สำนวนของเติ้ง เสี่ยว ผิง "แมวจะสีอะไรไม่สำคัญ ขอให้จับหนูได้ก็พอ"

มีคนบอกกับผมว่า "คนที่จบสถาบันที่ดีๆ มีชื่อเสียง สอบเข้ายาก น่าจะทำงานได้ดีกว่า คนที่จบจากสถาบันเกรดรองลงไป."

ผมจึงตอบกลับไปว่า  "แมวจะสีอะไรไม่สำคัญ ขอให้จับหนูได้ก็พอ" 
ผมอธิบายต่อว่า "ถ้าผมจะสนใจเรื่องจับหนู ผมจะไม่ค่อยสนใจเรื่องแมวว่าจะสีอะไร."

จริงอยู่ แมวที่ได้รับการ training การ coaching มาอย่างดี พื้นฐานการจับหนู จะดีกว่า แต่ท้ายที่สุดแล้ว ในชีวิตการทำงาน ถ้าสนใจเรื่องผลลัพธ์ของประสิทธิภาพแมว ก็คือแบบที่เติ้ง เสี่ยว ผิง สนใจเรื่องการจับหนู มากกว่าจะมานั่งสนใจว่าแมวจะสีอะไร

และท้ายที่สุดแล้ว เติ้ง ก็พัฒนาจีน จากประเทศที่ย่อยยับจากสงครามมาเป็นมหาอำนาจที่ USA ต้องเกรงในปัจจุบัน

ผมอธิบายต่อว่า สุดท้ายแล้ว สถาบันไม่ได้มีส่วนสำคัญกับประสิทธิภาพมากนัก เพราะยังมีปัจจัยอื่นที่ต้องพิจารณาอีก

คู่สนทนาผม ตอบกลับว่า ผมกำลังนอกประเด็น วาทะนี้ น่าจะเอามาเทียบกับเรื่องนี้ไม่ได้(หมายถึงเรื่องสถาบันที่คนจบมาแล้วมาทำงาน)
แต่ผมเห็นแย้ง จึงมีการ discuss กันไปมา(อย่าซีเรียสนะครับ เป็นเพื่อนสนิทกัน สามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง ไม่ได้ทะเลาะกัน แค่พยายามหักล้างความสมเหตุสมผลกัน)

ท้ายที่สุดแล้ว ผมสรุปต่อคู่สนทนาที่ผม discuss ด้วยว่า "แมวจะสีอะไรไม่สำคัญ ขอให้จับหนูได้ก็พอ"  คือ ผมไม่สนใจสถาบันที่เค้าจบมา ถ้าผมจะเลือกเค้ามาทำงานอะไรสักอย่าง แต่จะดูองค์ประกอบรวมในหลายๆด้านเป็นหลัก 

เพื่อนๆ มีความเห็นกับเรื่องนี้อย่างไรบ้างครับ
(ขออย่านำไปเทียบกับบางระบบ หรือวิชาชีพเฉพาะด้าน เช่น แพทย์,ทหารที่จบ จปร. ,มหาดไทย ที่ต้องเป็นสิงห์ดำสิงห์แดง,วิศวะกรมชลที่ต้องจบ ชลประทาน อะไรแบบนี้ นะครับ เพราะเป็นโครงสร้างแบบอัตลักษณ์ในหน่วยงาน ที่ต้องใช้ระบบ command ในการปกครอง) กำลังพูดถึงงานทั่วไป แบบกลางๆ เช่น บริษัทเอกชนทั่วไป

ปล. ผมจบจากสถาบันที่มีชื่อเสียงที่ได้รับการยอมรับในระดับสูง