-------------------------------------------
ฝากติดตามเพจของเราด้วยนะค้า ^^
-------------------------------------------
วันนี้จะเป็นทริปที่ 2 จากการซื้อตั๋ว AirAsia บุฟเฟ่ต์ของเราค่ะ
เป้าหมายของเราก็คือ ‘หมู่บ้านคีรีวง’ จ.นครศรีธรรมราช
ที่ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่อากาศดีที่สุดในประเทศไทยนั่นเอง
ทริปนี้ยังเป็นทริป 2 วัน 1 คืน แบบไม่มีรถยนต์ส่วนตัวเหมือนเดิมค่ะ
Day 1:
ทริปนี้เราบินไฟลท์เช้าตรู่ 6:50 น. กันเลยทีเดียว
พอเครื่องลงแล้ว เราก็เดินออกมาขึ้นรถ Shutter Bus ที่จอดอยู่เยื้องๆกับประตูทางออกสนามบินเพื่อเข้าตัวเมือง เป้าหมายแรกของเราเช้านี้อยู่ที่ ‘ร้านโกปี๊’ สภากาแฟชื่อดังของเมืองคอน (อ๊ะ เราก็เพิ่งรู้ว่า จ.นครศรีธรรมราชเค้าเรียกกันอีกชื่อว่า ‘เมืองคอน’) Shutter Bus จะมี 2 สาย ตามจุดหมายของเรานั้นก็เลือกขึ้นสาย 8 ค่ะ ราคา 40 บาท ตลอดสาย ไปลงที่ป้ายประตูรอด จากนั้นก็เดินค่ะ
แต่! ใครจะไปคิดว่ามันเดินไกลขน๊าดนี้!!!! ดีนะที่ยังเช้าอยู่ อากาศเลยไม่ร้อนมาก แต่สองข้างทางนี่ไม่มีอะไรเพลิดเพลินให้ดูเลยจร้า เพราะว่าเช้ามาก เค้ายังไม่เปิดกัน ใครที่จะตามรอย
“อย่าได้หาทำนะคะ”
พอลงประตูท่ารอดแล้ว แนะนำให้หาโบกวินมอเตอร์ไซค์ไปดีกว่าค่ะ
ส่วนเราน๊านนน ไม่ทันแล้ว มะ ไหนๆก็ไหนๆ เดินตามเรามาค่ะ 5555
จากการเดินกิโลกว่าๆ (ตั้งแต่เริ่มทริป 555) เราก็มาถึง ‘ร้านโกปี๊’ แล้วค่ะ
ที่ร้านคนเยอะมว๊ากกกค่ะ โต๊ะเต็มเกือบหมดเลย เราต้องเล็งดีๆว่ามีโต๊ะไหนลุก เราต้องรีบพุ่งตัวไปเลยค่ะ
ที่ร้านก็จะมีอาหาร บักกุ๊ดเต๋ ติ่มซำ ชา กาแฟ ปาท่องโก๋ให้เราเลือกทานเยอะเลย
เราเลือกสั่งบักกุ๊ดเต๋, ปาท่องโก๋, ขนมจีบกุ้ง, ไข่ลวก และแน่นอนชาชักค่ะ
อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวเราน้า
เราว่าเฉยๆอ่ะค่ะ 555
บักกุ๊ดเต๋ เครื่องยาจีนไม่ค่อยแรงเท่าไหร่
ขนมจีบกุ้งไม่ค่อยหนึบ
แต่ชาชักนี่เข้มข้นได้ใจดีค่ะ ตื่นเลย
ระหว่างที่ทานๆอยู่แม่ค้าถือถาดใส่มังคุดมาเดินขายในร้านด้วย แต่ตอนนั้นเราคิดว่า อ๊ะ เดี๋ยวไปเที่ยววัดต่อ ที่วัดก็คงมีขายแหละ ของขึ้นชื่อนี่นา
พอได้เติมพลังอาหารเช้ากันแล้ว เราก็เดินกันต่อค่ะ
ตรงข้ามกับร้านโกปี๊ จะเป็น ‘ศาลากลาง จ.นครศรีธรรมราช’ ค่ะ
ซึ่งข้างในจะมี ‘หอพระพุทธสิหิงค์’ ตั้งอยู่ สามารถเดินขึ้นไปกราบไหว้ได้ค่ะ
จริงๆเราคาดหวังว่าจะเจอ มังคุดคัด ขายเต็มไปหมดที่นี่
แต่ เอ๊ะ เดินไปซ้าย ไปขวา อ้อมไปดูด้านหลัง
ไม่มีซักร้านจ้า ม๊ายยยน้าาา มังคุดคัดของไผ่!!!!!
