สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
ขอตรงข้าม แต่ไม่ข้ามมาก
เราเป็นเด็กที่เกิดมาในครอบครัวก่อสร้าง
ตอนเด็กๆ หลังเลิกเรียน ก็เก็บตะปู สายไฟ ขยะรีไซเคิล. ขาย. เราคิดและมุ่งมั่นว่า เราจะไม่อยู่อย่างนี้ตลอดไป เรียนจบป6 ไม่ได้เรียนต่อ. ออกมาหางานทำ ทำงานทุกอย่าง ล้างจาน คนใช้ เด็กเสิร์ฟ. เหลือยังไม่ได้เป็น คือ เด็กป๋า ( หน้าไม่ให้ เลยอด) กะ เด็กปั้ม
อายุ สัก 18-24 เรามีเงินเก็บก้อนนึง จากนั้นก็ลดการทำงานลง และ เรียน กศน จบ ม3 และ ต่อ ปวช ไปด้วย
ตอนนั้นมีความสนใจญี่ปุ่นเป็นพิเศษ เพราะ เจป๊อบ ดังมาก ฮามาซากิ อายุมิ อุทาดะ ฮิคะรุ อาราชิ สแมพ
เลย เรียน ภาษาด้วยตัวเอง พร้อมกับ เรียน พิเศษ ไวยกรณ์ นิดหน่อย
พอดี มีคนรู้จักแนะนำ บ. บ. นึง ให้ไปทำงานด้วย
เราก็ทำทุกอย่าง เต็มความสามารถ
สุดท้าย บ. ไปไม่รอด ต้องปิดตัวลง ( สงสัย มี พนง อย่างเรา รึ? เปล่า!! นายใหญ่ ของ ญี่ปุ่นเสียชีวิต บ.เลยปิด )
ตกงานงาน อยู่พักนึง. จน มาเจอกับ ลุง ลุงคนญี่ปุ่น แก อยู่คอนโด เดียวกะเรา แต่คนละตึก ( เราห้อง เล็กๆ. เขาห้องใหญ่ มีทั้งหมด3ตึก) แก เลยให้เราไปทำงาน บ. แก.
หลังจากนั้น ก็ เจอ สามี ความเหงาเป็นขั้วบวกขั้วลบ
เราได้งานใหม่ เงินเดือน แพง เราต้องแลก ระหว่าง แต่งงาน แล้วย้ายมาอยู่ ญี่ปุ่น กับ ทำงานที่ไทย
สรุป แต่งงาน พอ ลูกเข้า อนุบาล เราก็ไปหางานทำ
ตอนนี้ก็ ทำมา6ปี
ซื้อบ้านเงินสดตอน อายุ 26 เงินเรา 90% ( ให้สามีสลักหลังโฉนดว่า ไม่เป็น สินสมรส ) ก็ตอนนี้ มีเงินเก็บให้ลูก หลายแสน เงินเก็บเรานิดหน่อย
เพราะเคยจนมาก่อน เลยไม่หลงไฟ ใช้ชีวิตแบบ ธรรมดา เหมือนตอนยังไม่มีอะไร พอมาโควิด โชคดีที่ ผลกระทบกับงาน น้อย. เลยยังทำงานอยู่ได้
เราเป็นเด็กที่เกิดมาในครอบครัวก่อสร้าง
ตอนเด็กๆ หลังเลิกเรียน ก็เก็บตะปู สายไฟ ขยะรีไซเคิล. ขาย. เราคิดและมุ่งมั่นว่า เราจะไม่อยู่อย่างนี้ตลอดไป เรียนจบป6 ไม่ได้เรียนต่อ. ออกมาหางานทำ ทำงานทุกอย่าง ล้างจาน คนใช้ เด็กเสิร์ฟ. เหลือยังไม่ได้เป็น คือ เด็กป๋า ( หน้าไม่ให้ เลยอด) กะ เด็กปั้ม
