ออกไปเที่ยว@นครศรีธรรมราช-พัทลุง 3 วัน 2 คืน

ทริปนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยค่ะ จริงๆต้องยกความดีความชอบนี้ให้ไอ้ไข่ ซึ่งกำลังเป็นสถานที่ยอดนิยมที่ผู้คนเดินสายกันไปแบบคับคั่ง ถ้าพ่อของเราไม่ได้อยากไปไหว้ไอ้ไข่ที่นครศรีธรรมราช555555  ซึ่งตัวเรานั้นก็เออออห่อหมกเพราะอยากไปเที่ยวมากกกกกก หลังจากโควิดเริ่มเบาลงแถมยังเก็บกฎจากสารพัดทริปทั้งในไทยและต่างประเทศที่ล่มจากเจ้าโควิดตัวดีนี่เองค่ะ
จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นจังหวัดที่เราอยากไปมากกก เพราะเราไม่ค่อยได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวทางใต้ซักเท่าไหร่ แถมยังไกลแสนไกลอีก มีโอกาสทั้งที่เราเลยไม่พลาดค่ะ ส่วนพัทลุงคือจังหวัดที่เราคิดว่าถ้าได้ไปนครศรีธรรมราช พัทลุงคืออีกจังหวัดที่ควรไปทีเดียวให้เรียบร้อยไปเลยค่ะ เพราะพัทลุงก็สวยไม่แพ้กันเลย

ภาพจากในกระทู้ เป็นภาพจาก Samsung Galaxy Note 20 5G และกล้องฟิล์ม yashica Electro 35Gs ค่ะ

เริ่มต้นทริปของเราจากสนามบินดอนเมืองค่ะ เราจองไฟล์ทเช้าสุดเพื่อจะได้มีเวลาเที่ยวเยอะๆค่ะ ส่วนเรื่องการเดินทางระหว่างทริป เราเช่ารถจากเมืองลิกอร์ ซึ่งให้บริการดีมากกกค่ะ หาเบอร์ได้จากgoogle ได้เลยค่ะ ข้อแนะนำของใครที่อยากไปเที่ยวนครศรีธรรมราชช่วงนี้ แนะนำให้จองรถก่อนและจองโรงแรม และจองเครื่องบินทีหลังค่ะ เพราะรถช่วงนี้เต็มเกือบทุกเจ้า เพราะคนยังไปเที่ยวเยอะมากค่ะ
ข้อแนะนำคนนั่งไฟล์ทเช้าลงภาคใต้แล้วอยากได้รูปพระอาทิตย์สวยๆ แนะนำให้นั่งทางซ้ายของเครื่องบินนะคะ แต่เสียอย่างเดียว แดดจ้ามากกก

เครื่องเลี้ยวพอดี เลยถ่ายเห็นเกาะสมุย ไว้เจอกันครั้งหน้านะ ><


พอถึงสนามบินนครศรีธรรมราชและรับรถ เช็ครถเรียบร้อยแล้วเราก็เดินทางไปที่แรกกันค่ะ แน่นอนค่ะ หาของกินก่อน หิวมากก หิวสุดๆ หิวจนลืมถ่ายรูปร้าน5555555 แต่ไม่ต้องห่วงไปค่ะ ได้ถ่ายรูปของกินมา ร้านที่เราไปคือ ร้านโกปี๊ ร้านอาหารที่โด่งดังมากในจังหวัดนครศรีธรรมราช ถือเป็นร้านที่ใครได้มาก็ต้องแวะมากิน ร้านนี้ดักตั้งแต่ในสนามบิน และมีอีกหลายสาขามากแทบจะทั่วจังหวัดค่ะ บั๊กกุ๋ดเต๋กับสังขยาอร่อยมากค่ะ คือดี


หลังจากกองทัพต้องเดินด้วยท้อง เราก็ออกเดินทางไปยังวัดเจดีย์(วัดไอ้ไข่)กันค่ะ
วัดเจดีย์จะอยู่ห่างจากสนามบินประมาณ 30 กิโลเมตร ที่เราเลือกไปวัดเจดีย์ก่อนเพราะว่า ต้องกลับไปนอนที่หมู่บ้านคีรีวงค่ะ ไปครั้งนี้เลยยังไม่ได้ไปแวะเที่ยวทางฝั่งขนอม ตั้งใจว่าถ้าคร้ังหน้ามาสุราษฏร์ธานีและสมุยค่อยแวะมาเที่ยวขนอมเพราะดูใกล้กว่ากว่า

วัดเจดีย์นี้โด่งดังจากพลังศรัทธาของผู้คนจากไอ้ไข่นั่นเอง เรายอมรับว่าแอบตกใจที่เราไปวันธรรมดาคนก็ยังเยอะอยู่ดีถ้าใครเป็นสายมูหรือชอบไปตามเก็บวัดเพื่อไหว้พระ ทำบุญ เราก็แนะนำวัดเจดีย์เป็นอีกหน่ึ่งที่ที่ควรไปค่ะ 
คือไก่จะล้นวัดแล้วว

