ไม่เคยดีในสายตาคนที่บ้าน

สวัสดีคะ ตอนนี้เรามีปัญหากับที่บ้าน 
    เรามีงานประจำที่ทำอยู่แล้ว เช้าจะไปส่งลูกเข้างาน 8.00 น. เลิก 16.00 น. ช่วงบ่ายสามเราก็จะไปรับลูกจาก ร.ร. ไปส่งบ้าน ทำแบบนี้ทุกวัน กลับมาบ้านแม่ก็จะเรียกใช้ให้เราช่วยงาน (ที่บ้านทำขนมขายคะ) ก็จะให้เรียงขนมใส่หม้อใบใหญ่คะต้องปีน เรียงแล้วก็เอาน้ำใส่ ติดเตา ต้มด้วยไม้ เราจะใส่ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า ก็ยืนหน้าเตาต้องคอยดูไฟไม่ให้ดับคะ เราจะเสร็จประมาณ 6 โมง เกือบทุ่ม พอใกล้ๆ สามทุ่มจะมีลูกค้ามาเอาของเราก็ต้องเตรียม ถ่ายน้ำร้อนจากหม้อแล้วเติมน้ำเย็น สลับไปๆมาๆ ให้ขนมเย็นลง แล้วก็เตรียมเอาใส่ถุงให้ลูกค้าที่มารับที่บ้าน และอีกทีสามทุ่มครึ่งขี่ไปส่งที่ลูกค้าจอดรถไว้ พอกลับมาเราก็ต้องเตรียมเอาขนมทั้งหมดออก แล้วใส่ถุงเตรียมเข็นไปจัดร้านที่ตลาดกว่าจะเสร็จงานราวๆ เกือบห้าทุ่มคะ ก็จะเก็บบ้าน อาบน้ำกว่าจะได้นอนก็เที่ยงคืน เราทำแบบนี้ทุกวัน ถ้าเสาร์อาทิตย์เช้าก็จะโดนแม่เรียกมาช่วยเตรียมกับข้าวเสร็จประมาณ เที่ยงกว่าๆ หลังจากนั้นก็รอทำขนมแบบเดิม แล้วก็วนลูปไปแบบนี้ทุกวัน ระหว่างวันก็จะมีใช้ไปซื้อของ ซื้อน้ำ ซื้อข้าว วันนึงคือเราไม่ได้อยู่นิ่ง ออกเป็นสิบรอบคะ เดี๋ยวเรียกให้ทำนั้นนี่ในบ้าน เราก็ทำ แต่มีวันนี้เราตื่นสิบโมงเราก็แต่งตัวเรา แม่เรียกให้มาช่วยขัดพื้นเพราะเมื่อคืนฝนตกหนักพื้นก็เป็นโคลน เราไม่ได้ยิน จนรอบหลังเราได้ยินเลยลุกไป ก็โดนแม่ด่าบอกไม่ช่วย เราเลยบอกก็เพิ่งได้ยิน เค้าก็ใส่เราชุดใหญ่ เราเลยโมโหเหมือนกัน บอกแม่ไปว่าแล้วทำไมถึงต้องด่า ในเมื่อมีน้องอีกสองคนทำไมไม่ใช้ ใช้เราคนเดียวทุกอย่างในงานบ้าน เพราะเค้าบอกว่าเราอยู่บ้านเค้าก็ใช้เรา แต่น้องเราไปค้างบ้านแฟน งานที่บ้านไม่เอาไรเลย เลิกงานมากลับมารอแฟนเลิกช้ากว่า ถึงเวลาก็ไปนอนบ้านแฟน เช้าก็มา เสื้อผ้าก็น้าสาวซัก ตาก เก็บให้ เราทำกับข้าวเสร็จ แม่โทรตามให้มากิน แต่เราคิดทำไมใช้เราคนเดียว พอเราว่าเค้าก็บอกทำไมต้องเกี่ยงน้อง เราอยู่ตรงนี้เราก็ต้องเป็นคนทำ จะไปโทรเรียกให้น้องมาทำเพื่ออะไร