ประสบการณ์ขนหัวลุกที่จังหวัดศรีสะเกษ

* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะ
กระทู้คำถาม
ประสบการณ์ขนหัวลุกที่ได้เจอกับตัวเอง
เราได้มีโอกาสไปอยู่ที่จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งอำเภอที่เราไปอยู่นั้นเป็นอำเภอที่มีเขตติดต่อกับประเทศกัมพูชา วันแรกที่ไปถึงก็เจอดีเลยค่ะ คือเราเดินทางไปถึงประมาณ 2 ทุมกว่าๆ ด้วยความที่นั่งรถนานไปถึงก็ขอเข้าห้องน้ำเลย ห้องน้ำที่นั่นเป็นห้องน้ำที่ทำแยกกับตัวบ้าน โดยจะอยู่ทางหลังบ้าน เราก็ขอตัวเดินไปเข้าห้องน้ำ ก่อนเข้าเราก็สังเกตเห็นต้นมะยมต้นใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง พอเราทำธุระในห้องน้ำเสร็จเราก็เดินมาที่ต้นมะยมซึ่งอยู่ไม่ไกลจากห้องน้ำเท่าไร เราเห็นมะยมลูกใหญ่มากแต่ต้นก็สูงมากเช่นกัน เราจึงปีนชั้นคว่ำจานที่อยู่ใกล้ๆต้นมะยมเพื่อเอื้อมไปเก็บลูกมะยมนั้น แต่แล้วเราก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อเราเงยหน้าพร้อมเอื้อมมือไปเก็บลูกมะยม เราเห็นเงาดำๆที่มีรูปร่างคล้ายผู้ชายตากลวงโบ๋ มันเป็นเหมือนกลุ่มควันที่มีรูปร่างหน้าตาเป็นคน เอื้อมมือมาจะจับมือเรา เราตกใจกรี๊ดลั่นบ้านพร้อมๆกับกระโดดลงมาจากชั้นคว่ำจานนั้น ทุกคนในบ้านวิ่งออกมาดูพร้อมถามว่าเราเป็นอะไร เราก็บอกว่าไม่มีอะไร ซึ่งเราไม่กล้าเล่าความจริงเพราะพึ่งไปอยู่ไม่กล้าพูดไรมากกลัวเค้าจะหาว่าเราบ้า หลังจากวันนั้นเวลาเราจะเข้าห้องน้ำเราต้องหาคนไปนั่งเฝ้าตลอดเลย
เหตุการณ์ต่อมาคือ เราชอบเห็นเงาที่เหมือนกลุ่มควันสีขาวๆที่มีรูปร่างคล้ายคนแก่ นั่งอยู่บนบันได้ขั้นแรกของชั้นบน ซึ่งบ้านที่เราไปอยู่นั้นข้างล่างจะทำด้วยปูนชั้นบนจะทำด้วยไม้เราเห็นคนแก่คนนั้นนั่งอยู่ที่เดิมทุกๆคืน แล้วจังหวัดนี้จะมีการจัดพิธีแซนโฎนตากันทุกปี ซึ่งพิธีดังกล่าวจะมีการนำอาหารคาว, หวาน, เหล้า, เบียร์ มาวางใส่ถาดแล้วจุดธูปวางไว้กลางบ้าน พอเราเดินเข้ามาในบ้านเราก็เห็นเงาขาวๆที่เราเห็นนั่งอยู่ตรงบันไดทุกคืนนั้น โดยวันนี้เราเห็นรายละเอียดเงานั้นอย่างชัดเจนคือเป็นยายแก่ๆใส่เสื้อสีขาวใส่ผ้าถุงนั่งยองๆเอานิ้วเขี่ยเลือกอาหารในถาดและหยิบเข้าปาก เราเห็นตอนแรกก็ตกใจนะ แต่พอมองดีๆแล้วทำไมรู้สึกอบอุ่น จนแม่แฟนเราเดินมาถามว่าเรายืนจ้องอะไรนานแล้ว เห็นอะไรหรือป่าว เราก็บอกป่าวค่ะ แต่ในใจก็คิดกับคำถามนะ เห็นอะไรหรือป่าวเนี่ย คือเหมือนเค้ารู้ว่าเราเห็น หรือมีคนเคยเห็นหรือป่าว สรุปยายคนนั้นคือยายทวดของแฟนเรา ซึ่งยายทวดคนนี้รักและหวงแฟนเรามากๆ จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เราเห็นท่านเพราะเราชอบโกรธชอบงอนชอบว่าแฟนเราบ่อยๆ