อายุ สัก 18-24 เรามีเงินเก็บก้อนนึง จากนั้นก็ลดการทำงานลง และ เรียน กศน จบ ม3 และ ต่อ ปวช ไปด้วย
ตอนนั้นมีความสนใจญี่ปุ่นเป็นพิเศษ เพราะ เจป๊อบ ดังมาก ฮามาซากิ อายุมิ อุทาดะ ฮิคะรุ อาราชิ สแมพ
เลย เรียน ภาษาด้วยตัวเอง พร้อมกับ เรียน พิเศษ ไวยกรณ์ นิดหน่อย
พอดี มีคนรู้จักแนะนำ บ. บ. นึง ให้ไปทำงานด้วย
เราก็ทำทุกอย่าง เต็มความสามารถ
สุดท้าย บ. ไปไม่รอด ต้องปิดตัวลง ( สงสัย มี พนง อย่างเรา รึ? เปล่า!! นายใหญ่ ของ ญี่ปุ่นเสียชีวิต บ.เลยปิด )
ตกงานงาน อยู่พักนึง. จน มาเจอกับ ลุง ลุงคนญี่ปุ่น แก อยู่คอนโด เดียวกะเรา แต่คนละตึก ( เราห้อง เล็กๆ. เขาห้องใหญ่ มีทั้งหมด3ตึก) แก เลยให้เราไปทำงาน บ. แก.
หลังจากนั้น ก็ เจอ สามี ความเหงาเป็นขั้วบวกขั้วลบ
เราได้งานใหม่ เงินเดือน แพง เราต้องแลก ระหว่าง แต่งงาน แล้วย้ายมาอยู่ ญี่ปุ่น กับ ทำงานที่ไทย
สรุป แต่งงาน พอ ลูกเข้า อนุบาล เราก็ไปหางานทำ
ตอนนี้ก็ ทำมา6ปี
ซื้อบ้านเงินสดตอน อายุ 26 เงินเรา 90% ( ให้สามีสลักหลังโฉนดว่า ไม่เป็น สินสมรส ) ก็ตอนนี้ มีเงินเก็บให้ลูก หลายแสน เงินเก็บเรานิดหน่อย
เพราะเคยจนมาก่อน เลยไม่หลงไฟ ใช้ชีวิตแบบ ธรรมดา เหมือนตอนยังไม่มีอะไร พอมาโควิด โชคดีที่ ผลกระทบกับงาน น้อย. เลยยังทำงานอยู่ได้
ความคิดเห็นที่ 5
ที่เราสะเทือนใจที่สุด ก็คนที่ถูกมิจฉาชีพหลอกเอาไปน่ะค่ะ
เห็นมาหลายเคส อุตส่าห์เก็บหอมรอมริบ หวังไว้ใช้ยามเกษียณ
_ถูกหลอก ให้โอนเงิน ทางโทรศัพท์บ้าง โดยขู่ว่าเงินเกี่ยวข้องกับการค้ายา
_ถูกหลอกให้รัก แล้วโอนเงิน จากพวก โรมานซ์ สแกมเมอร์ บ้าง
_ถูกหลอกให้ลงทุน จาก แชร์ลูกโซ่บ้าง
ที่เคยเห็นกับตา คนนี้ถูกโกงไป สิบล้าน
เขาก็หาช่องทางค้าขายค่ะ
ข่าวล่าสุด เห็นว่าไปขายข้าวมันไก่ คงพอเลี้ยงตัวอยู่ได้
แต่ละคนก็ต้องปรับตัวกันไป
บางคนจมไม่ลง ก็ทุกข์หนักหน่อย เที่ยวหยิบยืมเงินคนรู้จักไปทั่ว โดยหวังว่า วันนึงจะดีขึ้น
กลายเป็นหนี้สินล้นพ้นตัว บ้านก็กำลังจะถูกยึด
เราว่า ...
