เที่ยวกาญจนบุรี เลยต่อไปสังขละ ไม่ได้วางแผนแต่เก็บได้ค่อนข้างเยอะ รีวิวทริปแบ่งปันความรู้

สวัสดีจ้า ช่วงก่อนหน้านี้มีวันหยุดยาวติดๆกัน ไม่รู้จะไปไหนดี  ขึ้นเหนือรถติด ออกอีสาน เขาใหญ่ ยิ่งติดเพราะว่าเป็นถนนมิตรภาพ  ลงใต้ก็ติด  เลยหลบๆออกไปทางตะวันตก(เราอยู่ กทม.) เริ่มจากนครปฐมก่อน  โดยแวะไปพระปฐมเจดีย์ไป  หลังจากนั้นจึงกาญจนบุรีแบบไม่มีแผนอะไรเลย เสื้อผ้าก็เตรียมมาไม่พอ  แต่หยุดตั้ง 4 วัน  ไหนๆก็ไหนๆเลยไปซะเลย 


ระหว่างทางไปเจอคนเผาหญ้าข้างทาง วิวสวยๆ เลยแวะถ่ายรูปซะหน่อย แชะ แชะ แสงได้ ควันได้
.
.
.
.
.
.
.
.


ในที่สุดก็มาถึงกาญจนบุรี  ร้อยกว่าโลจาก กทม. มุ่งหน้าไปที่สะพานข้ามแม่น้ำแควก่อนเลย เขาว่ากันว่ามากาญจนบุรีแล้วไม่ได้ไปสะพานข้ามแม่น้ำแคว  ก็เหมือนมาไม่ถึงกาญจนะบุรี  อันนี้แต่งเอง 555+ 
จอดรถตรงนี้  เห็นโล่งๆอยู่ไม่มีใครจอด   วิวตรงนี้โล่งๆโปร่งๆดี ถ่ายรูปมาแชะนึงก่อน  ดีต่อใจ    คือเป็นสนามหญ้ากว้างมากๆๆๆๆ  แต่เหลือต้นไม้อยู่ 3 ต้นตรงนี้ ไม่รู้มีนัยอะไรหรือเปล่า  และไม่มีคนอื่นๆเข้ามาจอดเลย
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.


ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแควมาเดินเรื่อยๆระหว่างทางจะมีโชว์ต่างๆจากเด็กนักเรียน นักศึกษาแถวนั้น  เช่น เป้าแซกโซโฟน  เล่นกีต้าร์ร้องเพลง  หรือตีขิม  ก็เป็นสีสันดี  เดินมาหาพิพิธภัณฑ์สงครามโลก  แต่ว่าเขาปิดซะแล้วอดเข้าไปดูเลย  ทำไงได้ก็ไม่ได้วางแผนมานี่นา
เจอคาเฟ่อเมซอนอยู่ข้างๆพิพิธภัณฑ์ สวยดี เลยขอถ่ายเก็บมาอีก 1 อิอิ
.
.
.
.
.
.
.
.
.


และนี่คือสะพานข้ามแม่น้ำแคว ที่เป็นทางรถไฟเก่าตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 สร้างโดยแรงงานเชลยศึกญี่ปุ่น(หมายถึงคนที่ถูกทหายญี่ปุ่นจับเป็นเชลยนะ) ซึ่งการก่อสร้างทำให้คนล้มตายจำนวนมาก  ก็แน่นอนเขาไม่สนใจชีวิตข้าศึกหรอก  แต่ก็ถือว่าโหดร้ายทารุณมากๆ  เอาล่ะนะทุกวันนี้ก็ยังใช้งานอยู่ นั่นไงรถไฟมาพอดีเห็นอยู่ไกลๆ  เรานึกว่าด้านข้างๆของรางเขาทำระเบียงไว้ให้ดูวิว  ที่ไหนได้เป็นที่หลบรถไฟจ้าา  สำหรับเวลารถไฟมา  มนุษย์ทั้งหลายต้องโดดหลบไปบนนี้นะ ไม่งั้นโดนรถไฟทับไม่รู้ด้วย
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

เวลาประมาณ 5 โมง แสงเหมาะกับการถ่ายรูป  เหลือบไปเห็นวิวข้างๆเป็นแม่น้ำซึ่งมุมโค้งได้พอดี  วิวแถวนี้ถือว่าสวยมากๆ เป็นแม่น้ำที่ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้เขียวๆ ยังไม่ถูกรุกรานมากนัก  คือปกติเราจะเห็นริมฝั่งแม่น้ำเต็มไปด้วยตึกรางบ้านช่องเต็มไปหมด  ซึ่งตึกส่วนใหญ่ก็ไม่ได้นัดกันมาว่าจะสร้างธีมไหน  ทำให้ดูแล้วขัดๆตา  ในต่างประเทศเขาอาจจะคุมโทน  คุมธีม มันเลยดูสวยอะนะ  แต่ที่นี่ก็สวยแบบธรรมชาติยังอยู่ครบ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.


