กระทู้นี้ จะขอลองสอบถามเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ชาวพันทิปคนอื่นดูว่า เป็นเหมือนกันบ้างมั้ย คือ
พอเริ่มอายุมากขึ้น แล้วเริ่มมีมุมนึง ที่คิดเผื่อในด้านลบมากขึ้น เช่น เวลามองคนที่รู้จัก เพื่อนบ้าน หรือ เพื่อนร่วมงาน
เราจะมีมุมนึง ที่คิดเผื่อใจ และไม่เปิดโอกาสให้คนมาเอาเปรียบเราจนมากเกินไป
เพราะจากประสบการณ์ พออายุมากขึ้น ก็จะผ่านการเจอคนมาหลายรูปแบบมากขึ้น มีทั้ง เจอในด้านดีของคน มีทั้งเจอในด้านที่ไม่ดีของคน เดี๋ยวจะค่อย ๆ เล่าไปนะคะ
มันเลยทำให้เราระวังตัว ระแวงมากขึ้น (แต่ก็ไม่ได้ระวังมากเกินไป เพียงแต่ ก็จะมีแอบคิดในใจลึก ๆ เช่นว่า เค้าอาจจะทำเพื่อหวังประโยชน์ตรงนี้ตรงนั้นมั้ย หรือ ว่า เค้าอาจคิดน้อยไป เลยทำให้มาเบียดเบียนคนอื่น พูดจาไม่ดี หรือ เค้าก็แค่คน ๆ นึง ที่ก็ต้องเอาตัวรอดตัวเองเหมือนกัน )
มันเลยทำให้ เราเว้นช่องว่างประมาณนึง กับคนในสังคม เพื่อเป็น safe zone ของเรา
ตัวอย่างเช่น
กรณี เจอพวก sales ขายของ ตามห้างร้าน หรือ เจอพนักงานในห้างร้าน หน้าตาบูดบึ้ง เราก็ไม่ค่อยอยากไปสนทนาอะไรด้วย
เพราะเคยเจอพนักงานขาย ประมาณว่า เราดูสินค้า แล้วพอไม่ซื้อ ก็ทำท่า ไม่พอใจใส่ ด่าไล่หลัง (เช่น ไม่ขอบคุณซักคำ บลา ๆ) จากนั้น เราก็จะไม่คุยกับพนักงานขายอีก ดูแต่ตาเฉย ๆ ถ้าต้องการจริง ก็ซื้อเลย กลัวการสนทนากับพนักงานขาย (ที่ยืนเชียร์สินค้าตามห้างอะ)
กับเพื่อนร่วมงาน
ก็เว้นระยะห่างประมาณนึง เพราะเคยเจอ เพื่อนร่วมงาน แบบว่า คนที่เชิ่ดใส่ คนที่มั่นใจว่ารู้เรื่องเยอะ แล้วพอไปถามงาน แล้วไม่บอก และอวดอ้างประสบการณ์ว่าทำมาเยอะเกิน 8 ปี ขอไฟล์ตัวอย่าง ก็ไม่ให้ ให้ไปลองทำเอง เริ่มจาก 0
กับอีกแบบ ที่เอางานตนเองมาให้คนอื่นทำ แล้วไม่รู้เรื่องกับงานตนเอง พอถามไปว่าหลักการคิดตรงนี้คืออะไร ก็ตอบไม่ได้ พอขอให้ไปถามต้นทางถึงหลักการคิด ก็ด่าเราว่า เก่งนักให้ไปทำเอง เหอะ ๆ
ทั้ง 2 เคส เจอในที่ทำงานเดียวกัน เลยย้ายออกมาแล้วจากที่นั่น
ตอนนี้ ก็เก็บตรงนั้นมาเป็นบทเรียน จะไม่ทำตามแบบคนพวกนั้น ใครถามงานอะไร ก็อธิบาย บอกหมดเปลือก แต่ก็ยังงง คนประเภทนั้นเหมือนกัน ว่า Logic คิดเค้าคืออะไร รู้แล้วทำไมไม่บอก ไม่รู้แต่เป็นหน้างานตัวเองแล้วทำไมไม่หาข้อมูลมาให้ คือ งงมาก
กับอดีตหัวหน้า ที่สั่งงานรัว ๆ จนไม่รับฟัง feedback หรือ follow งานเท่าที่ควร เราก็แอบคิด นี่เค้าจะเร่งสร้างผลงานตัวเอง ใช่มั้ย ทุกงานมีปัญหา ถ้าไม่ช่วยกันแก้ไขปัญหาไป จะเสร็จได้มั้ยละ เหอะ ๆ แต่บางคนก็ดีนะ เล่าเฉย ๆ ว่ามีคนแบบนี้
