มันมีอะไรหลายอย่างที่เกินกว่าจะเข้าใจ..และคิดว่าตัวเองมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร...
22 สิงหาคม 2563 ช่วงเวลาประมาณ 9 โมงเช้า
ฉันออกมาซื้อกาแฟกินตามปกติ เพื่อที่จะกลับไปทำงานต่อ พอได้กาแฟแล้ว ฉันก็มายืนผ่อนคลายตัวเองที่หน้าร้าน 7-11 แดดยังไม่ร้อนมาก แต่พอดื่มกาแฟไป 1 อึก ความรู้สึกแปลกๆเริ่มมา ฉันเริ่มยืนไม่ไหว ร่างกายจะทิ้งตัวเสียให้ได้ มองอะไรไม่ชัด ฉันเริ่มตั้งสติ พาตัวเองขึ้นรถเพื่อกลับเข้าบ้าน ในใจคิดว่าถ้าได้แอร์เย็นๆในรถน่าจะดีขึ้น..แต่เปล่าเลย อาการยังคงหนัก พอใกล้จะถึงบ้าน กาแฟที่ดื่มไป 1 อึกมันเริ่มจะตีออก ฉันพยายามฝืนให้มากที่สุด (กลัวรถเหม็น) แต่สุดท้ายก็ไม่รอด อาเจียนออกมาจนได้ พอถึงบ้านฉันรีบหาที่นั่ง คนที่บ้านเห็นก็บอกว่าฉันหน้าซีด คะยั้นคะยอให้ไปหาหมอ แต่ด้วยตัวฉันเองคิดว่า ฉันไหว ยังไงฉันก็ไหว .... เวลาผ่านไปสักพัก ฉันไม่ไหว ก็เลยเรียกรถ ลากตัวเองไปโรงพยาบาล Process ก็ทั่วไป ลงทะเบียน >> วัดความดัน >> รอพบหมอ
รอ..ร๊อ..รอ ชั่วโมงกว่า พยาบาลก็เรียกชื่อฉันให้เตรียมเข้าพบแพทย์ได้ พอเข้าไปเจอหมอ หมอก็ถามไถ่อาการตามปกติว่าเป็นอะไรมาครับ ฉันอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ให้หมอฟัง และสิ่งที่ผ่านมา ว่าตัวฉันมีอาการอะไรบ้าง กินยาอะไรไปแล้วบ้าง กินไปกี่อย่าง อย่างละกี่เม็ด หมอก็ฟังแล้วพยักหน้า พร้อมกับบอกว่า งั้นหมอจะจ่ายยาคลายเครียดให้กินก่อน แล้วก็ยาแก้ปวด แล้วหมอจะนัดหมออีกแผนกให้นะ ฉันก็ได้แต่ ค่ะ..ค่ะ..ค่ะ แล้วก็เดินออกจากห้องตรวจเพื่อรอรับยาและใบนัด
หลังจากได้ยา ฉันอ่านชื่อยา หาข้อมูลว่ามันคือยาแก้อะไร Side effect เป็นยังไง หลังจากหาข้อมูลแล้ว ฉันก็ดูใบนัด หมอนัดให้ไปคลินิกจิตเวช ฉันพอจะเข้าใจได้ในส่วนแรก นอนไม่หลับ นอนไม่ได้ ไปแผนกจิตเวชก็น่าจะถูกต้องแล้ว แต่..... สมองอีกซึกก็คิดวนเวียนจนน่ารำคาญว่า แผนกจิตเวชนะ มันน่ากลัวสำหรับมือใหม่อย่างฉัน วันนั้นฉันร้องไห้ ร้องโดยไม่มีสาเหตุ รู้แค่อยากร้อง และฉันหยุดร้องไม่ได้ คิดวนไป เวียนมา ทำไม ทำไม ทำไม มีแต่คำถาม แต่ไม่มีคำตอบ ก็กินยาที่หมอจ่ายให้ แล้วก็ร้องไห้จนหลับไป
23 สิงหาคม 2563
ฉันแวะไปเอาของให้ลูกสาวที่บ้านพ่อ เจอน้องสาวนั่งดูโทรทัศน์อยู่ ฉันและน้องสาวมองหน้ากัน มีคำพูดหลายสิบล้านคำที่อยากจะพูด ฉันทักทายไม่กี่คำ แล้วก็ไปหาหนังสือที่ต้องการ พอได้หนังสือแล้วฉันก็มานั่งกับน้องสาว น้องยังคงมองหน้าฉัน แต่แค่เพียงการมองด้วยสายตาแบบนั้น น้ำตาฉันไหลออกมา ไหลแบบอัตโนมัติ ณ ขณะนั้นฉันมึนหัว มึนจริงๆ ได้ยินเสียงน้องสาวพูดด้วย แต่ฉันจับใจความได้ไม่ทั้งหมด แต่ประโยคที่ได้ยินอย่างแจ่มชัดคือ
