เมื่อ "ลูกผู้ชาย" อย่างผมถูกกระทำให้เป็น "ลูกสาว" : ประสบการณ์ชีวิตและความรักตั้งแต่วัยเด็กจนถึงปัจจุบัน ตอนที่ 3

ย้อนกลับไปในวันที่เกิดเรื่อง เย็นนั้นเป็นเย็นที่พ่อให้เวลาผมมากที่สุด ท่านไม่เคยให้เวลากับผมนานขนาดนี้มาก่อน
แต่มันดันมีแต่คำถามที่ไร้สาระ

"มีปัญหาอะไรกัน"
"ทำไมต้องต่อยกัน"
"ใครเริ่มก่อน"
"ทำไมคุยกันดีๆไม่ได้"

พอผมเงียบ ไม่ได้พูดอะไรออกมา พ่อก็หันมาเล่นงานแม่
"เลี้ยงยังไง ปล่อยให้เป็นอันธพาลแบบนี้" พ่อพูดเสียงดังมาก แต่แม่เงียบ พ่อดีอย่างตรงที่ไม่เคยทำร้ายร่างกายแม่
มันเป็นเวลาที่ผมรอมานานมากที่จะได้ใกล้ชิดกับพ่อ แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่เหม็นเบื่อเอามากๆ
วันนั้นจบลงตรงที่พ่อเดินจากไป แต่อีกไม่นาน ผมดันเสียใจยิ่งกว่าที่เสือต้องจากไป ผมผิดมากที่ไปทำร้ายเขา

ผมแอบได้ยินป้าอินกับแม่ปรึกษากันว่า ขนาดพวกเขาทำกันถึงขนาดนี้ ผมเองก็ยังคงนิส้ยอันธพาลเหมือนพ่อ
พวกเขาคุยกันว่าจะทำยังไงกับผมดี ผมเองก็เริ่มสับสน เริ่มสงสัยว่าทำไมป้าอินถึงมายุ่งวุ่นวายกับผม
แต่ดันไม่ได้ใส่ใจหลานชายคนอื่นเลย มันน่าสงสัยมาก เพียงแต่ผมยังไม่มีคำตอบในใจ 
หลังจากนั้น โลกของผมก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปอยู่ในโลกของผู้ชาย
แต่เหตุการณ์ที่โรงเรียนดันกลับตาลปัตร มีนักเรียนชายบางคนได้ยินข่าวการต่อยกันระหว่างผมกับเสือ
บางคนถึงขั้นมานั่งกอดคอผมในระหว่างการกินข้าวกลางวัน แล้วกระซิบข้างหูผมว่า "มีงนี่ไม่ธรรมดานะ"

พอ อ.สายพิณเห็นนักเรียนชายคนนั้นเข้ามาใกล้ชิดผม แกรีบเดินมาดึงเขาให้ออกห่างจากตัวผม
"คุณเติ้ลต้องการความเป็นส่วนตัวนะ" ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไรแล้วล่ะ รู้สึกปวดหัว ต้องการพักผ่อน
ผมมารู้ภายหลังว่าเสือเป็นนักเรียนชายที่นักเรียนชายส่วนใหญ่รู้สึกดีด้วย ตอนแรกหลายคนโกรธผม
ที่ผมทำให้เสือต้องไปจากโรงเรียน แต่เสือเองเรียกเพื่อนสนิทไปคุยและบอกว่าเขาสบายดี
ผมเองไม่ได้ผิดอะไร เขาเองท้าผมต่อยเพราะรู้ว่าผมที่อยู่ในสภาพเงียบๆเรียบร้อย
แต่จริงๆแล้ว ผมเป็นมวยและเก่งมาก เสือจึงอยากลองเชิง แต่ที่บ้านหวงผมมาก จึงไม่อยากให้ผมชกต่อยกับใคร