เราเป็นลูกใช้ไม่ได้หรอ เราก็บอกแล้วน้องไม่ใช้ลูกหรอถึงไม่ใช้อะไร ใครจะไปไหน ซื้ออะไรเราก็พาไปหมด กลับมาเหนื่อยๆ ให้พาไปตรงนั้นตรงนี้ จะดึกจะเย็นจะฝนตก เราก็ไปให้ ตั้งแต่เด็กเราก็ทำงานล้างจานที่บ้านตั้งแต่ ป4 รีดเสื้อผ้าเราเอง รวมถึงของน้องด้วย ถูบ้าน ทำทุกอย่าง ใช้ก็ทำไม่กล้าไม่ทำ แต่กับน้องสาวเรา เวลาให้ทำอะไรต้องจ้างหมด ใช้ก็ไม่ทำ มีแต่เถียง มีแต่ขึ้นเสียงใส่ แต่กลับมีแต่ชื่นชม ไม่ทำก็ไม่เห็นผิด แต่เรานี่ออกมาทำช้าก็โดนด่า ทำสิบอย่างไม่ทำอย่างนึง ก็เหมือนไม่ได้ทำอะไรเลย เมื่อก่อนแม่ขายก๋วยเตี๋ยวเรากลับจาก ร.ร.เที่ยง ก็มาช่วยล้างจาน น้องเลิกเย็น แต่แม่กลับบอกว่าเราไม่ช่วย แต่น้องเราทำ ทั้งๆที่เรานั่งล้างจานยังไม่ได้เปลี่ยนชุดนักเรียนด้วยซ้ำ น้องคนเล็กเพิ่งเกิดเรากเลี้ยงคนเดียว ว่างก็ช่วยล้างจาน จัดร้าน เก็บร้าน คืองานทุกอย่างเราทำหมด แต่ทำไมเราถึงกลายเป็นคนไม่ดี เราเรียนได้ 4.00 น้องสาวมันก็ด่าเราว่า ร.ร.ปล่อยเกรด แล้วที่บ้านก็ไม่เคยมีใครชม เพราะเราเรียนแบบนี้เป็นปกติ แต่พอน้องเรามาเรียนที่เดียวกัน ได้น้อยกว่าเรา 3.6 ทั้งที่ก็เรียนหลักสูตรเดียวกัน แต่ที่บ้านกลับชมว่าเรียนเก่ง พอเราทำงานเราก็ส่งตัวเองเรียน ป.ตรี เพราะแม่ต้องส่งน้องอีกสองคน คือเรามีลุกแม่ก็ตัดไม่อยากให้เรียนต่อ ส่งถึงแค่ ปวส. ตอนแรกจะไม่ให้เรียนต่อด้วย แต่น้าบอกให้เรียนไปเถอะเสียดาย เราเลิกแค่เที่ยงก็ดูลูกให้แค่แปปเดียว พอเรียน ป.ตรี ต้องเรียนช่วงเย็นค่ะ เรานั่งรถเมล์ตอนนั้นเงินไม่ค่อยมี เงินเดือน 9600 ต้องเก็บจ่ายค่าเทอมเดือนละ 3000 แล้วก็ค่าใช้จ่ายลูก เพราะพ่อเค้าก็ส่งเสียบ้างไม่ให้บ้าง แต่เราต้องมีให้พอ เราจะเหลือเงิน 40 บาทในการเดินทางไปกลับ บางวันหิวข้าวก็ขอยืมเงินเพื่อนแล้ววันรุ่งขึ้นก็มาคืน เราจำกัดมาก ไม่สามารถนั่งรถหลายต่อได้ เราต้องใช้การเดินเพื่อไปขึ้นสายที่จะขึ้นเลิกเกือบสองทุ่ม เราต้องวิ่งให้ทันถ้าเดินใช้เวลา 15 – 20 นาที แต่รถเมล์จะมาราวๆ 2 ทุ่ม ถ้าพลาดเราต้องรออีกเป็นชั่วโมง เราเคยวิ่งมาไม่ทันแล้วรอกลับถึงบ้าน 4 ทุ่ม เราก็โดนด่าค่ะว่าไม่ได้ไปเรียนแต่ไปหาผัว