หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
กระทรวงอุตสาหกรรม ขับเคลื่อนโครงการอุตสาหกรรมเป้าหมาย
กระทู้ข่าว
กระทรวงอุตสาหกรรม
อุตสาหกรรมยานยนต์
นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด
กระทรวงอุตสาหกรรม ขับเคลื่อนโครงการอุตสาหกรรมเป้าหมาย
“สุริยะ”ลงพื้นที่อีอีซี กำชับหน่วยงานพื้นที่ เดินหน้างานเต็มสูบ ดึงการลงทุน!
😁สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกท่าน 🙏🙏🙏 เผลอแป๊บเดียวก็เข้าสู่ช่วงปลายปีแล้วนะครับ หลายคนอาจจะบ่นว่า ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ก็เนื่องมาจากพิษโควิด-19 นั่นเอง แต่เอาล่ะ สำหรับผมที่ติดตามข่าวคราวทางด้านอุตสาหกรรมมาตลอด โดยเฉพาะกระทรวงอุตสาหกรรมที่ผมได้ติดตามมาอย่างต่อเนื่อง จึงขอนำมาเล่าสู่กันฟังกับความคืบหน้าที่ไม่ได้หยุดชะงักไปตามพิษโควิด-19 โดยเฉพาะการขับเคลื่อนโครงการอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่อีอีซี ซึ่งทาง “คุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ลงพื้นที่อีอีซี เพื่อกำชับหน่วยงานในพื้นที่ ให้เดินหน้างานด้านต่างๆ ซึ่งจะช่วยดึงการลงทุนในพื้นที่ให้คึกคัก และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมนั่นเอง โดยผมได้รวมรวบข่าวจากแฟนเพจของกระทรวงอุตสาหกรรมมาเล่าแบบม้วนเดียวจบ (ขอขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจากแฟนเพจกระทรวงอุตสาหกรรมด้วยครับ)
เอาล่ะครับ 🥳 เรามาเริ่มกันที่การลงพื้นที่กลุ่มจังหวัดอีอีซี เพื่อติดตามงานตามโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษกันเลยดีกว่า โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ (24 ส.ค.63) จังหวัดชลบุรี และระยอง เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการต่างๆ ในเขตพื้นที่ ผลักดันให้เกิดการลงทุนจริงตามกรอบระยะเวลาที่วางไว้ ทั้งการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต และการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) รวมทั้งการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ (Investment Promotion)
โดยจุดแรกได้เดินทางไปยังบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง เพื่อเยี่ยมชมศูนย์การผลิตแหลมฉบัง ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย และเพื่อรับทราบความคืบหน้าโครงการการผลิตรถมิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ซึ่งเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าประเภทปลั้กอินไฮบริด โดยเป็นการผลิตรถยนต์รุ่นดังกล่าวนอกประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก พร้อมรับทราบข้อมูลการลงทุนเพื่อปรับปรุงศักยภาพการผลิต (Restructuring Project) สอดคล้องกับแผนระยะกลาง 3 ปี ซึ่ง มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ประเทศ ญี่ปุ่น ได้ประกาศไว้เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมุ่งให้ความสำคัญกับภูมิภาคอาเซียนมากขึ้นโดยเฉพาะประเทศไทย
ทั้งนี้ ศูนยการผลิตแหลมฉบังของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มีกำลังการผลิตสูงสุด 424,000 คัน เป็นศูนย์การผลิตที่ใหญ่ที่สุดนอกประเทศญี่ปุ่นของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ประเทศ ญี่ปุ่น และส่งออกไปกว่า 120 ประเทศทั่วโลก และกำลังขยายการลงทุนในส่วนของโรงพ่นสีแห่งใหม่ ของแผนการลงทุนมูลค่า 7 พันล้านบาท เพื่อยกระดับความสามารถด้านการผลิตรถยนต์ในประเทศไทย
นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ยังได้เดินหน้าต่อผลักดันแผน Roadmap การพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย โดยเร่งให้เกิดยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศตรงตามเป้าหมายและให้มีการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า 30% ในปี 2030
