ยาวนิดหน่อยนะคะ แต่แบ่งหัวข้อให้แล้ว
สวัสดีค่ะ ขออนุญาตแนะนำตัวคร่าวๆ เพิ่งเรียนจบ กำลังทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศค่ะ (เด็กเพิ่งจบในยุคโควิด หางานยากมาก แต่ก็บากบั่นหามาได้ตั้งแต่โควิดยังไม่ซาค่ะ5555555) และก็มีอาชีพเสริมคือ นักร้อง ร้านเหล้า ผับ งานเลี้ยง (ร้องมา5-6ปีแล้วค่ะตั้งแต่ม.ปลาย)
เข้าเรื่องแฟน...
เราคบกับแฟนมาสองปี คบกันตอนแรกเราอยู่ปี 3 พร้อมกันค่ะ (อยู่คนละมอแต่ใกล้กัน มาอยู่หอเดียวกัน) แล้วพอจะขึ้นปี4 อยู่ๆเขาก็ซิ่วมาปี 1 ใหม่ กลายเป็นว่าเราเรียนจบคนเดียว แต่เขายังเรียนอยู่ ตอนนี้อยู่ปี2แล้วค่ะ เขาเป็นคนค่อนข้างขี้เกียจ เที่ยวร้านเหล้า และก็ติดเพื่อนนิดหน่อยค่ะ เขาจบได้แต่ละปีเพราะเราช่วยเขาทำงานหลายๆอย่าง แต่เรื่องความสัมพันธ์ เขาเป็นคนเอาใจค่ะ เราอยู่ด้วยกันเหมือนเพื่อน มีอะไรคุยกันตลอด เป็นความสบายใจของกันและกัน เราสนิทกับที่บ้านเขามาก แต่เวลาทะเลาะกันจะค่อนข้างหนักค่ะ ด่าบ้าง ตีกันบ้าง แต่ก็ยังไม่เลิกค่ะ ยังอยู่ด้วยกันได้
มาถึงช่วงก่อนจะเลิกกัน...
พอดีเรามาฝึกงานที่สำนักใหญ่ของบริษัทที่กทม.2เดือน เลยไม่ได้กลับไปหาเขา แล้วบวกกับร้านเหล้าเริ่มเปิดแล้วหลังจากโควิด เขาก็เที่ยวมาราธอนเลย ไม่สนใจเราบ้าง ไม่ตอบบ้าง เป็นช่วงที่เราทะเลาะกันบ่อย เลิกกันบ่อย เพราะเขาไม่สนใจ และก็มาวันนึงเราจับได้ว่าเขานอกใจ แต่จับได้ไวเขาเลยยังไม่นอกกายค่ะ คือเขาไปร้านเหล้า แล้วเขาเหมือนไปเจอผญคนนึง เขาเลยเอารูปคู่ในไอจีเราลง เพื่อแสดงความโสดแหละ แต่เราเห็นก่อน เลยโทรทะเลาะกันยกใหญ่ เขายอมรับว่าเมา ชั่ววูบ เราก็ให้อภัย แต่ความรู้สึกเราแย่ลงมาก จากนั้นเราก็ไม่คุยกับแฟนเราเลย เงียบ คุยกันวันละ3ประโยค มาประมาณ 2อาทิตย์ ซึ่งเขาก็ยังคงปกติ เที่ยวกับเพื่อน ไม่ได้รู้สึกว่าเราโกรธหรือผิดปกติอะไร ทั้งที่ปกติเราจะคุยกันตลอด บอกตลอดไปไหนทำอะไร
จุดเปลี่ยน...
