อยากรู้สาเหตุ แฟนเอาแต่ใจ ไม่ยอมฟังเหตุผล จากกรณีนี้ครับ
เริ่มจาก ตัวผมนะครับ เป็นคนที่เมื่อก่อนเกเรพอสมควรเลยครับก่อนจะคบกันแฟนคนนี้อีกนะครับ แต่เธอก็รับรู้นิดหน่อยเพราะเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน
แต่ก็ห่างกันไปเพราะผมไปเรียนต่อที่อื่น แล้วได้มีโอกาสกลับมาเจอกัน คุยกันไปเรื่อยเลยคบกัน
**เข้าเรื่องเลยดีกว่า** แฟนผมคนนี้ตอนคบกันแรกก็ดีนะครับ ฟังผม ผมก็ฟังเค้าต่างคนต่างใช้เหตุผล (ตอนคบนี้เลิกเกเรแล้วนะครับ) แต่นิสัยผมเป็นพวกชอบกวนใจคนอ่ะตามประสาแบบอยากให้เค้ายิ้มไรงี้ บวกกะเค้าเครียดๆกับงานที่ไม่ค่อยจะราบรื่นสักเท่าไหร่จึงมีทะเลาะกันมั้ง แต่ก้อไม่ได้รุนแรงอะไรขนาดลงไม้ลงมือ (ลืมบอกนะครับแฟนผมเป็นคนเงียบๆออกจะเก็บตัวเงียบ ชอบอยู่คนเดียวรึไม่ก้อคนที่สบายใจด้วย) แต่ถึงจะทะเลาะกันก้อพากันไปเที่ยว ไปพักผ่อนตลอดนะครับ (แฟนผมชอบเที่ยว) ผมค่อนข้างจะตามใจแฟนนะครับ ปัญหาอย่างแรกเริ่มประดั่งเข้ามาคือ ครอบครัวเขาไม่ค่อยเป็นปลื้มกะตัวผมเท่าไหร่ ก็ด้วยนิสัยชอบพูดเสียงดังหยาบคาย และเกเรมาก่อน(หยาบคายนี้คือกะเพื่อนอะไรนี้นะครับ กะผู้ใหญ่ก็รู้จักวางตัวอยู่นะครับ) แต่ครอบครัวเขาก็ไม่ได้ห้ามเรื่องคบกันแค่อย่าให้มีเรืา่องงามหน้า ตัวแฟนผมก้อย้ายมาอยู่กะผม ความสัมพันธ์ก็เรื่อยมา จนมีจุดเปลี่ยนตรงที่ตัวผมต้องไปฝึกงานโรงงาน ประมาณ10เดือนซึ่งมันค่อนข้างไกลจากบ้าน ผมจึงชวนเธอไปอยู่ด้วย(เพราะผมได้รู้ข่าวเรื่องวัยรุ่นที่ติดยาแถวบ้านแฟน ผมจึงไม่อยากให้กลับไปอยู่) เธอก็ตกลงจะไปอยู่ด้วยกัน โดยที่เธอลาออกจากงานเลย แต่ก่อนไปนี้แหละครับจุดพีค แฟนผมท้องครับ แต่ก็ยังไม่ได้บอกใครนะครับแม้กระทั่งครอบครัวผม ปกติผมค่อนข้างจะปรึกษากะครอบครัวอยู่แล้ว อันนี้ผมเห็นแก่ตัวแหละตามตรงคือยังไม่อยากแต่งตอนนี้ ผมอยากให้จบก่อนเพราะเหลืออีกแค่ฝึกงานแล้ว พอไปอยู่ด้วยกันก็ดูแลกันไปเรื่อยๆแหละครับ พาไปฝากครรภ์ เธออยากได้อะไรค่อนข้างตามใจเธอเลย เพราะผมอยากให้เธอมีความสุขมากๆจะได้ไม่ส่งผลกระทบกะลูกในท้อง แต่พอเธอเริ่มท้องแก่ไปเรื่อยๆอารมณ์เธอเริ่มร้อนขึ้นมากเลย ชนิดที่แบบผมยังตกใจเลยแต่ก้อยอมพยายามรับผิดไว้ก่อนเธอจะได้สบายใจ งานที่ผมไปฝึกจะเป็นงานฝ่ายผลิต แผนกซ่อมแซม ก็ตามประสาโรงงานแหละครับร้อยพ่อพันแม่ บอกตรงๆตอนแรกก็ตกใจแหละครับ การเอาเปรียบ เอาหน้า ชีวิตทำงานเต็มรูปแบบ ละตัวผมดันมาช่วงงานเร่งสะด้วย คือมีโอทีเต็มสูบเลยครับ เข้างาน7โมงกว่า เลิกงาน2-3ทุ่มทุกวัน จนเริ่มไม่มีเวลาให้แฟน ผมเริ่มสังเกตว่าเธอเริ่มดูไม่ร่าเริงเลย