเรียกหาบรรพบุรุษพวกโกงกิน แต่ไม่สนควันดำของรถ จะดำจะขาวมันก็โลกร้อนครือกัน ใครจะแคร์รอยซ่นตีนคาร์บอน ขนาดไอ้โดนัลด์ ดั๊ก มันยังไม่ใส่ใจ แล้วมันธุระกงการอะไรของกรูวะ
"ขอให้ธารน้ำแข็งละลายท่วมบ้านมัน" ผมสบถขณะขี่ไอ้แก่เข้าเมือง
รายการธุระวันนี้
ส่งผลไม้ รับเงินสดมา สังกะสีสี่แผ่น ตะปูหนึ่งถุง ปุ๋ยสองกระสอบ วงเล็บไม่ต้องเปิด สูตรเสมอตราสัตว์อะไรก็ได้ ยี่ห้อไหนแหม้งก็ไม่พ้นของเจ้าสัวกลุ่มเดิม แต่ระวังปุ๋ยปลอม แวะห้างเจ้าสัวริมถนน เมิงชอบร้านอักษรหรือตัวเลขก็ตามสะดวก ซื้อยาขัดรองเท้ากับถุงตีนสีดำ ยาชูกำลังสองโหล ตราควายหรือโคก็ตามใจถ้าไม่เชื่อมั่นความยุติธรรม อย่าดันลืมกระดาษเช็ดตูดอย่างถูกหนึ่งโหล ไปเช่าสูทหล่อ ๆ จะเลือกหูกระต่ายหรือเนกไทไว้ถามกระจกในร้าน ลองทักซิโด้เล่น ๆ เพื่อวัดความโก้ฝังลึก ซ่อมนาฬิกาไขลานสมบัติตกทอดจากปู่ไว้อวดรวย สุดท้ายจองตั๋วรถไฟไปกรุงเทพฯ ไอ้สุดท้ายนี้เมิงเอาไปขึ้นต้นเลย เดี๋ยวตั๋วหมด รถทัวร์ไม่เอากรูกลัวตาย
"ให้ตาย โพยบ้าอะไรวะ ยาวโคตร ๆ" ผมหรี่ตาดูแล้วสบถตามสันดอนเดิม เปล่าเคลิ้มเมรัย ดื่มไม่ขับเดี๋ยวกลับไปเมาอุดหนุนเสี่ยที่บ้าน กรมการสุราเป็นพยาน
"เมิงไม่รังเกียจแน่นะ ไปงานให้เสียศักดิ์ศรีความจนทำไมวะ หรือเมิงอยากไปหัวเราะเยาะความรวย" จิ้งจกไม่ได้ถาม ผมถามตัวเองอย่างหยิ่งยโส
ลมหนาวมาแล้ว มาตอนต้นพอยอ ลาก่อนเดือนตอคอ เดือนที่ผอบอทอบอเปลี่ยนผ่านไปแต่ธำรงศักดิ์ศรีไว้ใต้สัตยาบันเดิม ส่วนคนตอคอกลับร่อยหรออุดมการณ์เหลือไม่กี่หยดคาก้นขวด บ้างลืมอดีตผอกอคออยู่รับใช้นายทุนอย่างสอบอมอยอหอ บ้างก็ซอตอพอขึ้นรถเฮียปอเต็กตึ๊งลาไปปรโลก
"สัญญาต้องเป็นสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน" ผมครวญเพลงมั่ว ๆ อย่างฉุนเฉียว การเมืองหรือการจากบ้านสวนสองสามวันไม่ได้ทำให้เครียด ผมลืมซื้อยางรัดผม ใส่สูทปล่อยผมยาวประบ่าน่าละอายพอ ๆ กับการฉีกบัตรเลือกตั้ง
"รถไฟจะไปโคราช ตดป้าด ๆ ถึงราชบุรี ตดอีกทีถึงที่พอเหมาะ ตดเบาะ ๆ หงายหลังแตกโป้ง" ท่องเพลงวัยเด็กปลอบใจตัวเอง ระหว่างนั่งรถไฟพาคนจนไปหยามเศรษฐีถึงถิ่น เปล่าฆ่าเวลาที่โคตรหวงแหน แต่หงุดหงิดนอนไม่หลับ
"กล่อมยังไงก็ไม่หลับ" สมองบอกหัวใจคึกคักของผม สาบาน ผมไม่ได้ตื่นเต้น แต่ฟาดยาชูกำลังคูณสองขณะเติมรัมไทยเข้ากระแสเลือดก่อนขึ้นรถไฟ
"ขอคารวะหัวลำโพง ชุมทางคนจร" จิตสำนึกร่ำร้อง มันเป็นต้นทางส่งผมกลับบ้านหลังจากเรียนจบมอปลายแต่ไม่ยอมจบมหาลัย ควรรู้สึกอบอุ่นเหมือนทุกครั้งที่มาถึง แต่คราวนี้กลับทะลึ่งหนาว
