เมื่อวันเสาร์ที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา ผมได้ไปใช้สิทธิ์เราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งครั้งนี้ผมเลือกที่จะจองตรงกับโรงแรม เพราะเทียบราคาแล้วถูกกว่าจองผ่าน Agent ที่ร่วมโครงการ โดยผมได้โทรจองโรงแรม RE_ENT CHA AM ซึ่งเป็นโรงแรมใหญ่แห่งหนึ่งย่าน ชะอำ หัวหิน โดยโรงแรมได้แจ้งราคา และส่งยอดมาให้ผมชำระใน App กระเป๋าตัง ราคา 1,680.- บาท ซึ่งผมได้ชำระผ่านบัตรเครดิตไปเรียบร้อย ในวันที่ไป Check in ผมถึงโรงแรมประมาณบ่าย 3 และได้เข้า Check in ตามปกติ และแจ้งพนักงานว่าใช้สิทธิ์เราเที่ยวด้วยกัน โดยพนักงานชายคนหนึ่งได้ Scan QR Code ในแอฟเป๋าตัง ปรากฏว่าไม่ผ่าน โดยขึ้นข้อความว่า ไม่สามารถเช็คอินได้ เนื่องจากโรงแรม/ที่พักไม่ตรงกับจังหวัดที่จองไว้ ผมเลยถามพนักงานว่าผมจองตรงกับโรงแรมทำไมถึงไม่ตรงจังหวัด พนักงานบอกว่า ไม่เป็นไร ให้ผมเข้าห้องพักไปก่อน บอกว่าเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ก็มีคนเป็นแบบนี้ และผมได้ถามในส่วน E-Voucher 600 บาท โดยพนักงานคนนี้แจ้งว่า ให้ผมใช้สิทธิ์ของ E-Voucher ภายในโรงแรมไปก่อนโดยเค้าจะจัดการตรงส่วนนี้ให้ โดยทางโรงแรมจะติดต่อกับ Call Center ให้ และอีกสักพักให้มาลอง Scan ใหม่ ผมก็เลยบอกว่า เผื่อผมจะไปใช้สิทธิ์ข้างนอก พนักงานคนนี้เลยบอกว่าให้ผมติดต่อ Call Center ของโครงการเอง พร้อมจดเบอร์ให้ผม โดยบอกว่าทาง Call Center ต้องถามเกี่ยวกับข้อมูลของผม ผมก็เลย OK แต่ก็นึกในใจ น่าจะเป็นหน้าที่โรงแรมติดต่อให้นะ เพราะข้อมูลที่จำเป็นก็ให้กับโรงแรมไปหมดแล้ว และก็ไม่ใช้ความผิดพลาดของผม และผมมาพักผ่อนยังจะต้องมาโทรตามเรื่องอะไรอีก เสร็จแล้วผมก็ขึ้นห้องพักไป และรีบโทรไป Call Center ของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งใช้เวลาติดต่อนานพอสมควร เพราะฟังจนจบแล้วยังไม่รู้จะกดเมนูอะไร ผมเลยกดเลือกเกี่ยวกับการลงทะเบียน แล้วก็กดเลือกลงทะเบียนโรงแรม และก็รอเค้าบรรยาย จนสุดท้ายถึงจะมีเมนูให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ ผมก็กดติดต่อเจ้าหน้าที่ ผมแจ้งปัญหาให้เจ้าหน้าที่ทราบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ขอข้อมูลอะไรมากจริงๆ แค่เลขที่บัตรประชาชน และเลขผู้เสียภาษีของโรงแรมที่ผมต้องมาถามกับพนักงานโรงแรมอยู่ดี และเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งผมพยายามถามว่าผิดพลาดจากสาเหตุใด เจ้าหน้าที่ก็ได้แต่บอกว่า เป็นความผิดพลาดของระบบ และบอกว่าให้ผมทำตามขั้นตอนดังนี้
