ปรึกษาเรื่องความรักค่ะ ถามคนเลี้ยงแมว และคนที่คนรักมีลูกติดด้วยค่ะ

สวัสดีค่ะ มีเรื่องปรึกษาเพื่อนๆในห้องพันทิปค่ะ ยาวนะคะ อยากให้ข้อมูลที่ครบถ้วนเพื่อประกอบการตัดสินใจค่ะ เราต้องการคำแนะนำจริงๆ

คร่าวๆ คือเรามีแมวสองตัว เลี้ยงมาก็สิบปีเข้าปีที่สิบเอ็ด และมีแฟนหนึ่งคน คบมาก็ห้าปีเข้าปีที่หกค่ะ

ตอนคบแฟนได้หนึ่งหรือสองปีนี่ล่ะค่ะ เค้าก็มาบอกว่ามีลูกติด อยู่ที่อินเดียกับแม่เค้า และเค้าหย่ากับแม่ของลูกตั้งแต่เด็กๆยังเล็กๆ 
เค้าถามว่ารู้แล้วอยากคบต่อหรือเลิก  ในใจเราคือ คบมาเป็นปีพึ่งมาบอกตอนเรารักจริงๆจังๆไปแล้ว เพื่อ!!! ก็ตอบเค้าไปว่าเราเลือกคบต่อค่ะ 

หลังจากนั้น ประมาณเกือบสองปีก่อน ย่าและเด็กๆ อายุ 18และ19 ก็ย้ายมาอยู่ไทยค่ะ (เด็กๆถือ Thai citizen)

ช่วงแรกๆที่เด็กๆมา ก็ทะเลาะกันบ่อยค่ะ เพราะจากคนคบกันแค่สองคน ไปไหนมาไหนกันสองคน กลายเป็นครอบครัวขึ้นมา ไปไหนไปกันหมด
ตั้งแต่ครอบครัวเค้ามา ไม่มีการไปไหนกันสองคนอีกเลย ไปกันทั้งครอบครัวหมด เต็มที่ก็ไปดินเนอร์สองคนซึ่งประมาณ 4-5 เดือนครั้งค่ะ
เราก็ถามตัวเอง โอเคมั๊ย คบกับเค้าคนนี้ที่เราไม่ใช่ First Priority  และจะเป็นอย่างนี้ตลอดทั้งชีวิตเค้าเลย เพราะลูกเค้า ต่อให้อายุ 40-50 ก็ยังเป็นลูก 

อ่ะ ได้คำตอบ เรารักผู้ชายคนนี้ ไม่ใช่คนสำคัญที่สุดในชีวิตเค้าก็ไม่เป็นไร เค้ารักลูกมากกว่าผู้หญิง ถูกต้องแล้ว ก็คบต่อ

ความสัมพันธ์ก็ดำเนินมาเรื่อยๆค่ะ ดีบ้างทะเลาะบ้าง ตามประสา  จนมาปีที่แล้ว เค้าพูดเปรยๆว่าเราควรมาอยู่ด้วยกัน แต่เรามีแมวสองตัว และบ้านเค้าคือคอนโด ที่สำคัญเค้าไม่ได้รักสัตว์ แล้วตอนพูด เค้าก็ยังไม่เคยมาเจอครอบครัวเรา เราเลยคิดว่าเค้าพูดเล่นๆ ก็เลยบอกขอเวลาหกเดือน แล้วมาคุยกันใหม่ แล้วก็นิ่งๆกันไป แล้วเราก็ลืมไปเลยว่าเค้าพูดเรื่องนี้

จนต้นปี ก็ทะเลาะกันอีกรอบ ทะเลาะเรื่องอื่นนะคะ แล้วเค้าก็วกมาพูดเรื่องมาอยู่ด้วยกัน ว่าเราบอกว่าขอเวลาหกเดือน นี่ก็เกินแล้ว เค้าไม่โอเค 
หนนั้นเราบอกเลย เรามีแมวสองตัว เราต้องดูแลแมวเรา เค้าเองก็ไม่ชอบสัตว์ เราก็อยู่กันแบบนี้ไปก่อนสิ เค้าเองก็มีครอบครัวอยู่ด้วย ถึงจะคนละห้องแต่คอนโดเดียวกัน ตึกติดกัน ส่วนเราสองคน ก็เจอกันคืนวันศุกร์ไง อาจจะคืนวันเสาร์ด้วยบางครั้ง ก็จบที่มึนๆอึนๆกันไป แต่ก็ยังคบกันอยู่