ผมแบกเป้แขวนถุงใส่สูทห้อยต่องแต่งเดินผ่านฝูงชนบนม้านั่ง นาฬิกาเรือนโตบอกเวลาหกโมงเช้า กลิ่นห้องส้วมสถานีและสาบเหงื่อคนจรปลุกผมจากอาการเมาค้าง
โรงแรมจิ้งหรีดแถวหัวลำโพงราคาเรือนร้อย เรียกใหม่ให้เพราะว่าเกสต์เฮ้าส์ ป้ายยินดีต้อนรับภาษาฝรั่งจีนยุ่นหลีอีแขกสะดุดตา กรูไม่ใช่ต่างด้าวเมิงจะรับไหม ผมไม่อยากถามแต่อยากนอน
07:00 จ่ายค่ามัดจำ นั่งรอ รับกุญแจ
08:00 นอนซิครับ รอไร
14:00 บลั้นช์ เมนู ปังไส้หมูหยอง 2 น้ำผลไม้ 1 กาแฟป๋อง 1 บริการตัวเองจากร้านโชห่วยมหาเศรษฐีสูบตังค์ยาจก
15:00 อาบน้ำ ถูขี้ไคล สระผม ผิวปากเพลง
วินด์ ออฟ เช้นจ์ ของวงแมงป่อง
16:00 เป่าผม เช็ดตัว ตบแต่งหนวดเครา หวีผม รวบผมมัดหนังยางสีดำ นุ่งกางเกงใน นั่งดูข่าว บีบีซี ซีเอ็นเอ็น ขัดรองเท้า
17:00 ใส่เชิ้ตขาว ผูกเนกไท นุ่งกางเกง ใส่ถุงหุ้มตีนอันใหม่ เอาตังค์ใส่ซอง เท่าไรไม่อยากบอก
17:30 หอบเสื้อสูท เรียกแท็กซี่ไป โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล สี่พระยา ครวญเพลง
ว็อท อะ วันเด้อร์ฟูล เวิอร์ลด์
"เพลงอะไรครับพี่ เพราะดี" แท็กซี่ดันถามขัดจังหวะอารมณ์ติส
"เพราะรุ่นพ่อมั้ง คนดำร้อง โลกสวย" ผมตอบเฉย ๆ เปล่าแขวะเด็กนักเรียนนักศึกษาหรือนักการเมืองละอ่อน และแน่นอนไม่เหยียดผิว เพราะกรูก็ดำแล้วทะลึ่งจนเหมือนกัน
"พี่ชอบนายกไหม"
ถามทำไมวะ ไอ้แท็กซี่ แล้วเมิงจะให้กรูจะตอบยังไงดี
"หา ใครนะ เออ ไม่รู้สิ ก็อย่างว่านะ เฮ่อ ๆ"
กรูเป็นกลางไว้ก่อน เมิงอยู่ฝั่งไหนกรูจะรู้ไหมนี่
"พี่ไปทำอะไรที่โอเรียนเต็ล"
"ไปงานแต่งลูกเพื่อน" คนบ้านนอกบอกตรงตามนิสัย
"คงรวยนะ"
"แน่นอน งานไฮโซ" ไม่มีเงินสักร่วมล้านไปวางล่วงหน้า อย่าหวังไปเสนอหน้าจัดงาน
ทนรำคาญคุยเรื่องเน่า ๆ สะกิดต่อมประเทศกรูมีร่วมครึ่งชั่วโมงกับแท็กซี่ ก็รถมันติด จ่ายตังค์ค่ารถติดตรงปากซอยก่อนเข้าโรงแรม เดินหล่อ ๆ ตรงไปยังล็อบบี้โรงแรม ใครจะรู้ว่ากรูมาแท็กซี่ไม่ได้ขี่เมอร์เซเดสมา
"ว็อท แคน ไอ ดู ฟอร์ ยู" เวทเตอร์หน้าประตูถามผมอย่างสุภาพ ใส่สูทหล่อเท่แต่ดันคล้ายกับสูทของผม
"มางานแต่งลูกท่านประธาน ห้องรอแยล บอลรูม" ผมตอบห้วน ๆ พร้อมตีหน้าขรึมอกผายไหล่ผึ่ง เหลือบมองไปทั่ว ๆ อย่างเย่อหยิ่ง แสงแวววาวของโคมไฟช่อระย้าหรูเหนือแจกันดอกไม้ขนาดใหญ่กลางโถงแยงตา ที่บ้านไม่มี แต่ถึงมีกรูก็ไม่เปิดให้เปลืองไฟ
"เชิญขึ้นบันไดครับท่าน ชั้นสองขวามือเป็นทางเข้างาน ส่วนห้องอยู่ซ้ายมือเมื่อผ่านโถงทางเดินไปครับ" นิสัยดี อัธยาศัยแจ่ม ผมชื่นชอบ