ผมเลยขอมาอยู่กลางคืนอย่างเดียวเพื่อกลางวันจะได้มีเวลาดูแลเธอด้วย จะได้ไม่เหงามากเพราะคิดว่ากลางคืนเดี๋ยวเธอก้อคงนอนไม่น่าห่วง (ผมมีเพื่อนไปด้วยนะครับไปกัน10กว่าคน อยู่ห้องใกล้กัน ผมก้อฝากเพื่อนให้ค่อยดูเธอด้วยแหละ) แต่ด้วยการมาอยู่กลางคืนตลอดทุกวัน มันค่อนข้างเปลี่ยนชีวิตผมไปเลย มนุษย์ค้างคาวโดยสมบูรณ์ คือ เลิกงาน8โมงเช้า ไปจ่ายตลาดมาทำกับข้าวให้แฟนก่อนค่อยนอนจะได้นอนตอน10โมงครึ่ง ตื่น4-5โมงเย็นเพื่อพาเธอไปตลาดไปเดินเล่นแก้เครียด เพราะผมไม่ให้เธอทำงานกลัวผลกระทบกะลูกในท้อง เป็นอย่างงี้ทุกวันทำได้ประมาณ 2-3 เดือน แต่ด้วยความที่ผมเห็นแก่ตัวแหละ (ยังรู้สึกผิดถึงทุกวันนี้) คือผมจะไปง่วงในงานช่วงตี 2-3 ก็เลยพยายามหากับข้าวสำเร็จมาให้แทนการทำในทุกวัน แต่ผมจะทำให้กินทุกวันอาทิตย์ มันก้อเริ่มลดเวลาคุยเล่นกะเธอไปด้วย เริ่มนอนตื่นช้า จนบางวันตื่นไม่ทันพาเธอไปขับรถเล่นช่วงเย็น เธอก็ไม่บ่นผมนะ เธอก้อคงรู้ว่าผมเหนื่อย เริ่มจากตื่นไม่ทันในบางสันเริ่มเป็นแทบทุกวันเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ
*ผมก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ว่าทำไมพยายามจะลุกแล้วแต่ปวดหัวมาก อาจจะเพราะในงานผมอยู่กะสารเคมีมาก พวกน้ำยาล้างแผ่นวงจร ทินเนอร์ มันทำให้ปวดหัวทุกเช้า* ต้องการจะนอนให้เร็วที่สุด แต่ผมก็ไม่เคยลืมอาหาร กับข้าวนะ ทุกเช้าเราจะมานั่งกินด้วยกัน แต่ผมก็จะนอนเร็วขึ้น และก็หลับนานขึ้น แต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไรผม ชีวิตช่วงนี้ค่อนข้างดีเลยมีความสุขมาก จนวันนึงแฟนผมอายุครรภ์ได้6 ย่าง 7 เดือน มีภาวะเสี่ยงขึ้นมา ผมจึงขอไม่ทำโอทีเลยจะออกมาอยู่กะแฟน โดยจะเลิกงานเร็วขึ้น3-4ชั่วโมงโดยประมาณ จึงเกิดปัญหาเรื่องเงินแล้วเพราะผมจ่ายคนเดียวอยู่แล้ว ค่าห้องค่าน้ำค่าไฟประมาณ3000-3500 เพราะผมให้แฟนเปิดแอร์ทั้งวัน ไม่อยากให้เค้าลำบาก แค่พาเค้ามาลำบากก้อสุดแล้ว (ฝึกงานได้เงินวันละ300กว่า รวมโอทีแล้ววันนึงจะ500กว่า) จึงมีพอใช้แต่มาเหลือ300จึงต้องประหยัดขึ้น ผมเลยละเลยความรู้สึกของแฟนมากขึ้นด้วยละมั้งครับ พวกของบำรุงผิวต่างฟผมก็ขอให้ลดลงหน่อย ก็ตามด้วยปัญหาทะเลาะแหละครับ แต่ก้อแยกย้าย บางทีผมก้อขี้ประชดด้วยนิสัยเอาแต่ใจแหละ555 จึงทำให้บางทีงอลกันนานหลายวันก้อมี แต่ก้องอลไป ทำตัวตามใจเค้าไปแหละเหมือนไม่ได้งอล ก็อยู่กันแบบนี้ไปเรื่อยๆจนเค้าท้องได้ 7 เดือน ผมมีเหตุจำเป็นต้องกลับวิทลัยเพื่อส่งผลในช่วงแรก
