ถ้ามีแฟนก็ไม่ต้องเรียน ถ้าเรียนก็ต้องไม่มีแฟน!!!!!!

สวัสดีค่ะ เราขอเกริ่นพื้นเพเรื่องราวครา่วๆของเราก่อนนะคะ ตอนนี้เราอายุ 22 ปีนะคะ เรียนอยู่มหาวิทยาลัย ปี 4 แล้ว ซึ่งเรียนอีกเทอมนึงจะเรียนจบแล้วค่ะ ปัจจุบันเรามีแฟนค่ะ แฟนเราห่างกับเรา 2 ปี ซึ่งตอนนี้เขาทำงานแล้วนะคะ เราคบกันมาปีนี้กำลังจะ 5 ปีแล้วค่ะ ซึ่งเราและแฟนคบกันมาตั้งแต่ตอนเราอยู่ ม.5 แล้วค่ะ 

ขอเข้าเรื่องเลยนะคะ ทางบ้านเราแรกเริ่มทางบ้านไม่ได้มีปัญหาเรื่องการที่เรามีแฟนนะคะพ่อแม่เราค่อนข้างเปิดรับกับเรื่องพวกนี้ะคะเพียงแต่แค่ว่ามีเหตุผลมาอธิบาย มาบอกให้ท่านเข้าใจค่ะ แต่เรื่องมีอยู่ว่า ตอนเราอยู่ประมาณ ม.2 ค่ะ เรามีแฟนค่ะ แล้วพอคบกันก็ไม่ได้พากันไปในทางที่มันดีอ่ะค่ะ เราก็ชอบโดดเรียนไปหาเขา แล้วการเรียนเราก็ตกค่ะ จากตอน ม.1 เคยเรียนได้เกรด 3 กว่าๆ พอมามีแฟนแล้วการเรียนก็ตก แล้วยังติด 0 อีก รวมไปถึงพฤติกรรมต่าง ๆ ที่มันไม่โอเคมาก ๆ เช่น โกหกพ่อแม่ว่าไปเรียนพิเศษ แต่เรากับไปหาเขาค่ะ เรื่องราวพวกนี้กินเวลาเราอยู่ประมาณ 2 ปีได้ค่ะ เราเลยตัดสินใจเลิกกับเขาตอนเราอยู่ ม.4 ค่ะ เพราะเราคิดว่าการที่เราคบกับเขาเนี่ย เราไม่สามารถจัดการตัวเองได้ และเราก็รู้สึกว่าเขาไม่ได้รักเราขนาดนั้น และไม่ได้เห็นว่าการเรียนเราสำคัญ การที่เราจะมีอนาคตที่ดีดี เป็นเรื่องวำคัญ คือมันไม่ได้พากันไปในทางที่ดีขึ้นเลยเราเลยตัดสินใจที่จะเลิกค่ะ (มันมี details ที่เยอะมากๆ แต่เราขอไม่ลงรายละเอียดนะคะ ขอแค่รู้ว่ามันไม่ได้พากันไปในทางที่ดีขึ้นอ่ะค่ะ) หลังจากแฟนนี้พ่อแม่เราก็เลยบอกกับเราว่า หากเราตัดสินใจจะเรียนต่อแล้วก็ห้ามมีแฟน ถ้ามีแฟนก็คือไม่ต้องเรียน ถ้าจะเรียนก็ต้องไม่มีแฟน พ่อแม่เราก็ยื่นำขาดมาแบบนี้เลยค่ะ แล้วเขาก็เลยแอนตี้เรื่องการมีแฟนไปเลยค่ะ เราเข้าใจถึงหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่นะคะว่าท่านหวังดี เป็นห่วงเราในเรื่องนี้กลัวเราจะก้าวพลาด และผิดพลาดไปในชีวิต เลยตัดสินในแบบนี้ แต่ในระหว่างที่เลิกกับแฟนคนนั้นมา เราก็มีแฟนคนใหม่อีกนะคะ 55555 แต่ก็ต้องแอบคบหลบ ๆ ซ่อน ๆ ค่ะ