กับเพื่อนบ้าน
ก็มีเรื่องรถมาจอดหน้าบ้านเรา (บ้านอยู่ในหมู่บ้าน ไม่ได้ติดถนนใหญ่แต่อย่างใด ในบ้านทุกหลังมีที่จอดรถอย่างน้อย 2 คัน แต่ก็ยังเอารถจอดหน้าบ้านกัน) สมัยก่อน มีรถแปลกหน้ามาจอดหน้าบ้าน ไม่เว้นแต่ละวัน ก็เป็นรถเพื่อนบ้านนั่นแหละ บ้านตัวเอง ไม่จอด ทั้ง ๆ ที่ในบ้านจะมีที่จอดรถ 2 คัน ก็มักสร้างต่อเติมเป็นห้องกัน แล้วเอารถมาจอดหน้าบ้าน
แล้วบางหลังก็ดันต่อเติมเป็นร้านอาหาร ทำให้ต้องเอารถตัวเองมาจอดหน้าบ้านคนอื่น
มันก็เสียทัศนียภาพหน้าบ้านเราอะนะ ถ้าจอดหน้าบ้านของเค้าเองจะไม่ว่าไรเลย บางที เปิดประตูมาก็งง นี่รถใคร นึกว่าเพื่อนมาหา จริงๆไม่ใช่ คือรถเพื่อนบ้าน น่าจะ 4 - 5 หลัง ซ้ายขวาหน้าหลัง ไม่รู้บ้านไหน
ก็ไม่รู้จะมองคนพวกนี้ยังไงจริง ๆ นะ ส่วนตัวไม่ค่อยล้ำสิทธิของใคร แต่ก็ไม่ค่อยเข้าใจคนที่ชอบล้ำสิทธิคนอื่นนะ
---------------
รวม ๆ คือ พอแก่ขึ้น ก็เริ่มมองโลกตามความเป็นจริง มากขึ้น มั้ง โลกไม่เฟอร์เฟค สังคมไม่เฟอร์เฟค มีบางอย่างที่เราเข้าใจ บางอย่างเราก็ไม่เข้าใจ บางอย่างคนอื่นก็คงไม่เข้าใจเราเหมือนกันแหละ (ในมุมเค้า เราก็อาจถูกมองว่าเห็นแก่ตัวเหมือนกัน เช่น หวงที่จอดรถหน้าบ้านเหรอ ก็แล้วแต่คนจะมองอะนะ )
และกระบวนทัศน์ทางความคิดคนเรามันก็ต่างกันจริง ๆ ไม่งั้น จะมีอาชญากรรมเกิดขึ้นได้ยังไง จริงมะ เพราะยิ่งคนที่เป็น อาชญากร จะยิ่งความคิดไม่เหมือนเรา ๆ ไม่งั้น จะทำร้ายร่างกายคนอื่น ฆ่าข่มขืนกันได้อย่างไร
แต่เราทุกคน ก็ไม่ได้ดี 100% ไม่ได้เลว 100% มีทั้งส่วนที่ดีและไม่ดี แต่จะทำยังไง ให้อยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุขมากกว่า
จริง ๆ อะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คนกระทบกระทั่งกันบ้าง ก็ต้องปล่อยวาง และให้อภัยกันแหละ
เพราะเค้าอาจจะมีเหตุผลบางอย่างที่เราไม่เข้าใจอยู่เบื้องหลัง ทำให้คนเราคิดแบบนั้น ทำแบบนั้น หรือบางทีเค้าอาจไม่มีเหตุผลอะไรเลยก็ได้
เพราะฉะนั้นเราจึงไม่ควรคิดมาก ไม่เก็บเอาคำพูด หรือ พฤติกรรมคนอื่นมาคิด จนทำให้เราระแวงกับเหตุการณ์ต่อไปจนมากเกินไป
ถึงแม้จะอายุเยอะขึ้น เจอรูปแบบเหตุการณ์ประหลาด ๆ ก็จะเยอะขึ้นตามไปด้วย
แล้ว เพื่อน ๆ ละ เคยเจอเหตุการณ์ที่แบบว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมคนอื่นถึงคิดหรือทำแบบนั้น มั้ย แล้วมันส่งผลอย่างไรต่อทัศนคติ ความคิดของเพื่อน ๆ
