แชร์ประสบการณ์จองบ้านพัก Pool Villa Cha-am บ้านที่มีเหล่าฮีโร่มากมายและเจ้าของบ้านปากร้ายของเค้า

กระทู้นี้เป็นกระทู้แรก หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ด้วยนะคะ 
อาจจะยาวหน่อยนะคะ เม่าเหม่อ

   ขอท้าวความก่อนว่า...เราและเพื่อนๆอยากนัดรวมตัวกันไปเที่ยวทะเลที่ไหนสักที่ เลยตกลงกันว่าจะไปหาบ้านพักแนว Pool Villa เพราะอยากอยู่รวมกัน ปาร์ตี้กันยามค่ำคืน เลยพยายามหาข้อมูลจากหลายๆที่ จนมาเจอบ้านหลังหนึ่งซึ่งราคากำลังดี บ้านน่ารัก เหมาะแก่การพักผ่อนและความสนุกของพวกเรา ก็เลยตกลงกันว่าจะเอาบ้านหลังนี้ เลยติดต่อเพจที่ดูแล(ไม่ใช่เพจบ้านโดยตรง) สอบถามข้อมูลต่างๆ ตกลงจอง และโอนเงินมัดจำล่วงหน้า เราจองกันไว้เดือน พ.ค. แต่พี่โควิดมาซะก่อนเลยต้องเลื่อนออกอย่างไม่มีกำหนด แต่เลื่อนได้ภายในปีนี้(2563) เท่านั้น
   
   ต่อมาพี่โควิดเริ่มซา ทุกคนเริ่มออกจากบ้านได้ เลยตกลงกับเพื่อนเพื่อหาวันหยุดที่ตรงกันอีกรอบ ประมาณเดือน มิ.ย. จึงติดต่อเพจที่ดูแลบ้านพักอีกครั้งเพื่อสอบถามตารางบ้านว่าว่างมั้ย เดิมเราจองไว้เดือน พ.ค. เป็นวันศุกร์-เสาร์ ต้นเดือน (ราคาอาทิตย์-ศุกร์จะถูกกว่าวันเสาร์และวันหยุดนักขัตฯ) พวกเราเลื่อนเป็นเดือน ต.ค. แต่รอบนี้ได้วันเสาร์-อาทิตย์ (ซึ่งราคาก็เท่าเดิม) พอได้วันที่ลงตัว ตกลงจอง เราและเพื่อนๆก็เลยจองพักร้อนที่ทำงานกันล่วงหน้ารอเลย
   
   วันที่ 24 ส.ค. ทางเพจที่ดูแลแจ้งกลับมาว่า ทางบ้านให้แจ้งกับลูกค้าว่า "หากช่วงวันที่ลูกค้าจองบ้านพักไว้ รัฐบาลประกาศเป็นวันหยุดยาว จะขอขึ้นราคาบ้านเป็นราคาวันหยุดนักขัตฯ ซึ่งลูกค้าสามารถเปลี่ยนวันจองได้" เราจอง(3 วัน 2 คืน) คือเช็คอิน เสาร์ที่ 10 ต.ค. เช็คเอาท์จันทร์(วันปกติ)ที่ 12 ต.ค. โดยอังคารที่ 13 ต.ค. เป็นวันหยุดนักขัตฯ ทางบ้านคาดการณ์ว่ารัฐบาลจะประกาศเป็นวันหยุดยาว 4 วัน เลยต้องมาแจ้งลูกค้าไว้ก่อน
ซึ่งพวกเราก็ เห้ย !!! ได้หรออออออออ  เพี้ยนหืม ก่อนหน้านี้ไม่ได้มีข้อตกลงอันนี้ ไม่ได้แจ้งอะไรแบบนี้เลย ตลกรึเปล่าคะ ถ้าเราแค่สอบถามยังไม่ได้มัดจำหรืออะไรจะมาแจ้งขึ้นราคาอันนั้นก็อีกเรื่อง พอเข้าใจได้ เราก็เลยขอเบอร์เจ้าของบ้านคนที่สามารถเจรจาเรื่องนี้ได้เพื่อแจ้งว่าพวกเราไม่ยอมนะที่จะให้ปรับราคาขึ้นและไม่สะดวกย้ายวัน เพราะทุกคนจองพักร้อนมีแพลนกันหมดแล้ว ทางบ้านจะมาบอกว่าก็แจ้งล่วงหน้าแล้วแบบนี้ไม่ได้ ทางเพจก็ให้เบอร์เจ้าของบ้านมาเพื่อเจรจาโดยตรง
   