เรื่องแบบนี้ นอกจาก มีเงินเก็บแล้ว
ยังต้องมีบุญ และ ต้องไม่มีบาปเก่าด้วยนะคะ
เพราะบางคนก็หมดตัวด้วยเหตุสุดวิสัยจริงๆ
(ลูกล้างลูกผลาญ / ค่ารักษาพยาบาล / ถูกใส่ร้ายป้ายสีต้องเสียเงินสู้คดี)
สำหรับเรา
เวลาเจอคนแก่ๆ มาขายของเราจะชอบช่วยซื้อมากเลยค่ะ
และแผนป้องกันตัวเองในอนาคต
นอกจาก ต้องมีเงินเก็บแล้ว ยังจะภาวนา จนเห็นความอนิจจัง อนัตตา ไป เรื่อยๆล่ะค่ะ
เพราะหากมีเวรกรรม ที่จะต้องลำบากตอนแก่จริงๆ
จะได้ทุกข์แต่กาย ใจไม่ทุกข์มากนัก
เห็นมาหลายเคส อุตส่าห์เก็บหอมรอมริบ หวังไว้ใช้ยามเกษียณ
_ถูกหลอก ให้โอนเงิน ทางโทรศัพท์บ้าง โดยขู่ว่าเงินเกี่ยวข้องกับการค้ายา
_ถูกหลอกให้รัก แล้วโอนเงิน จากพวก โรมานซ์ สแกมเมอร์ บ้าง
_ถูกหลอกให้ลงทุน จาก แชร์ลูกโซ่บ้าง
ที่เคยเห็นกับตา คนนี้ถูกโกงไป สิบล้าน
เขาก็หาช่องทางค้าขายค่ะ
ข่าวล่าสุด เห็นว่าไปขายข้าวมันไก่ คงพอเลี้ยงตัวอยู่ได้
แต่ละคนก็ต้องปรับตัวกันไป
บางคนจมไม่ลง ก็ทุกข์หนักหน่อย เที่ยวหยิบยืมเงินคนรู้จักไปทั่ว โดยหวังว่า วันนึงจะดีขึ้น
กลายเป็นหนี้สินล้นพ้นตัว บ้านก็กำลังจะถูกยึด
เราว่า ...
เรื่องแบบนี้ นอกจาก มีเงินเก็บแล้ว
ยังต้องมีบุญ และ ต้องไม่มีบาปเก่าด้วยนะคะ
เพราะบางคนก็หมดตัวด้วยเหตุสุดวิสัยจริงๆ
(ลูกล้างลูกผลาญ / ค่ารักษาพยาบาล / ถูกใส่ร้ายป้ายสีต้องเสียเงินสู้คดี)
สำหรับเรา
เวลาเจอคนแก่ๆ มาขายของเราจะชอบช่วยซื้อมากเลยค่ะ
และแผนป้องกันตัวเองในอนาคต
นอกจาก ต้องมีเงินเก็บแล้ว ยังจะภาวนา จนเห็นความอนิจจัง อนัตตา ไป เรื่อยๆล่ะค่ะ
เพราะหากมีเวรกรรม ที่จะต้องลำบากตอนแก่จริงๆ
จะได้ทุกข์แต่กาย ใจไม่ทุกข์มากนัก

ความคิดเห็นที่ 4
เรียนจบมาปุ๊บตั้งบริษัทกับเพื่อน
เงินเดือน 3 เดือนแรก 4 พัน
ไม่ใช่เดือนละ 4000 นะ
3 เดือน 4 พัน
อยู่ดีๆ ก็ปัง มีคนเอาเงินบ้านมาจ้าง
อัพเงินเดือนไปที่ 20000 30000 40000
ฟู่ฟ่าหรูหรามาก ซื้อของไม่เคยถามราคา
เงินเดือนใข้ยังไม่ทันหมดเงินเดือนใหม่ก็เข้ามาอีก
คือบ้าทำงาน ทำแทบจะ 24 ชม.