แชร์หน่อยค่า
พอเริ่มอายุมากขึ้น แล้วเริ่มมีมุมนึง ที่คิดเผื่อในด้านลบมากขึ้น เป็นเหมือนกันมั้ย
พอเริ่มอายุมากขึ้น แล้วเริ่มมีมุมนึง ที่คิดเผื่อในด้านลบมากขึ้น เช่น เวลามองคนที่รู้จัก เพื่อนบ้าน หรือ เพื่อนร่วมงาน
เราจะมีมุมนึง ที่คิดเผื่อใจ และไม่เปิดโอกาสให้คนมาเอาเปรียบเราจนมากเกินไป
เพราะจากประสบการณ์ พออายุมากขึ้น ก็จะผ่านการเจอคนมาหลายรูปแบบมากขึ้น มีทั้ง เจอในด้านดีของคน มีทั้งเจอในด้านที่ไม่ดีของคน เดี๋ยวจะค่อย ๆ เล่าไปนะคะ
มันเลยทำให้เราระวังตัว ระแวงมากขึ้น (แต่ก็ไม่ได้ระวังมากเกินไป เพียงแต่ ก็จะมีแอบคิดในใจลึก ๆ เช่นว่า เค้าอาจจะทำเพื่อหวังประโยชน์ตรงนี้ตรงนั้นมั้ย หรือ ว่า เค้าอาจคิดน้อยไป เลยทำให้มาเบียดเบียนคนอื่น พูดจาไม่ดี หรือ เค้าก็แค่คน ๆ นึง ที่ก็ต้องเอาตัวรอดตัวเองเหมือนกัน )
มันเลยทำให้ เราเว้นช่องว่างประมาณนึง กับคนในสังคม เพื่อเป็น safe zone ของเรา
ตัวอย่างเช่น
กรณี เจอพวก sales ขายของ ตามห้างร้าน หรือ เจอพนักงานในห้างร้าน หน้าตาบูดบึ้ง เราก็ไม่ค่อยอยากไปสนทนาอะไรด้วย
เพราะเคยเจอพนักงานขาย ประมาณว่า เราดูสินค้า แล้วพอไม่ซื้อ ก็ทำท่า ไม่พอใจใส่ ด่าไล่หลัง (เช่น ไม่ขอบคุณซักคำ บลา ๆ) จากนั้น เราก็จะไม่คุยกับพนักงานขายอีก ดูแต่ตาเฉย ๆ ถ้าต้องการจริง ก็ซื้อเลย กลัวการสนทนากับพนักงานขาย (ที่ยืนเชียร์สินค้าตามห้างอะ)
กับเพื่อนร่วมงาน
ก็เว้นระยะห่างประมาณนึง เพราะเคยเจอ เพื่อนร่วมงาน แบบว่า คนที่เชิ่ดใส่ คนที่มั่นใจว่ารู้เรื่องเยอะ แล้วพอไปถามงาน แล้วไม่บอก และอวดอ้างประสบการณ์ว่าทำมาเยอะเกิน 8 ปี ขอไฟล์ตัวอย่าง ก็ไม่ให้ ให้ไปลองทำเอง เริ่มจาก 0
กับอีกแบบ ที่เอางานตนเองมาให้คนอื่นทำ แล้วไม่รู้เรื่องกับงานตนเอง พอถามไปว่าหลักการคิดตรงนี้คืออะไร ก็ตอบไม่ได้ พอขอให้ไปถามต้นทางถึงหลักการคิด ก็ด่าเราว่า เก่งนักให้ไปทำเอง เหอะ ๆ
ทั้ง 2 เคส เจอในที่ทำงานเดียวกัน เลยย้ายออกมาแล้วจากที่นั่น
ตอนนี้ ก็เก็บตรงนั้นมาเป็นบทเรียน จะไม่ทำตามแบบคนพวกนั้น ใครถามงานอะไร ก็อธิบาย บอกหมดเปลือก แต่ก็ยังงง คนประเภทนั้นเหมือนกัน ว่า Logic คิดเค้าคืออะไร รู้แล้วทำไมไม่บอก ไม่รู้แต่เป็นหน้างานตัวเองแล้วทำไมไม่หาข้อมูลมาให้ คือ งงมาก
กับอดีตหัวหน้า ที่สั่งงานรัว ๆ จนไม่รับฟัง feedback หรือ follow งานเท่าที่ควร เราก็แอบคิด นี่เค้าจะเร่งสร้างผลงานตัวเอง ใช่มั้ย ทุกงานมีปัญหา ถ้าไม่ช่วยกันแก้ไขปัญหาไป จะเสร็จได้มั้ยละ เหอะ ๆ แต่บางคนก็ดีนะ เล่าเฉย ๆ ว่ามีคนแบบนี้