   - ครั้งแรกติดต่อไปช่วงเวลาบ่ายโมงกว่าๆของวันที่ 24 ส.ค. เป็นผู้ชายรับสายบอกไม่สะดวกคุย ติดธุระอยู่ เดี๋ยวให้การเงินโทรหาเราพรุ่งนี้เพื่อแจ้งรายละเอียด เราเลยจะแจ้งเวลาให้โทรกลับเพิ่มเติม(เพราะเราทำงาน รับสายไม่ได้ตลอด) แต่เค้าบอกว่าไม่สามารถระบุเวลาได้ เราก็โอเค ไม่เป็นไร เวลาไหนก็ได้ เดี๋ยวให้โทรกลับเบอร์เพื่อนอีกคนแทนละกัน ถ้าทางบ้านโทรมาให้เพื่อนบอกเรา เดี๋ยวเราจะโทรกลับเจรจาเอง
   - ช่วงเย็นๆ เพื่อนเราโทรมาบอกว่าให้โทรกลับหาทางบ้านพักหน่อย เราก็เลยรีบโทรกลับ พอโทรกลับไปเป็นผู้หญิงรับสาย (ที่เหมือนกำลังคุยโทรศัพท์อีกเครื่องอยู่) เราก็รอสักแป๊บ เลยฮัลโหลใหม่เผื่อเค้าไม่ได้ยิน เค้าก็สวนกลับมาว่าเดี๋ยวโทรกลับค่ะ โอเค...เรารอได้ รอต่อไป
   - ผ่านไปประมาณเกือบ 2 ชั่วโมงที่รอ เจ้าของบ้านผู้หญิงติดต่อกลับมา เราก็ถามถึงประเด็นที่ทางเพจแจ้งว่าจะปรับราคาขึ้น เค้าก็ชี้แจงว่าเป็นการคาดการณ์ล่วงหน้า หากรัฐบาลปรับเป็นวันหยุดยาว ราคาบ้านจะถูกปรับเป็นราคาวันหยุดนักขัตฯทั้ง 4 วัน (10-13 ต.ค.) และบ้านในโครงการประมาณ 60% คาดแดงหยุดยาวหมดเลย ซึ่งเราก็แจ้งว่าทางเราไม่ยอมนะ เพราะทางคุณไม่ได้แจ้งข้อตกลงนี้ตั้งแต่แรก เราเสียหายนะ ทางเจ้าของบ้านก็พูดสวนมาเลยว่า "พี่ก็จะไปรู้หรอคะ พี่ไม่ใช่คนปรับวันหยุดยาวนิ่ พี่ก็รู้จากภาครัฐเหมืนกัน ไปเล่นงานภาครัฐสิ เค้ามาบอกกระชั้นชิดเนอะ พี่นะอุตส่าโทรมาบอกทางเพจให้หนูย้ายวันล่วงหน้าก่อนสองเดือน พี่จะบอกหนูให้นะ ถ้าเป็นเพจอื่น ใกล้ๆเค้าจะบอกหนูว่าปรับขึ้นหรือยกเลิกจองไป เพราะเค้าจะเอาเคสใหม่ค่ะ" **น้ำเสียงเริ่มมีอารมณ์
   เราเลยรีบพูดกลับเพราะหาช่องไฟพูดไม่ได้เลย เซ็ง  โดยแจ้งว่า "ทางเราเข้าใจแต่เราไม่สะดวกเลื่อนวันเพราะจองพักร้อนล่วงหน้ากันหมดแล้ว มันเป็นแพลนล่วงหน้าของเราไปแล้ว" ซึ่งคุณเจ้าของบ้านดังกล่าวก็แว๊ดๆเสียง(เสียงดังแทรกเข้ามา)ขึ้นมาทันทีว่า "จะไปตรัสรู้หรอ ว่าหนูทำอะไรมั่ง พี่รู้แต่ว่า พี่อะในมุมเจ้าของบ้านพี่ต้องทำอะไร ก็โอเคแหละก็ให้เจ้าบ้านทะเลาะกับลูกค้า(ว่าเพจไปอีกค่าาา) ก็สุดยอดแล้วอะค่ะ....บลาๆๆๆ" เหมือนประมาณว่าชั้นไม่สนใจหรอกว่าคุณจะติดปัญหาอะไร แต่ชั้นจะปรับราคานะ เราฟังอย่างนั้นก็รู้สึกไม่พอใจนิดหน่อย เลยแจ้งว่า "ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าอย่างนั้นเราขอแจ้งยกเลิกและขอมัดจำคืนทั้งจำนวน" เท่านั้นแหละแม่คุณเอ้ยยยยย เจ้าของบ้านเสียงดังกว่าเดิมด้วยน้ำเสียงโมโหเราสุดๆ ซึ่งเจ้าของบ้านแจ้งให้เราไปติดต่อทางเพจเอาเอง เราจองทางไหนให้ไปทางนั้น  พี่ไม่ต้องการตกลงกับลูกค้าเอง เราเลยถามว่าทางคุณยินยอมคืนเงินมัดจำทั้งจำนวนใช่มั้ยถ้าเราติดต่อเพจแล้ว เพราะการตัดสินใจก็ขึ้นอยู่กับคุณ ทางเจ้าของบ้านก็ไล่ให้เราไปคุยกับเพจเอง อารมณ์แบบชั้นไม่ต้องการคุยกับเธอ เธอจองมาทางไหนไปผ่านทางนั้นมา ด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจทางเรามากๆ เราก็งงว่าเราเป็นคนที่เสียหาย เสียเวลานะ และเราเป็นลูกค้า หลังจากนั้นเจ้าของบ้านก็ตัดสายใส่เรา 
ปึ้งงง !! เราเป็นงงในทันที เม่าตกใจ

