เพิ่งผ่านวันหยุดชดเชยสงกรานต์มา แล้วรู้สึกไม่อยากทำอะไร ไม่อยากกลับไปทำงาน แทนที่การได้ผ่อนคลายจะช่วยให้เราได้เติมพลัง อาการนี้ไม่ได้เป็นเพราะรู้สึกผิดที่กินเยอะไปหรือใช้เงินเก็บไปกับการท่องเที่ยวจนหมด แต่ปัญหานี้เกิดจากการที่ “เรามีความสุขมากเกินไป” จึงทำให้การกลับมาอยู่ที่ความเป็นจริง จุดเดิม ๆ ที่เราต้องตื่นเช้าไปทำงาน เกิดอาการที่มีชื่อว่า Post-Travel Depression (PTD) (ใครที่กำลังมีอาการที่ว่านี้อย่าเพิ่งตกใจไปเพราะเจ้าอาการที่ว่านี้เป็นเป็นอาการชั่วคราวอย่างหนึ่ง)
อาการ Post-Travel Depression (PTD) คืออะไร
อาการ Post-Travel Depression (PTD) แปลออกมาได้ตรงตัวเลย คือ “ซึมเศร้าหลังการท่องเที่ยว” ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ ไปเพียงไม่กี่วันหรือไปเป็นเดือน แม้แต่เพียงการไปปาร์ตี้เล็ก ๆ สักที่ก็อาจเกิดอาการนี้ได้ เป็นภาวะอารมณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากเราใช้ชีวิตสนุกสนานไปกับการเจอกิจกรรมหรือพบปะผู้คนใหม่ ๆ
แต่ละคนอาจจะมีอาการแตกต่างกันออกไป อาจรู้สึกคิดถึงบรรยากาศในช่วงวันหยุดยาวหรือแค่คิดถึงความรู้สึกของการได้พักผ่อนที่ไม่มีเรื่องหน้าที่การงาน หรือการเรียนเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะยิ่งเรามีความสุขกับการพักผ่อนมากเท่าไหร่ เมื่อต้องกลับมาใช้ชีวิตตามปกติก็จะยิ่งทวีความรุนแรงมากเท่านั้น
ทำให้เกิดความรู้สึกเบื่อหน่าย ซึมเศร้า ไม่มีความสุข และไม่อยากทำอะไร ซึ่งปกติแล้วอาการนี้อาจเกิดขึ้นกับเราเพียงไม่กี่วันเท่านั้น
เจาะอาการ PTD กับคนทำงาน
การทำงานในแต่ละวันต้องมีความรับผิดชอบ ระเบียบวินัย และความตรงต่อเวลา ทำให้คนทำงานอย่างเราต้องใช้ทั้งแรงกาย สมอง และแรงใจเป็นอย่างมาก ซึ่งบางครั้งสิ่งเหล่านี้อาจสร้างแรงกดดันให้เราได้ การได้ออกเดินทางไปหาประสบการณ์ในสถานที่ที่ไม่เคยไป พบเจอผู้คนใหม่ ๆ ได้ออกนอก Comfort Zone เดิม ๆ และเอ็นจอยไปกับสิ่งใหม่ ๆ รอบตัว ไม่ต้องคอยพะวงว่าจะดูไม่ดีหรือวันนี้ยังมีงานที่ค้างอยู่ไหม ก็เลยเหมือนเป็นการที่เราสามารถกลับมาเป็นตัวเราเองได้อย่างเต็มที่ เมื่อต้องกลับมาทำอะไรปกติ กลับมาดำเนินชีวิตในกรอบ หรือรับผิดชอบหน้าที่เดิม ๆ ที่เคยทำค้างไว้ แค่คิดก็เหมือนถูกยึดความเป็นตัวเองกลับไปแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นคนทำงานที่ไม่ค่อยไปเที่ยวหรือคนทำงานที่เที่ยวบ่อย อาการนี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้อยู่ดี หากเพื่อนร่วมงานใกล้ตัวที่เพิ่งกลับจากการท่องเที่ยวดูเหี่ยวเฉาลงในเช้าวันถัดมา ก็อย่าเพิ่งสันนิษฐานว่าเขาขี้เกียจล่ะ เพราะเขาอาจเผชิญอาการ Post-Travel Depression อยู่ก็ได้
เมื่อเกิดอาการ PTD ควรต้องทำยังไง?