เรียกว่าเงินแสนหาง่ายมาก
กำลังคิดจะถอย บีเอ็ม
และคิดแต่งงาน
มรสุมขีวิตก็มา ตอน อายุ 33
เราก็ใช้เงินเก็บยื้อธุรกิจไว้
จน 39 ยื้อมาตั้ง 6 ปี
ถึงได้ยอมจำนน
เงินที่เก็บไว้เป็นล้านหายวับ
ตอนมรสุมมามันเอาจนคุณหมดนั่นล่ะ
ไม่ว่าคุณจะเตรียมรับมือมาแค่ไหน
หมดตัวมันยังไม่หยุด
พัดซ้ำจนคุณคิดว่าจะไม่ไหวแล้ว
เหตุการณ์ที่เครียดที่สุดคือ
พรุ่งนี้ต้องจ่ายหนี้เกือบล้าน
แต่ไม่มีเงินติดตัวซักบาท
ผ่านมาได้ยอมรับความจริง
พูดกับทุกคนว่าล้มแล้ว
คุยกับเจ้ากนี้ว่าถ้ามีจะจ่ายให้
ครอบครัวสำคัญ พ่อ แม่ พี่ น้อง
คุยก่อนเลย ลูกล้มแล้วนะแม่ ลูกไม่ไหวแล้วนะพ่อ
ที่รักผมหมดตัวแล้วนะ
ท่องไว้ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป
เงินเดือน 3 เดือนแรก 4 พัน
ไม่ใช่เดือนละ 4000 นะ
3 เดือน 4 พัน
อยู่ดีๆ ก็ปัง มีคนเอาเงินบ้านมาจ้าง
อัพเงินเดือนไปที่ 20000 30000 40000
ฟู่ฟ่าหรูหรามาก ซื้อของไม่เคยถามราคา
เงินเดือนใข้ยังไม่ทันหมดเงินเดือนใหม่ก็เข้ามาอีก
คือบ้าทำงาน ทำแทบจะ 24 ชม.
เรียกว่าเงินแสนหาง่ายมาก
กำลังคิดจะถอย บีเอ็ม
และคิดแต่งงาน
มรสุมขีวิตก็มา ตอน อายุ 33
เราก็ใช้เงินเก็บยื้อธุรกิจไว้
จน 39 ยื้อมาตั้ง 6 ปี
ถึงได้ยอมจำนน
เงินที่เก็บไว้เป็นล้านหายวับ
ตอนมรสุมมามันเอาจนคุณหมดนั่นล่ะ
ไม่ว่าคุณจะเตรียมรับมือมาแค่ไหน
หมดตัวมันยังไม่หยุด
พัดซ้ำจนคุณคิดว่าจะไม่ไหวแล้ว
เหตุการณ์ที่เครียดที่สุดคือ
พรุ่งนี้ต้องจ่ายหนี้เกือบล้าน
แต่ไม่มีเงินติดตัวซักบาท
ผ่านมาได้ยอมรับความจริง
พูดกับทุกคนว่าล้มแล้ว
คุยกับเจ้ากนี้ว่าถ้ามีจะจ่ายให้
ครอบครัวสำคัญ พ่อ แม่ พี่ น้อง
คุยก่อนเลย ลูกล้มแล้วนะแม่ ลูกไม่ไหวแล้วนะพ่อ
ที่รักผมหมดตัวแล้วนะ
ท่องไว้ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป
ความคิดเห็นที่ 13
ผมครับในวัยประมาณ ๓๐ ปี ไม่เหลืออะไรเลยเป็น ๐ บาท แถมติดลบมีลูกอ่อนเพิ่งเกิดหนึ่งคน ภรรยาก็ยังทำงานไม่ได้ ไม่มีเงินค่านมลูก ต้องแยกย้ายกันไปพึงญาติแต่ละฝ่าย ผมตัดสินใจขอตายดาบหน้าเพียงคนเดียว ขอเงินแม่มา ๒๕๐๐ บาทเข้ามาสู้ใน กรุงเทพฯ