จนเราคิดยังไงไม่รู้ไปเล่นทินเดอร์ เจอคนๆนึง เขาไม่เอารูปขึ้นนะ เขาเขียนว่า หาคน FWB/ONS มีแฟนแล้ว เราก็ปัดไป เพราะคิดว่าเออไม่เคยลองอ่ะ ละก็ดูไม่ผูกพันด้วย (เราเคยเลิกกับแฟน แล้วเหงาๆก็หาปัดทินเดอร์นี่แหละ 555555) แล้วคนนั้นก็ทักมา อายุ20 ห่างจากเรา3ปี เรียนอยู่ปี2 คือเราคุยเรื่องแบบนั้นอย่างเดียวคือ หาคนนอนใช่ไหม ที่ไหนเวลาไหนนัดได้เลยนะ แต่เขาคุยดีมาก น่ารัก ถ่อมตัว เหมือนไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน ทำความรู้จักเราบลาๆ เขาขอไอจีเราก็ให้ เพราะเราก็อยากรู้ว่าเขาหน้าตายังไงก่อนจะตกลงไปเจอ พอดูเห็น เออน่ารักดีนะ ขาวตี๋ ก็ไม่แย่ ก็ตกลงไปเจอกัน เขายอมนั่งแกร็บจากรังสิตมาหาถึงใกล้ๆที่ทำงานเรา เขาบอกว่า พี่จะได้ไปทำงานสะดวกๆ พอเจอกันเขาเลี้ยงบาบีก้อน และเขาก็ให้เราเลือกว่าอยากนอนที่ไหน จากนั้นเรามาจบที่ห้อง แต่เขาไม่ทำไรเลยนะ เขาบอกผมว่าผมชอบพี่จริงๆ ผมไม่อยากทำอะไรพี่เลย นอนจับมือเฉยๆได้ไหม แล้วเราก็นอนคุยเรื่องของกันและกันจนง่วง แล้วนอนไปพร้อมกัน คือเรารู้สึกดีมาก มันเป็นช่วงเวลาที่เราลืมเรื่องแฟนไปเลย
จะบอกว่าน้องเขามีแฟนทำไมยังมาเล่น เพราะเขาบอกเบื่อแฟนมาก แล้วอยากเลิก แต่ที่เลิกไม่ได้เพราะแฟนเป็นซึมเศร้า พยายามตีตัวออกห่าง น้องโดนหนักมาก ทั้งโดนแทง โดนฟันนิ้ว เย็บไป10กว่าเข็ม กัดนิ้วแตก แฟนน้องกรี๊ดลั่นคอนโด จนคนข้างห้องไม่พอใจเขียนจดหมายด่าหลายรอบ จนน้องไม่สามารถอยู่คอนโดนั้นได้ เราฟังแล้วรู้สึกสงสารมาก ก็ให้กำลังใจแล้วบอกถ้าไม่ไหวก็ค่อยๆออกมา ถ้าออกมาเฉยๆเลย แฟนน้องไม่เอาน้องไว้แน่ๆ
หลังจากคืนนั้น...
จากนั้นเราเลื่อนมาคุยกันในไลน์ เราคุยกันทั้งวัน แล้วเรารู้สึกว่า เราจะอยู่แบบนี้ไม่ได้ มันผิด เราเลยบอกเลิกแฟนเรา ซึ่งแฟนเราก็บอกโอเคครับ ขอให้โชคดี แบบเฉยๆเลย ไม่มีการยื้อ การรั้งอะไรใดๆ เราเสียใจนะ เราก็ทักไปบอกน้องว่าเออเลิกแล้ว เขาดูพร้อมเลิกมากเลย แต่เราไม่เสียใจเหมือนเก่าแล้ว ไม่ร้องไห้ฟูมฟายเหมือนเดิม ประจวบเหมาะกับน้องเขาโดนแฟนไล่ออกจากหอพอดี แล้วเขาก็เลิกกัน และเราก็เลยได้มาอยู่ด้วยกันที่คอนโดน้อง
ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันหลังเลิกกับแฟน...
เรามาอยู่กับน้องคือมีความสุข อาจจะด้วยความใหม่หรือเปล่า แต่น้องดูเป็นคนโตมากๆ ทั้งความคิด และการพูดจา ต่างจากแฟนเรา และจุดพีคคือ น้องให้เรามาอยู่กับน้องที่คอนโด ซึ่งห่างจากออฟฟิศเรา 40กว่าโล ต้องขึ้นทางด่วนไปกลับเกือบ 500 ซึ่งน้องให้เงินเราตอนเช้า 1000บ้าง 2000บ้าง 500บ้าง(เพราะเราไม่ขึ้นทางด่วน55555)ให้เราเอาไปใช้ที่ทำงาน กินข้าว หรือซื้อขนมกิน และคือน้องให้เงินเราใช้ตลอดตั้งแต่มาอยู่ด้วยกัน จะซื้อรองเท้า กระเป๋าให้ แต่เราไม่เอา เราบอกเอาราคาแค่2kก็พอ น้องเลือกอันละ20kให้ คือเราแบบเกรงใจมาก เลยเอาไว้ก่อน นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่น้องให้เรา ในระยะเวลาแค่ครึ่งเดือน
ทำไมน้องเงินเยอะ...