หากตอนนี้เรากำลังมีความรู้สึกว่าเกิดอาการ PTD ขึ้นกับตัวเองหรือคนใกล้ตัวอยู่ แม้อาการนี้จะหายได้เองภายในไม่กี่วัน แต่ถ้าเราอยากหายเร็วกว่านั้น ลองนำวิธีง่าย ๆ ในการจัดการความรู้สึกซึมเศร้าหลังจากการท่องเที่ยวเหล่านี้ไปทำกันดูสิ
- ลองตั้งเป้าหมายในชีวิตประจำวันให้เหมือนเวลาเราตั้งเป้าหมายในการท่องเที่ยวดู อย่างการหาร้านอร่อยที่ยังไม่เคยไป หรือหาอาหารต่างชาติใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยลอง ไว้ไปกินหลังเลิกงานกับเพื่อน ๆ
- หางานอดิเรกใหม่ ๆ เพื่อให้ตัวเราได้ไปโฟกัสกับสิ่งอื่น ๆ แทน อย่างช่วงนี้เราอาจหาต้นไม้มาปลูก เขียนรีวิวการเดินทางในโซเชียลมีเดีย หรือหากิจกรรมอื่น ๆ ที่เราไม่เคยทำ
- เริ่มตั้งเป้าหมายสำหรับทริปต่อไป ไม่ว่าจะวางแผนไปเที่ยวต่างประเทศ หรือไปเที่ยวต่างจังหวัดเป็นระยะเวลาสั้น ๆ เพราะจะทำให้เรารู้สึกว่ากำลังมีความสนุกรออยู่
- มองหาความสุขรอบตัว ลองเลือกมองชีวิตในวันธรรมดาให้มีความสุขมากขึ้น ใส่ใจในรายละเอียดเล็กน้อยในชีวิตประจำวัน อย่างการจัดโต๊ะทำงาน จัดห้องนอนให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เป็นต้น
คนทำงานกับการออกไปท่องเที่ยวนั้นเป็นของคู่กันอยู่แล้ว คงไม่มีใครมีความคิดว่า “ไม่อยากเที่ยวอยากทำงานตลอดไป” หรือ “เที่ยวทำให้มีความสุขน้อยลง” เพราะการออกเดินทางแต่ละครั้งเราได้ทั้งประสบการณ์ ข้อคิด เปิดมุมมอง และได้ไอเดียใหม่ ๆ กลับมามากมาย สิ่งที่เราควรทำคือจัดการกับความรู้สึกตัวเองหลังจากกลับมาต่างหาก บางคนอาจทำง่าย บางคนอาจทำยาก แต่หากอาการ Post-Travel Depression (PTD) นี้กินระยะเวลานานเกินไปจนถึง 2-3 สัปดาห์ การไปพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ผิดหรือแปลกอะไร และเป็นสิ่งที่เราควรทำอย่างเร่งด่วน
เพิ่งผ่านวันหยุดยาวมา ไม่อยากไปทำงานเลยค่ะ มีใครเป็นเหมือนกันไหมคะ
อาการ Post-Travel Depression (PTD) คืออะไร
อาการ Post-Travel Depression (PTD) แปลออกมาได้ตรงตัวเลย คือ “ซึมเศร้าหลังการท่องเที่ยว” ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ ไปเพียงไม่กี่วันหรือไปเป็นเดือน แม้แต่เพียงการไปปาร์ตี้เล็ก ๆ สักที่ก็อาจเกิดอาการนี้ได้ เป็นภาวะอารมณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากเราใช้ชีวิตสนุกสนานไปกับการเจอกิจกรรมหรือพบปะผู้คนใหม่ ๆ
แต่ละคนอาจจะมีอาการแตกต่างกันออกไป อาจรู้สึกคิดถึงบรรยากาศในช่วงวันหยุดยาวหรือแค่คิดถึงความรู้สึกของการได้พักผ่อนที่ไม่มีเรื่องหน้าที่การงาน หรือการเรียนเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะยิ่งเรามีความสุขกับการพักผ่อนมากเท่าไหร่ เมื่อต้องกลับมาใช้ชีวิตตามปกติก็จะยิ่งทวีความรุนแรงมากเท่านั้น
ทำให้เกิดความรู้สึกเบื่อหน่าย ซึมเศร้า ไม่มีความสุข และไม่อยากทำอะไร ซึ่งปกติแล้วอาการนี้อาจเกิดขึ้นกับเราเพียงไม่กี่วันเท่านั้น
เจาะอาการ PTD กับคนทำงาน
