อันนี้เป็นสิ่งที่ผมคิดเองนะครับ ว่าทำไมวงแหวนเกิดกับ ไทจิ กับ ยามาโตะ ก่อนพวก โจ มีมี่ โคจิโร่ ทั้งที่สองคนนั้นอนาคตยังดูไม่แน่นอน
------------------
เอาจริงเรื่องวงแหวนการนับถอยหลังเนี่ย หลายคนอาจจะงงว่า ไทจิ ยามาโตะยังดูโลเล ไม่มั่นใจในอนาคตอยู่เลย ทำไมดิจิม่อนหายก่อนพวก โจ มีมี่ โคจิโร่ ที่ดูมีเป้าหมายชัดเจนล่ะ?
อย่างเมโนอา ที่หายไปก่อนน่ะพอเข้าใจว่า เออ สอบติดมหาลัย เลือกเส้นทางเป็นนักวิจัยเต็มตัวแล้ว เป็นผู้ใหญ่แล้ว ความเป็นไปได้ไม่ได้ไร้ขีดจำกัดแล้ว เพราะเลือกเส้นทางไปแล้ว ดิจิม่อนเลยหายไปเพราะสิ้นสุดความสัมพันธ์ แบบนี้อะเข้าใจได้
แต่เคสไทจิคือไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะทำอะไร ฝึกงานอย่างเป็นทางการก็ไม่เคย หัวข้อวิทยานิพนธ์ก็คิดไม่ออก
ยามาโตะเองไม่รู้เช่นกันว่าอยากทำอะไร ไม่รู้ว่าทำไมไม่กระตือรือร้นจะหางานทำ จะต่อโทดีมั้ย บางทีอาจจะต้องการเวลามากกว่านี้
เฮ้ย นี่มันดูไม่มีอนาคตสุดๆเลยไม่ใช่เรอะ เลือกเส้นทางตัวเองไม่ได่ แบบนี้เส้นทางก็ไม่ชัดเจนอะดิ ความเป็นไปได้ยังไร้ขีดจำกัดอยู่เลยนา
แต่สิ่งที่ผมตีความได้ก็คือ
Trigger แรกที่จะนำไปสู่วงแหวนการนับถอยหลังคือ การที่ "สามารถอยู่คนเดียวได้ และไม่ได้ต้องการที่จะตัวติดกับคู่หูอีกต่อไป"
เมโนอา - บอกกับมอร์โฟมอนว่า "จากนี้ชั้นจะใช้ชีวิตโดยพึ่งพาแต่ตัวเอง ต่อให้ตัวคนเดียวก็ไม่เป็นไรแล้ว"
โซระ - พูดใน To Sora ว่า "ปิโยม่อน อย่ามายุ่งกับชั้น"
ส่วน ไทจิ กับ ยามาโตะ แม้ภายนอกจะเห็นว่า รักดิจิม่อนมาก ยังสู้ร่วมกับดิจิม่อนอยู่ แต่ที่จริง เอาใจใส่น้อยลงไปเยอะแล้วครับ แค่มาสู้ตามหน้าที่ เด็กที่ถูกเลือกเฉยๆ ดังจะเห็นได้ว่าในตอนต้น หลัง ไทจิ ยามาโตะ ทาเครุ ฮิคาริ สู้กับ Parrotmon จนส่งกลับโลกดิจิตอลได้สำเร็จ ทั้งคู่ รีบบึ่งไปมหาลัยทันที ทิ้งดิจิม่อนของตนให้อยู่กับน้องหน้าตาเฉย... ในขณะที่
โจ ยังเอาโกมาม่อนมาอยู่โรงบาลด้วย
โคชิโร่ ยังเอาเทนโตม่อนมาอยู่ด้วยในขณะอธิบายเรื่องต่างๆให้ลูกน้องฟัง (ใน To Sora)
มีมี่ ก็เช่นกัน
ทาเครุยังนั่งเขียนนิยายไป ให้ปาตาม่อนดื่มกาแฟไป (Starbucks ด้วยนะ 555)
ฮิคาริ ยังเอา เทลม่อนไปนั่งฟัง Lecture ได้ด้วยซ้ำ! (ใน To Sora)
จึงอนุมานได้ง่ายๆว่า แท้จริงแล้ว ไทจิ ยามาโตะ ไม่ได้เอาใจใส่ดิจิม่อนเท่าไหร่แล้ว แล้วก็ยังอยู่ด้วยตัวเองได้สบายๆแล้วด้วย