น้องทำหลายธุรกิจหลายบริษัทค่ะ น้องได้เงินเดือนจากโรงแรมที่จังหวัดนึง จากการออกแบบทริปให้ ซึ่งเซ็นต์เป็นสัญญาไม่รู้กี่ปี ได้เดือนละ 30k น้องทำร้านเสื้อผ้าแบรนด์ตัวเองเดือนละ 20k-50k ได้เงินจากบริษัทแม่ (ซึ่งตอนนี้เรายังไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร) เดือนละ 100k-150k(ซึ่งบ.แม่เนี่ยเขาจ่ายมาให้อยู่แล้วทุกเดือน ซึ่งเป็นเงินเดือนของพนักงานในบ.น้อง ซึ่งพนง.ของน้องจะได้ไม่ถึง 10kหรอก เพราะจะให้ตามผลงาน สุดท้ายเงินก็จะตกเหลือที่น้อง ) เงินเดือนแยกที่น้องได้คือ 10k-25k ซึ่งเดือนนึงน้องได้ต่ำๆคือ 100k-150k น้องสามารถซื้อคอนโดได้เองภายใน 2 ปี คิดดูว่าเก่งแค่ไหน แถมพูดได้ 3 ภาษา เพราะเรียนจบhigh school ที่cambridge อินเดีย
ช่วงการตัดสินใจ...
แฟนเก่าเรากลับมาง้อค่ะ ขอโทษ แล้วบอกว่ามันไม่มีความสุขเลย ขาดเราไม่ได้ แล้วคือเราต้องย้ายกลับมาทำงานที่ชลบุรีพอดีค่ะ ซึ่งมันจะมีหอเก่าเราที่เช่าไว้กับแฟนตั้งนานแล้ว แต่ตอนนี้แฟนอยู่คนเดียว คือเรายังไม่มีที่อยุ่ใหม่ เราเลยขอแฟนเก่าว่าขออยู่ด้วยสัก1-2สัปดาห์นะ จนกว่าจะมีหอใหม่ และเราก็บอกแฟนไปว่าเรามีคนใหม่แล้วนะ ถ้าเธออึดอัดเรากลับไปอยู่บ้านได้ (เรามีบ้านที่ตัวเมืองค่ะ แล้วใกล้ที่ทำงานด้วย แต่บ้านเรายังทำไม่เสร็จ น่าจะอีกประมาณ3เดือน เราเลยไม่อยากหาคอนโดใหม่เพราะสัญญามันเป็นปี) แฟนเรายอมค่ะ ให้เราอยู่ แล้วคือแฟนเราก็ทำดีกับเรามากๆ จนเรารู้สึกขึ้นมาอีกครั้ง แต่ตอนที่กลับมาอยู่ชลฯ เราบอกน้องหมดเลยค่ะว่าเรากลับมาอยู่กับแฟนเก่านะ น้องโอเคค่ะ น้องไม่ว่า น้องบอกเข้าใจและยอมรับว่าถ้าพี่กลับไปหาคนเก่าผมก็จะไม่โกรธ คือเข้าใจเราหมดทุกอย่าง เรารู้สึกผิดมาก แต่เราก็ไม่อยากหาคอนโดใหม่ ทั้งที่น้องบอกเองเลยนะคะว่า น้องจะช่วยออกค่าคอนโดให้ครึ่งนึง ถ้าไม่มีค่าประกัน ก็เดี๋ยวช่วยออกให้ คือน้องซัพพอร์ทเราหมด ตัดภาพมาที่ตอนอยู่กับแฟนค่ะ เรามีความสุขเหมือนเดิมเลยค่ะ เราเล่นหยอกล้อกันเหมือนเดิม คือความรู้สึกเดิมกลับมาทั้งหมด แล้วเขาก็พูดว่า กลับมาได้ไหม อยู่กับเราต่อนะ เราร้องไห้เลย เพราะเรารู้อยู่แล้วว่ายังไงเราก็ต้องเลือกสักคน
สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจไม่ได้...