"ทำไมฉันรู้สึกว่าแกประชดตัวเองตลอดเวลาวะ แกทำทำไม ถ้าทุกข์ทำไมไม่ออกมา ไฟกำลังไหม้ แกจะอยู่ให้ไฟคลอกเพื่ออะไร" น้องสาวฉันกล่าวมาแบบนี้
ฉันไม่มีคำตอบใดๆให้น้อง มีแต่น้ำตาที่ไหลไม่ยอมหยุด คำพูดที่อัดแน่นในใจฉันก็คือ
"ฉันไม่ได้ประชดตัวเอง ฉันไม่อยากเป็นแบบนี้ ฉันแค่ไม่อยากทำร้ายความรู้สึกใคร แต่ฉันเพิ่งมารู้วันนี้ว่า สิ่งที่ฉันทำ มันกำลังฆ่าตัวฉันเอง"
น้องบอกว่า ทุกสัปดาห์ที่พี่น้องฉันมารวมตัวกินข้าวกันแต่ไม่มีฉันร่วมวงนั้น ทุกคนจะถามว่าฉันเป็นยังไง ไม่เจอหน้าพี่น้องมานานแค่ไหน ฉันบอกน้องไปว่า ฉันก็คิดถึงบ้าน คิดถึงครอบครัวเรา แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอีกเรื่อยๆ..... ก่อนกลับ ฉันเข้าไปกอดลาน้อง และได้บอกความในใจกับน้องว่า
"ถ้าวันนึงฉันเป็นบ้า ไม่ต้องไปหาฉันที่โรงพยาบาลนะ ปล่อยฉันไว้ตรงนั้น ฉันไม่อยากเป็นภาระให้คนที่บ้าน"
คำพูดที่น้องตอบกลับมาคือ "ทำไมล่ะ กลับบ้านสิ แกมีบ้าน มีฉัน มีพี่น้องอยู่นะ เราไม่เคยทิ้งแกนะ"....
น้องรักของฉัน วันนี้หมอยังไม่ได้วินิจฉัยว่าฉันเป็นอะไร แต่ฉันจะมีชีวิตอยู่ เพื่อครอบครัวเดิมของเรานะ #รักแกและพี่น้องทุกคน...
เมื่อฉันต้องหาหมอแผนกจิตเวช
22 สิงหาคม 2563 ช่วงเวลาประมาณ 9 โมงเช้า
ฉันออกมาซื้อกาแฟกินตามปกติ เพื่อที่จะกลับไปทำงานต่อ พอได้กาแฟแล้ว ฉันก็มายืนผ่อนคลายตัวเองที่หน้าร้าน 7-11 แดดยังไม่ร้อนมาก แต่พอดื่มกาแฟไป 1 อึก ความรู้สึกแปลกๆเริ่มมา ฉันเริ่มยืนไม่ไหว ร่างกายจะทิ้งตัวเสียให้ได้ มองอะไรไม่ชัด ฉันเริ่มตั้งสติ พาตัวเองขึ้นรถเพื่อกลับเข้าบ้าน ในใจคิดว่าถ้าได้แอร์เย็นๆในรถน่าจะดีขึ้น..แต่เปล่าเลย อาการยังคงหนัก พอใกล้จะถึงบ้าน กาแฟที่ดื่มไป 1 อึกมันเริ่มจะตีออก ฉันพยายามฝืนให้มากที่สุด (กลัวรถเหม็น) แต่สุดท้ายก็ไม่รอด อาเจียนออกมาจนได้ พอถึงบ้านฉันรีบหาที่นั่ง คนที่บ้านเห็นก็บอกว่าฉันหน้าซีด คะยั้นคะยอให้ไปหาหมอ แต่ด้วยตัวฉันเองคิดว่า ฉันไหว ยังไงฉันก็ไหว .... เวลาผ่านไปสักพัก ฉันไม่ไหว ก็เลยเรียกรถ ลากตัวเองไปโรงพยาบาล Process ก็ทั่วไป ลงทะเบียน >> วัดความดัน >> รอพบหมอ