(ครอบครัวผมรู้ตอนนี้แหละ ว่าท้อง) ละก้อกลับไปต่อ เดินทางใช้รถยนต์ส่วนตัวนะครับ ช่วงนี้เรื่องเงินไม่ได้กังวนละครับทางบ้านผมช่วยแล้ว ก้อทำทุกอย่างตามปกติทะเลาะกันมั้ง ตามประสาคู่รักทั่วไป แต่ไม่ได้รุนแรงมาก จนคลอดแหละครับ แฟนผมผ่าคลอดไปนะครับ เสียไป3หมื่นกว่าๆ (ครอบครัวผมออกทั้งหมด)ตอนคลอดครอบครัวผมและแม่ของแฟนมาโรงพยาบาลด้วยนะครับ เดินทางมาไกลประมาณ500กว่ากิโล ระหว่างนั้นก้อตกลงกันว่าแม่แฟนจะอยู่ต่อเพื่อช่วยเลี้ยงก่อนไปสักระยะนึง แต่ปัญหาเริ่มเกิดตรงนี้แหละครับ แฟนผมเริ่มพูดแรงขึ้นนิดนึง ปกติแฟนชอบกระแนะกระแหน่อยู่แล้ว แต่เริ่มแย่ไปเรื่อย ผมด้วยความที่ขี้ประชดออกบทขี้น้อยใจหน่อยๆ555 ก้อเริ่มประชดไม่ค่อยสนใจ ปล่อยให้แม่แฟน กะแฟนดูลูก ส่วนตัวผมเริ่มกลับมาทำโอที ช่วงนี้ได้เลื่อนขั้นจากพนักงานซ่อม เริ่มมาคุมคนไปด้วย เพิ่มงานไปอีก555 จนเริ่มมีปากเสียง เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย (ใครบอกคนผ่าคลอดทำไรไม่ค่อยได้ไม่จริงผมสัมผัสมากแล้ว) จนคราวนี้แม่แฟนมีธุระด่วนต้องกลับบ้าน แล้วจะกลับมาใหม่ ผมก็ไม่ได้อะไร (ตรงเนี้ยแหละ เลวเลยแหละตัวผม) ไม่ค่อยช่วยเลี้ยง ไม่ยอมหยุดทำโอที จนทะเลาะกันหนักสุด ตีกันแล้วผมบอกประมาณว่า สนใจให้กูทำด้วยหรอนึกว่าต้องแม่ทำ ไม่พอใจก็กลับไปอยู่บ้านผมที่นู้น แต่ในใจก็ไม่ได้อยากให้กลับหรอก แต่แฟนดันกลับจริงโทรบอกครอบครัวผมให้มารับ ครอบครัวผมมา ผมยังงงเลยมาทำไม บอกตอนเย็นก่อนไปทำงาน ทำงานเสร็จกลับมาเจอครอบครัวเลย งงสิครับรอไร แต่ก็ปล่อยกลับไปเพราะอยากอิสระด้วยมั้งเลยปล่อยไป กลับไปดันมีเรื่องอีก แฟนผมขอไปอยู่บ้านกับแม่โดยมาขอกับย่าผม ซึ่งผมไม่รู้เรื่องด้วย แฟนก็กลับไปอยู่บ้านได้สัก2-3วันผมถึงรู้ว่าไม่ได้อยู่บ้านผม คราวนี้ห่วงแล้ว ย้อนกลับไปตอนแรกที่ผมบอก ปัญหาเรื่องวัยรุ่น ยาเสพติดอะไรพวกนี้เลยห่วง พยายามคุยดีแล้ว ผมค่อยให้ย่าไปดู(ย่าผมเป็นน้องของปู่นะครับ ไม่ใช่ย่าแท้ๆแต่ผมเรียกย่า อายุยัง52อยู่)
ละแล้วมันก้อเกิดเรื่องนะครับ คือ มีหลานของแฟนผมอายุประมาณ 10กว่าขวบ มาพยายามแบบคิด
กับลูกผม มาทำท่าจะเอานิ้วแหย่จิ๋มลูกผม เชี้ยๆจิง ขอโทษคำหยาบนะครับคิดละขึ้น เรื่องทั้งหมดรู้จากตัวแฟนผมนะครับ คราวนี้ผมนี้ไม่เป็นสุขละครับ กลับบ้านแทบทุกอาทิตย์ (วันหยุดนะครับวันเดียวก็ยังดี) ผมพยายามหาความรับผิดชอบจากครอบครัวแฟนแล้วว่าไม่อบรมเลยรึไง ถ้าเกิดเรื่องขึ้นมาจะทำยังไง ลูกผมยังไม่ถึง1เดือนเลย แต่ไม่ได้อะไรเลยกลับได้คำถามมาอีกว่า จะให้ทำยังไงในเมื่อเด็กมันไม่ยอมรับ ประมาณว่าจะเอาอะไรกะเด็ก จนแฟนผมเริ่มมาห้ามผม แถมยังเข้าข้างฝั่งครอบครัวตัวเองอีก ทั้งๆที่ลูกจะอันตรายถ้าอยู่ต่อ แฟนก้อดันทุรัง พูดงู้นงี้ แต่ผมก็ไม่ฟังหรอกเพราะผมก็เริ่มเดือดสุดแล้ว ผมเลยยื่นคำขาดกะแฟนผมว่าถ้าจะอยู่กะลูกต้องเอาลูกไปบ้านผม และจะไม่มีการเอามาอีกจนกว่าจะโต
