การเปิดเพลงเสียงดังเผื่อแผ่เพื่อนบ้าน ช่วยหยุดเถอะครับ

ผมเป็นคนต่างจังหวัดคนนึง แต่ผมเบื่อปัญหาที่ผมจะต้องเจอเกือบทุกสัปดาห์ของคนไทยส่วนหนึ่งใน ตจว. ที่เข้าใจว่าคนไทยด้วยกันเป็นคนใจดี ซึ่งไม่ใช่ผม ผมจะใจดีกับคนที่ให้เกียรติซึ่งกันและกันเท่านั้น สิ่งที่ผมเจอคือการเปิดเพลงเสียงดังในงานบุญ งานแต่ง งานบวช หรือการเปิดเพลงบนรถลำโพงดังโดยเฉพาะต่างจังหวัด ฯลฯ ในวันหยุดธรรมดาทั่วไป
       โดยเฉพาะงานบุญต่าง ๆ ที่จะอ้างทำบุญ แต่สร้างความมเดือดร้อนทางโสตประสาทของผู้อื่น เเละเปิดเพลงลูกทุ่งแต่เช้า ซึ่งผมไม่มีปัญหาอะไรกับรสนิยมการฟังเพลง คุณจะเปิดเบา ๆ ในบ้านก็ตามใจ หากแต่เพลงที่เปิดนั้นสร้างเสียงรบกวน  และเปิดเผื่อแผ่คนทั้งหมู่บ้าน ซึ่งจะไปโยงกับประเด็นถัดไป
        คนเราไม่เหมือนกัน ช่วงวัยที่แตกต่างกัน ภาระหน้าที่ ที่แตกต่างกัน เเละสุดท้ายคือเวลานอนที่แตกต่างกัน ซึ่งตรงนี้มันชี้ว่าสิ่งที่แต่ละคนต้องรับผิดชอบ จะจัดสรรเวลาที่ต่างกัน เวลานอนจึงต่างกัน ซึ่งผมนอนดึก ตื่นสายในวันหยุด แต่วันหยุดกลับต้องมาเจอกับงานต่าง ๆ ของคนในหมู่บ้านแทบทุกสัปดาห์
         จนวันที่ผมทนไม่ไหว แค่เวลานอนในวันปกติอันแสนสั้น ไม่ถึง 4-5 ชม. ต้องมาสั้นอีกครั้งแม้กระทั้งวันหยุดทั่วไป ผมโทรแจ้งตำรวจให้มาเคลียร์ไกล่เกลี่ยตักเตือน  แต่ด้วยช่วงเวลาที่แสนหงุดหงิดในช่วงค่ำเช้า อาจเพราะงานของเจ้าหน้าที่ ที่อาจมีล้นมือ ผมรอไม่ไหว ผมจึงโทรไปขอความกรุณาอย่างสุภาพ กับเจ้าของงานบุญ(ที่ได้เบอร์มาเพราะมารู้ทีหลังว่าเจ้าของงานเป็นร้านอาหาร) กล่าวขอความกรุณาไปว่าช่วยลดเสียงด้วย มันค่อนข้างรบกวน ถึงกระนั้นก็ลดเสียงไปชั่วขณะหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก ง่วงก็ง่วง เสียงก็น่ารำคาญ สรุปดังเหมือนเดิม
          เพียงเวลาผ่านไป ณ ขณะหนึ่ง ราวๆ 5 - 10 นาที ลูกเจ้าของงานบุญโทรมาระบุว่าจัดงานทำบุญให้แม่รึอะไรไม่ทราบดี เพราะได้ยินไม่ถนัด และง่วงมาก เขาได้โทรมาเช็คว่าเสียงยังดังอยู่หรือไม่ ถ้าหากดังอยู่ เขาจะปรับเสียงให้ ซึ่งตรงนี้ผมก็ถือว่ายังรู้ตัว เพราะอย่างน้อยเขาก็ยังฟังเสียงเรา แม้ว่ามันไม่ใช่เวลาที่ผมต้องไปเสียเวลา หากมีมารยาทมากพอ ก็จะรู้เองว่ามันดังเกินไป ผมโกรธแต่ก็ยังอภัยให้ได้ เว้นแต่ เวลาถัดมา แม่ของลูกที่โทรมาหาผมตอนแรก โทรมาหาผมด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจว่า "เป็นไง ยังดังอยู่มั้ย แหม่สุดยอดเลยนะคุณ แค่นี้ก็ต้องโทรเรียก 191 อยู่ใกล้ๆกันทำไมไม่มาคุยกันดีดี" ซึ่งตรงนี้ผมขออธิบายว่าคุณตำรวจ น่าจะไปหลังจากที่ผมพึ่งโทรไป  แต่เอาจริงๆ หมู่บ้านใหญ่มาก ไม่ใช่เเค่เดิน 2-3 ก้าวจะถึง เขาอยู้ต้นซอย ผมอยู่ในซอยด้วยซ้ำ แต่เพลงส่งเสียงรบกวนขนาดนี้ ผมยังต้องเสียเวลาไปพูดกับเจ้าของงานตรง ๆ หรือ? (ก็ได้กลับมาาคิดตอนตื่น)
          ด้วยความที่เกลียดการคุยหรือกับคนมากที่สุด เเละง่วงเฉียบหาย จึงตอบไปเพียงแค่ ครับๆๆๆๆ 
          ซึ่งผมไม่ทราบรู้ว่าตามกฏหมายแล้ว มันผิดหรือไม่ แต่ตามมารยาทควรเป็นสิ่งที่ทุกคนควร Concerned แต่ข้อมูลเบื่องต้น ผมถามคุณตำรวจก่อนแจ้งว่า หากมีเสียงรบกวนผมขอเเจ้งเหตุในสายได้ไหม
          สิ่งที่ผมเจอกับสภาพแวดล้องของ ตจว. ผมเกลียดคำว่าคนไทยใจดี หยวน ๆ กันไปมากครับ การละเว้นสิ่งผิดเพียงเล็กน้อย มันอาจสร้างปัญหาใหญ่ให้แก่คนอื่น ๆ หรือหากมองประเด็นอื่น มันอาจสร้างปัญหาอันใหญ่หลวงกว่านี้ ไม่เข้าใจว่ามารยาท ซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกคนต้องมี มันลำบากอะไรขนาดนั้น
          
          จากคำพูดของเจ้าของงานที่โทรมา เหมือนกับว่าผมกลายเป็นคนผิด ทั้ง ๆ ที่ คนเดือนร้อนก็คือผม
          
          หากใครจะมองว่า ทำไมผมไม่ไปพูดกับเขาตรง ๆ  ผมขอกล่าวว่า การที่ผมต้องโทรไปแจ้งมันก็เสียเวลาผมเเล้วครับ หากทุกคนเข้าใจเรื่องมารยาท น่าจะรู้ดีอยู่ 
          กระทู้นี้บ่นล้วน ๆ ซึ่งผมรู้ดีว่ามันคงไม่ได้ช่วยผมแก้ปัญหาเพื่อนในหมู่บ้านเฮงซวยที่ผมเจอ แต่หากใครมีมุมมองที่ต่างออกไป ผมอยากรับฟังด้วยเหตุผลที่ชัดเจน ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่