เรื่องมีอยู่ว่า พี่ที่ทำงานเราคนนึงเขามีพัสดุมาส่งไว้ที่หน้าตึก แล้วของเขาหาย ไป ซึ่งปรากฏว่ามีคนเอากล่องนั้นมาซ่อนไว้ในห้องทำงานของเราค่ะ ซึ่งอยู่ในมุมหลืบที่เราไม่เคยสนใจมัน (ของวางอยู่ใต้โต๊ะข้างโต๊ะที่เรานั่งทำงาน แล้วมีกล่องหลายๆ ใบปิดไว้อีกที โต๊ะนี้เราเอาไว้วางของเท่านั้น ไม่ได้ใช้ทำงาน) เราก็งงว่าของมาอยู่ที่ห้องเราได้ไง โดยส่วนตัวเราไม่มีปัญหากับพี่ที่เป็นเจ้าของกล่องเลย และเราก็ไม่รู้ว่าของในกล่องมีอะไรด้วยซ้ำ มันก็ไม่มีเหตุผลที่เราจะเอากล่องนี้มาทำไม
ทีนี้พอเขาไปดูกล้องวงจรปิดก็เห็นว่ามีภาพนึงที่เห็นเราอุ้มกล่องกล่องนึงเดินเข้าตึกไป แต่ความจริงกล่องนั้นคือของของเรา (ของที่เราสั่งไปมาส่งเวลาไล่เลี่ยกับของพี่เขา และกล่องสีน้ำตาลคล้ายๆ กัน ขนาดไล่เลี่ยกัน) ภาพในกล้องก็มองเห็นกล่องไม่ชัดนะ แต่พวกคณะผู้บริหารบอกว่ากล่องนั้นเป็นกล่องของพี่คนนั้นชัวร์ ทั้งๆที่ไม่มีอะไรพิสูจน์ได้ว่าเป็นกล่องของพี่เขาจริงๆ เราบอกว่ากล่องเรา เราสั่งของมา ก็ไม่เชื่อ และขู่เราว่าให้รับสารภาพเถอะ ไม่งั้นเรื่องตำรวจนะ เขาจะไปแจ้งความ เราก็บอกเขาว่าแล้วแต่เขา
ทีนี้พี่คนนั้นก็ไปแจ้งความ และตำรวจเรียกให้เราไปคุยพร้อมกันด้วย เรากับพี่เจ้าของกล่องก็เล่าลำดับเหตุการณ์ทั้งหมดให้ตำรวจฟัง ตำรวจฟังเสร็จก็บอกว่าเรื่องนี้แจ้งความเป็นคดีไม่ได้ เพราะไม่พบหลักฐานและข้อหาที่จะเอาผิดทางอาญาได้ และดูจากเหตุการณ์แล้ว ตำรวจเชื่อเราว่าเราไม่น่าจะขโมยของของพี่เขา เพราะถ้าเราขโมยจริง เราก็คงยักย้ายถ่ายเทของไว้ที่อื่นแล้ว ไม่เก็บไว้ใกล้ตัวตั้งสามสี่วันจนมีคนมาเจอหรอก พี่เจ้าของกล่องก็เห็นด้วย สรุปก็เลยแค่ลงบันทึกประจำวันเอาไว้เพื่อเป็นการบันทึกเหตุการณ์และการให้ปากคำของพี่เขากับเรา
สอบถามค่ะ เหตุการณ์ต่อจากนี้ ถ้าที่ทำงานเราตั้งคณะสอบสวนเพื่อจะเอาผิดเรา เราควรทำอย่างไรดีคะ ในเมื่อหลักฐานที่เขาปรักปรำเรามันไม่ชัดเจน เขาพิสูจน์ไม่ได้ว่ากล่องที่เราอุ้มเข้าตึกมานั้นคือกล่องของพี่เขาหรืเปล่า แต่เขาพยายามจะให้เราผิดให้ได้ เราควรเตรียมตัวเตรียมใจกับสถานการณ์นี้ยังไงดีคะ