จากนั้นเราก็เดินไปเรื่อยๆค่ะ เป้าหมายต่อไปของเราคือ ‘พิพิธภัณฑ์หนังตะลุง’
จริงๆในตัวเมืองคอนจะมีรถสองแถววิ่งให้บริการรอบเมืองนะคะ ราคาแค่ 10 บาทตลอดสายค่ะ
แต่เราเลือกที่จะเดิน จะได้ชมเมืองด้วย แล้วก็ได้ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆด้วย
ที่นครศรีฯ ก็มีหอนาฬิกาด้วยนะ
เดินกันลัดเลาะเข้าซอยไปเรื่อยๆ แล้วเราก็มาเจอ ‘ร้านขนมจีนเมืองคอน’
อีกหนึ่งร้านดังที่ใครๆก็บอกกันว่าต้องมาลอง
แต่! บังเอิญว่าทริปนี้ก่อนมา ไผ่มีเพื่อนที่มาเที่ยวก่อนแล้ว
เพื่อนบอกว่า “เฉยๆ” 555 แล้วแนะนำว่าให้ไปอีกร้านดีกว่า
เราก็เลยไม่ได้ลองที่นี่เลย
แล้วบังเอิ๊ญ บังเอิญ สายตาก็ไปเห็นรถเข็นขายของทอดตั้งอยู่หน้าร้านขนมจีนเมืองคอน แแล้วเค้าก็มี ‘มังคุดคัด’ ขายด้วย!!!!
เย้!!!! ได้กินแล้วเว้ย
‘มังคุดคัด’ คือของดีเมืองคอน ที่ต้องลอง (ไผ่คิดว่านะ 555)
มันคือมังคุดดิบค่ะ คัดมาตั้งแต่ตอนที่เปลือกยังเป็นสีเขียว เอามาปลอกแล้วเสียบไม้ขาย ไม้ละ 20 บาท
พอลองแล้ว มันจะกรอบ (เพราะมันยังไม่สุกอ่ะเนอะ) รสชาติหวานอมเปรี้ยว แล้วก็มีความฝาดนิดๆ
สำหรับไผ่แล้ว ชอบมังคุดสุกนิ่มๆมากกว่า 555
แต่คิดว่า ถ้ามาแล้วไม่ควรพลาดค่ะ ต้องลองซักครั้งนะค้า
ว่าแล้วเราก็เดินกันต่อ เดินเลี้ยวเข้าไปซอยเล็กๆอีก แล้วก็เจอแล้ว ‘พิพิธภัณฑ์หนังตะลุง’
ข้างในจะมีเป็นบ้านไม้หลายๆหลังสร้างอยู่ในพื้นที่เดียวกันค่ะ แต่ละหลังก็จะมีตัวละครหนังตะลุงจัดแสดงอยู่
แล้วก็จะมีพี่ที่เค้ากำลังนั่งทำหนังตะลุง ให้เราสามารถไปยืนดูวิธีทำสดๆร้อนๆกันได้เลยค่ะ
นอกจากนี้ยังมีโรงฉายหนังตะลุงด้วยค่ะ คิดว่าน่าจะจัดแสดงเวลาที่มีคนมาเที่ยวเป็นหมู่คณะมาเยี่ยมชม
ที่นี่จะเป็นพิพิธภัณฑ์แบบชาวบ้านค่ะ ไม่มีค่าเข้าชม แต่จะมีกล่องที่เราสามารถหย่อนเงินสมทบทุนช่วยเรื่องค่าน้ำค่าไฟ ค่าทำนุบำรุงสถานที่ เป็นที่ที่เรารู้สึกว่าดีมากค่ะ เป็นที่ที่อนุรักษ์ของดั้งเดิมไว้ให้คนรุ่นหลังได้เข้าชมกันอยู่ พี่ๆและคุณป้าที่เราเจอ น่าจะเป็นผู้ดูแลที่นี่ ก็น่ารักมาๆด้วยค่ะ
ถัดจาก ‘พิพิธภัณฑ์หนังตะลุง’ เราเดินไปเรื่อยๆ แล้วเห็นเจดีย์ใหญ่ๆ
ลูกไผ่: “อ๊ะ เจดีย์สวยอ่ะค่ะ ไปกันมั้ยคะ”
พี่ปุ่น: “โอเค”
ลูกไผ่: “งั้นเดี๋ยวไปทานข้าวก่อน แล้วค่อยไปเนอะ จะได้เดินย่อยด้วย”