อีกตัวอย่างที่ยิ่งคอนเฟิร์มเรื่องนี้ได้ก็คือ การที่ไทจิ ไม่เคยพาอากูม่อน มาที่อพาร์ทเมนท์ใหม่ตัวเองเลยซักครั้ง จากการที่พาอากูม่อนมาในมูฟวี่ แล้วอากูม่อนบอกว่า "พึ่งเคยมานี่แหละ"
อย่างไรก็ดี...ถึงจะเอาใจใส่น้อยลง แต่ก็ยังน่าจะสงสัยกันใช่มั้ยครับ ว่า แล้ว "ความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดล่ะ" ถ้าไม่มีเป้าหมายในชีวิต ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สุดอยู่นี่
ตรงนี้ ให้เป็นเคส พิเศษ ของ ไทจิ และ ยามาโตะครับ
ตั้งแต่ภาคแรกแล้ว
สองคนนี้สามารถทำให้ดิจิม่อน แปลงร่างใหม่ได้ก่อนใครๆเสมอ
แล้วทุกครั้งที่สองคนนี้พัฒนาร่างใหม่ให้ดิจิม่อนได้ เจ้าตัวก็จะโตขึ้นระดับนึงจริงๆ เหมือนที่เมโนอา บอกว่า "การ Evolution ของดิจิม่อนคู่หูมีตัวจุดชนวนเป็นการเติบโตของพวกเธอเอง"
ยกตัวอย่างเช่ยไทจิที่ตอนแรกฝืนให้อากูม่อนกินเยอะจนพัฒนาผิดพลาดเป็น สกัลเกรย์ม่อน ก่อนจะเรียนรู้ความหมายที่แท้จริงของความกล้าว่าต้องกล้าที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า แม้จะกลัว จนพัฒนาเป็นเมทัลเกรย์ม่อนได้ในที่สุด
เช่นกันกับยามาโตะที่หลังเห็นโจ ยอมสละชีวิต ช่วยทาเครุ ก็เข้าใจความหมายของมิตรภาพ จนทำให้พัฒนาร่างการูรูมอนเป็น วอร์การูรูมอนได้ในที่สุด
กล่าวคือ ไทจิ และ ยามาโตะ ณ จุดนี้ พร้อมจะโตเป็นผู้ใหญ่ และอยู่คนเดียวได้โดยไม่ต้องมีคู่หูแล้ว
และ การต่อสู้กับ Eosmon ทั้ง 2 คน ที่มีความเป็นไปได้ในการพัฒนาร่างใหม่ได้ก่อนใครๆ จะมีโอกาสได้ร่างใหม่ ซึ่งหมายถึงการเติบโตไปสู้ขั้นที่สูงที่สุด สูงมาก (ได้ขั้นที่สูงที่สุด = ดิจิม่อนโตสุดแล้ว = คนเองก็เติบโตถึงขั้นสุดแล้ว = ความเป็นไปได้ในการเติบโตของดิจิม่อนมาถึงทางตันแล้ว = ไม่เหลือความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดอีกต่อไป) ยิ่งถ้าหากมีวงแหวนมาบีบบังคับ และ ต้องโค่นดิจิม่อนเก่งๆอย่าง Eosmos ให้ได้ก่อนวงแหวนหมดไป ยิ่งมีโอกาสสูงขึ้นอีก
ดังนั้น วงแหวนแห่งการนับถอยหลังของทั้ง 2 คน จึงปรากฏขึ้นมาพร้อมกันในการสู้กับ Eosmon ครั้งแรก เพราะ 1) ทั้งสองคนสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง และ 2) เพื่อบีบบังคับให้ทั้งไทจิและยามาโตะ ตกตะกอนทางความคิด -> พัฒนาร่างใหม่ -> โตเต็มวัย -> ไ่ด้ร่างสุดท้าย เพื่อช่วยทุกคน -> ทำให้หมดความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดนั่นเอง ทั้งในด้านของร่างสุดยอดของดิจิมอน