ปอลอ จริงๆ เราแอบสงสัยอยู่อย่างนึงนะว่าทำไมคนที่มาค้นห้องเราเจอกล่องนั้นง่ายจัง ทั้งๆ ที่มันอยู่ในที่ที่ลึกลับมาก ไม่ได้มองเห็นกันง่ายๆ บางทีเราก็แอบคิดนะว่าเป็นแผนของใครรึป่าว ประตูห้องทำงานเราก็ไม่เคยล็อก เพราะไม่มีของมีค่าอะไร ถึงล็อกที่ตึกเราก็มีกุญแจมาสเตอร์ของตึกที่สามารถไขเปิดได้ทุกห้อง
ที่ทำงานจะตั้งเรื่องสอบสวนเอาผิดเราทั้งที่หลักฐานไม่เคลียร์ค่ะ
ทีนี้พอเขาไปดูกล้องวงจรปิดก็เห็นว่ามีภาพนึงที่เห็นเราอุ้มกล่องกล่องนึงเดินเข้าตึกไป แต่ความจริงกล่องนั้นคือของของเรา (ของที่เราสั่งไปมาส่งเวลาไล่เลี่ยกับของพี่เขา และกล่องสีน้ำตาลคล้ายๆ กัน ขนาดไล่เลี่ยกัน) ภาพในกล้องก็มองเห็นกล่องไม่ชัดนะ แต่พวกคณะผู้บริหารบอกว่ากล่องนั้นเป็นกล่องของพี่คนนั้นชัวร์ ทั้งๆที่ไม่มีอะไรพิสูจน์ได้ว่าเป็นกล่องของพี่เขาจริงๆ เราบอกว่ากล่องเรา เราสั่งของมา ก็ไม่เชื่อ และขู่เราว่าให้รับสารภาพเถอะ ไม่งั้นเรื่องตำรวจนะ เขาจะไปแจ้งความ เราก็บอกเขาว่าแล้วแต่เขา
ทีนี้พี่คนนั้นก็ไปแจ้งความ และตำรวจเรียกให้เราไปคุยพร้อมกันด้วย เรากับพี่เจ้าของกล่องก็เล่าลำดับเหตุการณ์ทั้งหมดให้ตำรวจฟัง ตำรวจฟังเสร็จก็บอกว่าเรื่องนี้แจ้งความเป็นคดีไม่ได้ เพราะไม่พบหลักฐานและข้อหาที่จะเอาผิดทางอาญาได้ และดูจากเหตุการณ์แล้ว ตำรวจเชื่อเราว่าเราไม่น่าจะขโมยของของพี่เขา เพราะถ้าเราขโมยจริง เราก็คงยักย้ายถ่ายเทของไว้ที่อื่นแล้ว ไม่เก็บไว้ใกล้ตัวตั้งสามสี่วันจนมีคนมาเจอหรอก พี่เจ้าของกล่องก็เห็นด้วย สรุปก็เลยแค่ลงบันทึกประจำวันเอาไว้เพื่อเป็นการบันทึกเหตุการณ์และการให้ปากคำของพี่เขากับเรา
สอบถามค่ะ เหตุการณ์ต่อจากนี้ ถ้าที่ทำงานเราตั้งคณะสอบสวนเพื่อจะเอาผิดเรา เราควรทำอย่างไรดีคะ ในเมื่อหลักฐานที่เขาปรักปรำเรามันไม่ชัดเจน เขาพิสูจน์ไม่ได้ว่ากล่องที่เราอุ้มเข้าตึกมานั้นคือกล่องของพี่เขาหรืเปล่า แต่เขาพยายามจะให้เราผิดให้ได้ เราควรเตรียมตัวเตรียมใจกับสถานการณ์นี้ยังไงดีคะ
ปอลอ จริงๆ เราแอบสงสัยอยู่อย่างนึงนะว่าทำไมคนที่มาค้นห้องเราเจอกล่องนั้นง่ายจัง ทั้งๆ ที่มันอยู่ในที่ที่ลึกลับมาก ไม่ได้มองเห็นกันง่ายๆ บางทีเราก็แอบคิดนะว่าเป็นแผนของใครรึป่าว ประตูห้องทำงานเราก็ไม่เคยล็อก เพราะไม่มีของมีค่าอะไร ถึงล็อกที่ตึกเราก็มีกุญแจมาสเตอร์ของตึกที่สามารถไขเปิดได้ทุกห้อง