ทิ้งลุกให้เค้าดู ไม่รีบกลับ เรานี่ร้องไห้เลย เพราะพยายามวิ่งแล้ว เราเลยเปลี่ยนเอามอเตอร์ไซค์ที่บ้านมาใช้เพื่อเราจะได้กลับเร็วค่ะ กลับเร็วได้จริง แต่ก็โดนด่าอยู่ดีเนื่องจากเค้าบอกว่าน้องเราไม่มีรถไปซื้อข้าวกินตอนเย็น เราทำให้น้องลำบากต้องเดินไปซื้อ เราเลยต้องไปหากู้ธนาคารเพื่อซื้อมอเตอร์ไซต์เป็นของตัวเอง จนจบรับปริญญา ตอนแรกบอกว่าจะพาเราไปเลี้ยงค่ะ แต่พอไปๆมาๆ บอกไว้ทีหลัง รอพร้อมกับตอนน้องสาวรับ หลังจากนั้นพอน้องรับก็จะพาไปเลี้ยงข้าวคะ น้องใส่ชุดครุยเพื่อจะไปถ่ายว่าที่บ้านพามาเลี้ยง เราเลยบอกว่าอ้าวแล้วหนูอะต้องใส่ด้วยสิเพราะเลี้ยงพร้อมกัน น้องมันบอกว่ายิ้มไม่ต้องเลยยิ้มใส่มาก็ไม่ใช่งานกรูสิ กรูจะลงว่ามาเลี้ยงของกรู ที่บ้านเราเลยบอกว่าก็รู้กันพอถือว่าเลี้ยงไปในตัว คือเราไม่ต้องใส่มา ให้งานนี้เป็นของน้องไป พอเราครบ 25 เราเกิดอุบัติเหตุค่ะ ใส่เฝือกทั้งแขนทั้งขา แล้วเป็นแผลใหญ่มากต้องไปล้างแผลทุกวันห้ามขาดเลยคะ แม่เราเป็นคนพาไปนั่งสามล้อ เค้าก็บ่นทุกวันว่าเค้าต้องมาเหนื่อยพาไปทุกวัน เราก็พูดอะไรไม่ได้ สิ่งที่คิดถ้าเราเดินไปเองได้เราไม่อยากให้ใครทำให้ เราได้แค่นอนรอ บางวันกินข้าวมื้อเดียว เพราะแม่บอกว่าเค้ายุ่งๆ ไม่มีเวลาเดินมาดู เวลาปวดฉี่เราต้องเอาเก้าอี้ที่มีล้อแล้วพยายามดึงตัวเองขึ้นค่ะ เพราะเราใส่เฝือกแขนข้างนึง ขาข้างนึง มันเลยต้องใช้แรงมากกว่าปกติ แล้วใช้ตัวนั่งไถไปห้องน้ำ ทุกคนมองเหมือนเราเป็นภาระ เราก็นอนร้องไห้นะคะ เราไม่ได้อยากโดนแบบนี้ แต่เราโดนรถตัดหน้าเลยล้ม เราไม่ได้ไปชนเค้า แต่โดนด่าว่าขี่ไม่ดูตาม้าเรือ ลำบากกันไปหมด พอจบเรื่องเราก็อยากรถยนต์ค่ะ เพราะเรากระดูกฝ่าเท้าหักเลยขับรถกระบะไม่ได้ คือเลี้ยงครัชแล้วมันเจ็บมากค่ะ เลยออกรถใหม่เป็นออโต้ เราดาวน์ของตัวเอง 1 ส่วน ที่บ้านช่วย 2 ส่วน และค่างวดน้าเราช่วยออกครึ่งนึง ส่วนอื่นๆที่เกี่ยวกับรถเราจ่ายเองหมด ค่าประกัน ค่าบำรุง ค่าจอด น้องสาวเราก็ด่าเราประจำว่าเราสร้างภาระให้ที่บ้านเพราะลุกเราอยู่บางทีแม่เค้าก็ซื้อข้าวให้กิน