ถึงจะเป็นการปั้นน้ำเป็นตัว แต่เสือมีน้ำใจกับผมมาก เขาพยายามปกป้องผม พยายามให้ผมเป็นที่ยอมรับ
แทนที่จะถูกเกลียดชังจากนักเรียนชายส่วนใหญ่ ผมรู้สึกว่าเสือเป็นลูกผู้ชายดีจัง ครอบครัวเขาเจ็บปวดก็เพราะผม
แต่เขาก็ยังจะมาปกป้องผม ตอนแรกผมอยากจะไปขอบใจเสือด้วยตัวเอง แต่ไม่กล้า กลัวจะมีเรื่องมีราวกันอีก
พอผมไม่กล้าไปพบเสือ ผมจึงเก็บตัวแบบอยู่คนเดียวเงียบๆ พี่พลเห็นผม เขาไม่ได้ถามอะไรผมเลย
เพียงแต่อุ้มผมขึ้นนั่งบนมอเตอร์ไซด์ข้างหน้าเขา แล้วก็ขี่รถพาผมออกไปข้างนอกกับเขา 
ตอนนั้นผมมีความสุขมาก มันเหมือนกับว่าผมได้ขี่มอเตอร์ไซด์เสียเอง แต่พอเราสองคนกลับมาบ้าน
ป้าอินก็ด่าว่าพี่พลแบบไม่มีชิ้นดี 

พี่พลไม่ทน เขาเก็บของแล้วออกไปจากบ้าน นั่นทำให้พี่รุ้งหัวใจสลาย ไม่ใช่แค่พี่รุ้งนะที่หัวใจสลาย ผมเองก็เช่นกัน
หลังจากไม่ได้เจอเสือ การที่มีพี่พลอยู่ในบ้านก็ทำให้ผมรู้สึกดีนะ แต่พอพี่พลไม่อยู่ มันก็เหมือนไม่มีผู้ชายอีกเลยในบ้านหลังนี้
หลังจากนั้นในโลกของผมก็มีแต่ผู้หญิง ตอนนั้นน่าจะประมาณ ป3-ป.5 ช่วงที่ไม่มีใครอยู่บ้าน ป้าอินจับผมแต่งเป็นเด็กผู้หญิง
จับสวมวิก จับแต่งหน้า พามาดูกระจก "น่ารักจัง อย่าเป็นเลยนะเด็กผู้ชาย ไม่ดีหรอก เป็นเด็กผู้หญิงแบบนี้แหละดีแล้ว"
ไอ้การที่เป็นเด็กว่านอนสอนง่าย ผมก็เลยไม่ได้ขัดขืน แต่ป้าอินคงรู้ว่าถ้าแม่กับคนอื่นกลับมา คงไม่เห็นดีด้วยแน่
จึงจับผมแปลงร่างให้กลายเป็นเด็กผู้ชายอีกครั้ง พอคนอื่นกลับมา พวกเราก็ไม่ได้แสดงพิรุธอะไรกัน

ยากมากที่จะทราบว่าทำไมป้าอินถึงต้องการแบบนั้น ตอนนี้ดูเหมือนว่านายทหารหน่วยรบพิเศษที่อยู่ในร่างผมกำลังนอนนิ่งสนิทอยู่
แต่สิ่งที่ป้าอินทำกำลังทำให้ผู้หญิงอีกคนเกิดขึ้นมาในตัวผม บางครั้งผู้ใหญ่ก็คิดไม่ถึงว่าการทำอะไรกับเด็กประถมมันจะมีผล-
บางอย่างที่ยากเกินจะคาดเดา ตัวผมเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน การถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพแบบนั้นนานๆ ไม่นานนักผมก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิง
เป็นความรู้สึกลึกๆที่อยู่ในจิตใจส่วนลึก ตอนไม่มีป้าอินอยู่ ผมก็ไม่ได้กระเหี้ยนกระหือรือที่จะแต่งหญิง การเดินเหินก็ยังคงเป็นเด็กผู้ชายอยู่
แต่อาจจะดูเรียบร้อยเกินเด็กผู้ชายทั่วไป ผมกลายเป็นเด็กผู้ชายวัยประถมที่แทบไม่ซนเลย เรียบร้อยมาก เรียบร้อยจนผมเองก็คิดหนักข้อ-
มากขึ้นทุกวันว่าผมเองเป็นเด็กผู้หญิงที่อยู่ในร่างของเด็กผู้ชาย 