และในด้านของตะกอนทางความคิดที่เหมือนโดนบังคับไปในตัว ว่าต้องเป็นผู้ใหญ่ ต้องเลือกทางของตัวเองได้แล้ว (เผื่องงนะครับ ของสองคนนี้เป็นเคสพิเศษ คือ Condition 1 [อยู่คนเดียวได้] นี่ได้แล้ว แต่ Condition 2 [โตเต็มที่ เลือกทางเดินได้ และไม่เหลือความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดอีกต่อไป] สามารถลงล็อคได้ผ่านการต่อสู้ พอโอกาสต่อสู้เอาเป็นเอาตายมาถึง วงแหวนจึงปรากฎขึ้นมาเป็นเชิงบังคับให้ทั้งสองคนโตขึ้น+พัฒนาร่างใหม่ให้ดิจิมอนได้ จน Condition 2 ลงล็อคครับ)
พอทั้ง 2 Condition ครบแล้วทั้ง 2 คนจะได้จากดิจิม่อนอย่างที่ควรจะเป็นนั่นเอง (ซึ่งก็ตามนั้นเลย อากุม่อน กาบุม่อน ได้ร่างสายสัมพันธ์ ไทจิได้เป้าหมายใหม่ที่ชัดเจนคือ ต้องการสนับสนุนการอยู่ร่วมกันของมนุษย์และดิจิม่อน ยามาโตะชัดเจนขึ้นในการเรียน วิศวกรรมการบิน เพื่อเป็นนักบินอวกาศ ตรงนี้คือ Condition 2 ของทั้งสองคนลงล็อคพอดี พอรวมกับ Condition 1 ก็โป๊ะเช๊ะ เข้าเงื่อนไขการจากลา)
ในส่วนของ โจ มีมี่ และ โคจิโร่เอง ใน End Credit เองพบว่า ไม่มีดิจิม่อนคู่หูแล้วครับ
ตรงนี้สอดคล้องกับ 2 Condition ที่กล่าวมาคือ 1) สามารถอยู่ด้วยตัวเองได้ แบบไม่ต้องมีดิจิม่อนตามติดทุกที 2) มีเป้าหมายชัดเจน หมดสิ้นความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัด
โจ - จะมีหลายฉากเลยที่ทำงานโดยไม่มีโกมาม่อน และเอาจริง มีซีนที่แสดงให้เห็นว่าแคร์โกมามอนน้อยลงตั้งแต่ภาค ไตร ละครับ แต่ตอนนั้นปรับความเข้าใจกันได้ ส่วนตอนนี้อาจจะแค่แคร์น้อยลงตามหน้าที่นักศึกษาแพทย์ที่เพิ่มขึ้นท ส่วนเป้าหมายนี่ชัดเจนมานานแล้วว่าจะเป็นหมอครับ แค่รอเรียนจบเท่านั้น
มีมี่ - ในตอนต้นเรื่องมีฉากขึ้นเครื่องบินคนเดียวโดยไม่มีพาลม่อนอยู่ แสดงว่า ถึงมีมี่จะดูเป็นคู่หูที่ตัวติดกับดิจิม่อนที่สุดในแกงค์ แต่เอาเข้าจริงก็สามารถอยู่ด้วยตัวคนเดียวได้แล้วครับ ส่วนอาชีพก็ชัดเจนแล้วคือขายของออนไลน์ แถมประสบความสำเร็จแล้วด้วย
โคจิโร่ - มีฉากสั่งงานลูกน้อง โดยไม่มีเทนโตม่อนข้างกายอยู่ สามารถอยู่คนเดียวได้สบาย ส่วนหน้าที่การงานก็ยอดเยี่ยมที่สุดในรุ่น เพราะเป็นถึงประธานบริษัท ฐานะมั่นคง
ทั้ง 3 คนมี 2 condition ตรงนี้หมด ซึ่งอนุมานได้ว่า ไม่นานหลังจากไทจิ กับ ยามาโตะ แยกจากคู่หู ทั้ง โจ มีมี่ โคจิโร่ ก็อาจจะตามมาติดๆครับ
หากเป็นตามนี้จริง แสดงว่าเด็กที่ถูกเลือกจาก 2 ภาคแรกที่ยังมีดิจิม่อนอยู่ จะเหลือแค่
