



วันนี้ (27 ส.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายงานถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ว่า...📌
ล่าสุด สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19ในไทยวันนี้ (27 ส.ค.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 1 ราย ซึ่งเป็นผู้เดินทางกลับมาจากประเทศอินเดีย และเข้าสู่ State Quarantine
ส่งผลให้ผู้ป่วยติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 3,401 ราย รวมหายป่วยแล้ว 3,237 ราย โดยยังมีผู้ป่วยที่รักษาอาการอยู่ 109 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม มีผู้เสียชีวิตรวม 58 ราย
https://www.sanook.com/news/8239998/
“
อนุทิน”เผยไทยมีระบบคัดกรองผู้ป่วยโควิดดีมาก
“อนุทิน”เผย ไทยมีระบบคัดกรองผู้ป่วยโควิด-19 ในระดับดีมาก ขอให้ประชาชนมั่นใจ และช่วยกันเฝ้าระวังผู้ที่ลักลอบเข้าเมือง หากพบให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ในประเทศไทย ว่า ขณะนี้ระบบตรวจคัดกรองของประเทศไทยอยู่ในระดับที่ดีมาก มีการตรวจเชื้อต้นทางก่อนขึ้นเครื่อง ตรวจเชื้อปลายทางเมื่อมาถึงประเทศไทย และมีระบบกักกันโรค 14 วันใน State Quarantine มีการตรวจเชื้อซ้ำ และเพิ่มการตรวจหาภูมิคุ้มกันสำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาในไทย ด้วยวิธีการที่รวดเร็วและแม่นยำ
นายอนุทินกล่าวต่อว่า ขณะนี้ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่พบเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ทุกคนเข้าสู่ State Quarantine เพื่อเฝ้าระวัง หากพบผู้มีการเชื้อก็ทำการรักษาทันที กรณีที่พบซากเชื้อแม้นทางการแพทย์จะระบุว่าแพร่เชื้อต่อไม่ได้ แต่ทางกระทรวงจะส่งทีมสอบสวนโรคติดตามผู้ใกล้ชิด นำเข้าสู่กระบวนการควบคุมโรคที่มีประสิทธิภาพ ที่น่ากังวลคือการลักลอบเข้าประเทศไทยของแรงงานต่างด้าวที่ไม่ผ่านการคัดกรองควบคุมโรค ต้องขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ระมัดระวังเรื่องดังกล่าว และขอให้ประชาชนอย่าสนับสนุนหรืออำนวยความสะดวกให้กลุ่มลักลอบเข้าเมือง หากพบให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีเพื่อเข้าควบคุมเฝ้าระวังโรค
กระทรวงสาธารณสุข ร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการรับมือหากพบผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ ทั้งเรื่องบุคลากร ยา อุปกรณ์ป้องกัน การรักษา มีความรู้และประสบการณ์ เมื่อประชาชนช่วยกันอย่างเต็มที่ ใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อย ๆ โอกาสจะเกิดการติดเชื้อและซูเปอร์สเปรดเดอร์จะน้อยมาก มีความเสี่ยงต่ำ ขอให้ประชาชนอยู่กับสถานการณ์โรคด้วยความเข้าใจ
https://www.innnews.co.th/social/news_757711/
เกาหลีใต้’ ติดเชื้อพุ่งวันเดียว 441 ราย รัฐวอนภาคธุรกิจให้พนง. ‘ทำงานจากบ้าน’
เอเจนซีส์ – รัฐบาลเกาหลีใต้เรียกร้องให้ภาคธุรกิจอนุญาตให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน หลังยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่รายวันพุ่งทุบสถิติสูงสุดตั้งแต่เดือน มี.ค. พร้อมเตือนความเสี่ยงที่เชื้อจะแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนตามคอลล์เซ็นเตอร์และโกดังสินค้าต่างๆ
ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งเกาหลีใต้ (KCDC) แถลงจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รวมทั้งสิ้น 441 รายในรอบ 24 ชั่วโมงวันนี้ (27 ส.ค.) ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดนับจากต้นเดือน มี.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่เกาหลีใต้เผชิญการระบาดเป็นวงกว้างระลอกแรก
แม้การกลับมาของโควิด-19 ครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับกิจกรรมในโบสถ์และการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลเมื่อช่วงต้นเดือน ส.ค. เสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ล่าสุดทางการได้ออกมาเตือนความเป็นไปได้ที่ไวรัสจะแพร่กระจายในสถานที่ทำงาน
“กรุณาตรวจสอบปัจจัยเสี่ยงต่างๆ อย่างละเอียดรอบคอบ หากสถานที่ทำงานของท่านมีสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ เช่น คอลล์เซ็นเตอร์ และโกดังสินค้าต่างๆ” พัค นึงฮู รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ ให้สัมภาษณ์
“เพื่อลดการแพร่เชื้อในสถานที่ทำงาน ขอให้ท่านปรับช่วงเวลางานให้มีความยืดหยุ่นขึ้นเพื่อจำกัดจำนวนพนักงานในออฟฟิศ โดยอาจจะให้พนักงานทำงานจากที่บ้านและสลับเวลาทำงาน”
เกาหลีใต้เคยพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนที่คอลล์เซ็นเตอร์แห่งหนึ่งเมื่อเดือน มี.ค. และต่อมาในเดือน มิ.ย. ก็มีผู้ติดเชื้อไม่ต่ำกว่า 100 รายที่เชื่อมโยงกับโกดังสินค้าของบริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ คูปัง คอร์ป (Coupang Corp)
พัค เผยว่า ผู้ติดเชื้อใหม่กว่า 80% ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาอาศัยอยู่ในกรุงโซลและเขตปริมณฑล และส่วนใหญ่พบว่ามีความเชื่อมโยงกับกิจกรรมทางศาสนาในโบสถ์หรือการชุมนุมทางการเมือง
จำนวนผู้ป่วยใหม่ล่าสุดทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในเกาหลีใต้ขยับขึ้นไปอยู่ที่ 18,706 ราย เสียชีวิต 313 ราย และมีผู้ป่วย 933 รายที่เชื่อมโยงกับกิจกรรมของโบสถ์แห่งหนึ่งในกรุงโซล
ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่กลับมาแพร่ระบาดในเกาหลีใต้ช่วงนี้เป็นสายพันธุ์ที่พบมากในยุโรป, อเมริกาเหนือ และตะวันออกกลาง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชี้ว่ามีความรุนแรงกว่าไวรัสที่กำเนิดในเมืองอู่ฮั่นของจีนประมาณ 6 เท่า
ยุน แทโฮ เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ ระบุว่า ทางกระทรวงได้ส่งรายชื่อพลเมืองอย่างน้อย 51,000 คนที่เชื่อมโยงกับการชุมนุมประท้วงเมื่อวันที่ 15 ส.ค. ให้หน่วยงานของแต่ละท้องถิ่นรับทราบแล้ว
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขยอมรับว่า มีความเป็นไปได้ที่เกาหลีใต้จะนำมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมระดับสูงสุดกลับมาใช้อีกครั้ง ซึ่งหมายความว่าภาคธุรกิจและสถานศึกษาต่างๆ อาจต้องปิดตัวลงชั่วคราว
https://mgronline.com/around/detail/9630000087940
โควิดตีเมียนมาแตก! นักวิชาการจี้'ปิดพรมแดน' ส่งผู้เชี่ยวชาญข้ามฝั่งไปช่วยก่อนระบาดลามถึงไทย
วันพฤหัสบดี ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 12.02 น.