เรื่องแฟนเก่า
1.เรากลัวว่ากลับไปแล้วมันจะเหมือนเดิม ทะเลาะกัน ไม่สนใจกันเหมือนเดิม
2.เรารู้สึกว่าเราสบายใจกว่าเวลาคุยกับแฟน
3.แฟนอยู่กับเรามาตั้งแต่เราเดินเท้า แว๊นมอไซค์ และจนตอนนี้เรามีรถยนต์ค่ะ เติบโตมาด้วยกัน
4.แฟนเรารับได้ค่ะที่เราเป็นนักร้อง (ไม่ใช่แค่การร้องเพลงนะคะ เราร้องงานเลี้ยงด้วย มันมีอยู่แล้วที่ต้องนุ่งสั้น โชว์อก หรือเล่นกับลูกค้าแบบวาบหวิว ซึ่งเขารับได้หมดค่ะ ไม่เคยว่าเราเลยสักครั้ง ว่าแค่ตอนเมาแล้วดูแลตัวเองไม่ได้ค่ะ แล้วเขาก็จะไปรับเราตลอด)
5.แฟนเราทำงานไม่ค่อยเป็นค่ะ ง่ายๆคือมองอนาคตไม่ออก มองออกอย่างเดียวคือทำกิจการต่อจากครอบครัว
6.เรากับแฟนไลฟ์สไตล์คล้ายๆกันค่ะ คุยกันได้ เป็นทั้งเพื่อน ทั้งแฟน (เบอร์แบบลำบากไปด้วยกันได้ สบายก็สบายไปด้วยกัน)
เรื่องคนใหม่
1.คนใหม่ของเราเป็นโรคแพนิคค่ะ และก็ค่อนข้างต้องดูแลเยอะ ไม่ขออธิบายนะคะสำหรับโรคนี้ แต่เราแค่รู้สึกว่ามันไม่ปกติค่ะที่เราคบกัน เราต้องคอยมากังวลเรื่องที่น้องกังวล เข้าใจเราใช่ไหมคะ 5555555 คือมันมีความสุขบนความเครียดอยู่ในทุกๆวันค่ะ
2.น้องเก่งค่ะ สอนโทอิคเราด้วย สอนเราพูดภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เราต่อยอดตัวเองได้
3.น้องดูมีอนาคตค่ะ เพราะเก่ง และก็เอาตัวรอดได้ น้องไม่ขอตังค์พ่อแม่ค่ะ น้องส่งตัวเองเรียน (เอกชนด้วยค่ะ)
4.น้องนั่งแกร็บเป็นอย่างเดียวค่ะ ขับรถไม่เป็น น้องบอกว่า ที่หาเงินมาได้เยอะๆเพราะซื้อความสบายไง
5.น้องชอบใช้เงินแก้ปัญหาค่ะ เพราะคิดว่าทำไมเราต้องลำบากคิดแก้ปัญหาเองด้วย ทั้งที่เราก็มีเงิน
6.ไลฟ์สไตล์เราสองคนต่างกันมากค่ะ น้องดูอินเตอร์ถึงติสท์ แต่เราค่อนข้างไทบ้าน
7.น้องไม่อยากให้เราร้องเพลงค่ะ
ยาวไปหน่อยขอโทษนะคะ แต่มันคือช่วงเวลาที่ลำบากใจมากเลยค่ะ เพราะเราไม่อยากเปลี่ยนแฟนแล้ว เราคิดว่าวัยทำงานมันหาคนที่เข้ากันยากค่ะ และให้มารับได้ในตัวเรา เราก็ต้องเริ่มอธิบาย เริ่มทำความรู้จักใหม่ เสียเวลาไปอีกกี่ปีก็ไม่รู้ เราเลยไม่รู้ต้องเลือกอนาคตหรือความสบายใจก่อนดีค่ะ
ขอบคุณค่ะ
คนเก่าที่อยู่กับเราตั้งแต่ยังไม่มีอะไร กับ คนใหม่ที่มีพร้อมทุกอย่าง
สวัสดีค่ะ ขออนุญาตแนะนำตัวคร่าวๆ เพิ่งเรียนจบ กำลังทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศค่ะ (เด็กเพิ่งจบในยุคโควิด หางานยากมาก แต่ก็บากบั่นหามาได้ตั้งแต่โควิดยังไม่ซาค่ะ5555555) และก็มีอาชีพเสริมคือ นักร้อง ร้านเหล้า ผับ งานเลี้ยง (ร้องมา5-6ปีแล้วค่ะตั้งแต่ม.ปลาย)
เข้าเรื่องแฟน...