ไดสุเกะ, เคน, มิยาโกะ, อิโอริ, ทาเครุ, ฮิคาริ
หรือก็คือ เด็กที่ถูกเลือก หลักๆ 6 คนจากภาค 02 พอดีเป๊ะ
สร้างความเป็นไปได้ในการสร้างโปรเจ็คท์ครบรอบ 25 ปีของ Digimon Adventure ได้อีกภาค 555 คราวนี้โฟกัสเด็กรุ่น 2 ได้เต็มที่เลย มโนไปนั่น
ทั้งนี้ เรื่อง 2 Condition ที่ว่ามา เป็นการตีความของผมเองนะครับ อาจจะถูก หรือไม่ถูกก็ได้
แต่จะว่าไปทั้ง 6 คนก็ไม่มีทั้ง 2 Condition อยู่นะ ทั้ง 6 คน ยังอยู่กับดิจิม่อนตลอดเวลา หาซีนที่อยู่เดี่ยวๆ แทบไม่เจอเลย
แถมแต่ละคนยังความฝันไม่ชัดเจน
ชัดเจนสุดแค่ ไดสุเกะ กับ ทาเครุ คนแรกอยากเปิดร้านราเม็ง แต่ก็ยังไม่ได้ทำจริงจัง ส่วนคนสอง นิยายก็ยังเขียนไม่เสร็จ
ในส่วนของอีก 4 คนที่เหลือ ภาคนี้ก็ยังดูเป็นนักศึกษาทั่วไป ที่ไม่มีเป้าหมายชัดเจนเลย
พออนาคตยังไม่ชัดเจน และยังอยู่กับดิจิม่อนตลอดเวลาเหมือนตอนเด็ก ก็แสดงว่า ทั้ง 6 คน ไม่มีเลยทั้ง 2 Condition ฉะนั้น ดิจิม่อนเลยยังอยู่
ถึงตรงนี้ ผมว่าผมตีความถูกอยู่นา 5555
ปล. ผมเขียนถึง Last Evolution ไว้ในเพจส่วนตัวครับ แค่อยากเอาส่วนนี้มาพูดคุยกันว่าคิดเห็นยังไง
https://m.facebook.com/SonnySideStories/photos/a.655002501669960/948438235659717/?type=3
สาเหตุที่วงแหวนแห่งการสิ้นสุดความสัมพันธ์ เกิดกับไทจิ ยามาโตะ ก่อน โจ มีมี่ และโคจิโร่
------------------
เอาจริงเรื่องวงแหวนการนับถอยหลังเนี่ย หลายคนอาจจะงงว่า ไทจิ ยามาโตะยังดูโลเล ไม่มั่นใจในอนาคตอยู่เลย ทำไมดิจิม่อนหายก่อนพวก โจ มีมี่ โคจิโร่ ที่ดูมีเป้าหมายชัดเจนล่ะ?
อย่างเมโนอา ที่หายไปก่อนน่ะพอเข้าใจว่า เออ สอบติดมหาลัย เลือกเส้นทางเป็นนักวิจัยเต็มตัวแล้ว เป็นผู้ใหญ่แล้ว ความเป็นไปได้ไม่ได้ไร้ขีดจำกัดแล้ว เพราะเลือกเส้นทางไปแล้ว ดิจิม่อนเลยหายไปเพราะสิ้นสุดความสัมพันธ์ แบบนี้อะเข้าใจได้
แต่เคสไทจิคือไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะทำอะไร ฝึกงานอย่างเป็นทางการก็ไม่เคย หัวข้อวิทยานิพนธ์ก็คิดไม่ออก
ยามาโตะเองไม่รู้เช่นกันว่าอยากทำอะไร ไม่รู้ว่าทำไมไม่กระตือรือร้นจะหางานทำ จะต่อโทดีมั้ย บางทีอาจจะต้องการเวลามากกว่านี้
เฮ้ย นี่มันดูไม่มีอนาคตสุดๆเลยไม่ใช่เรอะ เลือกเส้นทางตัวเองไม่ได่ แบบนี้เส้นทางก็ไม่ชัดเจนอะดิ ความเป็นไปได้ยังไร้ขีดจำกัดอยู่เลยนา
แต่สิ่งที่ผมตีความได้ก็คือ
Trigger แรกที่จะนำไปสู่วงแหวนการนับถอยหลังคือ การที่ "สามารถอยู่คนเดียวได้ และไม่ได้ต้องการที่จะตัวติดกับคู่หูอีกต่อไป"