ว่าแล้วเราก็มุ่งหน้าที่ “ร้านขนมจีนเส้นสดแม่แอ๊ด” ที่ส้มโอ เพื่อนผู้มาสำรวจเส้นทางก่อนเมื่ออาทิตย์ที่แล้วแนะนำเรามา ที่ป้ายหน้าร้านเขียนว่าเป็นเจ้าแรกของเมืองคอนเลยนะ
พอนั่งปุ๊ป ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง
เจ้าของร้าน: “นั่งๆเลย เดี๋ยวจัดชุดเล็กมาให้ลองก่อนเนอะชุดนึง”
“เอาหมูทอด กุ้งทอดด้วยมั้ย อร่อยนะ จานละ 30 บาท”
“กุ้งทอดละกันเนอะ อร่อยๆ”
5555 ว่าแล้วเราก็ได้ขนมจีนชุดเล็กมา 1 ชุดกับกุ้งทอดอีก 1 จาน
ขนมจีนของที่นี่จะเป็นเส้นสด และมีน้ำราดมาให้ 3 ถ้วย
ถ้วยแรก จะรสชาติหวานๆ ถั่วๆ
ถ้วยที่ 2 มีความคล้ายๆกับแกงเขียวหวาน
ถ้วนที่ 3 จะมีกลิ่นคาวหน่อยๆ คล้ายๆแกงไตปลา
ส่วนกุ้งจะเหมือนกุ้งแพทอดนี่แหละค่ะ แต่ว่าพิเศษตรงที่เค้าจะมีผักสมุนไพรทอดเข้าไปด้วย รสชาติค่อนข้างเผ็ด
ตอนเดินเข้าร้านแอบเห็นขนมด้วย เราเลยเดินไปสั่งมาลองซัก 1 ชาม
ลูกไผ่: “อันนี้คืออะไรอ่ะคะ”
คนขาย: “ขนมกวนขาวจ่ะ ลองมั้ย”
ขนมกวนขาวจะเป็นแป้งเหนียวๆก้อนสีขาว ราดด้วยน้ำกะทิ และโรยน้ำตาล ตัวแป้งจะจืด แต่ถ้าทานคู่กับน้ำตาลก็จะโอเคหน่อย
รสชาติอาจจะไม่คุ้นปากเราเท่าไหร่ แต่ถ้ามาถึงนครศรีธรรมราชแล้ว แนะนำให้ลองค่ะ
มื้อนี้สนนราคาที่ 210 บาทค่ะ
พอท้องอิ่มแล้วเราก็ออกเดินต่อ เดินไปทางซ้ายมือของร้าน แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยเล็กๆ ก็จะทะลุเจอ ‘วัดมหาธาตุเจดีย์’ ที่ๆเจดีย์สีขาว ขนาดใหญ่ (มากกก) หลายๆเจดีย์ ประดิษฐานอยู่ ที่เราเห็นไกลๆระหว่างเดินทาง จะบอกว่าของจริงสวยงาม ใหญ่โตมากๆค่ะ
อ้อ ที่นี่มีมังคุดขายด้วยนะ 555
จากวัดมหาธาตุเจดีย์ ก็ถึงเวลาที่เราต้องหาทางไปคีรีวงกันแล้ว เราเลยเดินไปหาขึ้นรถสองแถวประจำทางที่หน้าวัด แล้วก็เจอพอดี จากที่อ่านมาคิวรถไปคีรีวงจะจอดอยู่ที่ตลาดน้อย
พี่ปุ่น: “ไปขึ้นตลาดน้อยครับ ผมจะขึ้นรถไปคีรีวงอ่ะครับ”
คุณลุง: “ไม่ได้ไปคีรีวง เดี๋ยวไปตรงคิวรถนะ”
พี่ปุ่น: “ตรงตลาดน้อยนะครับ”
คุณลุง: “อ่า คิวรถนะ”
5555 คุยรู้เรื่องรึเปล่า ไม่รู้ แต่คุณลุงใจดีมากๆ พาเรามาจอดตรงหน้าตลาดถนนคนเดินที่นึง แล้วก็บอกว่า เดินทะลุตลาดไปก็จะเจอ ค่ารถก็แค่คนละ 10 บาทเท่าน๊านนนนน