ฝั่งนู้นคงโมโหแหละดูออก55 เลยบอกมาว่าถ้างั้นไม่ต้องให้มันมีญาติฝั่งแม่มันหรอก ไม่ต้องให้มันมา ละก็ไล่แฟนผมว่า จะไปไหนก็ไป!! แฟนผมก็เลยมาอยู่บ้านผม ผมก็กลับไปฝึกงานต่อ และคอยกับมาหาบ่อยๆ แต่ก็สังเกตได้ว่ามีการมาคุๆแปลกๆ จนแฟนผมขอผมกลับไปอยู่บ้านแต่กลางวันจะมาหาลูก กลางคืนจะกลับบ้าน แต่ถ้าวันไหนผมมาอยู่บ้านเค้าจะมานอนกลางคืนด้วย เป็นยังงี้ไปเรื่อยๆจนผมจบฝึกงานกลับมาอยู่บ้าน แฟนก็มาอยู่ด้วยแบบ full time แต่มีอย่างนึงคือเธอเริ่มอารมณ์รุนแรงขึ้นมาก เวลาดีก็ดี แต่เวลาโมโหเธอเปิดก่อนเลย (ก่อนหน้านี้มีสวนกลับเลย แต่ตั้งแต่ตอนนี้พยายามรับอย่างเดียว) จนย่าเริ่มมาบอกว่าจะอยู่กันต้องให้อภัยกัน ฟังเหตุผลกัน ให้ใจเย็น ตามประสาคนมีอายุหน่อย แต่คราวนี้มันหนักขึ้นเรื่อย เธอชอบบอกว่า ย่ามาแย่งลูกเธอไป เวลาทะเลาะกันเธอจะชอบเอาชนะแล้ว บอกว่าผมไม่เหมือนเดิม เริ่มด่าคำที่แรงๆ เช่น อาเฮีย หน้าหมี ไอ้ animal มาเต็ม หนักสุดผมนอนอยู่ดีๆมีบาทามาประทับหลังตามด้วยถีบตกเตียง เริ่มปาข้าวของ เธอก็จะเป็นแบบนี้ตลอดเวลาไม่ได้ดั่งใจก็เป็น จนพ่อผมชวนไปทำงานที่บริษัทของพ่อ บริษัทไม่ได้ใหญ่มากมาย (พ่อเป็นรองประธานกรรมการบริษัท) ซึ่งเอาผมกับแฟนเข้างานได้เลย จึงต้องไปอยู่กรุงเทพและเอาลูกไว้ให้ย่าเลี้ยงที่บ้าน โดยให้แฟนผมมาช่วยทำบัญชีกับเรื่องstock ของต่างภายในองค์กร ส่วนตัวผมค่อยทำหน้าที่ติดต่อหน่วยงานข้างนอก โดยจะไปทั่วกรุงเทพและปริมณฑล
ซึ่งก็มีคนที่อยู่ในoffice แค่ไม่กี่คน ซึ่งจะมีพ่อและแม่ใหม่ของผม น้องๆของผม (พ่อเป็นคนค่อนข้างซีเรียลกับงานมาก ถึงจะทำตัวชิลๆแต่ผิดพลาดเมื่อไหร่เละแน่) ซึ่งงานของแฟนผมก็จะมีหัวหน้าอีก1คน เพื่อนร่วมงานอีก1คน โดยที่2คนนี้เป็นรุ่นพี่หลายปีทำงานมานานมากตั้งแต่ผมยังเล็กๆ โดยที่2คนนี้จะไม่ค่อยเข้ามาoffice สักเท่าไหร่ work from home แหละ แล้วความกดดันจะตกลงมาที่แฟนผมทันทีเพราะพี่2คนไม่เข้า แต่จะสั่งงานไว้เยอะๆโดยที่บางทีตัวเองก็เข้ามาช่วยกันทำได้แต่ไม่มาทำให้งานล้าช้า งานเอกสารเกี่ยวกับราชการที่ต้องส่งประมาณนี้ ทำให้พ่อมาตามงานละจะเกิดการโยนความผิดกัน โดยทุกครั้งจะจบด้วยการที่แฟนผมผิดทุกครั้ง (ไม่ค่อยมีปากจะเถียงใคร) ละผมกลับมาก็จะเห็นแฟนร้องไห้แทบทุกวัน พอถามแล้วก็ลองไปคุยกะพ่อให้ทุกครั้งแต่ก็จะมีคำตอบแบบเดิมคือต้องพัฒนาตัวเองไปให้มากกว่านี้ (พ่อเค้าอยากให้ผมกับแฟนเก่งอ่ะเข้าใจแต่บางทีเข้าข้างกันบ้างก็ได้) เดะมาต่อขอพักแปป....
