ร่วมด้วยช่วยกันปกป้อง ปัดผิด ช่วยเหลือ คดีทายาทกระทิงแดง
1. พนักงานสอบสวนทำสำนวนเห่ย
2. หัวหน้าพนักงานสอบสวนปล่อยผ่าน
3. พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกซ้ำซากถึง 7 ครั้ง ไม่ยอมออกหมายจับ
4. อัยการ อัยการสูงสุด ยอมให้ทายาทกระทิงแดงเลื่อนการเข้าพบเพื่อนำตัวส่งฟ้องต่อศาล
จนเมื่อถูกสังคมกดดัน จึงได้ออกหมายจับทายาทกระทิงแดงฐานไม่มาพบอัยการตามนัดเพื่อส่งฟ้องศาลเมื่อปี 2560
5. คณะกรรมาธิการกฎหมายของ สนช. ที่แต่งตั้งจาก คสช. ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือมีผลต่อคดีความ
รับคำร้องขอความเป็นธรรมจากทายาทกระทิงแดง เพื่อให้อัยการใช้เป็นข้ออ้างอนุญาตให้ทายาทกระทิงแดงขอเลื่อนการส่งฟ้อง
6. 7 ปีผ่านไป ปลายปี 2562 เกิดพยานโผล่มาอีก 4 ปาก
พยาน 2 ปาก ให้การเป็นประโยชน์ต่อทายาทกระทิงแดง ว่าเห็นขับรถประมาณ 50-60 กม./ชม. โดนผู้ตายปาดหน้า หยุดรถไม่ทัน
พยานอีก 2 ปาก ให้การสอดคล้อง ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ว่าลักษณะการชน รถทายาทกระทิงแดงวิ่งไม่เกิน 80 กม./ชม.
7. พนักงานสอบสวนส่งสำนวนถึงอัยการ จากสำนวนเดิมที่เคยสั่งฟ้อง กลายเป็นอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง
อัยการสูงสุดส่งสำนวนกลับถึง ผบ.ตร. ผบ.ตร.ไม่เห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการสูงสุด คดีจบ เพิกถอนหมายจับ
.
ตำรวจทำสำนวนแบบ
- เมา ก็เป็นเมาหลังขับ ทั้งที่ไม่น่าเชื่อถือ เป็นไปไม่ได้
และกฎหมายบัญญัติไว้อยู่แล้ว หากผู้ทำผิดไม่ยอมมอบตัว ไม่ยอมให้ตรวจแอลกอฮอล์ ให้เจ้าพนักงานถือว่าเมา
- ยาเสพติด พบสารโคเคนในร่างกาย ไม่มีในสำนวน
- รถวิ่งด้วยความเร็วตามที่ผู้เชี่ยวชาญทางคดีพิสูจน์ไว้ ว่าขับด้วยความเร็ว 177 กม./ชม. ไม่มีในสำนวน
ตำรวจเชื่อว่าทายาทกระทิงแดงขับไม่เร็ว ทั้งที่ลากศพผู้ตายไปไกลถึง 163 เมตร
.
ชัดยิ่งกว่าชัด
ว่ามีการปกป้อง ปัดผิด เป่าคดีช่วยเหลือทายาทกระทิงครบองคาพยพของกระบวนการยุติธรรมระดับต้นธารและกลางธาร
ตั้งแต่พนักงานสอบสวน จนถึง ผบ.ตร. ตั้งแต่อัยการ จนถึง อัยการสูงสุด และ สนช.
เป็นการสมรู้ร่วมคิดกันปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบอย่างน่ารังเกียจ
ทำอย่างนี้กันได้อย่างไร ?
บ้านเมืองไม่มีกฎหมายหรืออย่างไร ? ใช้เส้นสายอำนาจเงินเพื่อทำผิดให้เป็นถูกได้อย่างไร ?
รัฐบาลจะว่า และจะทำอย่างไร ?
.
นึกถึงคดีครูจอมทรัพย์ ที่พยานเก๊ ติดคุกกันระนาว
คดีทายาทกระทิงแดง จะลงเอยอย่างไร
หากลงเอยแบบไม่มีอะไรในกอไผ
ก็ตัวใครตัวมันล่ะเหวย
พนักงานสอบสวน หัวหน้าพนักงานสอบสวน ผบ.ตร. อัยการ อัยการสูงสุด จนถึง สนช. ........... โดย ตระกองขวัญ
1. พนักงานสอบสวนทำสำนวนเห่ย
2. หัวหน้าพนักงานสอบสวนปล่อยผ่าน
3. พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกซ้ำซากถึง 7 ครั้ง ไม่ยอมออกหมายจับ
4. อัยการ อัยการสูงสุด ยอมให้ทายาทกระทิงแดงเลื่อนการเข้าพบเพื่อนำตัวส่งฟ้องต่อศาล
จนเมื่อถูกสังคมกดดัน จึงได้ออกหมายจับทายาทกระทิงแดงฐานไม่มาพบอัยการตามนัดเพื่อส่งฟ้องศาลเมื่อปี 2560
5. คณะกรรมาธิการกฎหมายของ สนช. ที่แต่งตั้งจาก คสช. ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือมีผลต่อคดีความ
รับคำร้องขอความเป็นธรรมจากทายาทกระทิงแดง เพื่อให้อัยการใช้เป็นข้ออ้างอนุญาตให้ทายาทกระทิงแดงขอเลื่อนการส่งฟ้อง
6. 7 ปีผ่านไป ปลายปี 2562 เกิดพยานโผล่มาอีก 4 ปาก
พยาน 2 ปาก ให้การเป็นประโยชน์ต่อทายาทกระทิงแดง ว่าเห็นขับรถประมาณ 50-60 กม./ชม. โดนผู้ตายปาดหน้า หยุดรถไม่ทัน
พยานอีก 2 ปาก ให้การสอดคล้อง ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ว่าลักษณะการชน รถทายาทกระทิงแดงวิ่งไม่เกิน 80 กม./ชม.
7. พนักงานสอบสวนส่งสำนวนถึงอัยการ จากสำนวนเดิมที่เคยสั่งฟ้อง กลายเป็นอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง
อัยการสูงสุดส่งสำนวนกลับถึง ผบ.ตร. ผบ.ตร.ไม่เห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการสูงสุด คดีจบ เพิกถอนหมายจับ