กับทริปสั้นๆ ห้าวันของ CrossCutting ในกรุงปักกิ่ง
เมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาชนจีน
เมืองที่เป็นดั่งศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และศิลปะวัฒนธรรม ขอชนชาติจีน
พวกเราได้เดินทาง และสัมผัสถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์
ที่เป็นไปของมหานครแห่งนี้
ทั้งจตุรัสเทียนอันเหมิน พระราชวังต้องห้าม สนามกีฬาแห่งชาติปักกิ่ง
อ่านได้ที่กระทู้นี้ครับ :
https://pantip.com/topic/39988716
พระราชวังฤดูร้อนเดิม พระราชวังฤดูร้อนอวี้เหอหยวน
อ่านได้ที่กระทู้นี้ครับ :
https://pantip.com/topic/39628881
รวมไปถึง การออกนอกตัวเมือง ไปเยือนกำแพงเมืองจีนด่านซือหม่าไท่ และหมู่บ้านโบราณกู่เป่ยโค่ว
อ่านได้ที่กระทู้นี้ครับ :
https://pantip.com/topic/39658054
ในกระทู้นี้ พวกเราจะพาทุกคนไปปิดทริปการเดินทางด้วยกัน ที่ย่านตรอกเก่าปักกิ่ง
___________________________________________________________________________
ยินดีทักทายพูดคุยกันต่อได้ที่
https://www.facebook.com/thecrosscutting/
ขอบคุณพันทิปและเพื่อนๆ ทุกคนครับ
ติดตามชมรูปแบบวีดีโอได้ตามนี้ครับ
ตอนที่ 1: เที่ยวจีน พระราชวังฤดูร้อน ปักกิ่ง
ตอนที่ 2 : เที่ยวจีน ปักกิ่ง กำแพงเมืองจีนซือหม่าไท่ และเมืองโบราณริมน้ำกู๋เป่ย
ตอนที่ 3 : เที่ยวจีน ปักกิ่ง พระราชวังต้องห้ามและสนามกีฬารังนก
ตอนที่ 4 : เที่ยวจีน ปักกิ่ง ย่านตรอกเก่าหูท่ง หอกลองหอระฆัง
___________________________________________________________________________
และการเดินทางของพวกเราในทริปนี้ ก็เข้าสู่วันสุดท้าย
ยังมีอีกหลายสถานที่ ซึ่งพวกเราต้องไปเยี่ยมชมในวันนี้
โดยเริ่มจาก
หนานโหลวกู่เซียง ย่านตรอกชุมชน หรือที่เรียกว่า หูทง ที่เก่าแก่ที่สุดในปักกิ่ง

หูท่ง เป็นชื่อเรียกตรอกซอยต่างๆ ซึ่งอยู่รอบนอกของพระราชวังต้องห้าม
ต้นกำเนิดของหูท่งเริ่มมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์หยวน (ค.ศ. 1271-1368)
และคำว่า หูท่ง มีที่มาจากศัพท์ภาษามองโกลที่แปลว่า บ่อน้ำ นั่นเอง
ตามบันทึก ในสมัยราชวงศ์หยวนมีหูท่งอยู่จำนวน 413 สาย
และเพิ่มเป็น 1,000 กว่าสายในสมัยราชวงศ์หมิง
2,000 กว่าสายในสมัยราชวงศ์ชิง และในปี 1986 ก็เพิ่มเป็น 3,600 สาย
สามารถกล่าวได้ว่า พระราชวังต้องห้าม เป็นสัญลักษณ์ของราชวงศ์
ส่วน หูท่งก็เป็นตัวแทนของ วิถีชีวิตของสามัญชนในกรุงปักกิ่งนั่นเอง