จากนั้นรัฐมนตรีสุริยะ ได้เดินทางไปยังพื้นที่โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง เพื่อเยี่ยมชมพื้นที่โครงการฯ ซึ่งล่าสุดยังอยู่ระหว่างการศึกษาขยายพื้นที่ที่จะรองรับโครงการดังกล่าวฯ ลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย New S-Curve และได้เดินทางต่อไปยังนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ณ สำนักงานอุตสาหกรรมมาบตาพุด เพื่อติดตามการดำเนินงานโครงการของนิคมฯ ความคืบหน้าการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะ 3 และความคืบหน้าโครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค (Smart Park)
ซึ่งนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดและท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด เป็นฐานการผลิตที่สำคัญสำหรับอุตสาหกรรมประเภทปิโตรเคมี ติอดันดับ 1 ใน 5 ของภูมิภาคอาเซียน ปัจจุบันกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมคอมเพล็กซ์มีจำนวน 5 นิคม ประกอบด้วย นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอตะวันออก นิคมอุตสาหกรรมเอเชีย นิคมอุตสาหกรรมอาร์ไอแอล นิคมอุตสาหกรรมผาแดง และท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด มีโรงงานจำนวน 151 โรง จำนวนแรงงาน 30,000 คน มูลค่าการลงทุน 1 ล้านล้านบาท รองรับอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นปลาย ปิโตรเคมีขั้นกลาง ปิโตรเคมีขั้นปลาย ก๊าซ เคมีภัณฑ์ โรงไฟฟ้า โรงกลั่นน้ำมัน เหล็ก และอุตสาหกรรมอื่น
นอกจากนี้นายสุริยะฯ และคณะได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค (Smart Park) ซึ่งมีแนวคิดที่สำคัญในการพัฒนา คือ มุ่งเน้นการเป็นนิคมอุตสาหกรรมต้นแบบในการพัฒนา Smart Eco และใช้นวัตกรรมในการให้บริการระบบสาธารณูปโภค รวมถึงการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม เป็นศูนย์กลางทางพาณิชย์ของชุมชนที่ทันสมัย รองรับการเจริญเติบโตของการใช้บริการภาคธุรกิจในพื้นที่ นิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค (Smart Park) ตั้งอยู่ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง มีพื้นที่โครงการประมาณ 1,383.76 ไร่ โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มการก่อสร้างได้ในไตรมาส 2 ปี 2564 และใช้ระยะเวลาการก่อสร้างประมาณ 3 ปี โดยคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการโครงการฯได้ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2567 ซึ่งจะก่อให้เกิดการจ้างงาน ประมาณ 7,459 คน ส่งผลให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจในพื้นที่ประมาณ 1,342,620,000 บาทต่อปี
นิคมฯ สมาร์ท ปาร์ค (Smart Park ) มีมูลค่าการลงทุนระยะแรก ประมาณ 2,480.73 ล้านบาท เน้นกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ (Aviation & Logistics) กลุ่มอุตสาหกรรมการแพทย์ (Medical Device) กลุ่มอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ (Robotics) และกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัล (Digital)” มีความได้เปรียบในเรื่องของระบบคมนาคมขนส่งทั้งระบบขนส่งทางอากาศสนามบินอู่ตะเภา ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระบบขนส่งทางบก อันได้แก่ รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ทางด่วนมอเตอร์เวย์ เป็นต้น และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณไตรมาส 2 ของปี 2564 โดยจะแล้วพร้อมเปิดให้บริการได้ภายในปี 2567
ครับผม 😆😆😆 นั่นก็เป็นควาบคืบหน้าที่มีมาอย่างต่อเนื่องของกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งไม่ได้หยุดนิ่งไปแม้จะเป็นช่วงที่โควิด-19 กำลังระบาดก็ตามที ซึ่งเราก็คงต้องตังตาคอยกันต่อไปครับว่า เมื่อไหร่จะมีวัคซีนซะทีและเมื่อถึงวันนั้นมาถึงก็คาดว่าหลายโครงการดีๆ ที่หน่วยงานภาครัฐกำลังเดินหน้าในวันนี้จะเป็นอีกหนึ่งแรงในการผลักดันเศรษฐกิจบ้านเราให้เติบโตขึ้นอย่างเต็มที่ ขอบคุณครับผม🥳🥳🥳