เมโนอา - บอกกับมอร์โฟมอนว่า "จากนี้ชั้นจะใช้ชีวิตโดยพึ่งพาแต่ตัวเอง ต่อให้ตัวคนเดียวก็ไม่เป็นไรแล้ว"
โซระ - พูดใน To Sora ว่า "ปิโยม่อน อย่ามายุ่งกับชั้น"
ส่วน ไทจิ กับ ยามาโตะ แม้ภายนอกจะเห็นว่า รักดิจิม่อนมาก ยังสู้ร่วมกับดิจิม่อนอยู่ แต่ที่จริง เอาใจใส่น้อยลงไปเยอะแล้วครับ แค่มาสู้ตามหน้าที่ เด็กที่ถูกเลือกเฉยๆ ดังจะเห็นได้ว่าในตอนต้น หลัง ไทจิ ยามาโตะ ทาเครุ ฮิคาริ สู้กับ Parrotmon จนส่งกลับโลกดิจิตอลได้สำเร็จ ทั้งคู่ รีบบึ่งไปมหาลัยทันที ทิ้งดิจิม่อนของตนให้อยู่กับน้องหน้าตาเฉย... ในขณะที่
โจ ยังเอาโกมาม่อนมาอยู่โรงบาลด้วย
โคชิโร่ ยังเอาเทนโตม่อนมาอยู่ด้วยในขณะอธิบายเรื่องต่างๆให้ลูกน้องฟัง (ใน To Sora)
มีมี่ ก็เช่นกัน
ทาเครุยังนั่งเขียนนิยายไป ให้ปาตาม่อนดื่มกาแฟไป (Starbucks ด้วยนะ 555)
ฮิคาริ ยังเอา เทลม่อนไปนั่งฟัง Lecture ได้ด้วยซ้ำ! (ใน To Sora)
จึงอนุมานได้ง่ายๆว่า แท้จริงแล้ว ไทจิ ยามาโตะ ไม่ได้เอาใจใส่ดิจิม่อนเท่าไหร่แล้ว แล้วก็ยังอยู่ด้วยตัวเองได้สบายๆแล้วด้วย
อีกตัวอย่างที่ยิ่งคอนเฟิร์มเรื่องนี้ได้ก็คือ การที่ไทจิ ไม่เคยพาอากูม่อน มาที่อพาร์ทเมนท์ใหม่ตัวเองเลยซักครั้ง จากการที่พาอากูม่อนมาในมูฟวี่ แล้วอากูม่อนบอกว่า "พึ่งเคยมานี่แหละ"
อย่างไรก็ดี...ถึงจะเอาใจใส่น้อยลง แต่ก็ยังน่าจะสงสัยกันใช่มั้ยครับ ว่า แล้ว "ความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดล่ะ" ถ้าไม่มีเป้าหมายในชีวิต ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สุดอยู่นี่
ตรงนี้ ให้เป็นเคส พิเศษ ของ ไทจิ และ ยามาโตะครับ
ตั้งแต่ภาคแรกแล้ว
สองคนนี้สามารถทำให้ดิจิม่อน แปลงร่างใหม่ได้ก่อนใครๆเสมอ
แล้วทุกครั้งที่สองคนนี้พัฒนาร่างใหม่ให้ดิจิม่อนได้ เจ้าตัวก็จะโตขึ้นระดับนึงจริงๆ เหมือนที่เมโนอา บอกว่า "การ Evolution ของดิจิม่อนคู่หูมีตัวจุดชนวนเป็นการเติบโตของพวกเธอเอง"
ยกตัวอย่างเช่ยไทจิที่ตอนแรกฝืนให้อากูม่อนกินเยอะจนพัฒนาผิดพลาดเป็น สกัลเกรย์ม่อน ก่อนจะเรียนรู้ความหมายที่แท้จริงของความกล้าว่าต้องกล้าที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า แม้จะกลัว จนพัฒนาเป็นเมทัลเกรย์ม่อนได้ในที่สุด
เช่นกันกับยามาโตะที่หลังเห็นโจ ยอมสละชีวิต ช่วยทาเครุ ก็เข้าใจความหมายของมิตรภาพ จนทำให้พัฒนาร่างการูรูมอนเป็น วอร์การูรูมอนได้ในที่สุด