1. แคปหน้าจอแอปเป๋าตังตรงหน้าที่เป็นสิทธิ์จองกับโรงแรมนี้
2. แคปหน้าจอการโอนเงินเพื่อชำระค่าที่พัก
3. ถ่ายภาพหน้าจอของโรงแรมที่มีปัญหา และส่งให้ที่เมล์ call.callcenter@ktb.co.th พร้อมแจ้งปัญหาและชื่อพนักงานที่รับเรื่องไว้
ซึ่งผมมองว่าถ้าเป็นคนที่ไม่ชำนาญเทคโนโลยี ขั้นตอนเหล่านี้ยุ่งยากมาก โดย Call Center แจ้งว่าไม่ต้องกังวล ซึ่งผมสามารถ เช็คอินได้เรทถึง 11.59 ของวันรุ่งขึ้น ผมจึงเดินไปที่ Counter ของโรงแรมเพื่อให้ Call Center ของกรุงไทยได้คุยกับพนักงานของโรงแรมให้รับทราบด้วย และได้ลอง Scan อีกครั้ง ซึ่งก็ยังไม่ผ่าน ผมกลับไปนอนเล่นที่ห้องสักพัก Call Center กรุงไทย คนเดิมก็โทรกลับมาหาผม ถามว่าส่งอีเมล์ให้หรือยัง ผมก็บอกว่าได้ส่งไปแล้ว ช่วยตามเรื่องให้ด้วยและบอกว่า ถ้าสามารถแก้ไขปัญหาได้จะรีบติดต่อกลับมาทางโทรศัพท์ หลังวางสายผมก็ออกไปเที่ยวข้างนอก โดยก่อนออกจากโรงแรมผม ก็แวะลอง Scan อีกรอบ ก็ยังไม่ผ่าน แล้วก็ออกไปข้างนอกจนมืด ผมกลับเข้าโรงแรมประมาณ 2 ทุ่ม และแวะ Scan อีกก็ยังไม่ได้ ก็ขึ้นห้องพักไป กำลังนอนพักสบายๆ สักพัก มีเสียงโทรศัพท์ของโรงแรมดังขึ้น และจำได้ว่าเสียงในโทรศัพท์เป็นเสียงของพนักงานคนที่คุยกับผมตั้งแต่แรกตอน Check in ประเด็นอยู่ตรงนี้ครับ พนักงานคนนี้บอกผมว่า ผมต้องติดต่อกับกรุงไทยด่วน ผมบอกว่าเจ้าหน้าที่กรุงไทยแจ้งว่าผมสามารถ Check in ได้ก่อน 11.59 ของวันพรุ่งนี้ พนักงานคนนั้นบอกมาว่าไม่ได้ บอกว่าผมจะต้อง Clear ให้เรียบร้อยภายในวันนี้ ไม่อย่างนั้นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกเยอะ ไม่ใช่ราคานี้ เท่านั้นแหละ ผมถึงกับอึ้งเลย เลยรีบวางสายและติดต่อกรุงไทยอีกครั้ง ซึ่งก็ใช้เวลานานเหมือนเดิม หลังจากนั้นก็ได้ขอสายเจ้าหน้าที่คนที่รับเรื่องผมไว้ก่อนหน้านี้ โดยเจ้าหน้าที่คนนี่แจ้งว่า เจ้าหน้าที่คนนั้นไม่อยู่แล้ว แต่ได้เช็คให้แล้วว่าได้ยื่นเรื่องให้ผมแล้ว และให้ผมรอผลเช่นเดิม และผมได้เล่าเหตุการณ์ที่พนักงานโรงแรมคนนั้น แจ้งกับผมให้ Call Center ฟัง โดย Call Center คนนี้อธิบายกับผมว่า เงินที่ผมจ่าย 1,680.- นั้นเป็นส่วน 60% ที่ผมต้องจ่ายกับทางโรงแรมเรียบร้อยแล้ว ส่วนอีก 40% รัฐบาลเป็นคนจ่ายให้โรงแรม ไม่เกี่ยวกับผมแล้ว ผมจึงเดินถือโทรศัพท์ลงมาเพื่อให้คุยกับพนักงานต้อนรับที่ออกทอมๆ หน่อย พนักงานคนนี้บอกกับผมว่าไม่มีอำนาจตัดสินใจ ต้องคุยกับผู้จัดการ สักพักพนักงานคนที่โทรไปหาผมที่ห้องก็เดินเข้ามา ซึ่งน่าจะเป็นผู้จัดการนั่นเอง พนักงานที่ออกทอมคนนี้ก็ยื่นสายของกรุงไทยให้ผู้ชายคนนี้คุย เค้าถึงยอม