กับเพื่อนบ้าน
ก็มีเรื่องรถมาจอดหน้าบ้านเรา (บ้านอยู่ในหมู่บ้าน ไม่ได้ติดถนนใหญ่แต่อย่างใด ในบ้านทุกหลังมีที่จอดรถอย่างน้อย 2 คัน แต่ก็ยังเอารถจอดหน้าบ้านกัน) สมัยก่อน มีรถแปลกหน้ามาจอดหน้าบ้าน ไม่เว้นแต่ละวัน ก็เป็นรถเพื่อนบ้านนั่นแหละ บ้านตัวเอง ไม่จอด ทั้ง ๆ ที่ในบ้านจะมีที่จอดรถ 2 คัน ก็มักสร้างต่อเติมเป็นห้องกัน แล้วเอารถมาจอดหน้าบ้าน
แล้วบางหลังก็ดันต่อเติมเป็นร้านอาหาร ทำให้ต้องเอารถตัวเองมาจอดหน้าบ้านคนอื่น
มันก็เสียทัศนียภาพหน้าบ้านเราอะนะ ถ้าจอดหน้าบ้านของเค้าเองจะไม่ว่าไรเลย บางที เปิดประตูมาก็งง นี่รถใคร นึกว่าเพื่อนมาหา จริงๆไม่ใช่ คือรถเพื่อนบ้าน น่าจะ 4 - 5 หลัง ซ้ายขวาหน้าหลัง ไม่รู้บ้านไหน
ก็ไม่รู้จะมองคนพวกนี้ยังไงจริง ๆ นะ ส่วนตัวไม่ค่อยล้ำสิทธิของใคร แต่ก็ไม่ค่อยเข้าใจคนที่ชอบล้ำสิทธิคนอื่นนะ
---------------
รวม ๆ คือ พอแก่ขึ้น ก็เริ่มมองโลกตามความเป็นจริง มากขึ้น มั้ง โลกไม่เฟอร์เฟค สังคมไม่เฟอร์เฟค มีบางอย่างที่เราเข้าใจ บางอย่างเราก็ไม่เข้าใจ บางอย่างคนอื่นก็คงไม่เข้าใจเราเหมือนกันแหละ (ในมุมเค้า เราก็อาจถูกมองว่าเห็นแก่ตัวเหมือนกัน เช่น หวงที่จอดรถหน้าบ้านเหรอ ก็แล้วแต่คนจะมองอะนะ )
และกระบวนทัศน์ทางความคิดคนเรามันก็ต่างกันจริง ๆ ไม่งั้น จะมีอาชญากรรมเกิดขึ้นได้ยังไง จริงมะ เพราะยิ่งคนที่เป็น อาชญากร จะยิ่งความคิดไม่เหมือนเรา ๆ ไม่งั้น จะทำร้ายร่างกายคนอื่น ฆ่าข่มขืนกันได้อย่างไร
แต่เราทุกคน ก็ไม่ได้ดี 100% ไม่ได้เลว 100% มีทั้งส่วนที่ดีและไม่ดี แต่จะทำยังไง ให้อยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุขมากกว่า
จริง ๆ อะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คนกระทบกระทั่งกันบ้าง ก็ต้องปล่อยวาง และให้อภัยกันแหละ
เพราะเค้าอาจจะมีเหตุผลบางอย่างที่เราไม่เข้าใจอยู่เบื้องหลัง ทำให้คนเราคิดแบบนั้น ทำแบบนั้น หรือบางทีเค้าอาจไม่มีเหตุผลอะไรเลยก็ได้
เพราะฉะนั้นเราจึงไม่ควรคิดมาก ไม่เก็บเอาคำพูด หรือ พฤติกรรมคนอื่นมาคิด จนทำให้เราระแวงกับเหตุการณ์ต่อไปจนมากเกินไป
ถึงแม้จะอายุเยอะขึ้น เจอรูปแบบเหตุการณ์ประหลาด ๆ ก็จะเยอะขึ้นตามไปด้วย
แล้ว เพื่อน ๆ ละ เคยเจอเหตุการณ์ที่แบบว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมคนอื่นถึงคิดหรือทำแบบนั้น มั้ย แล้วมันส่งผลอย่างไรต่อทัศนคติ ความคิดของเพื่อน ๆ
แชร์หน่อยค่า