แล้วพอเราขึ้น ม.5 มาเราก็มาเจอแฟนคนปัจจุบันของเราที่เกริ่นไว้ก่อนหน้านี้ ที่เราคบกันมา 5 ปีค่ะ แฟนของเราคนนี้เข้ามาเขาก็พาเราไปในทางที่ดี หนุนกันช่วยกัน ซัพกันในชีวิตค่ะตั้งแต่เริ่ม พ่อแม่ฝ่ายชายรับรู้ทุกอย่างอยู่ในสายตาผู้ใหญ่ทุกประการ แต่ว่ามีเพียงพ่อแม่ของฝ่ายเราที่ไม่ได้รับรู้เรื่องพวกนี้เลย เพราะเราเองไม่กล้าที่จะพูดที่จะบอกเขาว่าเรามีแฟน เพราะกลัวว่าพ่อแม่จะไม่ให้จะไม่ให้เราเรียนต่อ ซึ่งเราเป็นคนที่ซีเรียสมากเรื่องการเรียนนะคะ เราอยากเรียนเราอยากไปเรียน เลยกลัวมาก ๆ ว่าถ้าบอกไปแล้วพ่อแม่เราจะไม่ให้เรียนอีกแล้วอ่ะค่ะ ซึ่งตอนนี้เราเหลืออีกเพียง 1 เทอมก็จะเรียนจบแล้ว แล้วกำลังคิดอยู่ว่าอยากตัดสินใจจะบอกท่านว่าเรามีแฟนแล้ว คบกันมาแล้ว 5 ปี เขาก็ไม่ได้พาเราไปทำอะไรที่มันเสียหาย ก็พากันไปแต่ในทางที่ดี อะไรประมาณนี้อ่ะค่ะ ในมุมมองของเรานะคะที่เราคิด ย้ำ! อย่านี่คิดสิ่งที่เราคิดนะคะ เราอาจจะคิดผลิดพลาดหรืออะไรยังไงสมควรหรือไม่สมควรยังไงก็สุดความสามารถของสมองที่เรามีแล้วนะคะ(อย่าว่าเราเลยนะคะเรามาตั้งกระทู้แค่อยากจะรู้ความเห็นเผื่อมีทางออกที่มันดีขึ้น winwin ทั้งเราและพ่อแม่เรา เราอยากให้ท่านสบายใจและตัวเราเองก็สบายใจค่ะ) เราคิดว่าเราอยากจะบอกท่านว่าเรามีแฟน แล้วคบกันมาจะ 5 ปีแล้ว เราคิดว่าเราโตพอแล้วที่จะสามารถแยกสิ่งที่มันถูกและผิดได้แล้ว คือเราอายุ 22 ปีแล้ว และแฟนเรา อายุ 24 ปี เราอยากบอกพ่อแม่เราให้ได้รับรู้ เราเหมือนเด็กที่ต้องแอบพ่อแม่คบกัน(แต่เราไม่เด็กแล้วนะคะอายุเราน่ะ 5555) เราอยากบอกท่าน แต่ก็กลัวว่าจะไม่ได้เรียนต่อตามที่พ่อแม่เราพูดไว้จริง ๆ อ่ะค่ะ อยากรู้จริง ๆ ว่าใจลึก ๆ แล้วถ้าเรามีแฟนจริง ๆ แล้วแฟนคนนั้นเขาไม่ได้พาเราไปในทางที่มันไม่ดี พาเราไปในทางที่ดี คอยช่วยเหลือเราทุกอย่างคิดว่าพ่อแม่เราเขาจะยอมเปิดใจให้กับรักครั้งนี้ของเราอีกครั้งไหมคะ เราควรรอต่อไปไหมคะ หรือ เราควรจะบอกพ่อแม่เราไปเลยดีคะ เพราะบางทีเราไปเจอแฟนเรา เราก็ต้องอ้าง ต้องโกหก ว่าไปนู่นไปนี่อ่ะค่ะ บางทีมันหมดมุขแล้ว แล้วอีกอย่างเราไม่อยากโกหกท่าน ทำให้ท่านไมาสบายใจอ่ะค่ะ เราควรทำยังไงดีคะ? ฮือออออ

ปล. คนที่จะเข้ามาแสดงความคิดเห็นเราขอคนที่มีจิตใจที่อยากจะให้เข้ามาแนะนำจริง ๆ นะคะ ติชมเราไม่ว่าเลยยินดีรับฟังนะคะ เราพร้อมเปิดกใจยอมรับค่ะ แต่ใครที่มีจิตอคติเข้ามาแต่จะมาว่ากันมาบั่นทอนกันเราขอให้เลื่อนผ่านกระทู้เราไปได้เลยนะคะ เพราะการที่เรามาตั้งกระทู้แบบนี้ เราต้องการคำแนะนำจริง ๆ ค่ะจึงตัดสินใจตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา และจะนำความเห็นเหล่านี้ไปไตร่ตรองถึงความเป็นไปได้ในการตัดสินใจของเราค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่