ผมยังไม่เข้างาน ขอเดินเตร่ชมสิ่งแวดล้อมคลาสสิกหรูหราที่หน้าล็อบบี้ อยากสำรวจโรงแรมหมายเลขหนึ่งของไทยและหมายเลขตัวเดียวในระดับโลก ทำทีว่ารอเพื่อนสักชั่วครู่ แอบเงี่ยหูฟังพวกไฮโซคุยกัน
"น้อง ห้องรอแยล บอลรูมไปทางไหน" อดีตบิ๊กในสภาท่านหนึ่งเดินตรงเข้ามาถาม คงคิดว่าผมเป็นเวทเตอร์โรงแรม ผมจำเขาได้แม่น อภิปรายขลุกขลักเหมือนท่องมาไม่เสร็จ ติดเอ้อ ๆ อ้า ๆ เหมือนติดอ่างอาบนวด แต่วันนี้ไม่ยักติดอ่าง
"ซอร์หรี่ ไอ โด้นท์ อันเด่อร์สแต้น พลี้ส อาศ์ค เดอะ เวทเด่อร์ โอ้เหว่อร์ แดร์" ผมฉุนกึก ตอบออกไปด้วยสำเนียงอเมริกันเร็วปรื๋อ พร้อมทำหน้าเข้มแบบสิงคโปเรี่ยน
"ซอรี่ ซอรี่" บิ๊กท่านนั้นออกอาการหน้าแตก ขอโทษขอโพยผมเป็นภาษาฝรั่งแบบไทย ๆ และผมรู้แน่นอนว่าท่านต้องอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยแบบไทย ๆ ก็ไม่ว่ากัน ยกโทษให้แต่ไม่มีโพยแจกว่ะ
"ขำไหม" ผมถามตัวเอง ขำปนฉุนเป็นคำตอบ นี่กรูหล่อเท่าบ๋อยเลยหรือวะ ตัดสินใจขึ้นบันไดไปชั้นสองดีกว่ารอหน้าแตกอีกเที่ยว
สารพัดดอกไม้สดสีขาวแซมเหลืองเหมือนยกมาทั้งสวนประดับยาวตั้งแต่หน้าบันไดยันห้องชักภาพ ผมวางมาดท่ามกลางแสงไฟแฟลช แวะไปยืนเรียงคิวรอถ่ายรูปกับบ่าวสาวพร้อมครอบครัวไฮโซที่มาในงาน ยิ้มอย่างเท่เป็นใบเบิกทาง ทำเนียนไปกระทบไหล่นายแบงก์ชื่อดัง โอภาปราศรัยยกหางแบงก์ที่กำลังจะเจอกับมรสุมเศรษฐกิจอย่างจังในไม่ช้า
พ่อเจ้าบ่าวโผล่หน้าแทรกฝูงไฮโซออกมาพร้อมกับภรรยา เดินตรงมาจับมือผมไว้มั่น ไอ้บูดมันทักผมก่อนทักนายแบงก์เว้ย
"ไอ้เกลี้ยง เมิงมาได้จริง ๆ ด้วย นี่เธอ นี่ไงไอ้เกลี้ยง เฮ้ยโทษที
ไอ้คุณชาติชาย เพื่อนรักสมัยนักเรียนนักศึกษา คุณรู้ไหม หกตุลาผมรอดมาได้ก็เพราะมันพาผมว่ายน้ำลอยคอไปขึ้นเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่งั้นคงดับคาธรรมศาสตร์ไปแล้ว เด็กบ้านนอกว่ายน้ำแข็งมาก ยินดีนะเพื่อนที่มาจนได้" ไอ้ท่านประธานมันทะลึ่งสวมกอดผมต่อหน้านายแบงก์และเหล่าไฮโซ ช่างภาพนักข่าวรีบถ่ายรูปกันให้พรึบ
พรุ่งนี้ภาพผมกอดกับไอ้บูดอาจได้ลงหนังสือพิมพ์หน้าข่าวสังคม โดยมีนายแบงก์ นักการเมือง และเหล่าไฮโซเป็นไม้ประดับ
"บูด กรูก็คิดถึงเมิงเป็นเหมือนกันนะโว้ย" ผมกระซิบเบา ๆ ข้างหูมัน แต่ไม่ได้บอกมันว่าแผงสร้อยเพขรบนคอเมียเมิงแสบตากว่าโคมระย้าในล็อบบี้
"ไปถ่ายรูปกันเพื่อน ที่รักคนนี้เพื่อนรักเลยนะ ถ้าเขาไม่มาผมคงเสียใจแย่ ท่านอื่น ๆ เชิญตามสบายเลยครับ ขอบคุณมากที่ให้เกียรติมาในงาน" ให้ตาย ไอ้บูดยกหางผมต่อหน้าเมียและชนชั้นสูง ต่อมาแจงสรรพคุณของผมให้บ่าวสาวและโคตรทั้งสองฝ่ายทราบ
