ช่วงนี้ออกหน้างานค่อนข้างบ่อยนะครับผม แต่จะต่างจากเมื่อก่อนประมาณหนึ่ง คือก่อนหน้านี้หน้างานจะอยู่ในเขตความเจริญทางวัตถุมากกว่า ทุกวันนี้หน้างานจะอยู่กับทุ่งนา ไร่ สวน ชุมชนที่ค่อนไปทางชนบท
อันที่จริงชีวิตผมก็โตมากับชนบทเลยละครับ เมื่อก่อนเข้าไปในป่าหาเก็บเห็ด เก็บผักติ้ว ผักกะโดน หน่อไม้ป่า มะกอกป่าก็ยังมีอยู่ เก็บมาทำส้มตำถาดใหญ่ๆ ล้อมวงกันเปิปกับเด็กๆ รุ่นราวคราวเดียวกัน
สมัยนั้นถ้าเด็ดจริงๆ คงเป็นเรื่องออกไปหาปลาช่อนตัวใหญ่ๆ จากแอ่งน้ำลำธารละมั้ง วิธีที่ใช้สมัยเด็กๆ คือ เดินหาแหล่งน้ำที่น้ำเริ่มน้อย ระดับน้ำประมาณหน้าแข้ง จากนั้นก็ช่วยกันกับเพื่อนควักขี้ตมจากในน้ำนั่นแหละ มาปั้นเป็นคันกั้นน้ำ แยกแอ่งน้ำออกเป็นสองฝั่ง แล้วก็วิดน้ำจนฝั่งใดฝั่งหนึ่งแห้ง จากนั้นก็ลุยจับปลาในโคลนกัน มีได้ตัวขนาดเท่าขาเลย จริงๆ มันก็ไม่ได้มีแต่ปลาช่อนหรอก ปลาหมอตัวเท่าฝ่ามือ ปลาดุก ปลากลด ก็ได้เยอะเหมือนกัน
มันเป็นความสุขแบบเด็กๆ แต่เรากลับรู้สึกคิดถึงตอนเราโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว
ก็ไม่รู้หรอก...ว่าหลายคนที่อยากให้ประเทศพัฒนาเป็นเมืองแห่งความทันสมัย จะมีความสุขกับสิ่งเหล่านั้น มากกว่าความสุขเล็กๆ กับธรรมชาติ ที่ผมเคยมีตอนเด็กๆ หรือเปล่า
ให้ดูรูปที่ถ่ายไว้เมื่อวาน
ความสุขเริ่มต้นได้จากทุกที่ : ดาวดำผู้สงสัยว่าความสุขกับความเจริญมันคืออย่างเดียวกันไหม
อันที่จริงชีวิตผมก็โตมากับชนบทเลยละครับ เมื่อก่อนเข้าไปในป่าหาเก็บเห็ด เก็บผักติ้ว ผักกะโดน หน่อไม้ป่า มะกอกป่าก็ยังมีอยู่ เก็บมาทำส้มตำถาดใหญ่ๆ ล้อมวงกันเปิปกับเด็กๆ รุ่นราวคราวเดียวกัน
สมัยนั้นถ้าเด็ดจริงๆ คงเป็นเรื่องออกไปหาปลาช่อนตัวใหญ่ๆ จากแอ่งน้ำลำธารละมั้ง วิธีที่ใช้สมัยเด็กๆ คือ เดินหาแหล่งน้ำที่น้ำเริ่มน้อย ระดับน้ำประมาณหน้าแข้ง จากนั้นก็ช่วยกันกับเพื่อนควักขี้ตมจากในน้ำนั่นแหละ มาปั้นเป็นคันกั้นน้ำ แยกแอ่งน้ำออกเป็นสองฝั่ง แล้วก็วิดน้ำจนฝั่งใดฝั่งหนึ่งแห้ง จากนั้นก็ลุยจับปลาในโคลนกัน มีได้ตัวขนาดเท่าขาเลย จริงๆ มันก็ไม่ได้มีแต่ปลาช่อนหรอก ปลาหมอตัวเท่าฝ่ามือ ปลาดุก ปลากลด ก็ได้เยอะเหมือนกัน
มันเป็นความสุขแบบเด็กๆ แต่เรากลับรู้สึกคิดถึงตอนเราโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว
ก็ไม่รู้หรอก...ว่าหลายคนที่อยากให้ประเทศพัฒนาเป็นเมืองแห่งความทันสมัย จะมีความสุขกับสิ่งเหล่านั้น มากกว่าความสุขเล็กๆ กับธรรมชาติ ที่ผมเคยมีตอนเด็กๆ หรือเปล่า
ให้ดูรูปที่ถ่ายไว้เมื่อวาน