ตอนจบ ป.5 ผมเองได้รับรางวัล "นักเรียนชายมารยาทดีเด่น" "นักเรียนชายแต่งกายดีเด่น" และ "นักเรียนชายตัวอย่าง" ผมคิดในใจลึกๆว่า 
"มีงประกาศผิดแล้ว กูเป็นนักเรียนหญิงนะ" แต่ก็สามารถเดินขึ้นไปรับรางวัลได้หลายรอบอย่างสง่าผ่าเผย บุคลิกภายนอกก็โอเคนะ
แต่บุคลิกภายในมันจะประมาณว่านิโคล คิดแมนขึ้นไปรับรางวัลออสการ์ เสียงปรบมือก็ดังอยู่นะ แต่ความรู้สึกลึกๆ มันคล้ายๆกับว่า
ผมกำลังถูกสวมมงกุฏนางงามจักรวาล และนี่คือ First Walk ของผม หลังจากนั้นผมก็ไม่กล้าเข้าใกล้ผู้ชายคนไหนอีกเลยแม้กระทั่งพ่อ
จนมาถึงเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

เนื่องมาจากว่าพ่อเปย์สาวจนเกินไป จนทำให้ธุรกิจมีปัญหา พวกเราต้องขายบ้านและย้ายมาอยู่ที่บริษัทของพ่อ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็น-
อาณาจักรของพ่อ มันเป็นตึกแถวถึง 6 คูหา 3 คูหาเป็นสถานที่ทำงาน ผมจำได้แค่ว่าพ่อรับติดแอร์ให้กับโรงหนัง อีก 3 คูหาเป็นหอพัก
แต่ก็ทำให้ดูหรูเกินหอพักทั่วไป 3 คูหาแรก ชั้นล่างมันจะมีเครื่องกลึงกับเครื่องไม้เครื่องมือเต็มไปหมด มีช่างหนุ่มๆทำงานกันอยู่หลายคน
ถัดไปเป็นชั้นลอย ชั้นออฟฟิศ จำไม่ได้แล้วว่าตึกสูงทั้งหมดกี่ชั้น ห้องนอนผมอยู่ชั้น 4 ผมงงกับชะตาชีวิตผมมาก เมื่อก่อนก็อยู่ในโลก-
ของผู้หญิง ตอนนี้กลับมาอยู่ในโลกของผู้ชาย แต่ในใจคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิง

ตอนย้ายมาเป็นช่วงปิดเทอมพอดี พอเปิดเทอมผมก็จะขึ้น ป.6 แล้ว ผมต้องย้าย รร. มาเรียนอีกทีนึง ผมจึงจำได้แม่นเพราะมันเป็นรอยต่อพอดี
ช่วงปิดเทอม บ่อยครั้งที่ผมยืนบนระเบียงตรงหลังตึก ตรงนั้นเป็นลานกว้าง เด็กผู้ชายชอบมาเล่นกัน เล่นบอลบ้าง เล่นต่อสู้บ้าง 
ตอนนั้นผมรู้สึกว่าผมแตกต่างจากพวกเขามาก ยืนดูตรงนี้ก็เห็นผู้ชายเต็มไปหมด ข้างล่างก็มีผู้ชายเต็มไปหมด ผมคิดเล่นๆว่าทำไมผู้หญิงอย่างผม
จึงต้องมาอยู่ท่ามกลางผู้ชายจำนวนมาก ผมหมกมุ่นแต่เรื่องของตัวเองมากจนลืมพ่อกับแม่ไปเลย

โรงเรียนใหม่เป็นโรงเรียนเอกชนที่ค่าเทอมไม่แพง แต่แฝงไปด้วยความรุนแรงค่อนข้างมาก ครูประจำชั้นห้องที่ผมเรียนอยู่ชื่อครูเกริก 
แกตัวอ้วนใหญ่ แต่ดูแข็งแรง อายุอานามน่าจะประมาณ 35-40 ปี แกเป็น อ.ฝ่ายปกครองและดูแลกิจการลูกเสือของโรงเรียนด้วย
มาดแกโหดมาก พูดอยู่ดีๆ แกก็เดินมาที่นักเรียนชายคนหนึ่งแล้วทุบหลังเขาอย่างแรง ผมตกใจมาก ผมหันไปดู ก็เห็นนักเรียนชายหล่อล่ำคนหนึ่ง
ไม่นานนักผมก็สังเกตได้ว่า ครูเกริกชอบลงโทษนักเรียนชายที่หล่อและหุ่นดี โดนกันหมดตั้งแต่ ป.6-ม.3 ส่วนนักเรียนหญิง แกไม่สนใจเลย
ตอนแรกผมก็คิดว่ากูรอดแล้วเพราะกูเป็นผู้หญิง แต่พอสติถูกดึงกลับมา อนิจจา กูเป็นผู้หญิงในร่างชายนี่หว่า แล้วก็ออกจะไปในทางหล่อล่ำด้วย