ผมเดินเข้าห้องรอแยล บอลรูม จะดูแสนอลังการหรือเปล่าแล้วแต่ใจคิด มันเป็นห้องทรงหลุยส์สีขาวแต่งลวดลายเถาทอง ประตูกระจกหลายบาน ฝ้าเพดานเป็นบัวลดชั้น แขวนโคมระย้าเป็นระยะ ฝาผนังด้านหลังวาดรูปวิวแบบปูนเปียกเต็มพื้นที่ ทั้งห้องจุคนได้หลายร้อย เวทีอยู่อีกด้าน พื้นปูพรมสีเหลืองขลิบทอง กลางห้องตั้งโต๊ะขนาดใหญ่วางเค้กแต่งงานก้อนมหึมา หรูไม่หรูราคาค่างวดงานนี้เป็นเลขเจ็ดหลักขึ้น
แขกมากันเพียบ ผมสบตายิ้มหวานค้อมศีรษะเล็กน้อยให้ท่านอดีตรัฐมนตรีและภริยา เดินเฉียดนายพลและมหาเศรษฐีพร้อมคำทักทาย พอท่านประธานในพิธีมาถึงแขกแหวกทางให้ท่านไปนั่งที่โต๊ะด้านหน้า ทั้งงานมีสามโต๊ะนั่งที่เหลือเชิญยืนร่วมรับประทานตามอัธยาศัย แต่ผมยืนกินอย่างเสียนิสัยคือชิมมันทุกอย่างที่ขวางหน้าบนโต๊ะอาหารริมห้อง
อาหารเป็นแบบค็อกเทล ไม่อิ่มแต่เมาพอได้ ผมฟันธง จานเล็กอาหารชิ้นยืนกินบนโต๊ะสูง ผมวนเวียนไปแฮฟสี่ห้ารอบสำหรับอาหารคาวและหวาน ส่วนรอบสุดท้ายเป็นผลไม้ ชื่อชั้นโรงแรมบ่งบอกถึงคุณภาพอาหารอยู่แล้ว บริกรชายหญิงเดินเสิร์ฟสารพัดเครื่องดื่มกันให้ควั่ก
แน่นอน ผมกวักมือเรียกบริกรหยิบไวน์มาแกล้มอยู่หลายเที่ยว เจ้าของงานเพื่อนผมรสนิยมไม่เลว จัดเต็มทั้งไวน์ขาว ไวน์แดง และแชมเปญ ล้วนแล้วแต่มีระดับ อย่าดูถูกไอ้บ้านนอกอย่างผม จมูกคอเสี่ยว ๆ อย่างนี้นี่ผ่านไวน์เทสติ้งมาไม่น้อยสมัยเรียนสายอาชีพ
พิธีการฉลองสมรสผ่านไปอย่างเวิ่นเว้อเว่อวัง ผมเดินกระทบไหล่คนดังจนเบื่อ ตีบทแตกกับงานแนวนี้ การเมือง สังคม เศรษฐกิจ กีฬา กอสซิป ดารา เลือกเอามาคุยได้เลยตามลำดับหน้าหนังสือพิมพ์
ขออย่างเดียวอย่าให้เขารู้ได้ว่าคุณคือ ไอ้ตูดบ้านนอก
สำหรับผมยิ่งเมาก็ยิ่งเนียน ผมใจใหญ่คุยได้กับทั้งนักการเมือง นักการทหาร มหาเศรษฐี แม้ว่าทั้งเนื้อทั้งตัวผมมีของมีค่าอยู่สิ่งเดียว คือ นาฬิกาทองเคแนววินเทจ นอกนั้นไม่เช่าก็ยืมมา ผมยืนระยะจนงานจวนเลิก
(มีต่อครับ) ^^
😁✌️😎 THE GLOVES 2020 ถุงมือเรื่องสั้น#55 Week#15, 5 - 9 ตุลาคม "สิ้นไร้ไม้ตอก" - ถุงมือ กูก็เป็นของกูแบบเนี้ยะ 😁✌️😎
เมื่อเพื่อนผู้อู้ฟู่หะรูหะรามากบารมีในสังคม ความร่ำรวยไม่ต้องพูดถึง นัดพบกับเพื่อนเก่าแต่เก๋าแม้จะต่ำต้อยกว่าในงานแต่งของลูกชายอันสุดวิลิศมาหราเต็มไปด้วยชนชั้นไฮโซ เพื่อน "โดมผู้อหังการ" ก็ตอบรับและไปจริงๆ ไม่สนว่าตนจะต่ำต้อยเพียงใด เมิงกล้าชวนกูก็กล้าไป เอาสิวะ!