เราคบกับแฟนมาสองปี คบกันตอนแรกเราอยู่ปี 3 พร้อมกันค่ะ (อยู่คนละมอแต่ใกล้กัน มาอยู่หอเดียวกัน) แล้วพอจะขึ้นปี4 อยู่ๆเขาก็ซิ่วมาปี 1 ใหม่ กลายเป็นว่าเราเรียนจบคนเดียว แต่เขายังเรียนอยู่ ตอนนี้อยู่ปี2แล้วค่ะ เขาเป็นคนค่อนข้างขี้เกียจ เที่ยวร้านเหล้า และก็ติดเพื่อนนิดหน่อยค่ะ เขาจบได้แต่ละปีเพราะเราช่วยเขาทำงานหลายๆอย่าง แต่เรื่องความสัมพันธ์ เขาเป็นคนเอาใจค่ะ เราอยู่ด้วยกันเหมือนเพื่อน มีอะไรคุยกันตลอด เป็นความสบายใจของกันและกัน เราสนิทกับที่บ้านเขามาก แต่เวลาทะเลาะกันจะค่อนข้างหนักค่ะ ด่าบ้าง ตีกันบ้าง แต่ก็ยังไม่เลิกค่ะ ยังอยู่ด้วยกันได้
มาถึงช่วงก่อนจะเลิกกัน...
พอดีเรามาฝึกงานที่สำนักใหญ่ของบริษัทที่กทม.2เดือน เลยไม่ได้กลับไปหาเขา แล้วบวกกับร้านเหล้าเริ่มเปิดแล้วหลังจากโควิด เขาก็เที่ยวมาราธอนเลย ไม่สนใจเราบ้าง ไม่ตอบบ้าง เป็นช่วงที่เราทะเลาะกันบ่อย เลิกกันบ่อย เพราะเขาไม่สนใจ และก็มาวันนึงเราจับได้ว่าเขานอกใจ แต่จับได้ไวเขาเลยยังไม่นอกกายค่ะ คือเขาไปร้านเหล้า แล้วเขาเหมือนไปเจอผญคนนึง เขาเลยเอารูปคู่ในไอจีเราลง เพื่อแสดงความโสดแหละ แต่เราเห็นก่อน เลยโทรทะเลาะกันยกใหญ่ เขายอมรับว่าเมา ชั่ววูบ เราก็ให้อภัย แต่ความรู้สึกเราแย่ลงมาก จากนั้นเราก็ไม่คุยกับแฟนเราเลย เงียบ คุยกันวันละ3ประโยค มาประมาณ 2อาทิตย์ ซึ่งเขาก็ยังคงปกติ เที่ยวกับเพื่อน ไม่ได้รู้สึกว่าเราโกรธหรือผิดปกติอะไร ทั้งที่ปกติเราจะคุยกันตลอด บอกตลอดไปไหนทำอะไร
จุดเปลี่ยน...