เราก็เดินกันไปแบบงง ผ่านตลาดไป พอสุดตลาด เราก็มองหาเก้ๆกังๆ คุณป้าที่ขายน้ำอ้อยตรงนั้นก็รีบวิ่งมาหา
คุณป้า: “ไปกันไหนเหรอ”
ลูกไผ่: “ไปคีรีวงอ่ะค่ะ”
คุณป้าแกก็รีบวิ่งนำชี้ให้ใหญ่เลยว่า “คิวรถไปคีรีวงจอดอยู่ทางนั้นจ่ะ”
เฮ้ยยยย คุณป้าน่ารักมากกก แบบแกเห็นเราเก้ๆกังๆ ก็รีบวิ่งมาช่วย ตั้งแต่มาอีกอย่างที่เราประทับใจที่นี่ก็คือ คนเมืองคอนน่ารักและใจดีมากกกค่ะ
เดินไปตามทางที่คุณป้าชี้เราก็เจอคิวรถสองแถวไปคีรีวง
คุณลุงคนขับ: “นั่งรอแปปนึงนะ เดี๋ยวออก”
ระหว่างที่รอรถออก เราเดินกลับไปอุดหนุนน้ำอ้อยของคุณป้าที่บอกทางเราเมื่อกี้ซักหน่อย น้ำอ้อยคุณป้าคั้นกันสดๆเลย มีให้เลือกหลายขนาด เราเลือกแก้วใหญ่ แก้วเบ้อเริ่มเลย ราคาแค่แก้วละ 35 บาทเอง ใครแวะมาแถวนี้ อย่าลืมมาอุดหนุนนะคะ คุณป้าน่ารักมั่กๆ
และแล้วเราก็นั่งรถมาถึงคีรีวงค์ ระหว่างทางจะรู้สึกได้เลยว่าอากาศจะเย็นลงเรื่อยๆ ค่ารถคนละ 25 บาทเท่านั้นค่ะ
[ ต่อด้านล่างนะคะ ]
[CR] คีรีวง หมู่บ้านอากาศดี ที่ให้ฟีล "ชนบทญี่ปุ่น" เล็กๆ
เป้าหมายของเราก็คือ ‘หมู่บ้านคีรีวง’ จ.นครศรีธรรมราช
ที่ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่อากาศดีที่สุดในประเทศไทยนั่นเอง
ทริปนี้ยังเป็นทริป 2 วัน 1 คืน แบบไม่มีรถยนต์ส่วนตัวเหมือนเดิมค่ะ
Day 1:
ทริปนี้เราบินไฟลท์เช้าตรู่ 6:50 น. กันเลยทีเดียว
พอเครื่องลงแล้ว เราก็เดินออกมาขึ้นรถ Shutter Bus ที่จอดอยู่เยื้องๆกับประตูทางออกสนามบินเพื่อเข้าตัวเมือง เป้าหมายแรกของเราเช้านี้อยู่ที่ ‘ร้านโกปี๊’ สภากาแฟชื่อดังของเมืองคอน (อ๊ะ เราก็เพิ่งรู้ว่า จ.นครศรีธรรมราชเค้าเรียกกันอีกชื่อว่า ‘เมืองคอน’) Shutter Bus จะมี 2 สาย ตามจุดหมายของเรานั้นก็เลือกขึ้นสาย 8 ค่ะ ราคา 40 บาท ตลอดสาย ไปลงที่ป้ายประตูรอด จากนั้นก็เดินค่ะ
แต่! ใครจะไปคิดว่ามันเดินไกลขน๊าดนี้!!!! ดีนะที่ยังเช้าอยู่ อากาศเลยไม่ร้อนมาก แต่สองข้างทางนี่ไม่มีอะไรเพลิดเพลินให้ดูเลยจร้า เพราะว่าเช้ามาก เค้ายังไม่เปิดกัน ใครที่จะตามรอย
“อย่าได้หาทำนะคะ”
พอลงประตูท่ารอดแล้ว แนะนำให้หาโบกวินมอเตอร์ไซค์ไปดีกว่าค่ะ
ส่วนเราน๊านนน ไม่ทันแล้ว มะ ไหนๆก็ไหนๆ เดินตามเรามาค่ะ 5555
จากการเดินกิโลกว่าๆ (ตั้งแต่เริ่มทริป 555) เราก็มาถึง ‘ร้านโกปี๊’ แล้วค่ะ