ตอนนั้นผมรู้สึกกลัวมาก เวลาครูเกริกลงโทษ นร. ชาย มันออกจะโหดร้ายจนถึงขั้นป่าเถื่อนไปเลย มีทั้งทุบหลัง ฟาดหน้าอก ชกท้อง ที่เคยเห็นกับตา
คือตอนที่แกเรียกรุ่นพี่ ม.3 ที่หล่อล่ำคนหนึ่งไปตรงลานหินกรวดมน แกสั่งให้เขาถอดเสื้อออก นอนคว่ำ เอามือไพล่หลัง แล้วใช้หน้าอกแถกตัวไปบน
หินแหลม พร้อมกับมีการกระทืบหลังไปด้วย สำหรับผมแล้วมันเป็นการลงโทษที่โหดร้ายมากและไม่สมควรเกิดขึ้นในโรงเรียน
คำถามที่ค้างคาใจคือทำไมแกถึงทำอย่างนั้นได้ ไม่นานนักผมจึงพบคำตอบว่า แกมีชื่อเสียงในการทำให้เด็กที่เป็นอันธพาลกลายเป็นเด็กดี
แต่อาจจะต้องใช้วิธีที่ป่าเถื่อนและรุนแรงบ้างถึงจะกำหราบเด็กพวกนี้อยู่ แกกับกลุ่มของแกพยายามสร้างชื่อเสียงให้ออกมาประมาณนั้น

แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่น่าใช่ เพราะแกจะเล็งเฉพาะนักเรียนชายที่หน้าตาดีและพอมีกล้าม คือคนที่ถูกลงโทษจะทรงประมาณนี้ทั้งนั้น
และไม่ได้มีแกคนเดียวที่ชอบทำแบบนี้ แต่มีกันเป็น gang มันทำให้ผมรู้สึกกลัวพวกแกมาก กลัวจนถึงขีดสุด พยายามทำตัวให้ห่างจากพวกแก
ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ชีวิต ป.6 ปี 2525 ของผมมันช่างโหดร้ายเหลือเกิน ตอนเรียนอยู่ดีๆ แกก็ลงโทษ นร.หล่อล่ำในห้องคนนึง
โดยการให้ยืนกางแขนบนเก้าอี้ แล้วเอาปากคาบกระเป๋าไว้ เพื่อนผมคาบตรงที่ถือกระเป๋า แต่กระเป๋ามันหนักมาก มันเลยยืนแบบเซๆ
ระหว่างที่สอน แกก็มักจะเดินมาทุบหลังเพื่อนคนนี้อย่างรุนแรง มันโหดร้ายทารุณมาก

สมัยปี 2525 กรุงเทพยังหนาวมากๆ (รร.ผมอยู่ชานเมืองกรุงเทพ) ตอนถึงช่วงหน้าหนาว มันจะหนาวมาก แต่จะเป็นช่วงที่ครูเกริกมีความสุขมากๆ
ผมยังจำได้แม่นที่แกสุ่มเลือก นร. ชายที่ดูหล่อและหุ่นดีประมาณ 6 คนให้ออกไปยืนนอกห้อง โชคดีมากที่แกไม่เลือกผม
6 คนนี้ไม่มีความผิดอะไรเลย แต่ละคนสวมเสื้อกันมาประมาณ 2-4 ชั้น มีเสื้อกล้าม เสื้อยืด เสื้อนักเรียนและเสื้อกันหนาว 
วันนั้นมันหนาวมากจริงๆ แต่แกสั่งให้ทุกคนถอดเสื้อออกจนหมด คือให้เปลือยท่อนบนกันเลยทีเดียว แล้วให้ยืนกางแขนเพื่อให้หน้าอกได้ปะทะ-
ลมหนาวแบบเต็มๆ