จนวันนี้ค่ะ เค้าก็มาอีกรอบ บอกว่าต้องคุยกันแล้วนะ เค้าไม่โอเคที่คบกันแต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ถ้าคิดจะคบกันแบบนี้ ก็อย่าคาดหวังอะไรจากเค้านะ
แล้วเค้าก็พูดไปถึงเรื่อง เค้าไม่โอเค กลับมาบ้านก็เจอแต่กำแพง ต้องออกกำลัง ต้องเข้าคอร์สออนไลน์ หากิจกรรมทำ ไม่มีใครเลย ( แต่ลูกเค้าก็อยู่ค่ะ ตึกติดกัน อยากเข้าออกเมื่อไหร่ก็ตามสบายค่ะ มันlonely ยังไงอ่ะ งง) 
 
เราก็บอกว่า เราบอกแล้วว่าเรามีแมวสองตัว เค้าไม่ชอบแมว บ้านเค้าเป็นคอนโด เลี้ยงสัตว์ไม่ได้ บ้านเราก็มีแมวอีกสองตัว ทุกวันนี้ยังตบกันอยู่เลย  ทำไมเราสองคนไม่คบกันไปเรื่อยๆล่ะ รอให้วันนึงแมวเราไม่อยู่แล้ว แล้วเราจะไปอยู่กับเค้า (ตอนนี้เราอยู่อพาร์ทเมนต์ค่ะ) 

เค้าก็ไม่พอใจค่ะ บอกว่าเค้าทำเพื่อคนอื่นมาเยอะแล้ว เค้าจะทำเพื่อตัวเองบ้าง แล้วก็ลามไปพูดเรื่อง อาจจะคุยกับใครที่อินเดียให้มาแต่งงานกัน อยู่ด้วยกันซึ่งเราไม่โอเคอ่ะ เราบอกเลย ถ้ามีความคิดจะทำแบบนั้นก็บอกมาเลย แล้วเลิกกันไปเลย 

เราบอกว่าเรารับได้ที่เราไม่ใช่ First Priority ในชีวิตเค้านะ เค้ามีลูก อะไรก็ต้องนึกถึงลูกก่อน เราคือลำดับสี่อ่ะ รองจากลูก แม่ พี่น้อง ถ้าเค้ารับไม่ได้ว่าเราก็มีแมวสองตัวที่เราแคร์ว่าต้องดูแลจนกว่าเค้าจะตายจากเราไป ก็บอกมาเลย เราเข้าใจ ยังไงเราก็ไม่ย้ายไปอยู่ด้วยแน่ๆ ไม่งั้นก็ให้เราไปอยู่สักสองสามวันสำหรับ weekday มั๊ยล่ะ เค้าก็ไม่โอเคอีก ต้องไปอยู่ด้วยกันเลย แล้วก็ว่าเราด้วยว่า ถ้าไม่ชอบใจเรื่องที่เราไม่สำคัญที่สุดในชีวิตเค้านะ เราคบผิดคนแล้ว ไปหาคนอื่นเลย คือเราหงุดหงิดมากเลยอ่ะ ก็เราบอกแล้วว่าเราโอเคแล้วไง ที่คบกันแบบสเตตัสเราอยู่ได้แค่นี้อ่ะ

แล้วจากนั้นก็เริ่มคุยไม่รู้เรื่องแล้วค่ะ เค้าเริ่มโวยวายว่าคนไทยอยู่กันแบบตัวคนเดียว เค้าไม่ชินวัฒนธรรมนี้ ต้องเป็นครอบครัว บลาๆๆๆ แล้วก็จบที่เค้าไม่คุยค่ะ บอกเราพูดไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจเลย คุยแล้วหงุดหงิด แล้วก็ขอวางสายแบบบังคับจะวางสายอ่ะ

เราหงุดหงิดมากเลยค่ะ เรารู้สึกเค้าแค่พยายามให้เราไปอยู่ด้วย แค่มีคนอยู่ด้วย โดยที่ไม่สนว่าเราจะพร้อมมั๊ย แล้วมาขู่เราว่า ถ้าไม่มา ก็อย่าคาดหวังอะไรจากเค้านะ ผมไม่รู้นะ ว่าผมจะอยู่แบบนี้ได้อีกนานมั๊ย 