หนานหลัวกู่เซี่ยง เป็นหูท่งที่ยาวประมาณ 800 เมตร
สร้างเสร็จในปีคศ 1267 พร้อมการสร้างกรุงปักกิ่งในสมัยราชวงศ์หยวน
ในปัจจุบัน บริเวณรอบๆ หนานหลัวกู่เซี่ยง
เป็นพื้นที่เดียวที่ยังรักษาสภาพหมู่บ้านและผังเมืองโบราณ
จากยุคสมัยราชวงศ์หยวนเอาไว้
อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในพื้นที่อนุรักษ์ภายในเมืองเก่าปักกิ่งอีกด้วย
อย่างไรก็ดี บ้านเรือนต่างๆ บนตรอกถนนเส้นนี้
ได้รับการปรับปรุงเป็นร้านค้าหลากหลายประเภท
ทั้งร้านอาหาร ร้านขนม ร้านขายสินค้า และของที่ระลึก
ก็นับว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน
ช้อปปิ้ง หาของอร่อยๆ กิน และเพลิดเพลินกับสถาปัตยกรรมโบราณ
ถ้าใครได้มาแล้ว ต้องจัดไว้ในโปรแกรมท่องเที่ยวเลยนะครับ
จากหนานโหลวกู่เซียง พวกเราเดินชมวิถีชีวิตในปักกิ่ง เรื่อยไปจนถึง
อุทยานเป่ยไห่
นับแต่อดีต ราว 1000 ปีก่อน เป่ยไห่ คือ อุทยานหลวง
ของราชวงศ์ ประกอบด้วยสวนและสิ่งก่อสร้างสำคัญ
ทั้งพระตำหนัก และวัดวาอาราม
เป่ย (北) แปลว่าเหนือ ไห่ (海) แปลว่าทะเลหรือมหาสมุทร
เป่ยไห่จึงแปลตามตัวว่า ทะเลที่อยู่ทิศเหนือ
อุทยานเป่ยไห่มีพื้นที่ราว 69 เฮกเตอร์
ถูกสร้างสรรค์ให้มีวิวทิวทัศน์ รวมทั้งสถาปัตยกรรมให้เหมือนเมืองทางตอนใต้ของจีน
ทั้งเมืองหางโจว หยางโจว และซูโจว จึงนับเป็นสวนที่สวยงามและน่าชมอย่างยิ่ง
ในปี ค.ศ.1925 หลังเปลี่ยนระบบการปกครอง อุทยานหลวงแห่งนี้ ก็ได้กลายเป็นสวนสาธารณะสำหรับชาวจีนทุกคน
และเมื่อได้มาเยือน เราก็ได้พบเห็นผู้คนออกมา
ทำกิจกรรมหลากหลาย ทั้งการเต้นรำแบบพื้นเมือง
ของมุสลิมชาวหุย
หรือจะเป็นศิลปะการเขียนพู่กันด้วยน้ำลงบนพื้น
ซึ่งปรากฏในต้นทศวรรษ 90 ที่สวนสาธารณะในปักกิ่ง
และต่อมาก็แพร่หลายไปยังเมืองใหญ่ต่างๆของจีน
การได้มาเดินเล่น พักผ่อนในอุทยานกลางเมือง
ที่พื้นที่ กว้างใหญ่แบบนี้ รู้สึกสบายใจ และผ่อนคลายมากๆ เลย
และวันนี้ พวกเราอยากไปดูตลาดขายของเก่า
พันเจียหยวน
ซึ่ง แม้จะอยู่ห่างออกไปพอสมควร แต่ยังพอมีเวลาแวะไปดูสักหน่อย
ตลาดพันเจียหยวน เป็นตลาด "ของเก่า" ที่มีผู้ขายอยู่ประมาณ 3,000 เจ้า
ซึ่งพวกเขาจะตระเวนไปตามเมืองต่างๆ เพื่อค้นหาของเก่า
ทั้งของที่มรดกตกทอดของครอบครัว และสิ่งของที่น่าสนใจต่างๆ เช่น รูปแกะสลัก
แจกันลายคราม เฟอร์นิเจอร์สไตล์ราชวงศ์ชิง หรือภาพถ่ายวินเทจ
ใครที่สนใจของแนวแอนทีค อย่าลืมแวะมานะครับ

(ติดตามต่อด้านล่างนะครับ ^ ^)