เราใช้เวลาอยู่ซักพักเหมือนกันที่วัดเจดีย์เนื่องจากต้องไปไหว้ ไปจุดประทัดแถมพ่อไปหาส่องพระด้วย5555 เลยอยู่ที่นี่นานหน่อยค่ะ แต่ก่อนที่เราจะไปเข้าเมืองนครศรีธรรมราช เราได้แวะไปวัดๆหนึ่ง ที่เราฟังรายการอังคาร คลุมโปงสองวันก่อนหน้าที่จะออกเดินทางทริปนี้พอดี เราได้ยินคุณมดดำแนะนำคนที่ไปวัดเจดีย์ให้ไปวัดนี้ต่อหรือไปก่อนก็ได้ นั่นก็คือ วัดยางใหญ่ค่ะ

ความพิเศษของวัดยางใหญ่คือ ที่วัดพึ่งมีการสร้างโบสถ์สีชมพูเสร็จค่ะ ซึ่งมีผู้ใจบุญมากมายช่วยกันสมทบทุนมา

และที่วัดยังมีตาพรานบุญที่ผู้คนแถวนั้นนิยมเข้าไปไหว้ขอพรและแก้บนด้วยผ้าขาวม้า ซึ่งตอนที่เราถ่าย ไม่ได้เข้าไปถ่ายตรงองค์รูปปั้นเพราะคนต่อคิวติดทองเยอะมากค่ะ

ถ้าใครชอบทำบุญวัดที่ยังต้องการจิตศรัทธาจากผู้ใจบุญเพื่อพัฒนาวัด เราก็แนะนำวัดนี้นะคะ
ต่อจากนี้เราก็ไปแวะทะเลซักหน่อย เพราะมาใต้ทั้งที จะไม่ได้เห็นทะเลเลยก็รู้สึกแปลกๆค่ะ เราเลยแวะหาดทรายแก้ว หาดที่อยู่ระหว่างวัดเจดีย์กับตัวเมืองค่ะ

เอาจริงๆค่ะ เราไม่เจอคนซักเลยซักเดียว เราเลยงงว่า เราไปแวะถ่ายรูปถูกจุดหรือเปล่าค่ะ5555555 

หลังจากถ่ายรูปริมทะเลกันแบบหอมปากหอมคอแล้ว เราก็เดินทางไปยังอีกหนึ่งวัด นั่นก็คือ วัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร หนึ่งในวัดที่เราอยากไปมาก เพราะเป็นวัดสุดท้ายที่อยู่บนเหรียญที่เราใช้ที่เราได้มาค่ะ

วัดพระมหาธาตุเป็นอีกหนึ่งวัด ที่ใครได้มาถึงนครศรีธรรมราชก็จะต้องแวะเข้ามาสักการะพระมหาธาตุซักครั้งค่ะ 

ในวัดจะมีหลายๆจุดในเราเข้าไปสักการะ ทั้งพระที่อยู่รอบๆฐานพระมหาธาตุและจตุคาม รามเทพที่โด่งดังไปเมื่อหลายปีก่อน ที่อยู่ด้านหลังพระมหาธาตุค่ะ

ส่วนพระรูปนี้คือ พระแอ็ค ตามที่เขาเล่ามากันนะคะ เขาบอกว่าถ้าใครชอบปวดเมื่อยหลัง ให้ไปกราบไหว้สักการะพระองค์นี้และเอาไม้ค้ำวางไปด้านหลังท่านจะช่วยให้ดีขึ้นค่ะ ถ้าเราเข้าไปในโบสถ์หลังเล็กๆของพระ จะเห็นรูปของผู้คนมากมายที่อยู่ในนั้น เราคิดว่าน่าจะเหมือนเอามาฝากให้หายเจ็บป่วยค่ะ เราก็ไปค่ะ สายปวดหลัง55555

พอออกจากวัด เราก็ตรงไปยังอีกสถานที่แห่งหนึ่งค่ะ ก่อนที่จะไปเที่ยวหมู่บ้านคีรีวงกัน นั่นก็คือ ศาลหลักเมืองนั่นเองค่ะ ขึ้นชื่อว่าที่นี่สวยมาก ซึ่งก็ไม่ผิดหวังค่ะ เพราะเขาสร้างสวยจริงๆ(บ้านเราดูเป็นสายมูจังอ่ะ5555)