ห้องเรียนผมอยู่ชั้น 7 ช่วงเช้าๆ ลมหนาวกำลังพัดแรงทีเดียว แกเดินวนไปมา ในมือถือฟุตเหล็ก สักพักก็เอาไปฟาดหน้าท้องของ นร.ชายคนหนึ่งอย่างแรง
แต่ถ้าเป็นแผ่นหลัง ก็จะเจอแกใช้กำปั้นทุบอย่างแรง บางทีแกเดินไปห้องพักครู เปิดตู้เย็น เอาน้ำเย็นจัดเทใส่แก้ว 6 แก้วที่วางอยู่บนถาด
แล้วสั่งให้นักเรียนมาช่วยยกถาด นร.บางคนโดนเอาน้ำเย็นสาดใส่หน้า บางคนโดนเอาน้ำเย็นสาดใส่หน้าอก บางคนก็โดนเอาน้ำเย็นราดใส่หัว
มันรุนแรงและโหดร้ายมาก ถึงผมจะหน้าตาคมคายและตัวเริ่มหนา แต่ด้วยมีความเป็นผู้หญิงอยู่ในตัวสูง แกจึงมองข้ามผมไป 
ซึ่งถือว่าเป็นโชคดีของผมมาก 

แต่พอถึงค่ายลูกเสือปลายปี ครูเกริกตั้งใจทำค่ายลูกเสือได้เจ๋งสุดๆ แล้วมีการแยกหญิงกับชายออกจากกัน (จำไม่ได้ว่าผู้หญิงเขาเรียกว่าเนตรนารีหรือ
อนุกาชาดครับ) ค่ายลูกเสือของผู้ชายมีหลายด่านที่ดูโหดๆ มีการลงโทษบ่อย ศิษย์เก่าที่เป็นลิ่วล้อของแกมากันเพียบ แกจัดสภาพค่ายคล้ายๆ
ค่ายทหารเลย มันทำให้หญิงสาวในร่างผมหายตัวไป แล้วนายทหารหน่วยรบพิเศษก็กลับมา แล้วเป็นการกลับมาอย่างบ้าคลั่ง 
วันนั้นผมตั้งใจฝึกลูกเสืออย่างดี วิดพื้นนี่วิดแบบท่ามาตรฐานสุดๆ แล้วก็วิดได้หลายที (แปลกใจเหมือนกันที่ตัวเองทำได้) 
วิ่งผ่านด่านแต่ละด่านนี่สุดยอดมาก คือผมแมนและเข้มแข็งแบบสุดๆ โดยที่หารู้ไม่ว่ามีใครจับจ้องอยู่

จนมาถึงคืนสุดท้าย ครูเกริกพูดว่าลูกเสือปีนี้ห่วยแตกมาก ต้องมีลูกเสือคนหนึ่งที่จะต้องถูกลงโทษแทนทุกคน แล้วเราจะมาจับสลากหาผู้โชคร้ายคนนั้น
แล้วแกก็จับชื่อผมขึ้นมา ผมมารู้ภายหลังว่าสลากในโถแก้วมีแต่ชื่อผม แกจับแล้วให้ลูกเสืออีกคนขานชื่อ ตอนแรกแกเล็งอีกคนให้เป็นเหยื่อ
แต่แกมาเปลี่ยนใจเมื่อเห็นตอนที่ผมฝึก พอลูกเสือคนนั้นขานชื่อ ผมก็เดินออกไปหน้าแถวอย่างห้าวหาญ แกเดินมากระซิบข้างหูผม
"กูมองข้ามเด็กแมนๆอย่างมีงไปได้ยังไง มีงไปหลบอยู่ที่ไหนมาวะ" ผมมารู้ภายหลังว่าคืนสุดท้ายแกชอบหาเหยื่อที่แมนๆ มาลงโทษเพียงคนเดียว
และมันต้องโหดหน่อย เพราะเขาต้องมารับการลงโทษแทนลูกเสือทุกคนในโรงเรียน ถ้ามี 200 คนก็ต้องคูณ 200 ไม่งั้นไม่สะใจ 

ครูเกริกพูดกับแถวลูกเสือว่า "กูได้คนที่จะโดนลงทัณฑ์แทนพวกมีงแล้ว" และหันมาตะโกนบอกผมว่า 

"ชุดลูกเสือเป็นชุดที่มีเกียรติมาก เวลาที่มีงโดนลงทัณฑ์ มีงไม่ควรทำให้ชุดลูกเสือต้องแปดเปื้อน"

"ถอดเครื่องแบบของมีงออกให้หมด ให้เหลือแค่กางเกงในตัวเดียวพอ"
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่