จนเราคิดยังไงไม่รู้ไปเล่นทินเดอร์ เจอคนๆนึง เขาไม่เอารูปขึ้นนะ เขาเขียนว่า หาคน FWB/ONS มีแฟนแล้ว เราก็ปัดไป เพราะคิดว่าเออไม่เคยลองอ่ะ ละก็ดูไม่ผูกพันด้วย (เราเคยเลิกกับแฟน แล้วเหงาๆก็หาปัดทินเดอร์นี่แหละ 555555) แล้วคนนั้นก็ทักมา อายุ20 ห่างจากเรา3ปี เรียนอยู่ปี2 คือเราคุยเรื่องแบบนั้นอย่างเดียวคือ หาคนนอนใช่ไหม ที่ไหนเวลาไหนนัดได้เลยนะ แต่เขาคุยดีมาก น่ารัก ถ่อมตัว เหมือนไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน ทำความรู้จักเราบลาๆ เขาขอไอจีเราก็ให้ เพราะเราก็อยากรู้ว่าเขาหน้าตายังไงก่อนจะตกลงไปเจอ พอดูเห็น เออน่ารักดีนะ ขาวตี๋ ก็ไม่แย่ ก็ตกลงไปเจอกัน เขายอมนั่งแกร็บจากรังสิตมาหาถึงใกล้ๆที่ทำงานเรา เขาบอกว่า พี่จะได้ไปทำงานสะดวกๆ พอเจอกันเขาเลี้ยงบาบีก้อน และเขาก็ให้เราเลือกว่าอยากนอนที่ไหน จากนั้นเรามาจบที่ห้อง แต่เขาไม่ทำไรเลยนะ เขาบอกผมว่าผมชอบพี่จริงๆ ผมไม่อยากทำอะไรพี่เลย นอนจับมือเฉยๆได้ไหม แล้วเราก็นอนคุยเรื่องของกันและกันจนง่วง แล้วนอนไปพร้อมกัน คือเรารู้สึกดีมาก มันเป็นช่วงเวลาที่เราลืมเรื่องแฟนไปเลย
จะบอกว่าน้องเขามีแฟนทำไมยังมาเล่น เพราะเขาบอกเบื่อแฟนมาก แล้วอยากเลิก แต่ที่เลิกไม่ได้เพราะแฟนเป็นซึมเศร้า พยายามตีตัวออกห่าง น้องโดนหนักมาก ทั้งโดนแทง โดนฟันนิ้ว เย็บไป10กว่าเข็ม กัดนิ้วแตก แฟนน้องกรี๊ดลั่นคอนโด จนคนข้างห้องไม่พอใจเขียนจดหมายด่าหลายรอบ จนน้องไม่สามารถอยู่คอนโดนั้นได้ เราฟังแล้วรู้สึกสงสารมาก ก็ให้กำลังใจแล้วบอกถ้าไม่ไหวก็ค่อยๆออกมา ถ้าออกมาเฉยๆเลย แฟนน้องไม่เอาน้องไว้แน่ๆ
หลังจากคืนนั้น...
จากนั้นเราเลื่อนมาคุยกันในไลน์ เราคุยกันทั้งวัน แล้วเรารู้สึกว่า เราจะอยู่แบบนี้ไม่ได้ มันผิด เราเลยบอกเลิกแฟนเรา ซึ่งแฟนเราก็บอกโอเคครับ ขอให้โชคดี แบบเฉยๆเลย ไม่มีการยื้อ การรั้งอะไรใดๆ เราเสียใจนะ เราก็ทักไปบอกน้องว่าเออเลิกแล้ว เขาดูพร้อมเลิกมากเลย แต่เราไม่เสียใจเหมือนเก่าแล้ว ไม่ร้องไห้ฟูมฟายเหมือนเดิม ประจวบเหมาะกับน้องเขาโดนแฟนไล่ออกจากหอพอดี แล้วเขาก็เลิกกัน และเราก็เลยได้มาอยู่ด้วยกันที่คอนโดน้อง
ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันหลังเลิกกับแฟน...
เรามาอยู่กับน้องคือมีความสุข อาจจะด้วยความใหม่หรือเปล่า แต่น้องดูเป็นคนโตมากๆ ทั้งความคิด และการพูดจา ต่างจากแฟนเรา และจุดพีคคือ น้องให้เรามาอยู่กับน้องที่คอนโด ซึ่งห่างจากออฟฟิศเรา 40กว่าโล ต้องขึ้นทางด่วนไปกลับเกือบ 500 ซึ่งน้องให้เงินเราตอนเช้า 1000บ้าง 2000บ้าง 500บ้าง(เพราะเราไม่ขึ้นทางด่วน55555)ให้เราเอาไปใช้ที่ทำงาน กินข้าว หรือซื้อขนมกิน และคือน้องให้เงินเราใช้ตลอดตั้งแต่มาอยู่ด้วยกัน จะซื้อรองเท้า กระเป๋าให้ แต่เราไม่เอา เราบอกเอาราคาแค่2kก็พอ น้องเลือกอันละ20kให้ คือเราแบบเกรงใจมาก เลยเอาไว้ก่อน นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่น้องให้เรา ในระยะเวลาแค่ครึ่งเดือน
ทำไมน้องเงินเยอะ...