   - ผ่านไปประมาณ 5 นาที เจ้าของบ้านผู้หญิงคนเดิมติดต่อมา(น้ำเสียงแบบคนใจดีพูด แต่ก็คนเมื่อกี๊แหละ) แจ้งว่าทางแฟนเค้ายินยอมไม่ขึ้นราคาให้ เพราะไม่อยากมีปัญหากับเพจ ตึ้งง !!! ช็อครอบสอง ความรู้สึกเราแบบ...ไม่ได้ต้องการจะขอโทษลูกค้าเลย ตอนนั้นคือไม่โอเคแล้ว ไม่เอาบ้านหลังนี้แล้ว
   
     หลังจากวางสายกับเจ้าของบ้าน เราขอเจรจากับทางเพจที่ดูแล ทางเพจติดต่อกลับมา พูดจาดีมากๆ เข้าใจในมุมของลูกค้าอย่างเรา เราเลยแจ้งไปว่าเราต้องการยกเลิกและขอมัดจำคืนทั้งหมดและเราแจ้งกับทางบ้านแล้ว ทางบ้านให้มาแจ้งกับทางเพจ คนดูแลเพจก็ทำเสียงงงๆแล้วพูดว่า "เค้าตกลงคืนใช่มั้ยคะ" เราเลยแจ้งว่า "ไม่รู้เหมือนกันค่ะเค้าให้แจ้งทางนี้ รบกวนไปเจรจากับทางเจ้าของบ้านให้หน่อยว่าจะเอายังไงแล้วมาบอกเรานะคะ เพราะเราเสียความรู้สึกมากๆ" พอวางสายไป เราเลยปรึกษากับเพื่อนๆ ทุกคนเห็นตรงกันว่าไม่โอเคกับเจ้าของบ้านมากๆ เพราะเจ้าของบ้านพูดจาไม่ดีเลย แล้วอยู่ๆจะมาปรับราคา มันใช่หรอ เหมือนเราโดนเอาเปรียบจากผู้ประกอบการคนนี้เลย 

     สุดท้ายทางเพจไปเจรจาให้และทางบ้านพักยอมคืนเงินมัดจำทั้งหมดค่ะ ซึ่งพวกเราเสียเวลามากๆ อีกแค่เดือนเดียวพวกเราก็จะไปพักแล้ว แต่ต้องมาหาที่พักใหม่กระทันหัน มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกจริงๆ ถ้าไม่เจอกับตัวเอง 

ที่เรามาตั้งกระทู้ ไม่ได้มีเจตนาจะทำให้ใครเสื่อมเสีย หรือว่าร้ายใคร แต่แค่อยากแชร์ประสบการณ์ที่เราเจอ เราแค่ต้องการเจรจากับเจ้าของบ้าน ไม่ได้อยากมีปัญหาหรือถูกพูดจาไม่ดีใส่เลย ในฐานะลูกค้าคนนึง เราเสียเงินในการจอง (เงินไม่ใช่บาทสองบาทนะคะ) ไม่ได้ไปขอเข้าพักฟรี เราแค่ปกป้องสิทธิ์ของลูกค้าคนนึง แต่กลับได้คำพูดที่ไม่ได้สนใจลูกค้าเลย น้ำเสียงที่ได้ฟังมีแต่เสียความรู้สึก 

สุดท้ายนี้อยากจะฝากถึงผู้ประกอบการบ้านพักหลายๆท่าน หากคุณเลือกที่จะประกอบธุรกิจด้านนี้แล้ว อยากให้คุณใส่ใจความรู้สึกลูกค้าของคุณสักนิด เราเข้าใจว่ามันคือธุรกิจ และในมุมมองของคุณ คุณก็ต้องทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ แต่เราก็เป็นลูกค้าของคุณคนนึงเหมือนกัน สามารถคุยกันด้วยเหตุและผลได้ อย่าเอาอารมณ์ตัวเองเป็นหลักขนาดนี้ ลูกค้าทุกคนอยากได้ความประทับใจและได้รับการดูแลที่ดีทั้งนั้นค่ะ

ปล.หากทุกคนได้ฟังคลิปเสียงก็คงรู้สึกแย่ไม่ต่างจากเราและเพื่อนๆ ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ สามารถแสดงความคิดเห็นเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองกันได้ค่ะ ^^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่