อยากรู้สาเหตุ แฟนเอาแต่ใจ ไม่ยอมฟังเหตุผล จากกรณีนี้ครับ
แต่ก็ห่างกันไปเพราะผมไปเรียนต่อที่อื่น แล้วได้มีโอกาสกลับมาเจอกัน คุยกันไปเรื่อยเลยคบกัน
**เข้าเรื่องเลยดีกว่า** แฟนผมคนนี้ตอนคบกันแรกก็ดีนะครับ ฟังผม ผมก็ฟังเค้าต่างคนต่างใช้เหตุผล (ตอนคบนี้เลิกเกเรแล้วนะครับ) แต่นิสัยผมเป็นพวกชอบกวนใจคนอ่ะตามประสาแบบอยากให้เค้ายิ้มไรงี้ บวกกะเค้าเครียดๆกับงานที่ไม่ค่อยจะราบรื่นสักเท่าไหร่จึงมีทะเลาะกันมั้ง แต่ก้อไม่ได้รุนแรงอะไรขนาดลงไม้ลงมือ (ลืมบอกนะครับแฟนผมเป็นคนเงียบๆออกจะเก็บตัวเงียบ ชอบอยู่คนเดียวรึไม่ก้อคนที่สบายใจด้วย) แต่ถึงจะทะเลาะกันก้อพากันไปเที่ยว ไปพักผ่อนตลอดนะครับ (แฟนผมชอบเที่ยว) ผมค่อนข้างจะตามใจแฟนนะครับ ปัญหาอย่างแรกเริ่มประดั่งเข้ามาคือ ครอบครัวเขาไม่ค่อยเป็นปลื้มกะตัวผมเท่าไหร่ ก็ด้วยนิสัยชอบพูดเสียงดังหยาบคาย และเกเรมาก่อน(หยาบคายนี้คือกะเพื่อนอะไรนี้นะครับ กะผู้ใหญ่ก็รู้จักวางตัวอยู่นะครับ) แต่ครอบครัวเขาก็ไม่ได้ห้ามเรื่องคบกันแค่อย่าให้มีเรืา่องงามหน้า ตัวแฟนผมก้อย้ายมาอยู่กะผม ความสัมพันธ์ก็เรื่อยมา จนมีจุดเปลี่ยนตรงที่ตัวผมต้องไปฝึกงานโรงงาน ประมาณ10เดือนซึ่งมันค่อนข้างไกลจากบ้าน ผมจึงชวนเธอไปอยู่ด้วย(เพราะผมได้รู้ข่าวเรื่องวัยรุ่นที่ติดยาแถวบ้านแฟน ผมจึงไม่อยากให้กลับไปอยู่) เธอก็ตกลงจะไปอยู่ด้วยกัน โดยที่เธอลาออกจากงานเลย แต่ก่อนไปนี้แหละครับจุดพีค แฟนผมท้องครับ แต่ก็ยังไม่ได้บอกใครนะครับแม้กระทั่งครอบครัวผม ปกติผมค่อนข้างจะปรึกษากะครอบครัวอยู่แล้ว อันนี้ผมเห็นแก่ตัวแหละตามตรงคือยังไม่อยากแต่งตอนนี้ ผมอยากให้จบก่อนเพราะเหลืออีกแค่ฝึกงานแล้ว พอไปอยู่ด้วยกันก็ดูแลกันไปเรื่อยๆแหละครับ พาไปฝากครรภ์ เธออยากได้อะไรค่อนข้างตามใจเธอเลย เพราะผมอยากให้เธอมีความสุขมากๆจะได้ไม่ส่งผลกระทบกะลูกในท้อง แต่พอเธอเริ่มท้องแก่ไปเรื่อยๆอารมณ์เธอเริ่มร้อนขึ้นมากเลย ชนิดที่แบบผมยังตกใจเลยแต่ก้อยอมพยายามรับผิดไว้ก่อนเธอจะได้สบายใจ งานที่ผมไปฝึกจะเป็นงานฝ่ายผลิต แผนกซ่อมแซม ก็ตามประสาโรงงานแหละครับร้อยพ่อพันแม่ บอกตรงๆตอนแรกก็ตกใจแหละครับ การเอาเปรียบ เอาหน้า ชีวิตทำงานเต็มรูปแบบ ละตัวผมดันมาช่วงงานเร่งสะด้วย คือมีโอทีเต็มสูบเลยครับ เข้างาน7โมงกว่า เลิกงาน2-3ทุ่มทุกวัน จนเริ่มไม่มีเวลาให้แฟน ผมเริ่มสังเกตว่าเธอเริ่มดูไม่ร่าเริงเลย