27 ส.ค. 2563 นายสันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง อาจารย์พิเศษคณะบริหารการพัฒนาสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวเมื่อค่ำวันที่ 26 ส.ค. 2563 เรียกร้องให้ทางการไทยเฝ้าระวังพรมแดนไทย-เมียนมา เนื่องจากเมียนมาเจอการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 2 แล้ว และหากเป็นไปได้ควรส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าไปช่วยเมียนมารับมือโรคระบาดเสียเลย ดังนี้
Covid-19: Red Alert in Myanmar "พม่าแตกแล้ว"
เตือนภัยระดับสูงมากนะครับ เมียนมา เข้าสู่ 2nd Wave ที่รุนแรงอย่างแน่นอนแล้ว
ทุกๆคนครับ คงต้องเตรียมยกการ์ดสูงสุด และถ้าเป็นไปได้ กองทัพบกและทัพเรือควรรีบปิดชายแดนทางบก และทางทะเลโดยทันทีครับ
ณ จุดนี้ต้องตามสถานการณ์เมียนมาทุกวัน และพร้อมล็อคพรมแดนตะวันตกทั้งแนวครับ
ถ้าเมียนมาเอาไม่อยู่ เราน่าจะมีเวลาจากวันนี้ไปอีกไม่ถึง 1 สัปดาห์ที่จะยัน ทางฝั่งเรา หรือส่งกองหนุนไปช่วยเมียนมารบ Covid ในบ้านของเขาเลยครับ ถ้าเมียนมาแพ้ เราก็อันตรายมากครับ
Time Line:
วันที่ 16 ส.ค. 63 ที่ผ่านมาตรวจพบ Local Transmission ในเมียนมาขึ้น 1 กรณี หลังจากที่ไม่เกิดมาเลย 1 เดือนเต็ม นี่คือวันแรกของ 2nd Wave ในเมียนมา
วันที่ 21 ส.ค. 63 ตรวจพบ Total Case ของ 2nd Wave รวม 45 คนหลังจากผ่านมาได้ 6 วันนับจากวันแรก
วันที่ 24 ส.ค. 63 ตรวจพบ Total Case ของ 2nd Wave รวม 100 คน เพิ่มขึ้น 2 เท่าภายใน 3 วัน มีแนวโน้มว่าจะเป็นสายพันธุ์ที่แพร่เชื้อเร็ว มี Doubling Day แค่ 3 วัน
วันที่ 26 ส.ค. 63 ตรวจพบ Total Case ของ 2nd Wave รวม 206 คนยืนยัน Doubling Day แค่ 2-3 วัน
สถานการณ์ช่วง 10 วันที่ผ่านมา ยืนยันได้แน่นอนว่า 2nd Wave แน่นอนแล้ว และรุนแรงกว่า 1st Wave มาก ตอนนี้รัฐบาลเมียนมารับรู้แล้ว และเริ่ม Partial Lockdown บางส่วน ซึ่งต้องตามดูสถานการณ์ต่อไปว่าจะได้ผลแค่ไหนนะครับ
แต่เชื่อได้ว่า รอบนี้ผู้ติดเชื้อมีโอกาสหลุดไประดับอย่างน้อย 2000 - 3000 สูงมาก และอาจไปไกลกว่านั้นมากถ้าเอาไม่อยู่ กรณีนี้ตัวเลขเริ่มต้นแย่และร้ายแรงกว่ากรณีดานังของเวียดนามที่เพิ่งผ่านมามากครับ
Prediction:
จุดเช็คว่ารัฐบาลเมียนมาเอาอยู่หรือไม่
จุดที่ 1 : ตัวเลขเฉพาะ 2nd Wave ถึง 800 คน ก่อน 1 ก.ย. คือเอาไม่อยู่ (คำนวณจาก Total Case ลบด้วย 374 คนของเวฟแรก)
จุดที่ 2 : ตัวเลขเฉพาะ 2nd Wave ถึง 5,000 คน ก่อน 8 ก.ย. คือ เอาไม่อยู่อยู่และหนักมาก
ด้วยความเคารพต่อท่านนายกประยุทธ รัฐบาลและกองทัพนะครับ
ผมเชื่อว่า ภายใน 2-3 วันข้างหน้านี้ เราอาจจะต้องตัดสินใจในด้านปฏิบัติการทางทหารบางอย่าง เพื่อป้องกันชายแดนตะวันตกของเรา และรักษาประเทศของเราให้ปลอดภัยครับ ณ ปัจจุบัน ชายแดนฝั่งนั้น มีคนลักลอบเดินข้ามไปมามากมายเหลือเกิน ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ไม่สามารถยอมรับได้นับจากนี้ไปแล้วครับ
