เคยรู้สึกไม่อยากคบเพื่อนที่เคยคิดว่าสนิทกันมาก อีกต่อไปแล้ว เพราะรู้สึกว่าให้มากเกินไป กันมั้ยคะ

ตั้งกระทู้มา เพราะงงในความรู้สึกของตัวเองค่ะ ว่ามีเพื่อนบางคนที่เราเคยคิดตรงกันว่า เราสองคนสนิทกันมาก แต่พอมาหลังๆ พอเขาส่งมาว่า นัดเจอกันมั้ย เรารู้สึกไม่อยากไปเจอเขาเลยค่ะ เราเห็นแก่ตัวไปหรือเปล่า

ส่วนนึงที่เราต้องยอมรับตรงๆ คือเขาเป็นคนประหยัด ไม่เคยให้อะไรเราค่ะ ทุกครั้งที่ไปกินข้าว หรือไปไหนกัน มันจะเป็นเหตุที่ว่า เขากำลังจะต้องไปทำอะไรสักอย่างที่ต้องใช้เงิน เช่น จะไปเรียนต่อด้วยทุนตัวเอง หรือ เพิ่งกลับมาจากเรียนต่อในช่วงโควิด ยังหางานทำไม่ได้ และเขาก็จะบ่นว่า เดี๋ยวนี้เขาไปไหนข้างนอกเขาไม่ใช้เงินแล้ว ทุกอย่างแพงจังเลย เดินทางจากบ้านที่แสนไกลก็ใช้ค่าใช้จ่ายมากแล้ว เขาเลิกกินข้าวเย็นไปนานแล้ว เปลือง เลิกซื้อเสื้อผ้าแล้วจะใส่แต่ของเก่าที่มีเท่านั้น ซึ่งเราก็เป็นคนใจอ่อน เราก็รู้สึกว่า ตัวเองมีการงานทำมั่นคงแล้ว มีเงินพอเผื่อแผ่ได้ ก็จะเป็นคนเลี้ยงอาหารเขา เป็นคนเชิญให้เขามากินข้าวด้วยที่บ้าน เวลาเขาขาดเหลืออะไรก็จะเอาให้ยืมไป  และส่วนมากก็ไม่หวังว่าจะได้คืน เราจัดงานแต่งงาน เราซื้อเสื้อให้เพื่อนและเพื่อนไม่ได้ให้ซอง ซึ่งเราก็เข้าใจเพราะตอนนั้นเขายังหางานทำไม่ได้ ซึ่งจริงๆเขาก็ดีมากนะคะ ในวันก่อนงานแต่งเรายุ่งมากๆ เขาก็มาคอยอยู่ข้างๆเราตลอดเวลา มาเจอที่โรงแรมตอนเย็น มานั่งกอดเราไว้เฉยๆ ระหว่างที่เราเตรียมโน่นนี่ ติดต่อคนนั้นคนนี้ ซึ่งในวันนั้นที่เรายุ่ง เรากลับรู้สึกรำคาญ แต่มานึกดูแล้วก็เป็นเขาคนเดียวที่ให้เวลากับเรามากขนาดนั้น

ทุกครั้งที่เจอกันเขาก็จะบ่นเรื่องเดิมๆ พยายามเล่าถึงความฝันที่เขาพยายามทำเพื่อบรรลุให้ได้ และเรื่องอะไรๆ ที่ส่วนตัวเรามองว่า มันไม่ตรงกับสภาพความเป็นจริง  ถ้าเขาปรับตัวเอง  เขาน่าจะได้งานทำไปนานแล้ว  แม้ว่าจะเป็นงานที่ไม่ชอบ  เพราะเราก็ไม่ได้รักงานแบบที่ตัวเองทำอยู่  แต่เราเอาความเป็นจริงว่า งานนี้ทำให้เรามีอาชีพ มีเงินเดือนเลี้ยงชีพได้ก็พอ  ในเศรษฐกิจยุคแบบนี้ เขาเองก็คงเครียดเรื่องงานที่ขัดแย้งกับอุดมคติในใจเขา  ช่วงหลังๆ บทสนทนาก็เลยค่อนข้างเครียดและซ้ำไปซ้ำมา  เรารู้สึกว่า เราพยายามแนะนำอะไรเขาก็ไม่เปิดใจรับฟังเลยค่ะ