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
@@@@ ความคืบหน้า EEC @@@@
บริษัทชั้นนำที่เข้ามาลงทุนในพื้นที่ อีอีซี แล้ว 🤝 🔰วันนี้ อีอีซี ยังคงมุ่งมั่นชักจูงบริษัทชั้นนำทั่วโลก ผลักดันให้เกิดการลงทุนใหม่ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเป้าหมาย 5 คลัสเตอร์หลัก ได้แก่ การแพทย์และสุขภ
สมาชิกหมายเลข 6844095
ไทยเปิดสำรวจปิโตรเลียมรอบใหม่ แหล่งพลังงาน ‘ทะเลอันดามัน’
ไทยเปิดสำรวจปิโตรเลียมรอบใหม่ แหล่งพลังงาน ‘ทะเลอันดามัน’ หวังบูมเศรษฐกิจแสนล้าน . ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดทั่วโลก ประเทศไทยยังคงเผชิญความท้าทายในการสร้างความมั่นคงด้านพล
as12df
‘บ้านปู’ เดินหน้ากลยุทธ์ Energy Symphonics รุกลงทุนสหรัฐฯ-ออสเตรเลีย-อินโดฯ ตอกย้ำบทบาทผู้นำพลังงานหลากหลาย
ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนกลยุทธ์ “Energy Symphonics” อย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีแรก 2568 โดยชู 3 ธุรกิจแกนหลัก ได้แก่ ธุรกิจก๊าซธ
สมาชิกหมายเลข 8999891
ภาคเกษตรกรรม ใช้พื้นก็เยอะ ใช้คนก็เยอะ แต่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่ำมาก
มองแล้วน่ากลัว ภาคเกษตรกรรมใช้พื้นที่มากกว่า 1 ใน 3 ของประเทศ และใช้คนประมาณ 40% ของประชากร แต่กลับมีส่วนต่อ GDP เพียง 8% เท่านั้น (จากเดิม 12%) แสดงให้เห็นถึงการขาดความสามารถในการแข่งขัน” คุณพิ
สมาชิกหมายเลข 2933266
@@@ daikin วางไทยเป็น hub อาเซียน @@@
“สุริยะ” เผย “ไดกิ้น” พร้อมใช้ไทยเป็น “ฮับ” ในอาเซียน โชว์ศักยภาพ “สมาร์ทปาร์ค-ท่าเรือฯ มาบตาพุด” พร้อมรับทุกการลงทุน . “สุริยะ” แย้มข่าวดี
สมาชิกหมายเลข 6844105
ช่วยกันหาใครเทคใคร เผื่อจะรวย
นิคมอุตฯอุดรธานี เปิดทางยักษ์ใหญ่วงการเทกโอเวอร์ "นิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี" เปิดประตูรับผู้ร่วมทุน-ซื้อกิจการนิคมแห่งแรกในภาคอีสาน เผยมีทั้งทุนจีน ญี่ปุ่นทาบซื้อ ล่าสุดทุนไทยมาแรง ยักษ์ใหญ่
ทองเนื้อเก้า
📌[สรุปข่าว] บอร์ดอีวี ขยับ! สั่งค่ายรถส่งแผนผลิต EV ชดเชยแบบละเอียดยิบ ก่อนเบิกเงินอุดหนุน EV3 / EV3.5
ตามที่รัฐบาลได้เปิดมาตรการ EV3 และ EV3.5 สนับสนุนค่ายรถยนต์ให้นำเข้า EV มาจำหน่ายในประเทศ โดยมีเงินอุดหนุนให้คันละ 100,000 - 150,000 บาท ภายใต้เงื่อนไขว่า “ต้องผลิตรถชดเชยภายในประเทศในภายหลัง&rd
สมาชิกหมายเลข 8912721
สรรพสามิตจ่อปรับ ‘เนต้า’ 2 เท่า ค่ายรถผลิตไม่ครบเงื่อนไข EV3.0 กว่า 1.9 หมื่นคัน
เอาเงินที่ไหนมาจ่าย KEY POINTSสรรพสามิตจ่อเรียกค่าปรับ "เนต้า" จากการผลิตรถยนต์ EV ชดเชยไม่ทันตามเงื่อนไขโครงการ EV 3.0 ซึ่งมียอดค้างกว่า 1.9 หมื่นคันบทลงโทษสำหรับผู้ประกอบการที่ไม่ทำตามเง
parn 256
ปตท. เดินหน้าขยายการลงทุนโรงแยกอากาศแห่งที่ 2 มุ่งหน้าสู่ Net Zero Emissions
วันนี้ นายวุฒิกร สติฐิต ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาแก้ไขสัญญาผู้ถือหุ้นของบริษัท มาบตาพุด แอร์โปร
สมาชิกหมายเลข 8952272
JJNY : 5in1 ราคาผู้ผลิตจีนหดตัว│เอสเอ็มอีไทยจุกภาษี│จี้สอบแก๊งลักลอบขนน้ำมัน│แรงงานเขมรผิดหวัง│กัมพูชาเตรียมม็อบรักชาติ
ราคาผู้ผลิตในจีนหดตัว กดดันปัญหาสินค้าราคาถูกทะลักไทย-อาเซียน https://www.matichon.co.th/economy/news_5272184 . . ราคาผู้ผลิตในจีนหดตัว กดดันปัญหาสินค้าราคาถูกทะลักไทย-อาเซียน . น.ส.จิรดา ภักดิ์วิไลเก
สมาชิกหมายเลข 4066435
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
กระทรวงอุตสาหกรรม
อุตสาหกรรมยานยนต์
นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 235
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
กระทรวงอุตสาหกรรม ขับเคลื่อนโครงการอุตสาหกรรมเป้าหมาย
“สุริยะ”ลงพื้นที่อีอีซี กำชับหน่วยงานพื้นที่ เดินหน้างานเต็มสูบ ดึงการลงทุน!