ที่ร้านคนเยอะมว๊ากกกค่ะ โต๊ะเต็มเกือบหมดเลย เราต้องเล็งดีๆว่ามีโต๊ะไหนลุก เราต้องรีบพุ่งตัวไปเลยค่ะ
ที่ร้านก็จะมีอาหาร บักกุ๊ดเต๋ ติ่มซำ ชา กาแฟ ปาท่องโก๋ให้เราเลือกทานเยอะเลย
อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวเราน้า
เราว่าเฉยๆอ่ะค่ะ 555
บักกุ๊ดเต๋ เครื่องยาจีนไม่ค่อยแรงเท่าไหร่
ขนมจีบกุ้งไม่ค่อยหนึบ
แต่ชาชักนี่เข้มข้นได้ใจดีค่ะ ตื่นเลย
ระหว่างที่ทานๆอยู่แม่ค้าถือถาดใส่มังคุดมาเดินขายในร้านด้วย แต่ตอนนั้นเราคิดว่า อ๊ะ เดี๋ยวไปเที่ยววัดต่อ ที่วัดก็คงมีขายแหละ ของขึ้นชื่อนี่นา
ตรงข้ามกับร้านโกปี๊ จะเป็น ‘ศาลากลาง จ.นครศรีธรรมราช’ ค่ะ
ซึ่งข้างในจะมี ‘หอพระพุทธสิหิงค์’ ตั้งอยู่ สามารถเดินขึ้นไปกราบไหว้ได้ค่ะ
แต่ เอ๊ะ เดินไปซ้าย ไปขวา อ้อมไปดูด้านหลัง
ไม่มีซักร้านจ้า ม๊ายยยน้าาา มังคุดคัดของไผ่!!!!!
จากนั้นเราก็เดินไปเรื่อยๆค่ะ เป้าหมายต่อไปของเราคือ ‘พิพิธภัณฑ์หนังตะลุง’
จริงๆในตัวเมืองคอนจะมีรถสองแถววิ่งให้บริการรอบเมืองนะคะ ราคาแค่ 10 บาทตลอดสายค่ะ
แต่เราเลือกที่จะเดิน จะได้ชมเมืองด้วย แล้วก็ได้ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆด้วย
ที่นครศรีฯ ก็มีหอนาฬิกาด้วยนะ
อีกหนึ่งร้านดังที่ใครๆก็บอกกันว่าต้องมาลอง
แต่! บังเอิญว่าทริปนี้ก่อนมา ไผ่มีเพื่อนที่มาเที่ยวก่อนแล้ว
เพื่อนบอกว่า “เฉยๆ” 555 แล้วแนะนำว่าให้ไปอีกร้านดีกว่า
เราก็เลยไม่ได้ลองที่นี่เลย
เย้!!!! ได้กินแล้วเว้ย
มันคือมังคุดดิบค่ะ คัดมาตั้งแต่ตอนที่เปลือกยังเป็นสีเขียว เอามาปลอกแล้วเสียบไม้ขาย ไม้ละ 20 บาท
พอลองแล้ว มันจะกรอบ (เพราะมันยังไม่สุกอ่ะเนอะ) รสชาติหวานอมเปรี้ยว แล้วก็มีความฝาดนิดๆ
สำหรับไผ่แล้ว ชอบมังคุดสุกนิ่มๆมากกว่า 555
แต่คิดว่า ถ้ามาแล้วไม่ควรพลาดค่ะ ต้องลองซักครั้งนะค้า
ว่าแล้วเราก็เดินกันต่อ เดินเลี้ยวเข้าไปซอยเล็กๆอีก แล้วก็เจอแล้ว ‘พิพิธภัณฑ์หนังตะลุง’
ข้างในจะมีเป็นบ้านไม้หลายๆหลังสร้างอยู่ในพื้นที่เดียวกันค่ะ แต่ละหลังก็จะมีตัวละครหนังตะลุงจัดแสดงอยู่
ถัดจาก ‘พิพิธภัณฑ์หนังตะลุง’ เราเดินไปเรื่อยๆ แล้วเห็นเจดีย์ใหญ่ๆ
ลูกไผ่: “อ๊ะ เจดีย์สวยอ่ะค่ะ ไปกันมั้ยคะ”
พี่ปุ่น: “โอเค”
ลูกไผ่: “งั้นเดี๋ยวไปทานข้าวก่อน แล้วค่อยไปเนอะ จะได้เดินย่อยด้วย”