เหตุการณ์ต่อมาคือเหตุการณ์ที่เรารู้สึกกลัวที่สุด กลัวจนต้องรีบกลับกรุงเทพฯ แบบไม่อยากอยู่แล้วมันน่ากลัวมาก คือมีคืนหนึ่งเรานอนอยู่ในห้องซึ่งห้องที่เรานอนจะมีหน้าต่างเป็นกระจกที่สามารถมองเห็นถนนหน้าบ้านได้อย่างชัดเจน คืนนั้นเราได้ยินเสียงหมาหอนรับกับเป็นทอดๆรอบหมู่บ้าน แล้วเสียงหมาก็หอนรับกับมาเลื่อยๆจนถึงหน้าบ้านเรา หมาที่บ้านเราก็หอน หอนแบบขนลุกเรากับแฟนเราจึงชวนกันแง้มม่านตรงหน้าต่างออกไปดู ภาพที่เห็นคือ เห็นหมาดำตัวหนึ่งวิ่งมาจากทางที่หมาหอน แต่แปลกหมาดำตัวนั้นวิ่งมาเลื่อยๆ กลับกลายเป็นคนแก่วิ่งแบบไม่ยกขาวิ่งแบบลากเท้า เท้าชิดเท้าแบบสยองมากเสียงวิ่งของยายแก่นั้นดัง ฟืด ฟืด ฟืด น่ากลัวสุดๆ แล้วยายแก่นั้นก็วิ่งไปนอนหมอบอยู่กลางสี่แยก ซึ่งบ้านเราจะอยู่ตรงหัวมุมระหว่างสี่แยกพอดี แล้วอีกอย่างถ้าวิ่งตรงไปจากทางที่ยายแก่คนนั้นวิ่งมาจะเป็นทางไปบ้านของสัปเหร่อประจำวัดของหมู่บ้านที่เราอยู่ แล้วสี่แยกนี้จะมีไฟทางจึงมองเห็นยายแก่ที่นอนหมอบคลานไปคลานมาอย่างชัดเจน เราก็แอบมองอย่างกลัวๆกล้าๆกลัวว่ายายแก่คนนั้นจะหันมามองเรามั้ย แต่ยายแก่ก็ไม่หันมาแล้วก็กลายเป็นหมาดำวิ่งหายไปทางบ้านสัปเหร่อ จากนั้นเราก็พยายามข่มตานอนแต่ทำยังไงก็ไม่หลับเพราะในใจคือกลัวมากอยากไปจากที่นี่ตอนนี้เลย คือมันน่ากลัวจนตัวสั่นไปหมด พอเวลาประมาณตีสามเราก็ได้ยินเหมือนเสียงปืนหรือประทัดนี่แหละสามครั้ง เราจึงถามแฟนเราว่า เสียงอะไร แฟนเราบอกว่าเสียงปืนสามครั้งแสดงว่ามีคนในหมู่บ้านตาย ปรากฏว่าคนที่ตายคือยายที่มานอนหมอบๆตรงสี่แยกที่เราเห็น ซึ่งยายคนนี้แกไม่เคยออกจากบ้านไปไหนเลยเรามาอยู่เป็นเดือนแล้วเรายังไม่เคยเห็นแกเลย พึ่งเห็นตอนไปงานศพแกและรูปหน้าศพที่ทำให้เรารู้ว่ายายคนนี้ที่ไปนอนหมอบอยู่กลางสี่แยกนั้นเอง เราได้ยินคนในหมู่บ้านคุยกันในงานศพแกว่า ดีแล้วที่ตายไปเพราะอยู่ทุกคนก็กลัว เพราะมีคนบอกว่าแกเป็นผีปอบ เราก็ตกใจนะว่าสมัยนี้ยังมีปอบอีกหรอ ก็นั่งประติดประต่อกับสิ่งที่เราเจอมาก็น่ากลัวเข้าไปอีก หลังจากที่แกตายเราก็ต้องได้ยินเสียงหมาหอนตอนเที่ยงคืนทุกคืน แฟนเราเล่าว่าหลังจากมีคนตายในหมู่บ้าน สัปเหร่อจะทำการให้ข้าวผีตอนเที่ยงคืนเป็นเวลา 7 วันแล้วบ้านเราคือทางผ่านไปบ้านสัปเหร่อ เรานี่ขอกลับกรุงเทพฯเลย
*** มีภาคต่อนะคะ ใครอยากอ่านก็คอมเม้นมาบอกได้นะคะ เราจะได้มาเล่าให้ฟัง****
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่