ต้องอดกินบางมื่อ เพื่ออยู่กรุงเทพฯ ให้นานที่สุด เป็นเวลาถึง ๖ เดือน เพื่อมีงาน
จึงได้เริ่มงานอีกครั้ง เงินเดือน ๓๒๐๐ บาท จึงดึงครอบครัวมาอยู่ร่วมกันอีกครั้ง แต่ทุรักทุเลเกือบ ๑๐ ปี หลังจากนั้นผลิกชีวิตครอบครัวขึ้นมาด้วยผมมีรายได้มากขึ้น ด้วยพัฒนางานตนเองจนเกินกว่ารายได้ แต่ย่อมอยู่กับงาน บริษัทที่คิดว่า รองรับได้เสถียรที่สุดในการพัฒนาครอบครัว และลูกคนเล็กที่มีความบกพร่องในการเรียนระดับ อนุบาล ปฐม และประกองลูกคนโตให้เก่งขึ้นตามลำดับ ส่วนภรรยาไม่ต้องผ่อนต้องจ่าย ให้รักษางานตนเองและจ่ายเสรีมให้กับลูก ก็อยู่อย่างจนกว่ารายได้ อย่างมีขัดติ ที่ผมมีรายได้ค่อยมากขึ้นตามลำดับ ๑๐ กว่าปี แล้วผ่อนลงอยู่ตามฐานะแบบสบายๆ ของคนที่สมถะ เมื่อทรัพย์หลักมีมูลค่า มากกว่าหนี้สิน ประมาณ ๘๐ % แต่ก็ยังจ่ายน้อยกว่ารายได้ คือยังอยู่อย่างจนกว่ารายได้ ก็เก็บเกี่ยวทรัพย์สินเพิ่ม แม้ผมต้องเสียเงินให้แม่ที่ติดเตียงรวมๆ แล้วเป็น ล้าน บาท มากว่าส่งให้ลูกเรียนปริญญาตรีมหาลัยรัฐ ถึง ๒ คนเสียอีก ก็ไม่ทำให้ผมจนลง ด้วยผ่อนบ้านหลังหลักราคาสูงก่าวหลังอื่นที่อยู่ปิดหนี้หมดไป อีกหลังหนึงค่าเช่าเลี้ยงตัวมันเองแล้วโปะจนไป แม้ญาติคิดว่าและบอกว่าผมต้องจนแน่ๆ กับแม่ แต่ด้วยวางแผนก่อนเกษียณไว้เป็นอย่างพอควรแล้ว จึงไม่กระทบมากเพียงแต่เงินเก็นส่วนตัวไม่เกียวกับภรรยาผมหายไปประมาณล้านบาท แค่ขัดสนเงินเก็บเท่านั้น
เมื่อเกษียณจึงมีพร้อมทุกอย่างร่วมกับภรรยา อย่างละ ๒ บ้าน ที่ดิน รถ บวก ๑ คอนโดราคาไม่เกินล้าน พออยู่ได้จนแก่ชราตายไป แบบคนสมถะๆ
เสนอเพื่อให้คนรุ่นหลังๆ ได้ศึกษา ว่าเมื่อมีรายได้เงินเดือนไม่ได้เวอร์ มากๆ ระดับ ๕ - ๖ หมื่น ก็อายุ ๕๐ ไปปีแล้ว แต่ด้วยการวางแผนดีๆ เมื่อมีโอกาศ สามารถพัฒนาไปได้ทั้งครอบครับแบบไม่ตกต่ำมีแต่ดีขี้นเรื่อยๆ ก็ย่อมพอมีกินมีใช้ไปจนตายท้งครอบครัว แต่ถ้าคนที่มีโอกาสดีกว่ามากกว่า รายได้สูงมากผมก็คงเทียบไม่ได้ในเรื่องฐานะ แต่เมื่อกล่าวถึงทรัพย์ภายในก็คงหาผู้ที่เทียบผมได้อยาก เพราะผมพัฒนาทั้งคู่มาพร้อมๆ กันทั้งชีวิต
ต้องอดกินบางมื่อ เพื่ออยู่กรุงเทพฯ ให้นานที่สุด เป็นเวลาถึง ๖ เดือน เพื่อมีงาน
