คือว่า คุณแม่เป็นคนเสียดายของและหัวรั้น
กระจกส่องแตก, ถ้วยชามร่าว ช้อมส้อมบิดเบี้ยวไม่ยอมให้ทิ้ง ชอบทำให้หน้าต่างเปิดไม่ได้ แบบว่า เอาตู้มาบังไว้ แล้วทำให้เกิดบรรยากาศในบ้านทึบๆ แล้วก็ชอบมีปัญหาเรื่องเปิดไฟ เวลาลูกหลานเปิดไฟจะชอบบ่น เปิดทำไม ร้อน!! (อิฉันเป็นคนรับผิดชอบค่าน้ำ, ค่าไฟเอง ซึ่งเปิดกระหน่ำซัมเมอร์เซล ไม่ชอบให้บ้านมืดสลัว )
ที่เลวร้ายคือ ก่อนนี้มีพระพุทธรูปชำรุด แกไม่ยอมให้เอาไปทิ้ง ลูกพากันเกลี้ยกล่อมเอาไปทิ้งจนยอม
ส่วนคุณพ่อท่าน เอาข้าวของเครื่องมือต่างๆ ไปกองไว้ในห้องพระ จนรกกลายเป็นทั้งห้องพระห้องเก็บของ และก็ยังเอาต้นไม้อัปมงคลมาปลูกในบ้าน เพกา, กอไผ่, มะละกอ, มะขาม
สร้างบ้านประตูตรงกัน3บาน แถมยังเอาบานประจกมาตั้งไว้เป็นเหมือนประตูที่4 หน้าต่างเยอะมากกก
เราพยายามอธิบายให้ท่านฟังว่า เนี่ย ต้องปรับปรุงแก้ไขใหม่นะ มันไม่ดี พวกท่านก็เถียง"หุ้ย ไม่เกี่ยวหรอก งมงาย" ซึ่งพยายามอธิบาย ท่านก็ไม่ยอมเข้าใจ
พ่อกับแม่ทำไมชอบทำให้เกิดพลังงานไม่ดีในบ้าน
กระจกส่องแตก, ถ้วยชามร่าว ช้อมส้อมบิดเบี้ยวไม่ยอมให้ทิ้ง ชอบทำให้หน้าต่างเปิดไม่ได้ แบบว่า เอาตู้มาบังไว้ แล้วทำให้เกิดบรรยากาศในบ้านทึบๆ แล้วก็ชอบมีปัญหาเรื่องเปิดไฟ เวลาลูกหลานเปิดไฟจะชอบบ่น เปิดทำไม ร้อน!! (อิฉันเป็นคนรับผิดชอบค่าน้ำ, ค่าไฟเอง ซึ่งเปิดกระหน่ำซัมเมอร์เซล ไม่ชอบให้บ้านมืดสลัว )
ที่เลวร้ายคือ ก่อนนี้มีพระพุทธรูปชำรุด แกไม่ยอมให้เอาไปทิ้ง ลูกพากันเกลี้ยกล่อมเอาไปทิ้งจนยอม
ส่วนคุณพ่อท่าน เอาข้าวของเครื่องมือต่างๆ ไปกองไว้ในห้องพระ จนรกกลายเป็นทั้งห้องพระห้องเก็บของ และก็ยังเอาต้นไม้อัปมงคลมาปลูกในบ้าน เพกา, กอไผ่, มะละกอ, มะขาม
สร้างบ้านประตูตรงกัน3บาน แถมยังเอาบานประจกมาตั้งไว้เป็นเหมือนประตูที่4 หน้าต่างเยอะมากกก
เราพยายามอธิบายให้ท่านฟังว่า เนี่ย ต้องปรับปรุงแก้ไขใหม่นะ มันไม่ดี พวกท่านก็เถียง"หุ้ย ไม่เกี่ยวหรอก งมงาย" ซึ่งพยายามอธิบาย ท่านก็ไม่ยอมเข้าใจ