ผมจะตาม Update สถานการณ์ในเมียนมารายวัน คาดว่าภายใน 2-3 วันข้างหน้า เราน่าจะเห็นความเสี่ยงต่างๆชัดเจนมากขึ้นอีกมาก ซึ่งน่ากังวลใจเหลือเกินว่าอาจจะหนักครับ และถ้าเมียนมาพังหนักแบบฟิลิปปินส์ เราไม่รอดแน่ครับ ถ้าเป็นไปได้ ส่งกองหนุนไปช่วยเมียนมารบ Covid ในบ้านของเขาเลย น่าจะเป็นการต่อสู้เชิงรุกที่ดีที่สุดครับ ยังหวังอยู่ว่าอีก 2-3 วันตัวเลขจะกลายเป็นข่าวดีมากกว่าข่าวร้ายครับ
https://www.naewna.com/local/514413
พม่าขยายเวลาล็อกดาวน์รัฐยะไข่สกัดโควิด-19 หลังผู้ติดเชื้อพุ่งสูง
เผยแพร่: 27 ส.ค. 2563 09:05 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ทางการพม่าประกาศขยายเวลาการใช้มาตรการล็อกดาวน์ป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้ครอบคลุมทั่วรัฐยะไข่ เพื่อกักกันประชาชนรวมกว่า 3 ล้านคน ในเคหสถาน
ทั้งนี้ รอบ 36 ชั่วโมง ที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 100 คน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดนับแต่พบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายแรก เมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ทำให้พม่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มเป็น 580 คน ส่วนผู้เสียชีวิตยังจำนวนคงเดิมที่ 6 ราย
https://mgronline.com/uptodate/detail/9630000087804




🔴มาลาริน/27ส.ค. ไทยพบโควิด 1 ราย จากอินเดีย อนุทิน”เผยไทยมีระบบคัดกรองดีมาก เกาหลีใต้พบป่วย 441 ราย พม่าพบโควิดพุ่ง
วันนี้ (27 ส.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายงานถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ว่า...📌
ล่าสุด สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19ในไทยวันนี้ (27 ส.ค.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 1 ราย ซึ่งเป็นผู้เดินทางกลับมาจากประเทศอินเดีย และเข้าสู่ State Quarantine
ส่งผลให้ผู้ป่วยติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 3,401 ราย รวมหายป่วยแล้ว 3,237 ราย โดยยังมีผู้ป่วยที่รักษาอาการอยู่ 109 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม มีผู้เสียชีวิตรวม 58 ราย
https://www.sanook.com/news/8239998/
“อนุทิน”เผยไทยมีระบบคัดกรองผู้ป่วยโควิดดีมาก
“อนุทิน”เผย ไทยมีระบบคัดกรองผู้ป่วยโควิด-19 ในระดับดีมาก ขอให้ประชาชนมั่นใจ และช่วยกันเฝ้าระวังผู้ที่ลักลอบเข้าเมือง หากพบให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ในประเทศไทย ว่า ขณะนี้ระบบตรวจคัดกรองของประเทศไทยอยู่ในระดับที่ดีมาก มีการตรวจเชื้อต้นทางก่อนขึ้นเครื่อง ตรวจเชื้อปลายทางเมื่อมาถึงประเทศไทย และมีระบบกักกันโรค 14 วันใน State Quarantine มีการตรวจเชื้อซ้ำ และเพิ่มการตรวจหาภูมิคุ้มกันสำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาในไทย ด้วยวิธีการที่รวดเร็วและแม่นยำ