ท่าทางจะสนุกครับ ตามไปดูกันต่อว่าจะเป็นอย่างไรต่อครับผม คัมม่อน! ^^
ผมพิมพ์ข้อความทางไลน์ ก่อนสบถส่งท้าย ในความสนิทสนม ผมสมน้ำหน้าความรวยของมัน แต่ยกย่องน้ำมิตร
"แล้วกรูจะเอาอะไรใส่ซองให้เมิงวะ" ผมมองจิ้งจกบนฝาเชิงปรึกษาในอารมณ์ยากจนพอกัน
"ก็เงินค่าขายผลไม้ในสวนไง" จิ้งจกเปล่าตอบ ผมตอบของผมเอง
เสียงรถแมงกะไซพ่วงข้างของผมดังสนั่น บนความขรุขระของผิวถนนยางมะตอย ผมก่นเรียกหาบรรพบุรุษพวกโกงกิน แต่ไม่สนควันดำของรถ จะดำจะขาวมันก็โลกร้อนครือกัน ใครจะแคร์รอยซ่นตีนคาร์บอน ขนาดไอ้โดนัลด์ ดั๊ก มันยังไม่ใส่ใจ แล้วมันธุระกงการอะไรของกรูวะ
"ขอให้ธารน้ำแข็งละลายท่วมบ้านมัน" ผมสบถขณะขี่ไอ้แก่เข้าเมือง
รายการธุระวันนี้
ส่งผลไม้ รับเงินสดมา สังกะสีสี่แผ่น ตะปูหนึ่งถุง ปุ๋ยสองกระสอบ วงเล็บไม่ต้องเปิด สูตรเสมอตราสัตว์อะไรก็ได้ ยี่ห้อไหนแหม้งก็ไม่พ้นของเจ้าสัวกลุ่มเดิม แต่ระวังปุ๋ยปลอม แวะห้างเจ้าสัวริมถนน เมิงชอบร้านอักษรหรือตัวเลขก็ตามสะดวก ซื้อยาขัดรองเท้ากับถุงตีนสีดำ ยาชูกำลังสองโหล ตราควายหรือโคก็ตามใจถ้าไม่เชื่อมั่นความยุติธรรม อย่าดันลืมกระดาษเช็ดตูดอย่างถูกหนึ่งโหล ไปเช่าสูทหล่อ ๆ จะเลือกหูกระต่ายหรือเนกไทไว้ถามกระจกในร้าน ลองทักซิโด้เล่น ๆ เพื่อวัดความโก้ฝังลึก ซ่อมนาฬิกาไขลานสมบัติตกทอดจากปู่ไว้อวดรวย สุดท้ายจองตั๋วรถไฟไปกรุงเทพฯ ไอ้สุดท้ายนี้เมิงเอาไปขึ้นต้นเลย เดี๋ยวตั๋วหมด รถทัวร์ไม่เอากรูกลัวตาย
"ให้ตาย โพยบ้าอะไรวะ ยาวโคตร ๆ" ผมหรี่ตาดูแล้วสบถตามสันดอนเดิม เปล่าเคลิ้มเมรัย ดื่มไม่ขับเดี๋ยวกลับไปเมาอุดหนุนเสี่ยที่บ้าน กรมการสุราเป็นพยาน
"เมิงไม่รังเกียจแน่นะ ไปงานให้เสียศักดิ์ศรีความจนทำไมวะ หรือเมิงอยากไปหัวเราะเยาะความรวย" จิ้งจกไม่ได้ถาม ผมถามตัวเองอย่างหยิ่งยโส
ลมหนาวมาแล้ว มาตอนต้นพอยอ ลาก่อนเดือนตอคอ เดือนที่ผอบอทอบอเปลี่ยนผ่านไปแต่ธำรงศักดิ์ศรีไว้ใต้สัตยาบันเดิม ส่วนคนตอคอกลับร่อยหรออุดมการณ์เหลือไม่กี่หยดคาก้นขวด บ้างลืมอดีตผอกอคออยู่รับใช้นายทุนอย่างสอบอมอยอหอ บ้างก็ซอตอพอขึ้นรถเฮียปอเต็กตึ๊งลาไปปรโลก
"สัญญาต้องเป็นสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน" ผมครวญเพลงมั่ว ๆ อย่างฉุนเฉียว การเมืองหรือการจากบ้านสวนสองสามวันไม่ได้ทำให้เครียด ผมลืมซื้อยางรัดผม ใส่สูทปล่อยผมยาวประบ่าน่าละอายพอ ๆ กับการฉีกบัตรเลือกตั้ง
"รถไฟจะไปโคราช ตดป้าด ๆ ถึงราชบุรี ตดอีกทีถึงที่พอเหมาะ ตดเบาะ ๆ หงายหลังแตกโป้ง" ท่องเพลงวัยเด็กปลอบใจตัวเอง ระหว่างนั่งรถไฟพาคนจนไปหยามเศรษฐีถึงถิ่น เปล่าฆ่าเวลาที่โคตรหวงแหน แต่หงุดหงิดนอนไม่หลับ