มานึกดูแล้วเจอกันในครั้งหลังๆ ตลอด สองสามปี ที่ผ่านมา มันเป็นรูปแบบนี้ตลอดมาทุกครั้ง

เขาก็เป็นคนขี้เกรงใจระดับหนึ่งนะคะ  เวลาเราเลี้ยงข้าวเขา  เขาก็จะบอกว่า  ไว้เขาจะมาทำกับข้าวให้กิน  ไว้ไปบ้านเขา(ที่ย่านชานเมืองที่ไกลมาก)สิ เขาจะได้ทำกับข้าวให้กิน แต่เนื่องจากเรารู้ว่าเขาเป็นคนประหยัดขนาดไหน  เราก็พอจะเดาได้ว่า วัตถุดิบที่เขาจะเอามาทำย่อมจะประหยัดต้นทุนเป็นอย่างมากและมีคุณภาพไม่ค่อยดี  เราก็เลยไม่เคยมีความกระตือรือร้นจะให้เขาต้องมาทำอะไรให้เรากิน  และพอเป็นนอกบ้านแล้วก็ลืมได้  เพราะเขาจะไม่ออกเงินอย่างแน่นอน  ล่าสุดที่มาเยี่ยมที่บ้านก็เอาวัตถุดิบหมดอายุที่บ้านเรากลับไปด้วย  บอกว่ามันยังกินได้ เวลามาแต่ละทีก็เหมือนมากินฟรี ไม่ได้เอาอะไรมาฝาก เรารู้ว่าเราไม่ได้เดือดร้อนและเขาก็คงรู้เช่นกัน เขาก็เลยไม่เคยถืออะไรติดมือมา แม้จะเป็นมารยาท เหมือนมาเอาอย่างเดียว

ตอนหลังเขาชวนไปเที่ยวบ้านเขา  หรือเขาจะมาแถวบ้านเราแล้วบอกว่าจะมาเจอกันมั้ย  เราไม่อยากตอบเลยค่ะ  นี่ก็บอกว่าให้ตอนเย็นมาเจอกัน  เราก็ยังไม่รู้จะตอบอะไรว่าไม่อยากเจอเขาแล้วค่ะ  เราอยากเว้นระยะห่าง  ที่เคยคิดว่าสนิทกันก็อาจจะให้เป็นอดีตไปเลยก็ได้  คือเราก็นึกภาพว่า เขามาแล้วเราก็ต้องเลี้ยงข้าวเขา  เพราะเราใจอ่อนเกินไปเวลาฟังเขาบ่นว่าเขาไม่อยากใช้เงิน  หรือไม่ก็ต้องเชิญให้เขาเข้ามาที่บ้าน  และก็จะได้ฟังเขาบ่นเรื่องเดิมๆ นั่งคุยกันในเรื่องที่ไม่ไปไหน บางครั้งมันก็มากเกินไป จนเรารู้สึกอึดอัด เรารู้สึกว่าเราอยู่กับเขาแล้วเราไม่มีความสุข เรารำคาญ เราเหมือนถูกเอาเปรียบ ทั้งที่เราให้ได้ และเราก็เป็นคนให้เอง เขาไม่เคยออกปากขอ

มันก็เลยเป็นข้อขัดแย้งในใจมาตลอด เพราะลึกๆเราก็เข้าใจดีว่า เขาเป็นเพื่อนแท้คนหนึ่งที่ไม่เคยทิ้งเราไปไหน เวลาเราทุกข์ใจเขาก็ฟังเราอย่างไม่มีเงื่อนไข และคอยเป็นห่วงเราอยู่เสมอ แต่ตอนนี้เรากลับอยากตีตัวออกห่าง

คิดอย่างนี้ผิดมั้ยคะ  เป็นคุณจะทำอย่างไรกันคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่