ผมเลยขอมาอยู่กลางคืนอย่างเดียวเพื่อกลางวันจะได้มีเวลาดูแลเธอด้วย จะได้ไม่เหงามากเพราะคิดว่ากลางคืนเดี๋ยวเธอก้อคงนอนไม่น่าห่วง (ผมมีเพื่อนไปด้วยนะครับไปกัน10กว่าคน อยู่ห้องใกล้กัน ผมก้อฝากเพื่อนให้ค่อยดูเธอด้วยแหละ) แต่ด้วยการมาอยู่กลางคืนตลอดทุกวัน มันค่อนข้างเปลี่ยนชีวิตผมไปเลย มนุษย์ค้างคาวโดยสมบูรณ์ คือ เลิกงาน8โมงเช้า ไปจ่ายตลาดมาทำกับข้าวให้แฟนก่อนค่อยนอนจะได้นอนตอน10โมงครึ่ง ตื่น4-5โมงเย็นเพื่อพาเธอไปตลาดไปเดินเล่นแก้เครียด เพราะผมไม่ให้เธอทำงานกลัวผลกระทบกะลูกในท้อง เป็นอย่างงี้ทุกวันทำได้ประมาณ 2-3 เดือน แต่ด้วยความที่ผมเห็นแก่ตัวแหละ (ยังรู้สึกผิดถึงทุกวันนี้) คือผมจะไปง่วงในงานช่วงตี 2-3 ก็เลยพยายามหากับข้าวสำเร็จมาให้แทนการทำในทุกวัน แต่ผมจะทำให้กินทุกวันอาทิตย์ มันก้อเริ่มลดเวลาคุยเล่นกะเธอไปด้วย เริ่มนอนตื่นช้า จนบางวันตื่นไม่ทันพาเธอไปขับรถเล่นช่วงเย็น เธอก็ไม่บ่นผมนะ เธอก้อคงรู้ว่าผมเหนื่อย เริ่มจากตื่นไม่ทันในบางสันเริ่มเป็นแทบทุกวันเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ
*ผมก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ว่าทำไมพยายามจะลุกแล้วแต่ปวดหัวมาก อาจจะเพราะในงานผมอยู่กะสารเคมีมาก พวกน้ำยาล้างแผ่นวงจร ทินเนอร์ มันทำให้ปวดหัวทุกเช้า* ต้องการจะนอนให้เร็วที่สุด แต่ผมก็ไม่เคยลืมอาหาร กับข้าวนะ ทุกเช้าเราจะมานั่งกินด้วยกัน แต่ผมก็จะนอนเร็วขึ้น และก็หลับนานขึ้น แต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไรผม ชีวิตช่วงนี้ค่อนข้างดีเลยมีความสุขมาก จนวันนึงแฟนผมอายุครรภ์ได้6 ย่าง 7 เดือน มีภาวะเสี่ยงขึ้นมา ผมจึงขอไม่ทำโอทีเลยจะออกมาอยู่กะแฟน โดยจะเลิกงานเร็วขึ้น3-4ชั่วโมงโดยประมาณ จึงเกิดปัญหาเรื่องเงินแล้วเพราะผมจ่ายคนเดียวอยู่แล้ว ค่าห้องค่าน้ำค่าไฟประมาณ3000-3500 เพราะผมให้แฟนเปิดแอร์ทั้งวัน ไม่อยากให้เค้าลำบาก แค่พาเค้ามาลำบากก้อสุดแล้ว (ฝึกงานได้เงินวันละ300กว่า รวมโอทีแล้ววันนึงจะ500กว่า) จึงมีพอใช้แต่มาเหลือ300จึงต้องประหยัดขึ้น ผมเลยละเลยความรู้สึกของแฟนมากขึ้นด้วยละมั้งครับ พวกของบำรุงผิวต่างฟผมก็ขอให้ลดลงหน่อย ก็ตามด้วยปัญหาทะเลาะแหละครับ แต่ก้อแยกย้าย บางทีผมก้อขี้ประชดด้วยนิสัยเอาแต่ใจแหละ555 จึงทำให้บางทีงอลกันนานหลายวันก้อมี แต่ก้องอลไป ทำตัวตามใจเค้าไปแหละเหมือนไม่ได้งอล ก็อยู่กันแบบนี้ไปเรื่อยๆจนเค้าท้องได้ 7 เดือน ผมมีเหตุจำเป็นต้องกลับวิทลัยเพื่อส่งผลในช่วงแรก