นายอนุทินกล่าวต่อว่า ขณะนี้ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่พบเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ทุกคนเข้าสู่ State Quarantine เพื่อเฝ้าระวัง หากพบผู้มีการเชื้อก็ทำการรักษาทันที กรณีที่พบซากเชื้อแม้นทางการแพทย์จะระบุว่าแพร่เชื้อต่อไม่ได้ แต่ทางกระทรวงจะส่งทีมสอบสวนโรคติดตามผู้ใกล้ชิด นำเข้าสู่กระบวนการควบคุมโรคที่มีประสิทธิภาพ ที่น่ากังวลคือการลักลอบเข้าประเทศไทยของแรงงานต่างด้าวที่ไม่ผ่านการคัดกรองควบคุมโรค ต้องขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ระมัดระวังเรื่องดังกล่าว และขอให้ประชาชนอย่าสนับสนุนหรืออำนวยความสะดวกให้กลุ่มลักลอบเข้าเมือง หากพบให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีเพื่อเข้าควบคุมเฝ้าระวังโรค
กระทรวงสาธารณสุข ร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการรับมือหากพบผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ ทั้งเรื่องบุคลากร ยา อุปกรณ์ป้องกัน การรักษา มีความรู้และประสบการณ์ เมื่อประชาชนช่วยกันอย่างเต็มที่ ใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อย ๆ โอกาสจะเกิดการติดเชื้อและซูเปอร์สเปรดเดอร์จะน้อยมาก มีความเสี่ยงต่ำ ขอให้ประชาชนอยู่กับสถานการณ์โรคด้วยความเข้าใจ
https://www.innnews.co.th/social/news_757711/
เกาหลีใต้’ ติดเชื้อพุ่งวันเดียว 441 ราย รัฐวอนภาคธุรกิจให้พนง. ‘ทำงานจากบ้าน’
เอเจนซีส์ – รัฐบาลเกาหลีใต้เรียกร้องให้ภาคธุรกิจอนุญาตให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน หลังยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่รายวันพุ่งทุบสถิติสูงสุดตั้งแต่เดือน มี.ค. พร้อมเตือนความเสี่ยงที่เชื้อจะแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนตามคอลล์เซ็นเตอร์และโกดังสินค้าต่างๆ
ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งเกาหลีใต้ (KCDC) แถลงจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รวมทั้งสิ้น 441 รายในรอบ 24 ชั่วโมงวันนี้ (27 ส.ค.) ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดนับจากต้นเดือน มี.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่เกาหลีใต้เผชิญการระบาดเป็นวงกว้างระลอกแรก
แม้การกลับมาของโควิด-19 ครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับกิจกรรมในโบสถ์และการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลเมื่อช่วงต้นเดือน ส.ค. เสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ล่าสุดทางการได้ออกมาเตือนความเป็นไปได้ที่ไวรัสจะแพร่กระจายในสถานที่ทำงาน
“กรุณาตรวจสอบปัจจัยเสี่ยงต่างๆ อย่างละเอียดรอบคอบ หากสถานที่ทำงานของท่านมีสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ เช่น คอลล์เซ็นเตอร์ และโกดังสินค้าต่างๆ” พัค นึงฮู รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ ให้สัมภาษณ์
“เพื่อลดการแพร่เชื้อในสถานที่ทำงาน ขอให้ท่านปรับช่วงเวลางานให้มีความยืดหยุ่นขึ้นเพื่อจำกัดจำนวนพนักงานในออฟฟิศ โดยอาจจะให้พนักงานทำงานจากที่บ้านและสลับเวลาทำงาน”