จึงได้เริ่มงานอีกครั้ง เงินเดือน ๓๒๐๐ บาท จึงดึงครอบครัวมาอยู่ร่วมกันอีกครั้ง แต่ทุรักทุเลเกือบ ๑๐ ปี หลังจากนั้นผลิกชีวิตครอบครัวขึ้นมาด้วยผมมีรายได้มากขึ้น ด้วยพัฒนางานตนเองจนเกินกว่ารายได้ แต่ย่อมอยู่กับงาน บริษัทที่คิดว่า รองรับได้เสถียรที่สุดในการพัฒนาครอบครัว และลูกคนเล็กที่มีความบกพร่องในการเรียนระดับ อนุบาล ปฐม และประกองลูกคนโตให้เก่งขึ้นตามลำดับ ส่วนภรรยาไม่ต้องผ่อนต้องจ่าย ให้รักษางานตนเองและจ่ายเสรีมให้กับลูก ก็อยู่อย่างจนกว่ารายได้ อย่างมีขัดติ ที่ผมมีรายได้ค่อยมากขึ้นตามลำดับ ๑๐ กว่าปี แล้วผ่อนลงอยู่ตามฐานะแบบสบายๆ ของคนที่สมถะ เมื่อทรัพย์หลักมีมูลค่า มากกว่าหนี้สิน ประมาณ ๘๐ % แต่ก็ยังจ่ายน้อยกว่ารายได้ คือยังอยู่อย่างจนกว่ารายได้ ก็เก็บเกี่ยวทรัพย์สินเพิ่ม แม้ผมต้องเสียเงินให้แม่ที่ติดเตียงรวมๆ แล้วเป็น ล้าน บาท มากว่าส่งให้ลูกเรียนปริญญาตรีมหาลัยรัฐ ถึง ๒ คนเสียอีก ก็ไม่ทำให้ผมจนลง ด้วยผ่อนบ้านหลังหลักราคาสูงก่าวหลังอื่นที่อยู่ปิดหนี้หมดไป อีกหลังหนึงค่าเช่าเลี้ยงตัวมันเองแล้วโปะจนไป แม้ญาติคิดว่าและบอกว่าผมต้องจนแน่ๆ กับแม่ แต่ด้วยวางแผนก่อนเกษียณไว้เป็นอย่างพอควรแล้ว จึงไม่กระทบมากเพียงแต่เงินเก็นส่วนตัวไม่เกียวกับภรรยาผมหายไปประมาณล้านบาท แค่ขัดสนเงินเก็บเท่านั้น
เมื่อเกษียณจึงมีพร้อมทุกอย่างร่วมกับภรรยา อย่างละ ๒ บ้าน ที่ดิน รถ บวก ๑ คอนโดราคาไม่เกินล้าน พออยู่ได้จนแก่ชราตายไป แบบคนสมถะๆ
เสนอเพื่อให้คนรุ่นหลังๆ ได้ศึกษา ว่าเมื่อมีรายได้เงินเดือนไม่ได้เวอร์ มากๆ ระดับ ๕ - ๖ หมื่น ก็อายุ ๕๐ ไปปีแล้ว แต่ด้วยการวางแผนดีๆ เมื่อมีโอกาศ สามารถพัฒนาไปได้ทั้งครอบครับแบบไม่ตกต่ำมีแต่ดีขี้นเรื่อยๆ ก็ย่อมพอมีกินมีใช้ไปจนตายท้งครอบครัว แต่ถ้าคนที่มีโอกาสดีกว่ามากกว่า รายได้สูงมากผมก็คงเทียบไม่ได้ในเรื่องฐานะ แต่เมื่อกล่าวถึงทรัพย์ภายในก็คงหาผู้ที่เทียบผมได้อยาก เพราะผมพัฒนาทั้งคู่มาพร้อมๆ กันทั้งชีวิต
แสดงความคิดเห็น
ใครเคยมีเงินเหลือใช้กินอยู่สบายๆ แล้ววันนึงก็ไม่เหลืออะไรเลยในวัย 30+/40+