กระทู้นี้มาบ่นนะ เพราะเหนื่อยมาก ท้อมาก ดูแลคนป่วยเป็นอัมพฤกษ์
การดูแลพ่อแม่ ถือเป็นเรื่องใหญ่ ที่เราต้องมานั่งพิจารณาหรือเปล่าค่ะ ไม่ใช่หาข้ออ้างให้ตัวเองถูกต้อง
ในวันที่แม่เข้าฉุกเฉินใกล้ถึงความตาย กลับมานั่งโทษตัวเองว่าดูแลแม่ไม่ดี..... เนื่องจากเส้นเลือดในสมองแตก
แต่พอเวลาผ่านไปสักพัก อยู่ในระยะเวลาปลอดภัย ไม่คิดจะมาดูแล อ้างนู้นอ้างนี่
รวมทั้ง ไม่คิดจะออกค่าใช้จ่ายหรือช่วยอะไรเลย
แรกๆ ก็ช่วยกันดูบ้าง แต่แม่ไม่ดีขึ้นเลย มีแต่จะทรุดลง
อาหารอะไรก็ไม่กิน อะไรก็ไม่เอา ไม่อะไรทั้งนั้น
แถมก็ไปสุมหัวกับลุง กับคนอื่นๆ ต่างๆนาๆ ว่าตัวเองมีภาระ และหาเหตุเข้าข้างตัวเองต่างๆนาๆ
ถามหน่อย.... คนอื่นไม่มีภาระไม่มีค่าใช้จ่ายหรือไง
ทุกวันนี้ ทำงานประจำ ไอ้คนทำงานอยู่บ้าน มีลูกน้องช้วย แต่ไม่คิดจะออกค่าใช้จ่าย อะไร ไม่เคยเสนอ
เสนอว่าจะซื้อแพมเพิส ท้ายสุดก็ไม่ซื้อ
อ้างบอกเราไม่สั่ง ทั้งๆที่ เคยบอกไปแล้วว่าซื้อมาเลย
ทุกวันนี้ ตอนเราไม่อยู่เอา สิ่งไม่จำเป็นให้แม่กิน น้ำโค้ก บางครั้งให้แม่กินเยอะมาก ไม่กำหนดปริมาณ อาหารที่มีไขมันสูงก็เอาให้
เหนื่อยมาก บางทีก็อยากจะหนีไปให้พ้น
ลองดูสิว่าไม่มีเรา จะดูแลแม่ได้ดีมั้ย
ชาวบ้านก็เอาแต่ชื่นชม แต่ไม่รู้เลย ว่าเงินที่ดูแลแม่ มาจากเราคนเดียว
แม่ขอตังค์ให้บางไม่ให้บ้าง ให้ครั้งนึงก็แค่ 200 บาท
บางทีก็อาจจะเดี๊ยวให้แล้วก็ไม่ให้
แถมยังเอาเราไปว่าต่อ ทั้งๆที่ไม่ดูตัวเองกันเลย ใส่ใจแม่กันมากแค่ไหน
มันไม่เกี่ยวหรอก ลูกสาวหรือลูกชาย มันก็ลูกเหมือนกัน
บางคนก็อ้างต้นทุนต่ำ ใช้แรงสิ
อ้างว่ามีภาระ แล้วนึกถึงตอนแม่ส่งเรียนกันไหม แม่ก็มีภาระ แต่เค้ายังขวนขวายส่งให้เรียน
พอเรียนไม่จบ ก็โทษคนอื่นไม่คิดโทษตัวเอง อ้างว่าคนจบสูงเอาตัวรอดได้
ใช้ตรรกะป่วยๆแบบนี้ เหนื่อยโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
เคยบอกพี่น้องนะให้พาแม่ไปหาหมอบ้าง สุดท้ายเงียบ
แถมชอบมาดูแลแม่ตอนคนเยอะ ๆ แต่พอ คนไม่มีกลับไม่มาดู แต่ก็ไม่ทุกวัน อ้างยุ่งบ้าง
พอว่าไป ก็อ้างว่าทุกคนก็เหนื่อยเหมือนกันหมด
อ้าว....แม่เหมือนกันไหม
สาธุขอให้เจริญๆๆๆ จะได้ไม่ต้องมาเบียดเบียนกันอีก ไม่ไหวแล้วเว้ยยยยยย
แต่ตอนนี้อาการแม่ดีขึ้นหลังจากที่มาอยู่กับเรา
และกินอาหารเริ่มปกติ แต่ต้องกายภาพ ค่อนข้างหนัก แต่บางวันความดันก็ไม่เป็นใจ