เกาหลีใต้เคยพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนที่คอลล์เซ็นเตอร์แห่งหนึ่งเมื่อเดือน มี.ค. และต่อมาในเดือน มิ.ย. ก็มีผู้ติดเชื้อไม่ต่ำกว่า 100 รายที่เชื่อมโยงกับโกดังสินค้าของบริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ คูปัง คอร์ป (Coupang Corp)
พัค เผยว่า ผู้ติดเชื้อใหม่กว่า 80% ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาอาศัยอยู่ในกรุงโซลและเขตปริมณฑล และส่วนใหญ่พบว่ามีความเชื่อมโยงกับกิจกรรมทางศาสนาในโบสถ์หรือการชุมนุมทางการเมือง
จำนวนผู้ป่วยใหม่ล่าสุดทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในเกาหลีใต้ขยับขึ้นไปอยู่ที่ 18,706 ราย เสียชีวิต 313 ราย และมีผู้ป่วย 933 รายที่เชื่อมโยงกับกิจกรรมของโบสถ์แห่งหนึ่งในกรุงโซล
ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่กลับมาแพร่ระบาดในเกาหลีใต้ช่วงนี้เป็นสายพันธุ์ที่พบมากในยุโรป, อเมริกาเหนือ และตะวันออกกลาง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชี้ว่ามีความรุนแรงกว่าไวรัสที่กำเนิดในเมืองอู่ฮั่นของจีนประมาณ 6 เท่า
ยุน แทโฮ เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ ระบุว่า ทางกระทรวงได้ส่งรายชื่อพลเมืองอย่างน้อย 51,000 คนที่เชื่อมโยงกับการชุมนุมประท้วงเมื่อวันที่ 15 ส.ค. ให้หน่วยงานของแต่ละท้องถิ่นรับทราบแล้ว
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขยอมรับว่า มีความเป็นไปได้ที่เกาหลีใต้จะนำมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมระดับสูงสุดกลับมาใช้อีกครั้ง ซึ่งหมายความว่าภาคธุรกิจและสถานศึกษาต่างๆ อาจต้องปิดตัวลงชั่วคราว
https://mgronline.com/around/detail/9630000087940
โควิดตีเมียนมาแตก! นักวิชาการจี้'ปิดพรมแดน' ส่งผู้เชี่ยวชาญข้ามฝั่งไปช่วยก่อนระบาดลามถึงไทย
วันพฤหัสบดี ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 12.02 น.
27 ส.ค. 2563 นายสันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง อาจารย์พิเศษคณะบริหารการพัฒนาสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวเมื่อค่ำวันที่ 26 ส.ค. 2563 เรียกร้องให้ทางการไทยเฝ้าระวังพรมแดนไทย-เมียนมา เนื่องจากเมียนมาเจอการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 2 แล้ว และหากเป็นไปได้ควรส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าไปช่วยเมียนมารับมือโรคระบาดเสียเลย ดังนี้
Covid-19: Red Alert in Myanmar "พม่าแตกแล้ว"
เตือนภัยระดับสูงมากนะครับ เมียนมา เข้าสู่ 2nd Wave ที่รุนแรงอย่างแน่นอนแล้ว
ทุกๆคนครับ คงต้องเตรียมยกการ์ดสูงสุด และถ้าเป็นไปได้ กองทัพบกและทัพเรือควรรีบปิดชายแดนทางบก และทางทะเลโดยทันทีครับ
ณ จุดนี้ต้องตามสถานการณ์เมียนมาทุกวัน และพร้อมล็อคพรมแดนตะวันตกทั้งแนวครับ
ถ้าเมียนมาเอาไม่อยู่ เราน่าจะมีเวลาจากวันนี้ไปอีกไม่ถึง 1 สัปดาห์ที่จะยัน ทางฝั่งเรา หรือส่งกองหนุนไปช่วยเมียนมารบ Covid ในบ้านของเขาเลยครับ ถ้าเมียนมาแพ้ เราก็อันตรายมากครับ
Time Line:
วันที่ 16 ส.ค. 63 ที่ผ่านมาตรวจพบ Local Transmission ในเมียนมาขึ้น 1 กรณี หลังจากที่ไม่เกิดมาเลย 1 เดือนเต็ม นี่คือวันแรกของ 2nd Wave ในเมียนมา