"กล่อมยังไงก็ไม่หลับ" สมองบอกหัวใจคึกคักของผม สาบาน ผมไม่ได้ตื่นเต้น แต่ฟาดยาชูกำลังคูณสองขณะเติมรัมไทยเข้ากระแสเลือดก่อนขึ้นรถไฟ
"ขอคารวะหัวลำโพง ชุมทางคนจร" จิตสำนึกร่ำร้อง มันเป็นต้นทางส่งผมกลับบ้านหลังจากเรียนจบมอปลายแต่ไม่ยอมจบมหาลัย ควรรู้สึกอบอุ่นเหมือนทุกครั้งที่มาถึง แต่คราวนี้กลับทะลึ่งหนาว
ผมแบกเป้แขวนถุงใส่สูทห้อยต่องแต่งเดินผ่านฝูงชนบนม้านั่ง นาฬิกาเรือนโตบอกเวลาหกโมงเช้า กลิ่นห้องส้วมสถานีและสาบเหงื่อคนจรปลุกผมจากอาการเมาค้าง
โรงแรมจิ้งหรีดแถวหัวลำโพงราคาเรือนร้อย เรียกใหม่ให้เพราะว่าเกสต์เฮ้าส์ ป้ายยินดีต้อนรับภาษาฝรั่งจีนยุ่นหลีอีแขกสะดุดตา กรูไม่ใช่ต่างด้าวเมิงจะรับไหม ผมไม่อยากถามแต่อยากนอน
07:00 จ่ายค่ามัดจำ นั่งรอ รับกุญแจ
08:00 นอนซิครับ รอไร
14:00 บลั้นช์ เมนู ปังไส้หมูหยอง 2 น้ำผลไม้ 1 กาแฟป๋อง 1 บริการตัวเองจากร้านโชห่วยมหาเศรษฐีสูบตังค์ยาจก
15:00 อาบน้ำ ถูขี้ไคล สระผม ผิวปากเพลง วินด์ ออฟ เช้นจ์ ของวงแมงป่อง
16:00 เป่าผม เช็ดตัว ตบแต่งหนวดเครา หวีผม รวบผมมัดหนังยางสีดำ นุ่งกางเกงใน นั่งดูข่าว บีบีซี ซีเอ็นเอ็น ขัดรองเท้า
17:00 ใส่เชิ้ตขาว ผูกเนกไท นุ่งกางเกง ใส่ถุงหุ้มตีนอันใหม่ เอาตังค์ใส่ซอง เท่าไรไม่อยากบอก
17:30 หอบเสื้อสูท เรียกแท็กซี่ไป โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล สี่พระยา ครวญเพลง ว็อท อะ วันเด้อร์ฟูล เวิอร์ลด์
"เพลงอะไรครับพี่ เพราะดี" แท็กซี่ดันถามขัดจังหวะอารมณ์ติส
"เพราะรุ่นพ่อมั้ง คนดำร้อง โลกสวย" ผมตอบเฉย ๆ เปล่าแขวะเด็กนักเรียนนักศึกษาหรือนักการเมืองละอ่อน และแน่นอนไม่เหยียดผิว เพราะกรูก็ดำแล้วทะลึ่งจนเหมือนกัน
"พี่ชอบนายกไหม"
ถามทำไมวะ ไอ้แท็กซี่ แล้วเมิงจะให้กรูจะตอบยังไงดี
"หา ใครนะ เออ ไม่รู้สิ ก็อย่างว่านะ เฮ่อ ๆ" กรูเป็นกลางไว้ก่อน เมิงอยู่ฝั่งไหนกรูจะรู้ไหมนี่
"พี่ไปทำอะไรที่โอเรียนเต็ล"
"ไปงานแต่งลูกเพื่อน" คนบ้านนอกบอกตรงตามนิสัย
"คงรวยนะ"
"แน่นอน งานไฮโซ" ไม่มีเงินสักร่วมล้านไปวางล่วงหน้า อย่าหวังไปเสนอหน้าจัดงาน
ทนรำคาญคุยเรื่องเน่า ๆ สะกิดต่อมประเทศกรูมีร่วมครึ่งชั่วโมงกับแท็กซี่ ก็รถมันติด จ่ายตังค์ค่ารถติดตรงปากซอยก่อนเข้าโรงแรม เดินหล่อ ๆ ตรงไปยังล็อบบี้โรงแรม ใครจะรู้ว่ากรูมาแท็กซี่ไม่ได้ขี่เมอร์เซเดสมา
"ว็อท แคน ไอ ดู ฟอร์ ยู" เวทเตอร์หน้าประตูถามผมอย่างสุภาพ ใส่สูทหล่อเท่แต่ดันคล้ายกับสูทของผม