ไปค่ะ ถึงเวลาที่เราต้องเดินทางไปยัง หมู่บ้านคีรีวืง หมู่บ้านที่อากาศดีที่สุดในประเทศไทยและขึ้นชื่อว่า ธรรมชาติดีมากๆกันค่ะ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 26 กิโลเมตร ถือว่าไม่ไกลค่ะ แต่พอใกล้จะถึงหมู่บ้าน ทางอาดลาดชันบ้าง ขับรถกันใจเย็นๆนะคะ เพราะชาวบ้านแถวนั้นยังคงใช้ชีวิตกันปกติ ขับรถมอไซต์พ่วงข้าง เก็บผลไม้ไปส่งตามร้านกันเยอะ ถ้าขับรถเร็ว อาจเป็นอันตรายกับทั้งเราและชาวบ้านได้ค่ะ
ระหว่างทางก็บรรยากาศดีแล้ววว

ก่อนอื่นเลย เราเข้าพักที่ Passion Resort Kiriwong เป็นโรงแรมที่อยู่ไม่ไกลจากสะพานที่หลายๆคนชอบไปถ่ายรูปกันค่ะ 

แอบเจอพนักงานต้อนรับอู้งานหนึ่งอัตราค่ะ

กว่าจะมาถึงคีรีวงก็ตกเย็นแล้ว เราเลยใช้เวลาถ่ายรูปกันอยู่สะพานนานมากจนจะมืดเลยค่ะ ก็วิวมันสวยจริงๆ อากาศก็ดี 

วิวด้านหลังสะพานก็จะย้อนแสงหน่อยค่ะ พระอาทิตย์ตกตอนเย็นทางภูเขาพอดี

ด้านล่างสะพานจะมีลานหินอยู่ ถ่ายรูปสวยมาก แต่เราลืมถ่ายแต่ลานหินค่ะ เลยต้องติดหน้าเราไปหน่อยนะคะ ให้ดูเป็นตัวอย่างค่ะ

ถ่ายจากลานหินไปจะเห็นโรงแรมที่เราเข้าพักค่ะ เป็นตึกท่ามกลางภูเขาเลย

ตกเย็น ไม่รู้จะไปกินข้าวที่ไหน สรุปเลยจบที่โรงแรม แนะนำ พิซซ่าโฮมเมตอร่อยมากกก ถ้าใครไม่ได้เข้าพักก็สามารถเข้าไปรับประทานอาหารได้นะคะๆ

เช้าวันรุ่งขึ้น เราก็กลับไปที่สะพานอีกครั้งค่ะ เพราะแสงดีและไม่มีเมฆเลย ใครชอบถ่ายรูปแนะนำให้ลองไปทั้งสองเวลานะคะ จะได้รูปกันคนละโทนเลย


วันนี้เราจะมุ่งหน้าไปยังจังหวัดพัทลุงที่เป็นจุดหมายต่อไปของเราค่ะ แต่ก่อนจะไปต่อนั้น เราได้แวะไปน้ำตกกะโรม ที่อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านคีรีวงมากนักค่ะ ตอนเข้าไป 

ยอมรับเลยว่าที่นี่ธรรมชาติยังดีอยู่มากๆๆ ป่าสีเขียวแถมพื้นยังเป็นมอสขึ้นตามหาง ให้เราลื่นเล่น แต่ช่วงที่เราไปเขาไม่ให้เล่นน้ำนะคะ น่าจะเพราะโควิดหรือไม่ก็หน้าน้ำหลากค่ะ แต่ที่สำคัญ เราขึ้นไม่ถึงข้างบนสุดค่ะ เพราะพ่อกับแม่ไปไม่ไหว555555 ใครที่ขึ้นไปถึงข้างบนฝากถ่ายบรรยากาษมาให้ดูด้วยนะคะ แอบเสียดาย ไว้ถ้าครั้งหนาได้ไปกับเพื่อน จะลากเพื่อนขึ้นให้ถึงบนสุดค่ะ


ระหว่างกลับออกไปทางพัทลุง เราเลยไปตามรอยรุ่นพี่ทำงาน ที่เขาเคยแวะมาคาเฟ่นี้ค่ะ นั่นก็คือ Little House in the Valley ร้านคาเฟ่เล็กๆท่ามกลางหุบเขา ที่มีที่ถ่ายรูปสุดชิคให้เสียวขาเล่นค่ะ555555

จากนั้นเราก็ออกเดินทางไปยังพัทลุง จังหวัดเล็กๆที่มีมุมสวยๆมากมายค่ะ และอยู่ไม่ไกลจากนครศรีธรรมราชและหาดใหญ่ ถ้าใครจะมาก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกเลยค่ะว่าจะมาลงนครศรีธรรมราชหรือหาดใหญ่ก็ได้ค่ะ

สถานที่แรกที่เรามาในพัทลุงก็คือ สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ที่สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมจังหวัดพัทลุงและสงขลาให้ไปกันง่ายขึ้น ข้ามผ่านทะเลน้อย และทะเลสาบขนาดใหญ่ที่กั้นทั้งสองจังหวัดไว้ค่ะ