ขณะที่ตลาดหนังในอเมริกาเหนือเองยังฟุบจาก COVID-19 โดย TENET เพิ่งจะทำเงินรวมไปเพียง 30 กว่าล้านเหรียญ Mulan ต้องหนีไปลง PVOD หนังใหญ่อื่นๆถอยกรูดเลื่อนกันระนาว อีกฝั่งหนึ่งของโลกที่ประเทศจีนตลาดหนังอันดับ 2 กลับมาเฟื่องฟูได้เทียบเท่าช่วงก่อนโรคระบาดได้เป็นที่เรียบร้อย จากความสำเร็จในการควบคุมโรค COVID-19

โดย The Eight Hundred หนังฟอร์มยักษ์ที่เข้าฉายในวันที่ 21 สิงหาคม สามารถทำเงินทะลุ 400 ล้านเหรียญในบ้านเกิดและกลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินทั่วโลกได้มากเป็นอันดับที่ 2 ของปี 2020 รองจาก Bad Boys for Life เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น



รายได้รวมทั่วโลกของ The Eight Hundred ล่าสุดคือ
จีน 400 ล้านเหรียญ
ASEAN 0.5 ล้านเหรียญ
อเมริกาเหนือ 0.33 ล้านเหรียญ
ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ 0.27 ล้านเหรียญ

รวม 401.1 ล้านเหรียญ

ถัดจากนี้จีนยังมีโปรแกรมวันหยุดยาวช่วงวันชาติ 1 ตุลาคมและแน่นอนว่าทัพหนังจีนก็จะยกพลถล่ม Box Office แดนมังกรอีกครั้ง ซึ่งคาดหมายว่าหนังเด่นๆ 3 เรื่องที่โดนเลื่อนมาจากโปรแกรมตรุษจีนต่อไปนี้จะเป็นหัวหอกในการทำเงินระลอกต่อไป

Leap (25 กันยายน 2020)
สุดสัปดาห์เปิดตัว 50-65 ล้านเหรียญ
รายได้รวม 120-150 ล้านเหรียญ



ภาพยนตร์เกี่ยวกับทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติจีน นำแสดงโดยกงลี่ซึ่งรับบท"หลาง ผิง" อดีตนักวอลเลย์หญิงทีมชาติจีนชุดเหรียญทองโอลิมปิก Los Angeles 1984 ผู้กลับมาเป็นหัวหน้าโค้ชและนำรุ่นน้องคว้าเหรียญทองได้อีกครั้งใน Rio 2016
น่าเสียดายที่ Leap สูญเสียโมเมนตัมของความอยากดูไปแล้ว แถมโอลิมปิก 2020 ที่จะมาช่วยเสริมความ Hype ก็เลื่อนออกไปอีก ทำให้ประเมินกันว่ารายได้ของ Leap จะได้ไม่เท่ากับที่คาดหมายไว้ในตอนแรก

Vanguard (30 กันยายน 2020)
สุดสัปดาห์เปิดตัว 35-45 ล้านเหรียญ
รายได้รวม 65-85 ล้านเหรียญ



ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเฉินหลงที่ในบ้านเองก็เคยมีการโฆษณาขนานใหญ่สำหรับโปรแกรมรับตรุษจีนกันไปแล้ว (แต่ก็ต้องถอดออกตามตลาดใหญ่) ซึ่งในบ้านเรามีกำหนดการใหม่เข้าฉายวันที่ 1 ตุลาคมนี้

My People, My Homeland (1 ตุลาคม 2020)
สุดสัปดาห์เปิดตัว 140-175 ล้านเหรียญ
รายได้รวม 370-440 ล้านเหรียญ



ภาพยนตร์ตัวเต็งรายได้สูงสุดในจีนประจำปีนี้ที่หวังกวาดเงินจากเมืองเล็กเมืองรองทั้งหลาย ซึ่งก็ต้องไปลุ้นกับ The Eight Hundred ว่าเรื่องไหนจะถูกใจชาวจีนมากกว่ากัน