น้องทำหลายธุรกิจหลายบริษัทค่ะ น้องได้เงินเดือนจากโรงแรมที่จังหวัดนึง จากการออกแบบทริปให้ ซึ่งเซ็นต์เป็นสัญญาไม่รู้กี่ปี ได้เดือนละ 30k น้องทำร้านเสื้อผ้าแบรนด์ตัวเองเดือนละ 20k-50k ได้เงินจากบริษัทแม่ (ซึ่งตอนนี้เรายังไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร) เดือนละ 100k-150k(ซึ่งบ.แม่เนี่ยเขาจ่ายมาให้อยู่แล้วทุกเดือน ซึ่งเป็นเงินเดือนของพนักงานในบ.น้อง ซึ่งพนง.ของน้องจะได้ไม่ถึง 10kหรอก เพราะจะให้ตามผลงาน สุดท้ายเงินก็จะตกเหลือที่น้อง ) เงินเดือนแยกที่น้องได้คือ 10k-25k ซึ่งเดือนนึงน้องได้ต่ำๆคือ 100k-150k น้องสามารถซื้อคอนโดได้เองภายใน 2 ปี คิดดูว่าเก่งแค่ไหน แถมพูดได้ 3 ภาษา เพราะเรียนจบhigh school ที่cambridge อินเดีย
ช่วงการตัดสินใจ...
แฟนเก่าเรากลับมาง้อค่ะ ขอโทษ แล้วบอกว่ามันไม่มีความสุขเลย ขาดเราไม่ได้ แล้วคือเราต้องย้ายกลับมาทำงานที่ชลบุรีพอดีค่ะ ซึ่งมันจะมีหอเก่าเราที่เช่าไว้กับแฟนตั้งนานแล้ว แต่ตอนนี้แฟนอยู่คนเดียว คือเรายังไม่มีที่อยุ่ใหม่ เราเลยขอแฟนเก่าว่าขออยู่ด้วยสัก1-2สัปดาห์นะ จนกว่าจะมีหอใหม่ และเราก็บอกแฟนไปว่าเรามีคนใหม่แล้วนะ ถ้าเธออึดอัดเรากลับไปอยู่บ้านได้ (เรามีบ้านที่ตัวเมืองค่ะ แล้วใกล้ที่ทำงานด้วย แต่บ้านเรายังทำไม่เสร็จ น่าจะอีกประมาณ3เดือน เราเลยไม่อยากหาคอนโดใหม่เพราะสัญญามันเป็นปี) แฟนเรายอมค่ะ ให้เราอยู่ แล้วคือแฟนเราก็ทำดีกับเรามากๆ จนเรารู้สึกขึ้นมาอีกครั้ง แต่ตอนที่กลับมาอยู่ชลฯ เราบอกน้องหมดเลยค่ะว่าเรากลับมาอยู่กับแฟนเก่านะ น้องโอเคค่ะ น้องไม่ว่า น้องบอกเข้าใจและยอมรับว่าถ้าพี่กลับไปหาคนเก่าผมก็จะไม่โกรธ คือเข้าใจเราหมดทุกอย่าง เรารู้สึกผิดมาก แต่เราก็ไม่อยากหาคอนโดใหม่ ทั้งที่น้องบอกเองเลยนะคะว่า น้องจะช่วยออกค่าคอนโดให้ครึ่งนึง ถ้าไม่มีค่าประกัน ก็เดี๋ยวช่วยออกให้ คือน้องซัพพอร์ทเราหมด ตัดภาพมาที่ตอนอยู่กับแฟนค่ะ เรามีความสุขเหมือนเดิมเลยค่ะ เราเล่นหยอกล้อกันเหมือนเดิม คือความรู้สึกเดิมกลับมาทั้งหมด แล้วเขาก็พูดว่า กลับมาได้ไหม อยู่กับเราต่อนะ เราร้องไห้เลย เพราะเรารู้อยู่แล้วว่ายังไงเราก็ต้องเลือกสักคน
สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจไม่ได้...