เวลาเรากลับบ้านมืดเพราะมีงานพิเศษช่วงเย็นเค้าต้องดูก็บ่นว่าเหนื่อยต้องมานั่งดูแล้วไปขายของตอนดึกไม่ได้หลับได้นอน เวลาที่เราโดนด่าเราคิดเสมอเราเป็นอะไรสำหรับที่บ้านเราทำให้ที่บ้านทุกอย่าง คิดแต่เพื่อที่บ้าน ออกรถมาเราไม่ได้ใช้นะเพราะเราไม่ได้ไปไหน ก็มีพาที่บ้านไปนั้นนี่ ซื้อของ กลับ ตจว. ถึงเวลาน้องเราชอบยืมรถเราไปเที่ยวกับเพื่อนนั้นนี่ ก็จะให้แม่มายืมเพราะเราไม่อยากให้ เคยเอาไปทีไรก็เป็นรอยกลับมา แล้วไม่ยอมรับว่าตัวเองทำ แล้วก็ขึ้นเสียงใส่เรา ด่าๆเราแต่เอาของเราไปใช้ เราก็บอกทำไมไม่ออกมาเอง เพราะเงินเดือนน้องเรามากกว่าเราครึ่งนึง มันก็สวนทันทีว่าเรื่องอะไรมันจะออกมาเงินก็หมดไม่มีไปเที่ยวดิ แล้วผลสุดท้ายคือเอารถเราไปใช้ พอเราไม่ให้แม่ก็ด่าว่าหวง ให้น้องมันไป น้องเรามักจะว่าเราว่า-ของดีๆได้เพราะที่บ้าน เราไม่มีปัญามีเงินซื้อเอง ยังไม่สำนึกบุญคุณ ตัวเราประหยัดให้ที่บ้านทุกอย่าง เวลาที่เราอยากกินเราจะชวนที่บ้านกินแล้วเราช่วยออกด้วย ของราคา 700 เราก็ช่วย 300 แต่เวลาน้องเราชวนน้าไปกินหรูๆตามห้าง เพื่อจะเอาลงโซเชี่ยวให้เพื่อนอิจฉาว่ากินหรูบ่อยจัง แต่ไม่เคยช่วยออก มีตอนที่เราจะไปตลาดนัดรถไฟ น้าให้เอารถไปแต่เราบอกว่าค่าจอดมันแพงมาก นั่งแท็กซี่น่าจะคุ้มกว่า น้องเราด่าเราทันทีว่าเงินยิ้มหรือไง ไม่ต้องเผือก ไม่ได้จ่ายเองยังพูดมาก คือเราก็หวังดีไม่อยากให้เสียเยอะสรุปเสียค่าจอดรถไปสามร้อยบาท เวลาเราจะซื้ออะไรเราดูตลอดว่าคุ้มไหม ไม่ใช่อยากกิน อยากใช้ก็เอาเลย ของอะไรแพงเกินไปเราก็ไม่กิน คิดว่าเงินเท่านี้ซื้ออย่างอื่นอิ่มกว่าเราก็เลือกซื้ออย่างอื่น เน็ตที่บ้านเราก็ติดให้คิดว่าไหนๆเราจ่ายค่ามือถือเราเลยติดเน็ตให้คนในบ้านใช้ได้ทั่วๆกัน เราไม่ต้องใช้เน็ตเยอะก็ได้อยู่ข้างนอก ก็ตัดมาเสียตรงนี้แทนแต่เรากลับกลายเป็นลูกที่ไม่ดีเลย เวลาวันแม่หรือวันเกิด วันปีใหม่ เราไม่มีเงินพอจะซื้อของขวัญให้แม่ เค้าก็จะเหน็บเราประมาณว่าน้องสาวซื้อนั้นนี่ให้ดูสิ มันซื้อของพารากอนมาให้นะ คือเหมือนจะด่าว่าเราไม่ซื้ออะไรให้เค้าเลย เราเงินเดือนหมื่นนึง ต้องเลี้ยงลูกด้วย ไหนจะผ่อนรถ ค่าเน็ต ค่าจอดรถ เดือนๆนึงเราเหลือเงินใช้ 2000 บาท