ในความรู้สึกเรา 

1. เรามีแมวสองตัว เราไม่ทิ้งแมวเราแน่ๆ 
2. เค้าไม่เคยมาเจอครอบครัวเราเลย ไม่เคยไปสวัสดีเลย ทั้งๆอยู่กรุงเทพเหมือนกันนี่ล่ะ 
3. เราเข้าใจเค้า ว่าเค้ามีอย่างอื่นที่สำคัญกว่าที่จะต้องใส่ใจ แต่ทำไมเค้าไม่เข้าใจเราบ้างเลยว่าเราก็มีสิ่งสำคัญสำหรับเราเหมือนกัน
4. เรากังวลเรื่องค่าใช้จ่าย เราต้องดูแลที่บ้านที่พ่ออยู่กับน้อง และแมวเราเองอีกสองตัวที่แก่และป่วยแล้ว ซึ่งเวลาเราอยู่กับแฟน เราหารเท่าตลอดสำหรับค่าอาหาร แล้วเราสงสัย เราไปอยู่กับเค้า เราต้องไปหารค่าอาหาร ค่าของใช้ทั้งหมดด้วยใช่มั๊ย ตัวเราคนเดียวและเค้ากับลูกๆและย่าอ่ะค่ะ
5. ข้อสำคัญ เราไม่มั่นใจที่จะฝากชีวิตไว้ที่เค้าค่ะ
5.1 ขนาดยังไม่อยู่ด้วยกัน เค้ายังชอบคุยกับคนนั้นคนนี้เลย ไม่ได้สร้างความมั่นใจให้เราเลย ว่าเราจะฝากชีวิตไว้ที่คนนี้ได้ แล้วถ้าอยู่ด้วยกัน ไม่ยิ่งเบื่อกันเหรอ นิยามของคำว่าซื่อสัตย์ระหว่างเรากับเค้ายังไม่เหมือนกันเลย มันจะอยู่กันยืดเหรอ
5.2 เค้าไม่เคยดูแลเราเลย อาจจะเพราะเราดูแลตัวเองมาตลอด มันเลยกลายเป็นก็เราดูแลตัวเองได้นี่ ฝนตกเหรอ เราตากฝนได้แหล่ะ จะไปนั่นมานี่เหรอ ก็เรียกแทกซี่ได้ แต่ลูกเค้าผู้ชาย อายุ19 กับ 20 ไปเรียนวันเสาร์ไม่มีรถบัส ต้องขับรถไปส่ง ไปรอรับ (ลูกเค้าเรียนมหิดล อินเตอร์ บ้านอยู่ใกล้ๆบีทีเอสวุฒฒากาศ)  เออ มันทำให้เรารู้สึกว่าเค้าใส่ใจนะ กับคนสำคัญอ่ะ แต่ไม่ใช่เราไง สำหรับเราคือ ไปส่งนะ พอดีผมจะไปซื้อของ ไปล้างรถ แต่ไม่มีแบบ ตื่นมาเพื่อไปส่งอ่ะ 
 
 จากที่มาอ่านทั้งหมดที่ตัวเองเขียน ปัญหาไม่ใช่แค่แมวค่ะ ปัญหาคือเราไม่มั่นใจที่จะไปอยู่กับเค้าค่ะ ตอนนี้เรามาคิดทบทวน ต่อให้วันนึงแมวไม่อยู่ เราจะย้ายไปใช้ชีวิตกับผู้ชายที่เค้าดูไม่ให้ความมั่นคงในหัวใจเราได้ยังไง

วันศุกร์นี้เราต้องไปเจอเค้า เราควรจะพูดยังไงดีคะ จริงๆเราก็ยังหวังว่ามันจะมีทางฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้เราได้แต่งงานอยู่กินกันได้ แต่จากที่เค้าเร่งรัดให้เราไปอยู่ด้วยให้เร็วที่สุด มันเหมือนมีแค่สองทางไปอยู่ตามใจเค้า ไม่ก็เลิกกัน เราควรทำยังไงดีคะ ตอนนี้นอนไม่หลับเลยค่ะ ไม่รู้ศุกร์นี้จะพูดยังไงดี
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
Lemon tree, very pretty
And the lemon flower is sweet
But the fruit of the poor lemon
Is impossible to eat

(ตอบตามชื่อ จขกท)

คุณรักเขามากแน่ๆ ยอมได้จนถึงขนาดนี้
แต่...เขายังไม่พอ

เขาไม่สนใจภาระคุณ ไม่แคร์สิ่งใดๆ ในชีวิตคุณ
เขาอยากได้ 100% ของตัวคุณ ไปรับใช้เขา (แบบ หารครึ่ง ด้วย)
ถ้าไม่ยอมไปรับใช้เขา เขาก็ไปหาคนอื่น แค่นั้นเอง

คุณคิดว่า รักเขามากพอ ที่จะทนอยู่กับคนแบบนี้ได้ ก็ลองย้ายไปดู
ชีวิตคู่คราวนี้ ทั้งขม ทั้งเปรี้ยว แน่นอน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่