ตามหัวข้อเลยครับ ผมมีน้องชาย1คน ผมรู้ดีว่าทางบ้านเริ่มมีปัญหาทางการเงินมาตั้งแต่ผมขึ้นม.6 ผมตัดสินใจว่าจะไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัยเพื่อให้น้องได้เรียน ผมเป็นคนที่เรียนไม่ค่อยเก่งอยู่แล้วเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอเรียนจบม.6ผมบอกแม่ว่าจะไม่เรียนต่อแต่ผมไม่ได้พูดว่าจะไม่เรียนเพื่อให้น้องเรียน ช่วงต้นปีผมจบม.6มาก็ยังหางานไม่ได้เพราะโควิดกำลังระบาดผมเพิ่งหางานทำได้ช่วงเดือนที่ผ่านมาเอง ในทุกๆวันตอนผมยังไม่ทำงานแม่ผมก็บ่นๆว่า"เรียนไม่เก่งโตไปจะไปทำไร มหาลัยก็ไม่เรียนต่อกูเลี้ยงต่อไปไม่ได้" ผมเข้าใจว่ามันเป็นการบ่นเพื่อให้ผมได้ดี แต่มันเป็นเหมือนดาบสองคมที่ทำร้ายจิตใจผมไม่ใช่น้อยบางครั้งก็แอบคิดว่ากูเกิดมาทำไม แต่พอมองย้อนเหตุผลกับไปที่ผมรู้เรื่องฐานะการเงินของบ้านกำลังแย่ ผมก็ได้ปล่อยผ่านความคิดพวกนั้นไป พอผมหางานเงินก้อนแรกที่ผมได้ผมก็แบ่งให้แม่ไป30% ที่เหลือผมเก็บไว้ออมในหุ้น ผมไม่เคยบอกแม่ว่าผมมีความคิดในอนาคตยังไงบ้าง ผมอยากเก็บไว้คนเดียวแล้วให้ความสำเร็จนั้นแสดงออกมาเอง อาจจะเป็นเพราะแบบนี้มั้งที่แม่ชอบเปรียบเทียบผมกับคนอื่นๆช่วง1อาทิตย์ที่ผ่านมาเพราะผมไปเที่ยวกับเพื่อนปกติผมไม่ได้ไปผมเป็นค่อนข้างติดบ้านผมไปเที่ยวใช้เงินที่ตัวเองหามาจ่ายพอกลับบ้านมาแม่ก็บ่นว่า"ทำไมไม่เก็บเงินไว้ใช้บ้างบ้างสักวันจะลำบากเอาเรียนก็ไม่เรียนสักวันจะเห็นเพื่อนๆประสบความสำเร็จแล้วจะเสียใจ" ฟังประโยคนี้มันมันเจ็บมากเลยอะผมรู้อยู่แล้วว่าต้องเก็บผมเก็บเงินแบ่งอย่างชัดเจนผมรู้ดีว่าต้องเก็บแต่พออธิบายเหตุผลไปแม่ผมก็หาว่าเถียงอีกเช่นเคย ถึงผมจะรู้ว่าผมทำถูกต้องแล้วแต่ผมจะทำไงให้ผ่านจุดนี้ไปได้ผมไม่รู้ว่าจะผ่านตรงนี้ไปได้ยังไงจุดที่โดนด่าโดนว่าอยู่แบบนี้โดนเปรียบเทียบอยู่แบบนี้ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมเป็นโรคซึมเศร้ารึเปล่า ผมพยามคิดบวกไว้เสมอแต่ผมโดนเปรีบบผมก็คิดลบทันทีบางครั้งก็อาจจะคิดลบเป็นวันๆเลยเคยคิดอยากจะตายแต่ผมก็พยามคิดหาเหตุผลให้ตัวเองอยู่ต่อ เพื่อนพี่ๆมีแนวทางยังไงให้ผ่านจุดนี้ไปได้ครับผมเชื่อว่าต้องมีคนเคยผ่านเรื่องนี้มาแล้วแน่ๆ
แม่มักเปรียบเทียบผมกับลูกคนคนอื่นอยู่เสมอเพียงเพราะผมไม่เรียนต่อ