เราและพ่อ แม่ ไม่เห็นด้วยกับการคบแฟนคนนี้แต่แรก แต่น้องเราเป็นคนดื้อ ไม่ฟังใครทั้งนั้น คุยเรื่องนี้คือทะเลาะกันบ้านแตก จนพ่อแม่เลิกพูด เลิกเตือน และทำใจยอมรับ ก่อนหน้าคือเขาอยู่ด้วยกันสองคน แฟนน้องเราทำงานรับจ้างรายได้ไม่แน่นอน เรียนไม่จบ ม.ปลาย (น้องเราจบ ป.ตรี มีงานประจำ) สภาพการอยู่ด้วยกันคือ น้องเรารับผิดชอบค่าใช้จ่ายแทบจะทั้งหมด ผ่อนรถ เช่าบ้าน ค่ากินค่าอยู่ หลายครั้งที่ไม่พอก็มายืมเรา ยืมแม่ แถมผู้ชายเคยแต่งงานมีลูกโตมากแล้วแต่แยกทางกัน ไม่รู้เหมือนกันว่าชีวิตครอบครัวเก่าเขาเป็นยังไง กับครอบครัวญาติผู้ชาย น้องเราก็ไม่โอเค มองว่าเป็นคนไม่มีมารยาท วิธีคิด วิธีมองโลกก็ต่างกัน ไม่ชอบการไปสุงสิงกับญาติผู้ชายเลย แต่น้องเราก็ยังคงจะคบค่ะ เราเคยเตือนว่านี่คือสิ่งที่เขาเลือกนะ เขาเลือกแบบนี้เอง พยายามถามเขาว่าทำไมเลือกแบบนี้ น้องเราก็มีกังวลเครียดแต่ก็ไม่เลิกค่ะ จนนี่จะเป็น 10 ปี แล้วที่คบกันไม่มีท่าทางว่าเขาจะแต่งงานกัน เรามองไม่เห็นเลยว่าน้องเราจะฝากชีวิตกับคนแบบนี้ได้ยังไง
ปัญหาคือ พอเจอโควิด งานรับจ้างมันแทบจะไม่มี ถึงมีทำไปก็ลำบากดูไม่คุ้มเลย พ่อแม่เราเลยอยากให้น้องพาแฟนกลับมาอยู่บ้าน เพราะบ้านเราทำเกษตรมีที่ดินให้พอทำมาหากินได้อยู่แล้ว แล้วพ่อแม่ก็แก่แล้วมีคนช่วยน่าจะดี และน่าจะดีกว่าไปรับจ้างแบบนั้นจะได้มีเงินตั้งตัวกัน เพราะยังไงน้องเราคงไม่เลิก กับคนนี้
วิถีชีวิตคือเขาไปรับส่งน้องเรา แล้วก็กลับมาบ้าน ไม่คุยหรือสุงสิงกับใครเท่าไหร่ กับเรานี่แทบไม่มองหน้าและคุยกันเลยค่ะ แต่เราก็ไม่ได้อยากจะคุยด้วยเท่าไหร่นะคะ คือ เราเครียดและนอยมาก ที่ปกติกลับบ้านมาเราจะรู้สึกสบายใจ รู้สึกปลอดภัยว่านี่คือบ้านของเรา และเจอคนที่เราอยู่ด้วยแล้วสบายใจ เราคิดว่าเรารู้สึกแบบนี้เพราะทั้งชีวิตเราพยายามตั้งใจเรียนพยายามหางานดีๆ ทำ เพื่อจะได้อยู่ในสังคมที่ดีขึ้น และอยากให้คนในบ้านมีชีวิตที่ดีขึ้น ทุกอย่างมันกำลังจะลงตัว ทำไมเราต้องมาเจออะไรแบบนี้ เจอคนที่ไม่พยายามอะไรในชีวิต มาอยู่ใกล้ตัวแบบนี้ มันหงุดหงิดมากค่ะ
เขาพยายามจะทำงานรอบบ้านกอกๆแกกๆ วันละนิดๆหน่อยๆ ช่วยแม่กับพ่อบ้าง แต่ไม่ใช่คนที่อาสาแข่งขัน คือ ไม่พยายามนั่นเอง แล้วก็กลับเข้าห้องไปนอนเปิดทีวีเสียงดังไม่เกรงใจกันเลย เราไม่เห็นความพยายามของคนๆ นี้ ที่จะสร้างเนื้อสร้างตัว และตั้งใจจะดูแลน้องเราเลย แม่ก็มีปรับทุกข์กับเราบ้างแต่ก็ไม่กล้าไปบอกหรือเตือนเขาตรงๆ