งานละเอียดจริงๆ  แม้แต่เหล็กที่ตอกหมุดปักลงไปยังเนียนกริบ  สมแล้วที่เป็นวิศวกรรมของญี่ปุ่น  คุมงานทาสมาทำได้ขนาดนี้
คือต้องบอกเลยว่าเราเป็นคนใส่ใจกับรายละเอียดอะไรเล็กๆน้อยๆแบบนี้  เวลาไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วจะสังเกตเห็นงานเรียงกระเบื้องหรืออะไรก็แล้วแต่  เราไม่ได้เห็นแค่วัตถุ แต่เราเห็นอดีตที่ช่างค่อยๆเรียงทีละชิ้นๆให้เท่ากันได้ระนาบ  และใช้เวลานานกว่าจะเสร็จ  ซึ่งต้องใช้ความพยายามและความอดทนอย่างมาก  นั่นทำให้งานชิ้นนั้นๆดูมีค่าขึ้นมา
.
.
.
.
.
.
.
.

.
.
.
.
.


 มีป้ายเขียนไว้ด้วยนะ โตเกียว อะไรสักอย่าง  ก็มีมนขลังจริงๆ

.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

และนี่คือที่พัก ถูกและดี 600 บาท  ย้ำ 600 บาท  คุณไม่ได้หูฟาด  ราคานี้ได้นอนแพริมแม่น้ำแคว  ห้องแอร์  ตอนกลางคืนก็ออกมาชิวๆระเบียงแบบนี้ จิบเบียร์บางๆ  ซื้ออาหารพื้นเมืองมากิน  ฟินแท้ๆ  เหมือนน้องปลาเค้าจะรู้ว่าตรงนี้มนุษย์มาบ่อย  เค้าจะว่ายมารอเลยนะ  พอเราโยนพวกเลย์ลงไปเค้ารีบมาตอดกินเลย  ก็คลายเหงาไปนิดๆ  คือบางทีก็อยากเหงาๆบ้าง
ชิวจิงๆ ขอบอก คุ้มเงิน 600 บาทมาก

.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

เช้าวันรุ่งขึ้น ก็ไไปโรงงานกระดาษไทย  ที่นี่ให้ 30 นาทีพอนะ  เดินวนรอบๆ ถ่ายรูปสวยดี
ถ้าอยากเข้าใจประวัติความเป็นมา เปิด youtube คลอไปด้วย มีคลิปที่อธิบายประวัติ   จริงๆนะมันจะอินขึ้น  ถ้าเราแค่เดินดูเพื่อหามุมถ่ายรูป  ที่นี่อาจจะพพอมีแต่ก็ไม่ได้มีความหมายอะไรมาก  แต่ถ้าฟังไปด้วย เดินดูไปด้วย  คุณจะเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมที่นี่ถึงอนุรักษ์ไว้
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.


building อลังการดี ถ่ายรูปสวย  คือตึกมันแปลกๆตาอะนะ หาดูไม่ได้แล้วสมัยนี้
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.


เหมือนเครื่องปั่นเยื่อกระดาษอะไรสักอย่างหนึ่ง  คือยุคก่อนยังใช้กระดาษกันเยอะอยู่
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.



ปล่องไฟ สูงมาก สูงขึ้นไปบนฟ้า ทำจากปูนด้วย  ที่นี่มีผีมั้ยเนี่ย  ถ้ามากลางคืนคงหลอนน่าดู  เอาล่ะ  จอดไม่นานรีบไปต่อดีกว่าเดี๋ยวไม่ถึงสังขละ
เพราะเปิด Google map ดู อีกตั้ง 5 ชั่วโมงกว่าจะถึง!!