เคยไหม ? พี่น้องที่มีข้ออ้างได้ทุกเรื่องแต่ไม่คิดจะทำอะไรเลย
การดูแลพ่อแม่ ถือเป็นเรื่องใหญ่ ที่เราต้องมานั่งพิจารณาหรือเปล่าค่ะ ไม่ใช่หาข้ออ้างให้ตัวเองถูกต้อง
ในวันที่แม่เข้าฉุกเฉินใกล้ถึงความตาย กลับมานั่งโทษตัวเองว่าดูแลแม่ไม่ดี..... เนื่องจากเส้นเลือดในสมองแตก
แต่พอเวลาผ่านไปสักพัก อยู่ในระยะเวลาปลอดภัย ไม่คิดจะมาดูแล อ้างนู้นอ้างนี่
รวมทั้ง ไม่คิดจะออกค่าใช้จ่ายหรือช่วยอะไรเลย
แรกๆ ก็ช่วยกันดูบ้าง แต่แม่ไม่ดีขึ้นเลย มีแต่จะทรุดลง
อาหารอะไรก็ไม่กิน อะไรก็ไม่เอา ไม่อะไรทั้งนั้น
แถมก็ไปสุมหัวกับลุง กับคนอื่นๆ ต่างๆนาๆ ว่าตัวเองมีภาระ และหาเหตุเข้าข้างตัวเองต่างๆนาๆ
ถามหน่อย.... คนอื่นไม่มีภาระไม่มีค่าใช้จ่ายหรือไง
ทุกวันนี้ ทำงานประจำ ไอ้คนทำงานอยู่บ้าน มีลูกน้องช้วย แต่ไม่คิดจะออกค่าใช้จ่าย อะไร ไม่เคยเสนอ
เสนอว่าจะซื้อแพมเพิส ท้ายสุดก็ไม่ซื้อ
อ้างบอกเราไม่สั่ง ทั้งๆที่ เคยบอกไปแล้วว่าซื้อมาเลย
ทุกวันนี้ ตอนเราไม่อยู่เอา สิ่งไม่จำเป็นให้แม่กิน น้ำโค้ก บางครั้งให้แม่กินเยอะมาก ไม่กำหนดปริมาณ อาหารที่มีไขมันสูงก็เอาให้
เหนื่อยมาก บางทีก็อยากจะหนีไปให้พ้น
ลองดูสิว่าไม่มีเรา จะดูแลแม่ได้ดีมั้ย
ชาวบ้านก็เอาแต่ชื่นชม แต่ไม่รู้เลย ว่าเงินที่ดูแลแม่ มาจากเราคนเดียว
แม่ขอตังค์ให้บางไม่ให้บ้าง ให้ครั้งนึงก็แค่ 200 บาท
บางทีก็อาจจะเดี๊ยวให้แล้วก็ไม่ให้
แถมยังเอาเราไปว่าต่อ ทั้งๆที่ไม่ดูตัวเองกันเลย ใส่ใจแม่กันมากแค่ไหน
มันไม่เกี่ยวหรอก ลูกสาวหรือลูกชาย มันก็ลูกเหมือนกัน
บางคนก็อ้างต้นทุนต่ำ ใช้แรงสิ
อ้างว่ามีภาระ แล้วนึกถึงตอนแม่ส่งเรียนกันไหม แม่ก็มีภาระ แต่เค้ายังขวนขวายส่งให้เรียน
พอเรียนไม่จบ ก็โทษคนอื่นไม่คิดโทษตัวเอง อ้างว่าคนจบสูงเอาตัวรอดได้
ใช้ตรรกะป่วยๆแบบนี้ เหนื่อยโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
เคยบอกพี่น้องนะให้พาแม่ไปหาหมอบ้าง สุดท้ายเงียบ
แถมชอบมาดูแลแม่ตอนคนเยอะ ๆ แต่พอ คนไม่มีกลับไม่มาดู แต่ก็ไม่ทุกวัน อ้างยุ่งบ้าง
พอว่าไป ก็อ้างว่าทุกคนก็เหนื่อยเหมือนกันหมด
อ้าว....แม่เหมือนกันไหม
สาธุขอให้เจริญๆๆๆ จะได้ไม่ต้องมาเบียดเบียนกันอีก ไม่ไหวแล้วเว้ยยยยยย
แต่ตอนนี้อาการแม่ดีขึ้นหลังจากที่มาอยู่กับเรา
และกินอาหารเริ่มปกติ แต่ต้องกายภาพ ค่อนข้างหนัก แต่บางวันความดันก็ไม่เป็นใจ