😁สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกท่าน 🙏🙏🙏 เผลอแป๊บเดียวก็เข้าสู่ช่วงปลายปีแล้วนะครับ หลายคนอาจจะบ่นว่า ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ก็เนื่องมาจากพิษโควิด-19 นั่นเอง แต่เอาล่ะ สำหรับผมที่ติดตามข่าวคราวทางด้านอุตสาหกรรมมาตลอด โดยเฉพาะกระทรวงอุตสาหกรรมที่ผมได้ติดตามมาอย่างต่อเนื่อง จึงขอนำมาเล่าสู่กันฟังกับความคืบหน้าที่ไม่ได้หยุดชะงักไปตามพิษโควิด-19 โดยเฉพาะการขับเคลื่อนโครงการอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่อีอีซี ซึ่งทาง “คุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ลงพื้นที่อีอีซี เพื่อกำชับหน่วยงานในพื้นที่ ให้เดินหน้างานด้านต่างๆ ซึ่งจะช่วยดึงการลงทุนในพื้นที่ให้คึกคัก และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมนั่นเอง โดยผมได้รวมรวบข่าวจากแฟนเพจของกระทรวงอุตสาหกรรมมาเล่าแบบม้วนเดียวจบ (ขอขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจากแฟนเพจกระทรวงอุตสาหกรรมด้วยครับ)
เอาล่ะครับ 🥳 เรามาเริ่มกันที่การลงพื้นที่กลุ่มจังหวัดอีอีซี เพื่อติดตามงานตามโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษกันเลยดีกว่า โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ (24 ส.ค.63) จังหวัดชลบุรี และระยอง เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการต่างๆ ในเขตพื้นที่ ผลักดันให้เกิดการลงทุนจริงตามกรอบระยะเวลาที่วางไว้ ทั้งการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต และการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) รวมทั้งการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ (Investment Promotion)
โดยจุดแรกได้เดินทางไปยังบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง เพื่อเยี่ยมชมศูนย์การผลิตแหลมฉบัง ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย และเพื่อรับทราบความคืบหน้าโครงการการผลิตรถมิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ซึ่งเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าประเภทปลั้กอินไฮบริด โดยเป็นการผลิตรถยนต์รุ่นดังกล่าวนอกประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก พร้อมรับทราบข้อมูลการลงทุนเพื่อปรับปรุงศักยภาพการผลิต (Restructuring Project) สอดคล้องกับแผนระยะกลาง 3 ปี ซึ่ง มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ประเทศ ญี่ปุ่น ได้ประกาศไว้เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมุ่งให้ความสำคัญกับภูมิภาคอาเซียนมากขึ้นโดยเฉพาะประเทศไทย
ทั้งนี้ ศูนยการผลิตแหลมฉบังของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มีกำลังการผลิตสูงสุด 424,000 คัน เป็นศูนย์การผลิตที่ใหญ่ที่สุดนอกประเทศญี่ปุ่นของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ประเทศ ญี่ปุ่น และส่งออกไปกว่า 120 ประเทศทั่วโลก และกำลังขยายการลงทุนในส่วนของโรงพ่นสีแห่งใหม่ ของแผนการลงทุนมูลค่า 7 พันล้านบาท เพื่อยกระดับความสามารถด้านการผลิตรถยนต์ในประเทศไทย
นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ยังได้เดินหน้าต่อผลักดันแผน Roadmap การพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย โดยเร่งให้เกิดยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศตรงตามเป้าหมายและให้มีการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า 30% ในปี 2030
จากนั้นรัฐมนตรีสุริยะ ได้เดินทางไปยังพื้นที่โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง เพื่อเยี่ยมชมพื้นที่โครงการฯ ซึ่งล่าสุดยังอยู่ระหว่างการศึกษาขยายพื้นที่ที่จะรองรับโครงการดังกล่าวฯ ลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย New S-Curve และได้เดินทางต่อไปยังนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ณ สำนักงานอุตสาหกรรมมาบตาพุด เพื่อติดตามการดำเนินงานโครงการของนิคมฯ ความคืบหน้าการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะ 3 และความคืบหน้าโครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค (Smart Park)
ซึ่งนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดและท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด เป็นฐานการผลิตที่สำคัญสำหรับอุตสาหกรรมประเภทปิโตรเคมี ติอดันดับ 1 ใน 5 ของภูมิภาคอาเซียน ปัจจุบันกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมคอมเพล็กซ์มีจำนวน 5 นิคม ประกอบด้วย นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอตะวันออก นิคมอุตสาหกรรมเอเชีย นิคมอุตสาหกรรมอาร์ไอแอล นิคมอุตสาหกรรมผาแดง และท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด มีโรงงานจำนวน 151 โรง จำนวนแรงงาน 30,000 คน มูลค่าการลงทุน 1 ล้านล้านบาท รองรับอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นปลาย ปิโตรเคมีขั้นกลาง ปิโตรเคมีขั้นปลาย ก๊าซ เคมีภัณฑ์ โรงไฟฟ้า โรงกลั่นน้ำมัน เหล็ก และอุตสาหกรรมอื่น
นอกจากนี้นายสุริยะฯ และคณะได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค (Smart Park) ซึ่งมีแนวคิดที่สำคัญในการพัฒนา คือ มุ่งเน้นการเป็นนิคมอุตสาหกรรมต้นแบบในการพัฒนา Smart Eco และใช้นวัตกรรมในการให้บริการระบบสาธารณูปโภค รวมถึงการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม เป็นศูนย์กลางทางพาณิชย์ของชุมชนที่ทันสมัย รองรับการเจริญเติบโตของการใช้บริการภาคธุรกิจในพื้นที่ นิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค (Smart Park) ตั้งอยู่ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง มีพื้นที่โครงการประมาณ 1,383.76 ไร่ โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มการก่อสร้างได้ในไตรมาส 2 ปี 2564 และใช้ระยะเวลาการก่อสร้างประมาณ 3 ปี โดยคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการโครงการฯได้ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2567 ซึ่งจะก่อให้เกิดการจ้างงาน ประมาณ 7,459 คน ส่งผลให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจในพื้นที่ประมาณ 1,342,620,000 บาทต่อปี
นิคมฯ สมาร์ท ปาร์ค (Smart Park ) มีมูลค่าการลงทุนระยะแรก ประมาณ 2,480.73 ล้านบาท เน้นกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ (Aviation & Logistics) กลุ่มอุตสาหกรรมการแพทย์ (Medical Device) กลุ่มอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ (Robotics) และกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัล (Digital)” มีความได้เปรียบในเรื่องของระบบคมนาคมขนส่งทั้งระบบขนส่งทางอากาศสนามบินอู่ตะเภา ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระบบขนส่งทางบก อันได้แก่ รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ทางด่วนมอเตอร์เวย์ เป็นต้น และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณไตรมาส 2 ของปี 2564 โดยจะแล้วพร้อมเปิดให้บริการได้ภายในปี 2567
ครับผม 😆😆😆 นั่นก็เป็นควาบคืบหน้าที่มีมาอย่างต่อเนื่องของกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งไม่ได้หยุดนิ่งไปแม้จะเป็นช่วงที่โควิด-19 กำลังระบาดก็ตามที ซึ่งเราก็คงต้องตังตาคอยกันต่อไปครับว่า เมื่อไหร่จะมีวัคซีนซะทีและเมื่อถึงวันนั้นมาถึงก็คาดว่าหลายโครงการดีๆ ที่หน่วยงานภาครัฐกำลังเดินหน้าในวันนี้จะเป็นอีกหนึ่งแรงในการผลักดันเศรษฐกิจบ้านเราให้เติบโตขึ้นอย่างเต็มที่ ขอบคุณครับผม🥳🥳🥳