การทำงานในแต่ละวันต้องมีความรับผิดชอบ ระเบียบวินัย และความตรงต่อเวลา ทำให้คนทำงานอย่างเราต้องใช้ทั้งแรงกาย สมอง และแรงใจเป็นอย่างมาก ซึ่งบางครั้งสิ่งเหล่านี้อาจสร้างแรงกดดันให้เราได้ การได้ออกเดินทางไปหาประสบการณ์ในสถานที่ที่ไม่เคยไป พบเจอผู้คนใหม่ ๆ ได้ออกนอก Comfort Zone เดิม ๆ และเอ็นจอยไปกับสิ่งใหม่ ๆ รอบตัว ไม่ต้องคอยพะวงว่าจะดูไม่ดีหรือวันนี้ยังมีงานที่ค้างอยู่ไหม ก็เลยเหมือนเป็นการที่เราสามารถกลับมาเป็นตัวเราเองได้อย่างเต็มที่ เมื่อต้องกลับมาทำอะไรปกติ กลับมาดำเนินชีวิตในกรอบ หรือรับผิดชอบหน้าที่เดิม ๆ ที่เคยทำค้างไว้ แค่คิดก็เหมือนถูกยึดความเป็นตัวเองกลับไปแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นคนทำงานที่ไม่ค่อยไปเที่ยวหรือคนทำงานที่เที่ยวบ่อย อาการนี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้อยู่ดี หากเพื่อนร่วมงานใกล้ตัวที่เพิ่งกลับจากการท่องเที่ยวดูเหี่ยวเฉาลงในเช้าวันถัดมา ก็อย่าเพิ่งสันนิษฐานว่าเขาขี้เกียจล่ะ เพราะเขาอาจเผชิญอาการ Post-Travel Depression อยู่ก็ได้
เมื่อเกิดอาการ PTD ควรต้องทำยังไง?
หากตอนนี้เรากำลังมีความรู้สึกว่าเกิดอาการ PTD ขึ้นกับตัวเองหรือคนใกล้ตัวอยู่ แม้อาการนี้จะหายได้เองภายในไม่กี่วัน แต่ถ้าเราอยากหายเร็วกว่านั้น ลองนำวิธีง่าย ๆ ในการจัดการความรู้สึกซึมเศร้าหลังจากการท่องเที่ยวเหล่านี้ไปทำกันดูสิ
- ลองตั้งเป้าหมายในชีวิตประจำวันให้เหมือนเวลาเราตั้งเป้าหมายในการท่องเที่ยวดู อย่างการหาร้านอร่อยที่ยังไม่เคยไป หรือหาอาหารต่างชาติใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยลอง ไว้ไปกินหลังเลิกงานกับเพื่อน ๆ
- หางานอดิเรกใหม่ ๆ เพื่อให้ตัวเราได้ไปโฟกัสกับสิ่งอื่น ๆ แทน อย่างช่วงนี้เราอาจหาต้นไม้มาปลูก เขียนรีวิวการเดินทางในโซเชียลมีเดีย หรือหากิจกรรมอื่น ๆ ที่เราไม่เคยทำ
- เริ่มตั้งเป้าหมายสำหรับทริปต่อไป ไม่ว่าจะวางแผนไปเที่ยวต่างประเทศ หรือไปเที่ยวต่างจังหวัดเป็นระยะเวลาสั้น ๆ เพราะจะทำให้เรารู้สึกว่ากำลังมีความสนุกรออยู่
- มองหาความสุขรอบตัว ลองเลือกมองชีวิตในวันธรรมดาให้มีความสุขมากขึ้น ใส่ใจในรายละเอียดเล็กน้อยในชีวิตประจำวัน อย่างการจัดโต๊ะทำงาน จัดห้องนอนให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เป็นต้น
คนทำงานกับการออกไปท่องเที่ยวนั้นเป็นของคู่กันอยู่แล้ว คงไม่มีใครมีความคิดว่า “ไม่อยากเที่ยวอยากทำงานตลอดไป” หรือ “เที่ยวทำให้มีความสุขน้อยลง” เพราะการออกเดินทางแต่ละครั้งเราได้ทั้งประสบการณ์ ข้อคิด เปิดมุมมอง และได้ไอเดียใหม่ ๆ กลับมามากมาย สิ่งที่เราควรทำคือจัดการกับความรู้สึกตัวเองหลังจากกลับมาต่างหาก บางคนอาจทำง่าย บางคนอาจทำยาก แต่หากอาการ Post-Travel Depression (PTD) นี้กินระยะเวลานานเกินไปจนถึง 2-3 สัปดาห์ การไปพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ผิดหรือแปลกอะไร และเป็นสิ่งที่เราควรทำอย่างเร่งด่วน