และผมได้ถามผู้จัดการคนนี้ไปว่า มันเป็นความผิดลูกค้าหรือ ผมจองตรงกับโรงแรม เงินก็จ่ายไปแล้ว และยอดที่จ่ายก็เป็นยอดที่โรงแรมแจ้งมา ไม่ได้จองผ่าน Agent ที่จะผิดพลาดเพราะมีหลายโรงแรม หลายจังหวัด นี่จองตรงกับโรงแรมของคุณ พนักงานก็พนักงานของโรงแรมคุณ ผมมาพักผ่อนยังต้องมานั่งตามเรื่องพวกนี้อีก และประโยคที่บอกว่าจะ Charge ผมเพิ่มอีกเยอะคุณพูดได้ไง โดยผมได้เข้าไปเว็บของโรงแรม และเช็คราคาห้องประเภทที่ผมพัก โรงแรมขายคนที่ไม่ได้ใช้สิทธิ์โครงการนี้อยู่ 1,799.- บาท แต่ผมใช้สิทธิ์โดยจ่ายไป 1,680.- ถูกกว่าแค่ 119 บาท นี่หรือราคาลด 40% และจะมาพูดว่าผมต้องจ่ายอีกเยอะ เสร็จแล้วผมก็เดินกลับขึ้นห้อง วันรุ่งขึ้น 10 โมงแล้วก็ยังไม่ได้รับโทรศัพท์ ผมเริ่มกังวล จึงโทรไป Call Center ของกรุงไทยอีก และแจ้งว่าผมมีเวลาอีกแค่ไม่กี่ชั่วโมง ช่วยตามเรื่องให้หน่อย ผมจะ Check Out ออกก็ขี้เกียจไปเถียงกับพนักงานอีก เจ้าหน้าที่ก็รับเรื่องไว้ อีกสักพักมีเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง คราวนี้เป็นผู้ชาย น่าจะระดับสูงกว่า Call Center โทรมาบอกว่าจะรีบประสานงานให้โดยด่วน หลังจากนั้นอีกไม่เกิน 15 นาที เจ้าหน้าที่คนนี้โทรกลับมาบอกว่าให้ผมลองไป Scan ดู ผมรีบลงไป Scan คราวนี้ Scan ได้
ผมมาคิดดูแล้วถ้าเป็นคุณลุง คุณป้า ที่มีอายุ ไม่ค่อยชำนาญ เทคโนโลยี ส่งเมล์ไม่คล่อง จะทำยังไง ต้องจ่ายส่วนต่างให้โรงแรมหรือ ผมยิ่งงงใหญ่กับผู้จัดการโรงแรมใหญ่คนนี้ ที่จัดการปัญหาแบบนี้หรือ และยังไม่จบมีประเด็นอีกนิด ขอนอกเรื่องหน่อย คือ ไส้ผ้านวมในห้องผม มันเลอะเลือด แบบไม่ได้ซัก ไม่ใช่คราบที่ซักไม่ออกนะ แต่ดูแล้วเป็นคราบที่ไม่ได้ซักเหมือนเพิ่งเปื้อน ไหนโฆษณาว่าโรงแรมเข้าร่วมมาตรการป้องกันโควิท ได้มาตรฐาน SHA
ซึ่งถ้าไม่ได้เปิดปอกผ้านวมออกมาก็คงไม่เห็น หรือจะยัดไส้กับลูกค้า ที่ผมเห็นเพราะผมดันซอกแซกเวลาไปนอนที่ไหนก็มักจะเปิดดูด้านในว่า โรงแรมไหนใช้ Brand อะไร เลยไปเจอเข้า ผมไม่ได้แจ้งพนักงานของโรงแรมหรอกครับ เพราะคิดว่าแจ้งไปก็คงไม่ถึงผู้บริหารระดับสูงอยู่ดี เพราะขนาดเรื่อง
ที่ผมเจอก่อนหน้านี้ ผู้จัดการตรงแผนกต้อนรับยังแก้ปัญหาแบบนี้ และสิ่งที่เขียนขึ้นนี้เพื่อปันประสบการณ์ให้คนที่จะไปใช้สิทธิ์นะครับ
ขอแชร์ความเห็นนะครับว่า
1.ให้นำหลักฐานการชำระเงินไปด้วยวันเข้าพัก เพราะ App อาจมีปัญหาเปิดไม่ได้ หรือหากเป็นผู้สูงอายุ อาจให้พนักงานโรงแรมทำให้
2. จดเบอร์ Call Center ของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โทร. 02-111-1144 (โทรได้ 24 ชม.)