มุ่งหน้าต่อไปสังขละ(แต่ไปไม่ถึงไหนซะที) เรามาแวะที่ "เส้นทางรถไฟสายมรณะ"  ก็เรื่องเดียวกับเชลย(มีเม้นต์แอบแซะว่าเราพิมพ์ผิดเป็นเฉลย  เลยต้องกลับมาแก้) เมื่อกี้แหละ  
คือ 1 หมอนรอง หมายถึง 1 ชีวิตที่สูญเสียไป  เขาเปรียบเทียบว่ามีคนตายมากมายเพื่อสร้างทางรถไฟนี้ให้เสร็จโดยไว  จำตัวเลขแน่ชัดไม่ได้นะ แต่เขาประมาณการณ์ว่าทางรถไฟสายนี้สมมติจริงๆแล้วจะต้องใช้เวลา 2 ปี ในการสร้างให้เสร็จ  แต่ญีปุ่่นใช้เวลาแค่ 2 เดือน !!! นั่นหมายถึงแรงงานทาส(เชลย) ซึ่งเป็นทั้งคนไทยและต่างประเทศ  ทำงานหามรุ่งหามค่ำ ไม่ได้หลับ ไม่ได้นอน ไม่ได้กิน  ถ้าใกล้ตายก็ให้ตายเลย  อะไรประมาณนั้น ซึ่งอ่านไปก็รู้สึกว่ามันโหดร้ายมากๆ
ทุกวันนี้ทางรถไฟสายนี้ก็ยังใช้งานอยู่นะ  แต่จะบอกว่า รอบแรกที่ทดลองใช้งาน ทางมันถล่ม รถไฟตกลงไปในน้ำ  ทำให้คนเสียชีวิตไปจำนวนหนึ่ง
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.




เหยียบมาเรื่อยๆ จริงๆก่อนจะมาถึงก็แวะอีกนะ เป็นลำธารเล็กๆข้างทาง  กินไก่ย่าง  ก็สวยดี  แต่ไม่ได้ถ่ายอะไรมาเพราะใกล้เย็นแล้วเลยรีบกินรีบมา  เห็นวัยรุ่นจอดลงไปเล่นน้ำกันเยอะอยู่  ทางที่มาก็มีขึ้นเขาบ้าง  เล็กๆน้อยๆ  จาก กาญจนบุรี  หลายร้อยโล  ก็มาถึงสังขละบุรี  สะพานมอญ เป้าหมายของเรา
ต้องทำความเข้าใจว่าที่นี่แบ่งเป็น 3 ฝั่ง ได้แก่
1. ฝั่งไทย จะมีตึกรางบ้านช่องสมัยใหม่ โมเดิร์นๆ แต่คนยังอยู่น้อยอยู่
2. ฝั่งมอญ  อันนี้เป็นหมู่บ้านมอญเลย  ตั้งอยู่บนเนินเขา อารมณ์แบบญี่ปุ่น เกาหลี  ก็จะมีทั้งคนไทย และคนมอญ  เพราะคนไทยแต่งงานกับมอญก็มี  โดยสะพานมอญจะเชื่อมฝั่งไทยกับฝั่งมอญเนี่ยแหละ
3. ฝั่งกระเหรี่ยง  อันนี้จะเชื่อมด้วยสะพานปูน
ซึ่งทุกวันนี้ 3 ฝั่งก็ถือว่าอยู่ในดินแดนประเทศไทยหมดแล้วล่ะนะ  เชื่อว่า  3 ชนเผ่าเขาก็อยากเป้นคนไทยเนี่ยแหละ  ทุกๆคนใจดีมากๆ   คือบางทีเราไปเที่ยวพวกสถานที่ท่องเที่ยวที่รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ  เขาอาจจะให้ราคาพวกเราคนไทยน้อยกว่าต่างชาติเพราะพวกเราเปย์น้อยกว่า  แต่ที่นี่เราก็เหมือนเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเลย  เพราะพวกฝรั่ง เกาหลี ญี่ปุ่น ไม่ค่อยเห็นมีมานะ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.


เราเริ่มต้นที่นี่เลยตลาดถนนคนเดินสะพานมอญ ฝั่งมอญ อันนี้จะมีเสื้อผ้ามอญๆ ขายมากมาย  เลือกซื้อใส่กันได้ ราคาไม่แพง 150-200
เราก็ได้เสื้อมาตัวนึง  เป็นมอญน้อยหอยสังข์  มีหลักกิโลด้วย  ตรงนี้ตีนสะพานมอญ มาช่วงที่น้ำน้อยพอดีวิวสวยๆ  จะบอกว่าบ้านที่อยู่ข้างหลัง มันเป็นบ้านลอยน้ำนะ  เขาเรียกว่า "ลูกบวบ" ใครรู้จักมั่ง  คือตอนไม่มีน้ำมันก็เกยตื้น แต่พอน้ำมามันลอยได้เลยนะ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.