กล่าวคือ ไทจิ และ ยามาโตะ ณ จุดนี้ พร้อมจะโตเป็นผู้ใหญ่ และอยู่คนเดียวได้โดยไม่ต้องมีคู่หูแล้ว
และ การต่อสู้กับ Eosmon ทั้ง 2 คน ที่มีความเป็นไปได้ในการพัฒนาร่างใหม่ได้ก่อนใครๆ จะมีโอกาสได้ร่างใหม่ ซึ่งหมายถึงการเติบโตไปสู้ขั้นที่สูงที่สุด สูงมาก (ได้ขั้นที่สูงที่สุด = ดิจิม่อนโตสุดแล้ว = คนเองก็เติบโตถึงขั้นสุดแล้ว = ความเป็นไปได้ในการเติบโตของดิจิม่อนมาถึงทางตันแล้ว = ไม่เหลือความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดอีกต่อไป) ยิ่งถ้าหากมีวงแหวนมาบีบบังคับ และ ต้องโค่นดิจิม่อนเก่งๆอย่าง Eosmos ให้ได้ก่อนวงแหวนหมดไป ยิ่งมีโอกาสสูงขึ้นอีก
ดังนั้น วงแหวนแห่งการนับถอยหลังของทั้ง 2 คน จึงปรากฏขึ้นมาพร้อมกันในการสู้กับ Eosmon ครั้งแรก เพราะ 1) ทั้งสองคนสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง และ 2) เพื่อบีบบังคับให้ทั้งไทจิและยามาโตะ ตกตะกอนทางความคิด -> พัฒนาร่างใหม่ -> โตเต็มวัย -> ไ่ด้ร่างสุดท้าย เพื่อช่วยทุกคน -> ทำให้หมดความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดนั่นเอง ทั้งในด้านของร่างสุดยอดของดิจิมอน และในด้านของตะกอนทางความคิดที่เหมือนโดนบังคับไปในตัว ว่าต้องเป็นผู้ใหญ่ ต้องเลือกทางของตัวเองได้แล้ว (เผื่องงนะครับ ของสองคนนี้เป็นเคสพิเศษ คือ Condition 1 [อยู่คนเดียวได้] นี่ได้แล้ว แต่ Condition 2 [โตเต็มที่ เลือกทางเดินได้ และไม่เหลือความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดอีกต่อไป] สามารถลงล็อคได้ผ่านการต่อสู้ พอโอกาสต่อสู้เอาเป็นเอาตายมาถึง วงแหวนจึงปรากฎขึ้นมาเป็นเชิงบังคับให้ทั้งสองคนโตขึ้น+พัฒนาร่างใหม่ให้ดิจิมอนได้ จน Condition 2 ลงล็อคครับ)
พอทั้ง 2 Condition ครบแล้วทั้ง 2 คนจะได้จากดิจิม่อนอย่างที่ควรจะเป็นนั่นเอง (ซึ่งก็ตามนั้นเลย อากุม่อน กาบุม่อน ได้ร่างสายสัมพันธ์ ไทจิได้เป้าหมายใหม่ที่ชัดเจนคือ ต้องการสนับสนุนการอยู่ร่วมกันของมนุษย์และดิจิม่อน ยามาโตะชัดเจนขึ้นในการเรียน วิศวกรรมการบิน เพื่อเป็นนักบินอวกาศ ตรงนี้คือ Condition 2 ของทั้งสองคนลงล็อคพอดี พอรวมกับ Condition 1 ก็โป๊ะเช๊ะ เข้าเงื่อนไขการจากลา)
ในส่วนของ โจ มีมี่ และ โคจิโร่เอง ใน End Credit เองพบว่า ไม่มีดิจิม่อนคู่หูแล้วครับ
ตรงนี้สอดคล้องกับ 2 Condition ที่กล่าวมาคือ 1) สามารถอยู่ด้วยตัวเองได้ แบบไม่ต้องมีดิจิม่อนตามติดทุกที 2) มีเป้าหมายชัดเจน หมดสิ้นความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัด
โจ - จะมีหลายฉากเลยที่ทำงานโดยไม่มีโกมาม่อน และเอาจริง มีซีนที่แสดงให้เห็นว่าแคร์โกมามอนน้อยลงตั้งแต่ภาค ไตร ละครับ แต่ตอนนั้นปรับความเข้าใจกันได้ ส่วนตอนนี้อาจจะแค่แคร์น้อยลงตามหน้าที่นักศึกษาแพทย์ที่เพิ่มขึ้นท ส่วนเป้าหมายนี่ชัดเจนมานานแล้วว่าจะเป็นหมอครับ แค่รอเรียนจบเท่านั้น
มีมี่ - ในตอนต้นเรื่องมีฉากขึ้นเครื่องบินคนเดียวโดยไม่มีพาลม่อนอยู่ แสดงว่า ถึงมีมี่จะดูเป็นคู่หูที่ตัวติดกับดิจิม่อนที่สุดในแกงค์ แต่เอาเข้าจริงก็สามารถอยู่ด้วยตัวคนเดียวได้แล้วครับ ส่วนอาชีพก็ชัดเจนแล้วคือขายของออนไลน์ แถมประสบความสำเร็จแล้วด้วย
โคจิโร่ - มีฉากสั่งงานลูกน้อง โดยไม่มีเทนโตม่อนข้างกายอยู่ สามารถอยู่คนเดียวได้สบาย ส่วนหน้าที่การงานก็ยอดเยี่ยมที่สุดในรุ่น เพราะเป็นถึงประธานบริษัท ฐานะมั่นคง
ทั้ง 3 คนมี 2 condition ตรงนี้หมด ซึ่งอนุมานได้ว่า ไม่นานหลังจากไทจิ กับ ยามาโตะ แยกจากคู่หู ทั้ง โจ มีมี่ โคจิโร่ ก็อาจจะตามมาติดๆครับ
หากเป็นตามนี้จริง แสดงว่าเด็กที่ถูกเลือกจาก 2 ภาคแรกที่ยังมีดิจิม่อนอยู่ จะเหลือแค่
ไดสุเกะ, เคน, มิยาโกะ, อิโอริ, ทาเครุ, ฮิคาริ
หรือก็คือ เด็กที่ถูกเลือก หลักๆ 6 คนจากภาค 02 พอดีเป๊ะ
สร้างความเป็นไปได้ในการสร้างโปรเจ็คท์ครบรอบ 25 ปีของ Digimon Adventure ได้อีกภาค 555 คราวนี้โฟกัสเด็กรุ่น 2 ได้เต็มที่เลย มโนไปนั่น
ทั้งนี้ เรื่อง 2 Condition ที่ว่ามา เป็นการตีความของผมเองนะครับ อาจจะถูก หรือไม่ถูกก็ได้
แต่จะว่าไปทั้ง 6 คนก็ไม่มีทั้ง 2 Condition อยู่นะ ทั้ง 6 คน ยังอยู่กับดิจิม่อนตลอดเวลา หาซีนที่อยู่เดี่ยวๆ แทบไม่เจอเลย
แถมแต่ละคนยังความฝันไม่ชัดเจน
ชัดเจนสุดแค่ ไดสุเกะ กับ ทาเครุ คนแรกอยากเปิดร้านราเม็ง แต่ก็ยังไม่ได้ทำจริงจัง ส่วนคนสอง นิยายก็ยังเขียนไม่เสร็จ
ในส่วนของอีก 4 คนที่เหลือ ภาคนี้ก็ยังดูเป็นนักศึกษาทั่วไป ที่ไม่มีเป้าหมายชัดเจนเลย
พออนาคตยังไม่ชัดเจน และยังอยู่กับดิจิม่อนตลอดเวลาเหมือนตอนเด็ก ก็แสดงว่า ทั้ง 6 คน ไม่มีเลยทั้ง 2 Condition ฉะนั้น ดิจิม่อนเลยยังอยู่
ถึงตรงนี้ ผมว่าผมตีความถูกอยู่นา 5555
ปล. ผมเขียนถึง Last Evolution ไว้ในเพจส่วนตัวครับ แค่อยากเอาส่วนนี้มาพูดคุยกันว่าคิดเห็นยังไง
https://m.facebook.com/SonnySideStories/photos/a.655002501669960/948438235659717/?type=3