3. หากโรงแรมจะเรียกเก็บเงินเพิ่ม ให้ติดต่อ Call Center โดยให้เจ้าหน้าที่โรงแรมคุยกับ Call Center
4. กรุงไทย ควรพัฒนาให้ผู้ใช้เข้าถึง Call Center ได้ง่ายกว่านี้ เช่น หากมีปัญหาการ Scan QR Code กด 1 ไม่ใช่ฟังจนครบทุกเมนูแล้วยังไม่รู้จะกดเมนูอะไร
5. ผู้มีอำนาจตัดสินใจแก้ปัญหา ควรแก้ปัญหาได้ไวกว่านี้ ไม่ควรข้ามวันแบบนี้
4. E-Voucher 600 บาท ที่เกือบทุกคนเข้าใจว่านำไปใช้แทนเงินสดได้เลย 600 บาท ซึ่งจริงๆ แล้ว เป็นส่วนลด 40% แต่ไม่เกิน 600 ครับ
5. ร้านที่ร่วมรายการเพื่อใช้ E-Voucher 600 บาท ผมยังไม่เจอร้านไหนมีป้ายแสดงเลย ต้องอาศัยถามเอา
6. เจ้าหน้าที่รัฐช่วยตรวจสอบผู้ประกอบการด้วย ว่าได้ให้ส่วนลด 40% จริงๆ หรือไม่ เพราะ ณ ช่วงโควิทแบบนี้ ทั้งโรงแรมที่ร่วมและไม่ได้ร่วม โครงการก็ปรับลดราคาอยู่แล้ว ไม่ใช่เอาราคาช่วงปกติที่ไม่ใช่ช่วงโควิทมาตั้ง แล้วลด 40% ไม่ต้องรอให้มีคนแจ้งนะครับ
7. สุดท้ายผู้ประกอบการโรงแรมช่วยตรวจสอบความสะอาดให้เข้มงวดมากกว่านี้ และอบรมพนักงานให้เข้าใจหลักเกณฑ์ของโครงการให้ถูกต้องชัดเจน ไม่ฉวยโอกาส หรือนำความผิดพลาดของระบบมาอ้าง เพื่อเอาเปรียบคนที่เค้าออกมากระตุ้นวงจรธุรกิจของท่านเลย
ประสบการณ์ เราเที่ยวด้วยกัน
1. แคปหน้าจอแอปเป๋าตังตรงหน้าที่เป็นสิทธิ์จองกับโรงแรมนี้
2. แคปหน้าจอการโอนเงินเพื่อชำระค่าที่พัก
3. ถ่ายภาพหน้าจอของโรงแรมที่มีปัญหา และส่งให้ที่เมล์ call.callcenter@ktb.co.th พร้อมแจ้งปัญหาและชื่อพนักงานที่รับเรื่องไว้
ซึ่งผมมองว่าถ้าเป็นคนที่ไม่ชำนาญเทคโนโลยี ขั้นตอนเหล่านี้ยุ่งยากมาก โดย Call Center แจ้งว่าไม่ต้องกังวล ซึ่งผมสามารถ เช็คอินได้เรทถึง 11.59 ของวันรุ่งขึ้น ผมจึงเดินไปที่ Counter ของโรงแรมเพื่อให้ Call Center ของกรุงไทยได้คุยกับพนักงานของโรงแรมให้รับทราบด้วย และได้ลอง Scan อีกครั้ง ซึ่งก็ยังไม่ผ่าน ผมกลับไปนอนเล่นที่ห้องสักพัก Call Center กรุงไทย คนเดิมก็โทรกลับมาหาผม ถามว่าส่งอีเมล์ให้หรือยัง ผมก็บอกว่าได้ส่งไปแล้ว ช่วยตามเรื่องให้ด้วยและบอกว่า ถ้าสามารถแก้ไขปัญหาได้จะรีบติดต่อกลับมาทางโทรศัพท์ หลังวางสายผมก็ออกไปเที่ยวข้างนอก โดยก่อนออกจากโรงแรมผม ก็แวะลอง Scan อีกรอบ ก็ยังไม่ผ่าน แล้วก็ออกไปข้างนอกจนมืด ผมกลับเข้าโรงแรมประมาณ 2 ทุ่ม และแวะ Scan อีกก็ยังไม่ได้ ก็ขึ้นห้องพักไป กำลังนอนพักสบายๆ สักพัก มีเสียงโทรศัพท์ของโรงแรมดังขึ้น และจำได้ว่าเสียงในโทรศัพท์เป็นเสียงของพนักงานคนที่คุยกับผมตั้งแต่แรกตอน Check in ประเด็นอยู่ตรงนี้ครับ พนักงานคนนี้บอกผมว่า ผมต้องติดต่อกับกรุงไทยด่วน ผมบอกว่าเจ้าหน้าที่กรุงไทยแจ้งว่าผมสามารถ Check in ได้ก่อน 11.59 ของวันพรุ่งนี้ พนักงานคนนั้นบอกมาว่าไม่ได้ บอกว่าผมจะต้อง Clear ให้เรียบร้อยภายในวันนี้ ไม่อย่างนั้นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกเยอะ ไม่ใช่ราคานี้ เท่านั้นแหละ ผมถึงกับอึ้งเลย เลยรีบวางสายและติดต่อกรุงไทยอีกครั้ง ซึ่งก็ใช้เวลานานเหมือนเดิม หลังจากนั้นก็ได้ขอสายเจ้าหน้าที่คนที่รับเรื่องผมไว้ก่อนหน้านี้ โดยเจ้าหน้าที่คนนี่แจ้งว่า เจ้าหน้าที่คนนั้นไม่อยู่แล้ว แต่ได้เช็คให้แล้วว่าได้ยื่นเรื่องให้ผมแล้ว และให้ผมรอผลเช่นเดิม และผมได้เล่าเหตุการณ์ที่พนักงานโรงแรมคนนั้น แจ้งกับผมให้ Call Center ฟัง โดย Call Center คนนี้อธิบายกับผมว่า เงินที่ผมจ่าย 1,680.- นั้นเป็นส่วน 60% ที่ผมต้องจ่ายกับทางโรงแรมเรียบร้อยแล้ว ส่วนอีก 40% รัฐบาลเป็นคนจ่ายให้โรงแรม ไม่เกี่ยวกับผมแล้ว ผมจึงเดินถือโทรศัพท์ลงมาเพื่อให้คุยกับพนักงานต้อนรับที่ออกทอมๆ หน่อย พนักงานคนนี้บอกกับผมว่าไม่มีอำนาจตัดสินใจ ต้องคุยกับผู้จัดการ สักพักพนักงานคนที่โทรไปหาผมที่ห้องก็เดินเข้ามา ซึ่งน่าจะเป็นผู้จัดการนั่นเอง พนักงานที่ออกทอมคนนี้ก็ยื่นสายของกรุงไทยให้ผู้ชายคนนี้คุย เค้าถึงยอม และผมได้ถามผู้จัดการคนนี้ไปว่า มันเป็นความผิดลูกค้าหรือ ผมจองตรงกับโรงแรม เงินก็จ่ายไปแล้ว และยอดที่จ่ายก็เป็นยอดที่โรงแรมแจ้งมา ไม่ได้จองผ่าน Agent ที่จะผิดพลาดเพราะมีหลายโรงแรม หลายจังหวัด นี่จองตรงกับโรงแรมของคุณ พนักงานก็พนักงานของโรงแรมคุณ ผมมาพักผ่อนยังต้องมานั่งตามเรื่องพวกนี้อีก และประโยคที่บอกว่าจะ Charge ผมเพิ่มอีกเยอะคุณพูดได้ไง โดยผมได้เข้าไปเว็บของโรงแรม และเช็คราคาห้องประเภทที่ผมพัก โรงแรมขายคนที่ไม่ได้ใช้สิทธิ์โครงการนี้อยู่ 1,799.- บาท แต่ผมใช้สิทธิ์โดยจ่ายไป 1,680.- ถูกกว่าแค่ 119 บาท นี่หรือราคาลด 40% และจะมาพูดว่าผมต้องจ่ายอีกเยอะ เสร็จแล้วผมก็เดินกลับขึ้นห้อง วันรุ่งขึ้น 10 โมงแล้วก็ยังไม่ได้รับโทรศัพท์ ผมเริ่มกังวล จึงโทรไป Call Center ของกรุงไทยอีก และแจ้งว่าผมมีเวลาอีกแค่ไม่กี่ชั่วโมง ช่วยตามเรื่องให้หน่อย ผมจะ Check Out ออกก็ขี้เกียจไปเถียงกับพนักงานอีก เจ้าหน้าที่ก็รับเรื่องไว้ อีกสักพักมีเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง คราวนี้เป็นผู้ชาย น่าจะระดับสูงกว่า Call Center โทรมาบอกว่าจะรีบประสานงานให้โดยด่วน หลังจากนั้นอีกไม่เกิน 15 นาที เจ้าหน้าที่คนนี้โทรกลับมาบอกว่าให้ผมลองไป Scan ดู ผมรีบลงไป Scan คราวนี้ Scan ได้