"มางานแต่งลูกท่านประธาน ห้องรอแยล บอลรูม" ผมตอบห้วน ๆ พร้อมตีหน้าขรึมอกผายไหล่ผึ่ง เหลือบมองไปทั่ว ๆ อย่างเย่อหยิ่ง แสงแวววาวของโคมไฟช่อระย้าหรูเหนือแจกันดอกไม้ขนาดใหญ่กลางโถงแยงตา ที่บ้านไม่มี แต่ถึงมีกรูก็ไม่เปิดให้เปลืองไฟ
"เชิญขึ้นบันไดครับท่าน ชั้นสองขวามือเป็นทางเข้างาน ส่วนห้องอยู่ซ้ายมือเมื่อผ่านโถงทางเดินไปครับ" นิสัยดี อัธยาศัยแจ่ม ผมชื่นชอบ
ผมยังไม่เข้างาน ขอเดินเตร่ชมสิ่งแวดล้อมคลาสสิกหรูหราที่หน้าล็อบบี้ อยากสำรวจโรงแรมหมายเลขหนึ่งของไทยและหมายเลขตัวเดียวในระดับโลก ทำทีว่ารอเพื่อนสักชั่วครู่ แอบเงี่ยหูฟังพวกไฮโซคุยกัน
"น้อง ห้องรอแยล บอลรูมไปทางไหน" อดีตบิ๊กในสภาท่านหนึ่งเดินตรงเข้ามาถาม คงคิดว่าผมเป็นเวทเตอร์โรงแรม ผมจำเขาได้แม่น อภิปรายขลุกขลักเหมือนท่องมาไม่เสร็จ ติดเอ้อ ๆ อ้า ๆ เหมือนติดอ่างอาบนวด แต่วันนี้ไม่ยักติดอ่าง
"ซอร์หรี่ ไอ โด้นท์ อันเด่อร์สแต้น พลี้ส อาศ์ค เดอะ เวทเด่อร์ โอ้เหว่อร์ แดร์" ผมฉุนกึก ตอบออกไปด้วยสำเนียงอเมริกันเร็วปรื๋อ พร้อมทำหน้าเข้มแบบสิงคโปเรี่ยน
"ซอรี่ ซอรี่" บิ๊กท่านนั้นออกอาการหน้าแตก ขอโทษขอโพยผมเป็นภาษาฝรั่งแบบไทย ๆ และผมรู้แน่นอนว่าท่านต้องอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยแบบไทย ๆ ก็ไม่ว่ากัน ยกโทษให้แต่ไม่มีโพยแจกว่ะ
"ขำไหม" ผมถามตัวเอง ขำปนฉุนเป็นคำตอบ นี่กรูหล่อเท่าบ๋อยเลยหรือวะ ตัดสินใจขึ้นบันไดไปชั้นสองดีกว่ารอหน้าแตกอีกเที่ยว
สารพัดดอกไม้สดสีขาวแซมเหลืองเหมือนยกมาทั้งสวนประดับยาวตั้งแต่หน้าบันไดยันห้องชักภาพ ผมวางมาดท่ามกลางแสงไฟแฟลช แวะไปยืนเรียงคิวรอถ่ายรูปกับบ่าวสาวพร้อมครอบครัวไฮโซที่มาในงาน ยิ้มอย่างเท่เป็นใบเบิกทาง ทำเนียนไปกระทบไหล่นายแบงก์ชื่อดัง โอภาปราศรัยยกหางแบงก์ที่กำลังจะเจอกับมรสุมเศรษฐกิจอย่างจังในไม่ช้า
พ่อเจ้าบ่าวโผล่หน้าแทรกฝูงไฮโซออกมาพร้อมกับภรรยา เดินตรงมาจับมือผมไว้มั่น ไอ้บูดมันทักผมก่อนทักนายแบงก์เว้ย
"ไอ้เกลี้ยง เมิงมาได้จริง ๆ ด้วย นี่เธอ นี่ไงไอ้เกลี้ยง เฮ้ยโทษที ไอ้คุณชาติชาย เพื่อนรักสมัยนักเรียนนักศึกษา คุณรู้ไหม หกตุลาผมรอดมาได้ก็เพราะมันพาผมว่ายน้ำลอยคอไปขึ้นเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่งั้นคงดับคาธรรมศาสตร์ไปแล้ว เด็กบ้านนอกว่ายน้ำแข็งมาก ยินดีนะเพื่อนที่มาจนได้" ไอ้ท่านประธานมันทะลึ่งสวมกอดผมต่อหน้านายแบงก์และเหล่าไฮโซ ช่างภาพนักข่าวรีบถ่ายรูปกันให้พรึบ