(ครอบครัวผมรู้ตอนนี้แหละ ว่าท้อง) ละก้อกลับไปต่อ เดินทางใช้รถยนต์ส่วนตัวนะครับ ช่วงนี้เรื่องเงินไม่ได้กังวนละครับทางบ้านผมช่วยแล้ว ก้อทำทุกอย่างตามปกติทะเลาะกันมั้ง ตามประสาคู่รักทั่วไป แต่ไม่ได้รุนแรงมาก จนคลอดแหละครับ แฟนผมผ่าคลอดไปนะครับ เสียไป3หมื่นกว่าๆ (ครอบครัวผมออกทั้งหมด)ตอนคลอดครอบครัวผมและแม่ของแฟนมาโรงพยาบาลด้วยนะครับ เดินทางมาไกลประมาณ500กว่ากิโล ระหว่างนั้นก้อตกลงกันว่าแม่แฟนจะอยู่ต่อเพื่อช่วยเลี้ยงก่อนไปสักระยะนึง แต่ปัญหาเริ่มเกิดตรงนี้แหละครับ แฟนผมเริ่มพูดแรงขึ้นนิดนึง ปกติแฟนชอบกระแนะกระแหน่อยู่แล้ว แต่เริ่มแย่ไปเรื่อย ผมด้วยความที่ขี้ประชดออกบทขี้น้อยใจหน่อยๆ555 ก้อเริ่มประชดไม่ค่อยสนใจ ปล่อยให้แม่แฟน กะแฟนดูลูก ส่วนตัวผมเริ่มกลับมาทำโอที ช่วงนี้ได้เลื่อนขั้นจากพนักงานซ่อม เริ่มมาคุมคนไปด้วย เพิ่มงานไปอีก555 จนเริ่มมีปากเสียง เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย (ใครบอกคนผ่าคลอดทำไรไม่ค่อยได้ไม่จริงผมสัมผัสมากแล้ว) จนคราวนี้แม่แฟนมีธุระด่วนต้องกลับบ้าน แล้วจะกลับมาใหม่ ผมก็ไม่ได้อะไร (ตรงเนี้ยแหละ เลวเลยแหละตัวผม) ไม่ค่อยช่วยเลี้ยง ไม่ยอมหยุดทำโอที จนทะเลาะกันหนักสุด ตีกันแล้วผมบอกประมาณว่า สนใจให้กูทำด้วยหรอนึกว่าต้องแม่ทำ ไม่พอใจก็กลับไปอยู่บ้านผมที่นู้น แต่ในใจก็ไม่ได้อยากให้กลับหรอก แต่แฟนดันกลับจริงโทรบอกครอบครัวผมให้มารับ ครอบครัวผมมา ผมยังงงเลยมาทำไม บอกตอนเย็นก่อนไปทำงาน ทำงานเสร็จกลับมาเจอครอบครัวเลย งงสิครับรอไร แต่ก็ปล่อยกลับไปเพราะอยากอิสระด้วยมั้งเลยปล่อยไป กลับไปดันมีเรื่องอีก แฟนผมขอไปอยู่บ้านกับแม่โดยมาขอกับย่าผม ซึ่งผมไม่รู้เรื่องด้วย แฟนก็กลับไปอยู่บ้านได้สัก2-3วันผมถึงรู้ว่าไม่ได้อยู่บ้านผม คราวนี้ห่วงแล้ว ย้อนกลับไปตอนแรกที่ผมบอก ปัญหาเรื่องวัยรุ่น ยาเสพติดอะไรพวกนี้เลยห่วง พยายามคุยดีแล้ว ผมค่อยให้ย่าไปดู(ย่าผมเป็นน้องของปู่นะครับ ไม่ใช่ย่าแท้ๆแต่ผมเรียกย่า อายุยัง52อยู่)
ละแล้วมันก้อเกิดเรื่องนะครับ คือ มีหลานของแฟนผมอายุประมาณ 10กว่าขวบ มาพยายามแบบคิด