ผมมาคิดดูแล้วถ้าเป็นคุณลุง คุณป้า ที่มีอายุ ไม่ค่อยชำนาญ เทคโนโลยี ส่งเมล์ไม่คล่อง จะทำยังไง ต้องจ่ายส่วนต่างให้โรงแรมหรือ ผมยิ่งงงใหญ่กับผู้จัดการโรงแรมใหญ่คนนี้ ที่จัดการปัญหาแบบนี้หรือ และยังไม่จบมีประเด็นอีกนิด ขอนอกเรื่องหน่อย คือ ไส้ผ้านวมในห้องผม มันเลอะเลือด แบบไม่ได้ซัก ไม่ใช่คราบที่ซักไม่ออกนะ แต่ดูแล้วเป็นคราบที่ไม่ได้ซักเหมือนเพิ่งเปื้อน ไหนโฆษณาว่าโรงแรมเข้าร่วมมาตรการป้องกันโควิท ได้มาตรฐาน SHA
ซึ่งถ้าไม่ได้เปิดปอกผ้านวมออกมาก็คงไม่เห็น หรือจะยัดไส้กับลูกค้า ที่ผมเห็นเพราะผมดันซอกแซกเวลาไปนอนที่ไหนก็มักจะเปิดดูด้านในว่า โรงแรมไหนใช้ Brand อะไร เลยไปเจอเข้า ผมไม่ได้แจ้งพนักงานของโรงแรมหรอกครับ เพราะคิดว่าแจ้งไปก็คงไม่ถึงผู้บริหารระดับสูงอยู่ดี เพราะขนาดเรื่อง
ที่ผมเจอก่อนหน้านี้ ผู้จัดการตรงแผนกต้อนรับยังแก้ปัญหาแบบนี้ และสิ่งที่เขียนขึ้นนี้เพื่อปันประสบการณ์ให้คนที่จะไปใช้สิทธิ์นะครับ
ขอแชร์ความเห็นนะครับว่า
1.ให้นำหลักฐานการชำระเงินไปด้วยวันเข้าพัก เพราะ App อาจมีปัญหาเปิดไม่ได้ หรือหากเป็นผู้สูงอายุ อาจให้พนักงานโรงแรมทำให้
2. จดเบอร์ Call Center ของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โทร. 02-111-1144 (โทรได้ 24 ชม.)
3. หากโรงแรมจะเรียกเก็บเงินเพิ่ม ให้ติดต่อ Call Center โดยให้เจ้าหน้าที่โรงแรมคุยกับ Call Center
4. กรุงไทย ควรพัฒนาให้ผู้ใช้เข้าถึง Call Center ได้ง่ายกว่านี้ เช่น หากมีปัญหาการ Scan QR Code กด 1 ไม่ใช่ฟังจนครบทุกเมนูแล้วยังไม่รู้จะกดเมนูอะไร
5. ผู้มีอำนาจตัดสินใจแก้ปัญหา ควรแก้ปัญหาได้ไวกว่านี้ ไม่ควรข้ามวันแบบนี้
4. E-Voucher 600 บาท ที่เกือบทุกคนเข้าใจว่านำไปใช้แทนเงินสดได้เลย 600 บาท ซึ่งจริงๆ แล้ว เป็นส่วนลด 40% แต่ไม่เกิน 600 ครับ
5. ร้านที่ร่วมรายการเพื่อใช้ E-Voucher 600 บาท ผมยังไม่เจอร้านไหนมีป้ายแสดงเลย ต้องอาศัยถามเอา
6. เจ้าหน้าที่รัฐช่วยตรวจสอบผู้ประกอบการด้วย ว่าได้ให้ส่วนลด 40% จริงๆ หรือไม่ เพราะ ณ ช่วงโควิทแบบนี้ ทั้งโรงแรมที่ร่วมและไม่ได้ร่วม โครงการก็ปรับลดราคาอยู่แล้ว ไม่ใช่เอาราคาช่วงปกติที่ไม่ใช่ช่วงโควิทมาตั้ง แล้วลด 40% ไม่ต้องรอให้มีคนแจ้งนะครับ
7. สุดท้ายผู้ประกอบการโรงแรมช่วยตรวจสอบความสะอาดให้เข้มงวดมากกว่านี้ และอบรมพนักงานให้เข้าใจหลักเกณฑ์ของโครงการให้ถูกต้องชัดเจน ไม่ฉวยโอกาส หรือนำความผิดพลาดของระบบมาอ้าง เพื่อเอาเปรียบคนที่เค้าออกมากระตุ้นวงจรธุรกิจของท่านเลย