เวลามีอะไรแม่ก็จะด่าเราว่าอยู่ที่บ้านใช้น้ำใช้ไฟ ไม่ได้เสียเงิน ค่าเช่าบ้านก็ไม่ต้องจ่าย เราเหมือนไม่ใช่ลูกเลย เราเป็นตัวอะไร น้องสาวเราไม่เคยช่วยอะไรที่บ้าน ตอนที่จบใหม่ๆ บอกว่าเงินเดือนได้ 16000 จะเอาให้แม่กะน้าคนละพัน แต่พอเอาเข้าจริงไม่เคยให้เงินเดือนเลย ตอนเราฝึกงาน เราได้เงินเดือน 3000 เราแบ่งให้แม่กับน้าคนละ 500 ตอนเราได้พิเศษบางที เราก็มีให้บ้าง แต่ตั้งแต่ผ่อนรถเราก็ไม่เหลือพอจะให้ เราอยู่บ้านแบบเจียมตัว แลกด้วยการทำงาน ใครใช้อะไรก็ไม่พูด ทำอย่างเดียว พอทำช้าก็มีแต่ด่า ไม่เคยชมเลย พอเราว่าน้องแม่ก็ด่าเราสวน ว่าตัวเองให้เรารุ้สึกผิด ทั้งที่ควรจะว่าน้องเราไม่มาช่วยงานที่บ้าน ตัวน้องเราเลิกงาน 5 โมงกลับมาก็ไม่ช่วยรอแฟนแล้วกลับไปบ้านแฟน เสาร์อาทิตย์ก็ไม่ค่อยมา ให้พาไปไหนบางทีไม่ไป ไปค้างก็ไม่ไป ติดแฟน เราเองทำงานอะไรเสร็จ ซื้อข้าวเตรียมทุกอย่างให้ลูก ลูกเรา 11 ขวบแล้ว ไม่ได้ต้องดูอะไร แต่ก็บ่นเราไม่ดูลูก เรากลับมาบางวันเราแวะไปกินข้าวกับแฟน แต่ทำงานทุกอย่างเสร็จแล้ว สามทุ่มเราก็กลับบ้านเพราะมีงานรอต่อ บางวันก็ไม่ได้ไป อาทิตย์นึงไปสองสามครั้ง แต่แฟนเราเป็นคนไม่ดีที่บ้านไม่ชอบคะ น้องเราก็เอาเรื่องนี้มาด่าเราว่าทำให้ที่บ้านทุกข์ใจ แต่ความจริงน้องเราก็เคยทำ ตัวน้องเองเสียทองไปสองบาทให้แฟนป่านนี้ยังไม่ได้คืน ขโมยเงินในบ้าน ขโมยของในบ้าน แต่ไม่มีใครด่าได้เลย เพราะปากแข็งไม่ยอมรับ ในบ้านจะมีแค่น้องเราอยู่คนเดียว คนอื่นๆจะมาทำงานกันอีกบ้าน ซึ่งเราก็อยู่บ้านที่ทำงานกัน เราอยากออกไปอยู่ข้างนอกเอง แต่เงินไม่พอเพราะยังมีรถที่ต้องผ่อน เราเคยไม่ช่วยงานเราก็สงสารแม่ที่เหนื่อยทำ แต่เราก็บอกทำไมไม่เรียกน้องมาช่วยเพราะน้องมันว่าเราว่าเป็นอิลูกอกตัญญู เราเลยอยากลองว่าในเมื่อด่าเราแล้วจะมาทำแทนไหม มาช่วยไหม แต่เปล่า สุดท้ายแม่ไปบ่นว่าไม่ไหวกับน้า น้าเลยบอกให้เราช่วยเราเลยต้องกลับมาช่วยแบบเดิม แล้วก็กลับมาวังวนเดิม เรารู้สึกว่า ต่อให้เราทำดีมากแค่ไหน เราทำช้าไปนิดเดียว ความดีที่เราทำมามันสูญไปเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่