บันทึกการเดินทางเที่ยวจีน ย่านตรอกเก่าปักกิ่ง (Beijing Old Town Hutong)
กับทริปสั้นๆ ห้าวันของ CrossCutting ในกรุงปักกิ่ง
เมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาชนจีน
เมืองที่เป็นดั่งศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และศิลปะวัฒนธรรม ขอชนชาติจีน
พวกเราได้เดินทาง และสัมผัสถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์
ที่เป็นไปของมหานครแห่งนี้
ทั้งจตุรัสเทียนอันเหมิน พระราชวังต้องห้าม สนามกีฬาแห่งชาติปักกิ่ง
อ่านได้ที่กระทู้นี้ครับ : https://pantip.com/topic/39988716
พระราชวังฤดูร้อนเดิม พระราชวังฤดูร้อนอวี้เหอหยวน
อ่านได้ที่กระทู้นี้ครับ : https://pantip.com/topic/39628881
รวมไปถึง การออกนอกตัวเมือง ไปเยือนกำแพงเมืองจีนด่านซือหม่าไท่ และหมู่บ้านโบราณกู่เป่ยโค่ว
อ่านได้ที่กระทู้นี้ครับ : https://pantip.com/topic/39658054
ในกระทู้นี้ พวกเราจะพาทุกคนไปปิดทริปการเดินทางด้วยกัน ที่ย่านตรอกเก่าปักกิ่ง
___________________________________________________________________________
ยินดีทักทายพูดคุยกันต่อได้ที่ https://www.facebook.com/thecrosscutting/
ขอบคุณพันทิปและเพื่อนๆ ทุกคนครับ
ติดตามชมรูปแบบวีดีโอได้ตามนี้ครับ
ตอนที่ 1: เที่ยวจีน พระราชวังฤดูร้อน ปักกิ่ง
ตอนที่ 2 : เที่ยวจีน ปักกิ่ง กำแพงเมืองจีนซือหม่าไท่ และเมืองโบราณริมน้ำกู๋เป่ย
ตอนที่ 3 : เที่ยวจีน ปักกิ่ง พระราชวังต้องห้ามและสนามกีฬารังนก
ตอนที่ 4 : เที่ยวจีน ปักกิ่ง ย่านตรอกเก่าหูท่ง หอกลองหอระฆัง
และการเดินทางของพวกเราในทริปนี้ ก็เข้าสู่วันสุดท้าย
ยังมีอีกหลายสถานที่ ซึ่งพวกเราต้องไปเยี่ยมชมในวันนี้
โดยเริ่มจาก หนานโหลวกู่เซียง ย่านตรอกชุมชน หรือที่เรียกว่า หูทง ที่เก่าแก่ที่สุดในปักกิ่ง
หูท่ง เป็นชื่อเรียกตรอกซอยต่างๆ ซึ่งอยู่รอบนอกของพระราชวังต้องห้าม
ต้นกำเนิดของหูท่งเริ่มมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์หยวน (ค.ศ. 1271-1368)
และคำว่า หูท่ง มีที่มาจากศัพท์ภาษามองโกลที่แปลว่า บ่อน้ำ นั่นเอง
ตามบันทึก ในสมัยราชวงศ์หยวนมีหูท่งอยู่จำนวน 413 สาย
และเพิ่มเป็น 1,000 กว่าสายในสมัยราชวงศ์หมิง
2,000 กว่าสายในสมัยราชวงศ์ชิง และในปี 1986 ก็เพิ่มเป็น 3,600 สาย
สามารถกล่าวได้ว่า พระราชวังต้องห้าม เป็นสัญลักษณ์ของราชวงศ์
ส่วน หูท่งก็เป็นตัวแทนของ วิถีชีวิตของสามัญชนในกรุงปักกิ่งนั่นเอง