ทำไมความอึดอัดใจมันกลายมาตกกับคนในครอบครัวแบบนี้ เราไม่รู้จะจัดการกับคนแบบนี้ยังไงและสภาพแบบที่เกิดขึ้นแบบนี้ยังไงเหมือนกันค่ะ หนักใจมาก เพราะก็ไม่อยากจะบั่นทอนความตั้งใจของน้อง ที่พยายามจะสร้างครอบครัว แต่เราทำใจยอมรับคนแบบนี้มาเป็นครอบครัวไม่ได้จริงๆ
รับไม่ได้กับการเลือกแฟนของน้องสาวและสุดท้ายเขาพามาอยู่ในบ้าน ควรทำยังไงดี
ปัญหาคือ พอเจอโควิด งานรับจ้างมันแทบจะไม่มี ถึงมีทำไปก็ลำบากดูไม่คุ้มเลย พ่อแม่เราเลยอยากให้น้องพาแฟนกลับมาอยู่บ้าน เพราะบ้านเราทำเกษตรมีที่ดินให้พอทำมาหากินได้อยู่แล้ว แล้วพ่อแม่ก็แก่แล้วมีคนช่วยน่าจะดี และน่าจะดีกว่าไปรับจ้างแบบนั้นจะได้มีเงินตั้งตัวกัน เพราะยังไงน้องเราคงไม่เลิก กับคนนี้
วิถีชีวิตคือเขาไปรับส่งน้องเรา แล้วก็กลับมาบ้าน ไม่คุยหรือสุงสิงกับใครเท่าไหร่ กับเรานี่แทบไม่มองหน้าและคุยกันเลยค่ะ แต่เราก็ไม่ได้อยากจะคุยด้วยเท่าไหร่นะคะ คือ เราเครียดและนอยมาก ที่ปกติกลับบ้านมาเราจะรู้สึกสบายใจ รู้สึกปลอดภัยว่านี่คือบ้านของเรา และเจอคนที่เราอยู่ด้วยแล้วสบายใจ เราคิดว่าเรารู้สึกแบบนี้เพราะทั้งชีวิตเราพยายามตั้งใจเรียนพยายามหางานดีๆ ทำ เพื่อจะได้อยู่ในสังคมที่ดีขึ้น และอยากให้คนในบ้านมีชีวิตที่ดีขึ้น ทุกอย่างมันกำลังจะลงตัว ทำไมเราต้องมาเจออะไรแบบนี้ เจอคนที่ไม่พยายามอะไรในชีวิต มาอยู่ใกล้ตัวแบบนี้ มันหงุดหงิดมากค่ะ
เขาพยายามจะทำงานรอบบ้านกอกๆแกกๆ วันละนิดๆหน่อยๆ ช่วยแม่กับพ่อบ้าง แต่ไม่ใช่คนที่อาสาแข่งขัน คือ ไม่พยายามนั่นเอง แล้วก็กลับเข้าห้องไปนอนเปิดทีวีเสียงดังไม่เกรงใจกันเลย เราไม่เห็นความพยายามของคนๆ นี้ ที่จะสร้างเนื้อสร้างตัว และตั้งใจจะดูแลน้องเราเลย แม่ก็มีปรับทุกข์กับเราบ้างแต่ก็ไม่กล้าไปบอกหรือเตือนเขาตรงๆ
ทำไมความอึดอัดใจมันกลายมาตกกับคนในครอบครัวแบบนี้ เราไม่รู้จะจัดการกับคนแบบนี้ยังไงและสภาพแบบที่เกิดขึ้นแบบนี้ยังไงเหมือนกันค่ะ หนักใจมาก เพราะก็ไม่อยากจะบั่นทอนความตั้งใจของน้อง ที่พยายามจะสร้างครอบครัว แต่เราทำใจยอมรับคนแบบนี้มาเป็นครอบครัวไม่ได้จริงๆ