รอ..ร๊อ..รอ ชั่วโมงกว่า พยาบาลก็เรียกชื่อฉันให้เตรียมเข้าพบแพทย์ได้ พอเข้าไปเจอหมอ หมอก็ถามไถ่อาการตามปกติว่าเป็นอะไรมาครับ ฉันอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ให้หมอฟัง และสิ่งที่ผ่านมา ว่าตัวฉันมีอาการอะไรบ้าง กินยาอะไรไปแล้วบ้าง กินไปกี่อย่าง อย่างละกี่เม็ด หมอก็ฟังแล้วพยักหน้า พร้อมกับบอกว่า งั้นหมอจะจ่ายยาคลายเครียดให้กินก่อน แล้วก็ยาแก้ปวด แล้วหมอจะนัดหมออีกแผนกให้นะ ฉันก็ได้แต่ ค่ะ..ค่ะ..ค่ะ แล้วก็เดินออกจากห้องตรวจเพื่อรอรับยาและใบนัด
หลังจากได้ยา ฉันอ่านชื่อยา หาข้อมูลว่ามันคือยาแก้อะไร Side effect เป็นยังไง หลังจากหาข้อมูลแล้ว ฉันก็ดูใบนัด หมอนัดให้ไปคลินิกจิตเวช ฉันพอจะเข้าใจได้ในส่วนแรก นอนไม่หลับ นอนไม่ได้ ไปแผนกจิตเวชก็น่าจะถูกต้องแล้ว แต่..... สมองอีกซึกก็คิดวนเวียนจนน่ารำคาญว่า แผนกจิตเวชนะ มันน่ากลัวสำหรับมือใหม่อย่างฉัน วันนั้นฉันร้องไห้ ร้องโดยไม่มีสาเหตุ รู้แค่อยากร้อง และฉันหยุดร้องไม่ได้ คิดวนไป เวียนมา ทำไม ทำไม ทำไม มีแต่คำถาม แต่ไม่มีคำตอบ ก็กินยาที่หมอจ่ายให้ แล้วก็ร้องไห้จนหลับไป
23 สิงหาคม 2563
ฉันแวะไปเอาของให้ลูกสาวที่บ้านพ่อ เจอน้องสาวนั่งดูโทรทัศน์อยู่ ฉันและน้องสาวมองหน้ากัน มีคำพูดหลายสิบล้านคำที่อยากจะพูด ฉันทักทายไม่กี่คำ แล้วก็ไปหาหนังสือที่ต้องการ พอได้หนังสือแล้วฉันก็มานั่งกับน้องสาว น้องยังคงมองหน้าฉัน แต่แค่เพียงการมองด้วยสายตาแบบนั้น น้ำตาฉันไหลออกมา ไหลแบบอัตโนมัติ ณ ขณะนั้นฉันมึนหัว มึนจริงๆ ได้ยินเสียงน้องสาวพูดด้วย แต่ฉันจับใจความได้ไม่ทั้งหมด แต่ประโยคที่ได้ยินอย่างแจ่มชัดคือ
"ทำไมฉันรู้สึกว่าแกประชดตัวเองตลอดเวลาวะ แกทำทำไม ถ้าทุกข์ทำไมไม่ออกมา ไฟกำลังไหม้ แกจะอยู่ให้ไฟคลอกเพื่ออะไร" น้องสาวฉันกล่าวมาแบบนี้
ฉันไม่มีคำตอบใดๆให้น้อง มีแต่น้ำตาที่ไหลไม่ยอมหยุด คำพูดที่อัดแน่นในใจฉันก็คือ
"ฉันไม่ได้ประชดตัวเอง ฉันไม่อยากเป็นแบบนี้ ฉันแค่ไม่อยากทำร้ายความรู้สึกใคร แต่ฉันเพิ่งมารู้วันนี้ว่า สิ่งที่ฉันทำ มันกำลังฆ่าตัวฉันเอง"
น้องบอกว่า ทุกสัปดาห์ที่พี่น้องฉันมารวมตัวกินข้าวกันแต่ไม่มีฉันร่วมวงนั้น ทุกคนจะถามว่าฉันเป็นยังไง ไม่เจอหน้าพี่น้องมานานแค่ไหน ฉันบอกน้องไปว่า ฉันก็คิดถึงบ้าน คิดถึงครอบครัวเรา แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอีกเรื่อยๆ..... ก่อนกลับ ฉันเข้าไปกอดลาน้อง และได้บอกความในใจกับน้องว่า
"ถ้าวันนึงฉันเป็นบ้า ไม่ต้องไปหาฉันที่โรงพยาบาลนะ ปล่อยฉันไว้ตรงนั้น ฉันไม่อยากเป็นภาระให้คนที่บ้าน"
คำพูดที่น้องตอบกลับมาคือ "ทำไมล่ะ กลับบ้านสิ แกมีบ้าน มีฉัน มีพี่น้องอยู่นะ เราไม่เคยทิ้งแกนะ"....
น้องรักของฉัน วันนี้หมอยังไม่ได้วินิจฉัยว่าฉันเป็นอะไร แต่ฉันจะมีชีวิตอยู่ เพื่อครอบครัวเดิมของเรานะ #รักแกและพี่น้องทุกคน...