เรื่องแฟนเก่า
1.เรากลัวว่ากลับไปแล้วมันจะเหมือนเดิม ทะเลาะกัน ไม่สนใจกันเหมือนเดิม
2.เรารู้สึกว่าเราสบายใจกว่าเวลาคุยกับแฟน
3.แฟนอยู่กับเรามาตั้งแต่เราเดินเท้า แว๊นมอไซค์ และจนตอนนี้เรามีรถยนต์ค่ะ เติบโตมาด้วยกัน
4.แฟนเรารับได้ค่ะที่เราเป็นนักร้อง (ไม่ใช่แค่การร้องเพลงนะคะ เราร้องงานเลี้ยงด้วย มันมีอยู่แล้วที่ต้องนุ่งสั้น โชว์อก หรือเล่นกับลูกค้าแบบวาบหวิว ซึ่งเขารับได้หมดค่ะ ไม่เคยว่าเราเลยสักครั้ง ว่าแค่ตอนเมาแล้วดูแลตัวเองไม่ได้ค่ะ แล้วเขาก็จะไปรับเราตลอด)
5.แฟนเราทำงานไม่ค่อยเป็นค่ะ ง่ายๆคือมองอนาคตไม่ออก มองออกอย่างเดียวคือทำกิจการต่อจากครอบครัว
6.เรากับแฟนไลฟ์สไตล์คล้ายๆกันค่ะ คุยกันได้ เป็นทั้งเพื่อน ทั้งแฟน (เบอร์แบบลำบากไปด้วยกันได้ สบายก็สบายไปด้วยกัน)
เรื่องคนใหม่
1.คนใหม่ของเราเป็นโรคแพนิคค่ะ และก็ค่อนข้างต้องดูแลเยอะ ไม่ขออธิบายนะคะสำหรับโรคนี้ แต่เราแค่รู้สึกว่ามันไม่ปกติค่ะที่เราคบกัน เราต้องคอยมากังวลเรื่องที่น้องกังวล เข้าใจเราใช่ไหมคะ 5555555 คือมันมีความสุขบนความเครียดอยู่ในทุกๆวันค่ะ
2.น้องเก่งค่ะ สอนโทอิคเราด้วย สอนเราพูดภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เราต่อยอดตัวเองได้
3.น้องดูมีอนาคตค่ะ เพราะเก่ง และก็เอาตัวรอดได้ น้องไม่ขอตังค์พ่อแม่ค่ะ น้องส่งตัวเองเรียน (เอกชนด้วยค่ะ)
4.น้องนั่งแกร็บเป็นอย่างเดียวค่ะ ขับรถไม่เป็น น้องบอกว่า ที่หาเงินมาได้เยอะๆเพราะซื้อความสบายไง
5.น้องชอบใช้เงินแก้ปัญหาค่ะ เพราะคิดว่าทำไมเราต้องลำบากคิดแก้ปัญหาเองด้วย ทั้งที่เราก็มีเงิน
6.ไลฟ์สไตล์เราสองคนต่างกันมากค่ะ น้องดูอินเตอร์ถึงติสท์ แต่เราค่อนข้างไทบ้าน
7.น้องไม่อยากให้เราร้องเพลงค่ะ
ยาวไปหน่อยขอโทษนะคะ แต่มันคือช่วงเวลาที่ลำบากใจมากเลยค่ะ เพราะเราไม่อยากเปลี่ยนแฟนแล้ว เราคิดว่าวัยทำงานมันหาคนที่เข้ากันยากค่ะ และให้มารับได้ในตัวเรา เราก็ต้องเริ่มอธิบาย เริ่มทำความรู้จักใหม่ เสียเวลาไปอีกกี่ปีก็ไม่รู้ เราเลยไม่รู้ต้องเลือกอนาคตหรือความสบายใจก่อนดีค่ะ
ขอบคุณค่ะ