หนานหลัวกู่เซี่ยง เป็นหูท่งที่ยาวประมาณ 800 เมตร
สร้างเสร็จในปีคศ 1267 พร้อมการสร้างกรุงปักกิ่งในสมัยราชวงศ์หยวน
ในปัจจุบัน บริเวณรอบๆ หนานหลัวกู่เซี่ยง
เป็นพื้นที่เดียวที่ยังรักษาสภาพหมู่บ้านและผังเมืองโบราณ
จากยุคสมัยราชวงศ์หยวนเอาไว้
อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในพื้นที่อนุรักษ์ภายในเมืองเก่าปักกิ่งอีกด้วย
อย่างไรก็ดี บ้านเรือนต่างๆ บนตรอกถนนเส้นนี้
ได้รับการปรับปรุงเป็นร้านค้าหลากหลายประเภท
ทั้งร้านอาหาร ร้านขนม ร้านขายสินค้า และของที่ระลึก
ก็นับว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน
ช้อปปิ้ง หาของอร่อยๆ กิน และเพลิดเพลินกับสถาปัตยกรรมโบราณ
ถ้าใครได้มาแล้ว ต้องจัดไว้ในโปรแกรมท่องเที่ยวเลยนะครับ
จากหนานโหลวกู่เซียง พวกเราเดินชมวิถีชีวิตในปักกิ่ง เรื่อยไปจนถึง อุทยานเป่ยไห่
นับแต่อดีต ราว 1000 ปีก่อน เป่ยไห่ คือ อุทยานหลวง
ของราชวงศ์ ประกอบด้วยสวนและสิ่งก่อสร้างสำคัญ
ทั้งพระตำหนัก และวัดวาอาราม
เป่ย (北) แปลว่าเหนือ ไห่ (海) แปลว่าทะเลหรือมหาสมุทร
เป่ยไห่จึงแปลตามตัวว่า ทะเลที่อยู่ทิศเหนือ
อุทยานเป่ยไห่มีพื้นที่ราว 69 เฮกเตอร์
ถูกสร้างสรรค์ให้มีวิวทิวทัศน์ รวมทั้งสถาปัตยกรรมให้เหมือนเมืองทางตอนใต้ของจีน
ทั้งเมืองหางโจว หยางโจว และซูโจว จึงนับเป็นสวนที่สวยงามและน่าชมอย่างยิ่ง
ในปี ค.ศ.1925 หลังเปลี่ยนระบบการปกครอง อุทยานหลวงแห่งนี้ ก็ได้กลายเป็นสวนสาธารณะสำหรับชาวจีนทุกคน
และเมื่อได้มาเยือน เราก็ได้พบเห็นผู้คนออกมา
ทำกิจกรรมหลากหลาย ทั้งการเต้นรำแบบพื้นเมือง
ของมุสลิมชาวหุย
หรือจะเป็นศิลปะการเขียนพู่กันด้วยน้ำลงบนพื้น
ซึ่งปรากฏในต้นทศวรรษ 90 ที่สวนสาธารณะในปักกิ่ง
และต่อมาก็แพร่หลายไปยังเมืองใหญ่ต่างๆของจีน
การได้มาเดินเล่น พักผ่อนในอุทยานกลางเมือง
ที่พื้นที่ กว้างใหญ่แบบนี้ รู้สึกสบายใจ และผ่อนคลายมากๆ เลย
และวันนี้ พวกเราอยากไปดูตลาดขายของเก่า พันเจียหยวน
ซึ่ง แม้จะอยู่ห่างออกไปพอสมควร แต่ยังพอมีเวลาแวะไปดูสักหน่อย
ตลาดพันเจียหยวน เป็นตลาด "ของเก่า" ที่มีผู้ขายอยู่ประมาณ 3,000 เจ้า
ซึ่งพวกเขาจะตระเวนไปตามเมืองต่างๆ เพื่อค้นหาของเก่า
ทั้งของที่มรดกตกทอดของครอบครัว และสิ่งของที่น่าสนใจต่างๆ เช่น รูปแกะสลัก
แจกันลายคราม เฟอร์นิเจอร์สไตล์ราชวงศ์ชิง หรือภาพถ่ายวินเทจ
ใครที่สนใจของแนวแอนทีค อย่าลืมแวะมานะครับ
(ติดตามต่อด้านล่างนะครับ ^ ^)