พรุ่งนี้ภาพผมกอดกับไอ้บูดอาจได้ลงหนังสือพิมพ์หน้าข่าวสังคม โดยมีนายแบงก์ นักการเมือง และเหล่าไฮโซเป็นไม้ประดับ
"บูด กรูก็คิดถึงเมิงเป็นเหมือนกันนะโว้ย" ผมกระซิบเบา ๆ ข้างหูมัน แต่ไม่ได้บอกมันว่าแผงสร้อยเพขรบนคอเมียเมิงแสบตากว่าโคมระย้าในล็อบบี้
"ไปถ่ายรูปกันเพื่อน ที่รักคนนี้เพื่อนรักเลยนะ ถ้าเขาไม่มาผมคงเสียใจแย่ ท่านอื่น ๆ เชิญตามสบายเลยครับ ขอบคุณมากที่ให้เกียรติมาในงาน" ให้ตาย ไอ้บูดยกหางผมต่อหน้าเมียและชนชั้นสูง ต่อมาแจงสรรพคุณของผมให้บ่าวสาวและโคตรทั้งสองฝ่ายทราบ
ผมเดินเข้าห้องรอแยล บอลรูม จะดูแสนอลังการหรือเปล่าแล้วแต่ใจคิด มันเป็นห้องทรงหลุยส์สีขาวแต่งลวดลายเถาทอง ประตูกระจกหลายบาน ฝ้าเพดานเป็นบัวลดชั้น แขวนโคมระย้าเป็นระยะ ฝาผนังด้านหลังวาดรูปวิวแบบปูนเปียกเต็มพื้นที่ ทั้งห้องจุคนได้หลายร้อย เวทีอยู่อีกด้าน พื้นปูพรมสีเหลืองขลิบทอง กลางห้องตั้งโต๊ะขนาดใหญ่วางเค้กแต่งงานก้อนมหึมา หรูไม่หรูราคาค่างวดงานนี้เป็นเลขเจ็ดหลักขึ้น
แขกมากันเพียบ ผมสบตายิ้มหวานค้อมศีรษะเล็กน้อยให้ท่านอดีตรัฐมนตรีและภริยา เดินเฉียดนายพลและมหาเศรษฐีพร้อมคำทักทาย พอท่านประธานในพิธีมาถึงแขกแหวกทางให้ท่านไปนั่งที่โต๊ะด้านหน้า ทั้งงานมีสามโต๊ะนั่งที่เหลือเชิญยืนร่วมรับประทานตามอัธยาศัย แต่ผมยืนกินอย่างเสียนิสัยคือชิมมันทุกอย่างที่ขวางหน้าบนโต๊ะอาหารริมห้อง
อาหารเป็นแบบค็อกเทล ไม่อิ่มแต่เมาพอได้ ผมฟันธง จานเล็กอาหารชิ้นยืนกินบนโต๊ะสูง ผมวนเวียนไปแฮฟสี่ห้ารอบสำหรับอาหารคาวและหวาน ส่วนรอบสุดท้ายเป็นผลไม้ ชื่อชั้นโรงแรมบ่งบอกถึงคุณภาพอาหารอยู่แล้ว บริกรชายหญิงเดินเสิร์ฟสารพัดเครื่องดื่มกันให้ควั่ก
แน่นอน ผมกวักมือเรียกบริกรหยิบไวน์มาแกล้มอยู่หลายเที่ยว เจ้าของงานเพื่อนผมรสนิยมไม่เลว จัดเต็มทั้งไวน์ขาว ไวน์แดง และแชมเปญ ล้วนแล้วแต่มีระดับ อย่าดูถูกไอ้บ้านนอกอย่างผม จมูกคอเสี่ยว ๆ อย่างนี้นี่ผ่านไวน์เทสติ้งมาไม่น้อยสมัยเรียนสายอาชีพ
พิธีการฉลองสมรสผ่านไปอย่างเวิ่นเว้อเว่อวัง ผมเดินกระทบไหล่คนดังจนเบื่อ ตีบทแตกกับงานแนวนี้ การเมือง สังคม เศรษฐกิจ กีฬา กอสซิป ดารา เลือกเอามาคุยได้เลยตามลำดับหน้าหนังสือพิมพ์ ขออย่างเดียวอย่าให้เขารู้ได้ว่าคุณคือ ไอ้ตูดบ้านนอก
สำหรับผมยิ่งเมาก็ยิ่งเนียน ผมใจใหญ่คุยได้กับทั้งนักการเมือง นักการทหาร มหาเศรษฐี แม้ว่าทั้งเนื้อทั้งตัวผมมีของมีค่าอยู่สิ่งเดียว คือ นาฬิกาทองเคแนววินเทจ นอกนั้นไม่เช่าก็ยืมมา ผมยืนระยะจนงานจวนเลิก
(มีต่อครับ) ^^