ว่าแล้วเราก็มุ่งหน้าที่ “ร้านขนมจีนเส้นสดแม่แอ๊ด” ที่ส้มโอ เพื่อนผู้มาสำรวจเส้นทางก่อนเมื่ออาทิตย์ที่แล้วแนะนำเรามา ที่ป้ายหน้าร้านเขียนว่าเป็นเจ้าแรกของเมืองคอนเลยนะ
พอนั่งปุ๊ป ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง
เจ้าของร้าน: “นั่งๆเลย เดี๋ยวจัดชุดเล็กมาให้ลองก่อนเนอะชุดนึง”
“เอาหมูทอด กุ้งทอดด้วยมั้ย อร่อยนะ จานละ 30 บาท”
“กุ้งทอดละกันเนอะ อร่อยๆ”
5555 ว่าแล้วเราก็ได้ขนมจีนชุดเล็กมา 1 ชุดกับกุ้งทอดอีก 1 จาน
ขนมจีนของที่นี่จะเป็นเส้นสด และมีน้ำราดมาให้ 3 ถ้วย
ถ้วยแรก จะรสชาติหวานๆ ถั่วๆ
ถ้วยที่ 2 มีความคล้ายๆกับแกงเขียวหวาน
ถ้วนที่ 3 จะมีกลิ่นคาวหน่อยๆ คล้ายๆแกงไตปลา
ส่วนกุ้งจะเหมือนกุ้งแพทอดนี่แหละค่ะ แต่ว่าพิเศษตรงที่เค้าจะมีผักสมุนไพรทอดเข้าไปด้วย รสชาติค่อนข้างเผ็ด
ตอนเดินเข้าร้านแอบเห็นขนมด้วย เราเลยเดินไปสั่งมาลองซัก 1 ชาม
ลูกไผ่: “อันนี้คืออะไรอ่ะคะ”
คนขาย: “ขนมกวนขาวจ่ะ ลองมั้ย”
ขนมกวนขาวจะเป็นแป้งเหนียวๆก้อนสีขาว ราดด้วยน้ำกะทิ และโรยน้ำตาล ตัวแป้งจะจืด แต่ถ้าทานคู่กับน้ำตาลก็จะโอเคหน่อย
รสชาติอาจจะไม่คุ้นปากเราเท่าไหร่ แต่ถ้ามาถึงนครศรีธรรมราชแล้ว แนะนำให้ลองค่ะ
มื้อนี้สนนราคาที่ 210 บาทค่ะ
อ้อ ที่นี่มีมังคุดขายด้วยนะ 555
พี่ปุ่น: “ไปขึ้นตลาดน้อยครับ ผมจะขึ้นรถไปคีรีวงอ่ะครับ”
คุณลุง: “ไม่ได้ไปคีรีวง เดี๋ยวไปตรงคิวรถนะ”
พี่ปุ่น: “ตรงตลาดน้อยนะครับ”
คุณลุง: “อ่า คิวรถนะ”
5555 คุยรู้เรื่องรึเปล่า ไม่รู้ แต่คุณลุงใจดีมากๆ พาเรามาจอดตรงหน้าตลาดถนนคนเดินที่นึง แล้วก็บอกว่า เดินทะลุตลาดไปก็จะเจอ ค่ารถก็แค่คนละ 10 บาทเท่าน๊านนนนน
เราก็เดินกันไปแบบงง ผ่านตลาดไป พอสุดตลาด เราก็มองหาเก้ๆกังๆ คุณป้าที่ขายน้ำอ้อยตรงนั้นก็รีบวิ่งมาหา
คุณป้า: “ไปกันไหนเหรอ”
ลูกไผ่: “ไปคีรีวงอ่ะค่ะ”
คุณป้าแกก็รีบวิ่งนำชี้ให้ใหญ่เลยว่า “คิวรถไปคีรีวงจอดอยู่ทางนั้นจ่ะ”
เฮ้ยยยย คุณป้าน่ารักมากกก แบบแกเห็นเราเก้ๆกังๆ ก็รีบวิ่งมาช่วย ตั้งแต่มาอีกอย่างที่เราประทับใจที่นี่ก็คือ คนเมืองคอนน่ารักและใจดีมากกกค่ะ
เดินไปตามทางที่คุณป้าชี้เราก็เจอคิวรถสองแถวไปคีรีวง
คุณลุงคนขับ: “นั่งรอแปปนึงนะ เดี๋ยวออก”
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้