วันที่ 21 ส.ค. 63 ตรวจพบ Total Case ของ 2nd Wave รวม 45 คนหลังจากผ่านมาได้ 6 วันนับจากวันแรก
วันที่ 24 ส.ค. 63 ตรวจพบ Total Case ของ 2nd Wave รวม 100 คน เพิ่มขึ้น 2 เท่าภายใน 3 วัน มีแนวโน้มว่าจะเป็นสายพันธุ์ที่แพร่เชื้อเร็ว มี Doubling Day แค่ 3 วัน
วันที่ 26 ส.ค. 63 ตรวจพบ Total Case ของ 2nd Wave รวม 206 คนยืนยัน Doubling Day แค่ 2-3 วัน
สถานการณ์ช่วง 10 วันที่ผ่านมา ยืนยันได้แน่นอนว่า 2nd Wave แน่นอนแล้ว และรุนแรงกว่า 1st Wave มาก ตอนนี้รัฐบาลเมียนมารับรู้แล้ว และเริ่ม Partial Lockdown บางส่วน ซึ่งต้องตามดูสถานการณ์ต่อไปว่าจะได้ผลแค่ไหนนะครับ
แต่เชื่อได้ว่า รอบนี้ผู้ติดเชื้อมีโอกาสหลุดไประดับอย่างน้อย 2000 - 3000 สูงมาก และอาจไปไกลกว่านั้นมากถ้าเอาไม่อยู่ กรณีนี้ตัวเลขเริ่มต้นแย่และร้ายแรงกว่ากรณีดานังของเวียดนามที่เพิ่งผ่านมามากครับ
Prediction:
จุดเช็คว่ารัฐบาลเมียนมาเอาอยู่หรือไม่
จุดที่ 1 : ตัวเลขเฉพาะ 2nd Wave ถึง 800 คน ก่อน 1 ก.ย. คือเอาไม่อยู่ (คำนวณจาก Total Case ลบด้วย 374 คนของเวฟแรก)
จุดที่ 2 : ตัวเลขเฉพาะ 2nd Wave ถึง 5,000 คน ก่อน 8 ก.ย. คือ เอาไม่อยู่อยู่และหนักมาก
ด้วยความเคารพต่อท่านนายกประยุทธ รัฐบาลและกองทัพนะครับ
ผมเชื่อว่า ภายใน 2-3 วันข้างหน้านี้ เราอาจจะต้องตัดสินใจในด้านปฏิบัติการทางทหารบางอย่าง เพื่อป้องกันชายแดนตะวันตกของเรา และรักษาประเทศของเราให้ปลอดภัยครับ ณ ปัจจุบัน ชายแดนฝั่งนั้น มีคนลักลอบเดินข้ามไปมามากมายเหลือเกิน ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ไม่สามารถยอมรับได้นับจากนี้ไปแล้วครับ
ผมจะตาม Update สถานการณ์ในเมียนมารายวัน คาดว่าภายใน 2-3 วันข้างหน้า เราน่าจะเห็นความเสี่ยงต่างๆชัดเจนมากขึ้นอีกมาก ซึ่งน่ากังวลใจเหลือเกินว่าอาจจะหนักครับ และถ้าเมียนมาพังหนักแบบฟิลิปปินส์ เราไม่รอดแน่ครับ ถ้าเป็นไปได้ ส่งกองหนุนไปช่วยเมียนมารบ Covid ในบ้านของเขาเลย น่าจะเป็นการต่อสู้เชิงรุกที่ดีที่สุดครับ ยังหวังอยู่ว่าอีก 2-3 วันตัวเลขจะกลายเป็นข่าวดีมากกว่าข่าวร้ายครับ
https://www.naewna.com/local/514413
พม่าขยายเวลาล็อกดาวน์รัฐยะไข่สกัดโควิด-19 หลังผู้ติดเชื้อพุ่งสูง
เผยแพร่: 27 ส.ค. 2563 09:05 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ทางการพม่าประกาศขยายเวลาการใช้มาตรการล็อกดาวน์ป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้ครอบคลุมทั่วรัฐยะไข่ เพื่อกักกันประชาชนรวมกว่า 3 ล้านคน ในเคหสถาน
ทั้งนี้ รอบ 36 ชั่วโมง ที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 100 คน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดนับแต่พบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายแรก เมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ทำให้พม่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มเป็น 580 คน ส่วนผู้เสียชีวิตยังจำนวนคงเดิมที่ 6 ราย
https://mgronline.com/uptodate/detail/9630000087804