ฝั่งนู้นคงโมโหแหละดูออก55 เลยบอกมาว่าถ้างั้นไม่ต้องให้มันมีญาติฝั่งแม่มันหรอก ไม่ต้องให้มันมา ละก็ไล่แฟนผมว่า จะไปไหนก็ไป!! แฟนผมก็เลยมาอยู่บ้านผม ผมก็กลับไปฝึกงานต่อ และคอยกับมาหาบ่อยๆ แต่ก็สังเกตได้ว่ามีการมาคุๆแปลกๆ จนแฟนผมขอผมกลับไปอยู่บ้านแต่กลางวันจะมาหาลูก กลางคืนจะกลับบ้าน แต่ถ้าวันไหนผมมาอยู่บ้านเค้าจะมานอนกลางคืนด้วย เป็นยังงี้ไปเรื่อยๆจนผมจบฝึกงานกลับมาอยู่บ้าน แฟนก็มาอยู่ด้วยแบบ full time แต่มีอย่างนึงคือเธอเริ่มอารมณ์รุนแรงขึ้นมาก เวลาดีก็ดี แต่เวลาโมโหเธอเปิดก่อนเลย (ก่อนหน้านี้มีสวนกลับเลย แต่ตั้งแต่ตอนนี้พยายามรับอย่างเดียว) จนย่าเริ่มมาบอกว่าจะอยู่กันต้องให้อภัยกัน ฟังเหตุผลกัน ให้ใจเย็น ตามประสาคนมีอายุหน่อย แต่คราวนี้มันหนักขึ้นเรื่อย เธอชอบบอกว่า ย่ามาแย่งลูกเธอไป เวลาทะเลาะกันเธอจะชอบเอาชนะแล้ว บอกว่าผมไม่เหมือนเดิม เริ่มด่าคำที่แรงๆ เช่น อาเฮีย หน้าหมี ไอ้ animal มาเต็ม หนักสุดผมนอนอยู่ดีๆมีบาทามาประทับหลังตามด้วยถีบตกเตียง เริ่มปาข้าวของ เธอก็จะเป็นแบบนี้ตลอดเวลาไม่ได้ดั่งใจก็เป็น จนพ่อผมชวนไปทำงานที่บริษัทของพ่อ บริษัทไม่ได้ใหญ่มากมาย (พ่อเป็นรองประธานกรรมการบริษัท) ซึ่งเอาผมกับแฟนเข้างานได้เลย จึงต้องไปอยู่กรุงเทพและเอาลูกไว้ให้ย่าเลี้ยงที่บ้าน โดยให้แฟนผมมาช่วยทำบัญชีกับเรื่องstock ของต่างภายในองค์กร ส่วนตัวผมค่อยทำหน้าที่ติดต่อหน่วยงานข้างนอก โดยจะไปทั่วกรุงเทพและปริมณฑล
ซึ่งก็มีคนที่อยู่ในoffice แค่ไม่กี่คน ซึ่งจะมีพ่อและแม่ใหม่ของผม น้องๆของผม (พ่อเป็นคนค่อนข้างซีเรียลกับงานมาก ถึงจะทำตัวชิลๆแต่ผิดพลาดเมื่อไหร่เละแน่) ซึ่งงานของแฟนผมก็จะมีหัวหน้าอีก1คน เพื่อนร่วมงานอีก1คน โดยที่2คนนี้เป็นรุ่นพี่หลายปีทำงานมานานมากตั้งแต่ผมยังเล็กๆ โดยที่2คนนี้จะไม่ค่อยเข้ามาoffice สักเท่าไหร่ work from home แหละ แล้วความกดดันจะตกลงมาที่แฟนผมทันทีเพราะพี่2คนไม่เข้า แต่จะสั่งงานไว้เยอะๆโดยที่บางทีตัวเองก็เข้ามาช่วยกันทำได้แต่ไม่มาทำให้งานล้าช้า งานเอกสารเกี่ยวกับราชการที่ต้องส่งประมาณนี้ ทำให้พ่อมาตามงานละจะเกิดการโยนความผิดกัน โดยทุกครั้งจะจบด้วยการที่แฟนผมผิดทุกครั้ง (ไม่ค่อยมีปากจะเถียงใคร) ละผมกลับมาก็จะเห็นแฟนร้องไห้แทบทุกวัน พอถามแล้วก็ลองไปคุยกะพ่อให้ทุกครั้งแต่ก็จะมีคำตอบแบบเดิมคือต้องพัฒนาตัวเองไปให้มากกว่านี้ (พ่อเค้าอยากให้ผมกับแฟนเก่งอ่ะเข้าใจแต่บางทีเข้าข้างกันบ้างก็ได้) เดะมาต่อขอพักแปป....