สะพานไม่มอญนี้ ยาวที่สุดในโลกเป็นอันดับสอง  อันดับหนึ่งน่าจะอยู่ในประเทศพม่า  ซึ่งสะพานนี้ยาวเกือบๆ 400 เมตรเลยทีเดียว  ตอนสร้างได้ใช้แรงงานมอญ แต่คนที่เป็นผู้นำทางความเชื่อ คือ หลวงพ่อ อุตตะมะ ชาวบ้านแถวนั้นเคารพนับถือ  ท่านเป็นผู้บันดาลให้เกิดสิ่งมหรรษจรรย์นี้ขึ้นมา  คือมันอาจจะดูเป็นไม้ก๊อกแก๊กนะ  แต่ของจริงมันอลังการมาก   มันได้อารมณ์แบบ ดิบๆ  อารมณ์ชนเผ่าด้วย  ถ้าลองไปปดันๆๆๆดูจะรู้ว่ามันไม่ล้มง่ายๆ  แต่หลายคนคงคิดว่ามันดูไม่ค่อยแข็งแรงใช่มั้ย?
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.


ไปหน้าฝน เจอรุ้งกินน้ำอีก  เออใช่ ตรงนี้ถ้าจอดจะมีคนมาเก็บค่าจอดนะ แต่วิวก็สวยดี  
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.


อยู่บนสะพานมอญแล้ว เย้ๆ  ดูจากการวางไม้แล้ว  แต่ก่อนรถยนต์น่าจะขับข้ามได้นะ  ปัจจุบันก็ให้เดินเล่นอย่างเดียว มีนักท่องเที่ยวมากมาย มันเหมือนเราหลุดเข้าไปอยู่อีกโลกหนึ่งเลย  เงียบ สงบ  สบายๆ อากาศก็ดี ที่นี่ไม่ต้องแข่งขันกับใครนะ  ชาวบ้านเขาก็อยู่กันอย่างสงบสุข  แล้วเหมือนว่าจิตใจเขาดี  ซึ่งเวลาอยู่ใน กทม ชีวิตมันเร่งรีบจนบางทีเรารู้สึกเหมือนกับว่าถูกบีบ  หรือบางคนอาจจะแค่มีชีวิตรอดก็ยากแล้ว  ทั้งๆที่จริงๆชีวิตอาจจะไม่ได้ต้องการอะไรมากมายไปกว่าการได้อยู่ในที่ๆวิวดีๆแบบนี้  สงบๆ  2 วันที่อยู่ที่นี่ได้ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์จริงๆ หยุดคิดอะไรไปบ้าง
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.


วิวสวยๆดี  ชอบความไม้ๆของมัน  ไม้ทั้งนั้นเลย  คือ อึ้งนิดนึงตรงเสาของสะพาน ทำด้วยต้นไม้ต้นใหญ่ๆ สูงมากๆ  แล้วมันปักลงไปข้างล่างยังไง  มีเครนยกหรอ  จริงๆอยากเห็นตอนสร้างอะ  เพราะถ้าเป็นเราคนกรุง ให้มาสร้างอะไรแบบนี้อาจจะทำไม่ได้ก็ได้นะ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.


ชนเผ่ามอญเขาจุดไฟทำอะไรกันนะ? อาหารหรือเปล่า  เริ่มหิวแล้วสิ  น่าจะมีร้านอะไรตั้งริมน้ำซะหน่อยเนาะ  ได้นั่งชิวๆดูพระอาทิตย์ตกดินตรงนี้  สงบดี  พระอาทิตย์จะตกไปฝั่งพม่านะ ไม่ใช่ฝั่งไทย  เพราะที่นี่ก็สุดขอบแล้ว  แม่น้ำนี้มีชื่อว่า แม่น้ำซองกาเลีย มีต้นกำเนิดในประเทศพม่า  คือไม่ใช่แม่น้ำใดๆในประเทศไทยที่พวกเรารู้จัก 
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

ถ่ายคุ่กับเด็กมอญ มินิฮาร์ท  เออใช่ จิงๆชุดมอญต้องแดง  ชุดม่วงนี่ชุดกระเหรี่ยง  น้องๆน่ารักนะ เขาจะเอาแป้งมาป้ายที่หน้าเรา(คล้ายๆสงกรานต์)
ค่าใช้จ่าย  น้องบอกว่า"แล้วแต่จะให้"   10บาท 20 บาท หรือใก็จัดไปเลย แบงค์เทา  ตามศรัทธา   
แล้วหลังจากนั้นก็จะมี มังคุดเทศน้อยมาเดินตาม  เล่าเรื่องสะพานนี้ให้ฟัง  ใครเงินเหลือก็อุดหนุนเด็กๆไปได้เลยนะ  น้องๆจะได้ค่าขนมก็แค่ช่วงวันหยุดยาวเนี่ยแหละที่นักท่องเที่ยวมา   ปกติร้านรวงที่นี่จะปิดไว  แต่ถ้าวันหยุดยาวเขาเปิดยาวเลย  จะได้มีรายได้เพิ่มอีกนิด
.
.
.
.
.
.
.
.
.

หมู่บ้านเล็กๆนี้น่ารักมากๆ ใครมาก็ต้องหลง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่